ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้เขาอดที่จะถามจากก้นบึ้งหัวใจไม่ได้ว่า“หรือจือหยูจะยืมปากฉันเพื่อส่งข้อความถึงคุณท่านจริงๆ?!”
ซูเฉิงเฟิงในเวลานี้ไม่มีเวลามานั่งสนใจความรู้สึกของซูจือเฟย แล้วเอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า“เอาล่ะ ฉันจะโทรหาจือหยูหน่อย”
พูดจบ เขาก็วางสายไป แล้วโทรหาซูจือหยู
ซูจือหยูในตอนนี้กำลังนั่งอยู่หน้าโต๊ะ สายตาเพ่งมองมือถือที่อยู่บนโต๊ะ
เมื่อเห็นว่าสัญญาณของมือถือดังขึ้น อีกทั้งด้านบนเขียนว่า“คุณปู่”สองครั้ง เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
แต่ เธอไม่ได้รีบรับสายในทันที แต่ในเวลาที่เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังครั้งที่สี่ ถึงกดปุ่มรับสาย
เมื่อรับสายได้แล้ว ซูจือหยูก็ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา“จะโทรหาหนูทำไม?”
เมื่อซูเฉิงเฟิงได้ยินคำถามของเธอ จึงรีบอธิบายว่า“จือหยู ปู่โทรมาเพราะอยากจะขอโทษแก เกี่ยวกับเรื่องที่แม่ของแกเจอ ปู่มีหน้าที่รับผิดชอบ แต่ปู่อยากจะพูดกับแกให้รู้เรื่อง และไม่เคยคิดอยากจะทำร้ายแกเลย เรื่องที่เกิดขึ้นกับแกมันเป็นแค่อุบัติเหตุ”
ซูจือหยูตอบรับอืม แล้วพูดอย่างเงียบๆ“ที่คุณปู่พูดมาหนูเชื่อ แต่เรื่องที่ปู่จะฆ่าแม่ของหนู มันคงไม่ใช่อุบัติเหตุหรอกมั้งคะ?”
ซูเฉิงเฟิงรู้ดี ว่าเวลานี้ไม่มีความจำเป็นจะต้องอธิบายรวมถึงปิดบัง
ทุกคนเป็นคนฉลาด เรื่องที่รู้อยู่แก่ใจแบบนี้ ไม่มีทางลบล้างอะไรได้
ดังนั้น เขาจึงถอนหายใจ แล้วพูดอย่าละอายใจว่า“เห้อ!ปู่ยอมรับ ปู่ไม่ลงรอยกับแม่ของแก โดยเฉพาะการไปจินหลิงของหล่อนในครั้งนี้ เพื่อประมูลบ้านเก่าของเย่ฉางอิงอย่างเปิดเผย มันทำลายศักดิ์ศรีและหน้าตาของตระกูลซูของเรา ปู่ก็ใจร้อนวู่วามเกินไป ถึงได้ทำการตัดสินใจที่ไม่มีความคิด หวังว่าแกจะสามารถเข้าใจปัญหาและยกโทษให้ปู่……”
ซูจือหยูพูดอย่างไม่นอบน้อมและไม่ถ่อมตัว“ใช่ค่ะ เรื่องนี้แม่ของหนูมีส่วนที่ทำไม่ถูกต้อง แต่หนูคิดว่าแม่ไม่ได้ทำผิดอะไร เพราะพ่อของหนูหักหลังครอบครัวก่อน!”
“เขานอกใจแม่ตอนท้องหนูก่อน ยังมีลูกสาวนอกสมรสอีกคน เรื่องนี้คุณปู่ก็รู้ด้วยเหมือนกัน!”
“เมื่อเทียบกันแล้ว แม่ของหนูมาที่จินหลิง หลังจากที่ขอหย่ากับพ่อของหนูแล้ว!”
“ยิ่งไปกว่านั้นหนูไม่รู้สึกว่าเรื่องที่แม่ทำมีปัญหาทางเรื่องจริยธรรม แต่คุณปู่กลับลงมือฆ่าแม่หนูอย่างโหดเหี้ยมอำมหิต ด้วยเรื่องแค่นี้ มันคงจะเกิดไปหน่อยมั้งคะ!”
“ใช่ แกพูดถูก!”ซูเฉิงเฟิงพูดอย่างจริงใจ“หลังจากที่เรื่องนี้ถูกปล่อยออกไป ปู่ก็รู้สึกเสียใจและโทษตัวเองมาก ดังนั้นปู่หวังว่าพวกแกสองแม่ลูกจะให้โอกาสปู่ได้ชดเชยในสิ่งที่ปู่ทำ”
ซูจือหยูพูดอย่างใจเย็น“หนูคิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีอะไรให้ชดใช้หรอกค่ะ ชาตินี้แม่ของหนูไม่อยากเจอคุณปู่อีก ในอนาคตข้างหน้าสักช่วงเวลาหนึ่งหนูก็ไม่อยากเห็นหน้าคุณปู่เหมือนกัน”
พูดจบ ซูจือหยูพูดอีกว่า“ถึงแม้หนูจะเป็นหลานสาวของหนู แต่ภายในใจของหนู ยังหวังว่าคุณปู่จะยอมรับผลกรรม มอบตัวกับตำรวจ”
เมื่อซูเฉิงเฟิงได้ยินอย่างนั้น ภายในใจของเขาก็เกิดไฟลุกโชน
แต่ว่า ปากของเขากลับไม่กล้าแสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น เขาได้แต่พูดอย่างทำอะไรไม่ได้“จือหยู ถึงยังไงปู่ก็ยังเป็นผู้นำของตระกูลซู ไม่เพียงแต่จะพาตระกูลซูก้าวเดินไปข้างหน้า ยังเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของตระกูลซูอีกด้วย ถ้าปู่เข้าคุกไปจริงๆไม่เพียงแต่ไม่มีประโยชน์ตระกูลซู ยังไม่มีประโยชน์ต่อตัวแกด้วย”
ซูจือหยูจึงกล่าวว่า“หนูแค่อยากจะได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง”
“ความถูกต้อง?”ซูเฉิงเฟิงถอนหายใจ แล้วกล่าวว่า“จือหยู เอาแบบนี้นะ แกเป็นเด็กฉลาด เราสองคนอย่าพูดอ้อมค้อมอีกเลย แกว่ามาได้เลย จะให้ฉันทำยังไง แกถึงจะยอมปล่อยวาง?”
ซูจือหยูพูดว่า“หนูพูดเมื่อกี้แล้ว หวังว่าคุณปู่จะมอบตัวกับตำรวจด้วยตัวเอง!”
ซูเฉิงเฟิงหัวเราะ แล้วพูดอย่างสะท้อนใจว่า“จือหยู ถ้าฉันเดาไม่ปิด ที่แกพูดกับจือเฟยมากมายขนาดนั้น น่าจะแค่อยากจะเอาเรื่องนี้ คุยเงื่อนไขกับปู่ใช่ไหมล่ะ?พูดจากใจเลยนะ ปู่ไม่โทษที่แกมีความคิดแบบนี้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกหรือเหตุผล ปู่ก็ต้องชดใช้ของพวกแกสองแม่ลูกอยู่ดี ดังนั้นแกอยากขออะไร พูดมาได้เลย ขอแค่ฉันสามารถยอมรับได้ ปู่จะรับปากทั้งหมด !