คำพูดของเย่เฉิน ทำเอาไหม้เฉิงซินรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า!

เมื่อกี้เพียงนิ้วมือเดียวของเย่เฉิน ก็จี้จุดทำให้ไหม้เค่อกลายเป็นคนตายได้ ทีนี้ได้ทำเอาไหม้เฉิงซินตกใจอย่างหนัก

แค่เพียงพลังที่เย่เฉินแสดงให้ดูเมื่อกี้ก็ไกลเกินกว่าที่ตัวเองจะเทียบได้

ตอนนี้ เย่เฉินก็ได้พูดถึงเบื้องหลังของเขาออกมา รวมทั้งเรื่องเมื่อคืนที่เขาไปพบกับซวนเฟิงเหนียน ก็ยิ่งทำให้ไหม้เฉิงซินตื่นเต้นอย่างมาก!

ดวงตาของเขาจ้องมองเย่เฉินอย่างตื่นเต้นที่สุด เอ่ยปากพูดว่า “นายเป็นใครกันแน่?”

เย่เฉินยิ้มเยาะ “ผมแซ่เย่ มีชื่อพยางค์เดียวว่าเฉิน”

ไหม้เฉิงซินพูดว่า “ข้าไม่รู้จักกับนายมาก่อน ทำไมนายต้องแอบสืบค้นสะกดรอยตามฉัน แล้วยังขโมยเข็มทิศมรดกของฉันไปด้วย?”

เย่เฉินถามกลับว่า “คุณผู้เป็นอาจารย์ฮวงจุ้ยอายุเกินร้อย ตั้งหลักปักฐานอยู่อเมริกานานหลายปี อายุมากขนาดนี้แล้วไม่อยู่ใช้บั้นปลายชีวิตที่อเมริกาดีๆ มาที่ประเทศทำไม? แล้วยังอยู่ร่วมกับซวนเฟิงเหนียนเจ้าเดรัจฉานที่ชั่วร้าย ไม่กลัวว่าจะทำลายชื่อเสียงและอุปมาเกือบพันปีของตระกูลไหม้?”

ไหม้เฉิงซินสีหน้าละอายเล็กน้อย พูดอ้ำอึ้งว่า “ข้า….ข้า….ข้าไม่ได้อยู่ร่วมกับซวนเฟิงเหนียน! มือของข้าก็ไม่เคยเปื้อนเลือดมาก่อน!”

เย่เฉิมถามอีกว่า “แล้วทำไมเมื่อคืนคุณถึงไปเจอกับเขาที่สุสานเขาเฟิ่งหวง? อีกอย่าง รปภ.ที่ตายที่สุสานเขาเฟิ่งหวง คุณไม่เคยเจอรึไง? การตายของเขาเกี่ยวข้องกับคุณหรือไม่?”

ไหม้เฉิงซินพูดว่า “ที่ข้าไปพบเขา เพราะเขาหาข้ามีเรื่องจะปรึกษา ข้าไม่อยากมีปัญหากับบุคคลนี้ ดังนั้นจึงได้ไปพบปะด้วย ส่วนรปภ.คนนั้น ในตอนที่ข้าไปถึงที่นั่น เขาก็ตายไปแล้ว จะต้องไม่เกี่ยวข้อกับข้าสักนิดอยู่แล้ว!”

เย่เฉินจ้องมองเขา ถามว่า “เขาหาคุณมีเรื่องอะไรปรึกษากันแน่?”

ไหม้เฉิงซินพูดเสียงเย็นชาว่า “นี่คือเรื่องส่วนตัวระหว่างข้ากับเขา ไม่เกี่ยวข้องกับนาย!”

เย่เฉินยิ้มเยาะ “คุณท่าน ตามหลักแล้วคนที่อายุมากอย่างคุณ ไม่ควรจะปากแข็งแบบนี้ ผมเพียงแค่เห็นแก่ว่าคุณอายุมากแล้ว ดังนั้นจึงไม่อยากลงมืออะไรกับคุณ แต่ถ้าหากคุณคิดอยากจะใช้ความเป็นอาวุโส งั้นผมก็จะไม่เกรงใจแล้วละ!”

ในใจของไหม้เฉิงซินมีความตื่นตระหนก แต่ปากกลับพูดอย่างกล้าหาญว่า “คนหนุ่มอย่างนายนี่ไร้เหตุผลสิ้นดี! ฉันและนายไม่มีความแค้นต่อกัน ฉันไปพบกับใคร คุยอะไรกัน เกี่ยวข้องอะไรกับนาย?”

เย่เฉินพูดอย่างรำคาญว่า “อย่ามาพูดความถูกต้องอะไรกับผมที่นี่ ผมบอกกับคุณได้อย่างชัดเจนเลยว่า ถ้าหากคุณไม่บอกเรื่องของซวนเฟิงเหนียนออกมา ไม่บอกความเคลื่อนไหวของขาให้กับผม งั้นก็อย่าได้โทษผมที่ไม่เคารพผู้ใหญ่!”

ไหม้เฉิงซินส่งเสียงหึทีหนึ่ง “นายไม่ใช่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสักหน่อย ข้าไม่บอกกับนายอยู่แล้ว”

“ไม่บอกผม?” เย่เฉินยิ้มเยาะ พูดเสียงแข็งว่า “ในเมื่อเมื่อวานคุณเคยได้เจอกับเขา ก้จะต้องรู้อยู่แล้วว่าหนอนกู่ของเขากินสมองคนเป็นอาหาร ถ้าไม่รีบจับเขาให้ไว เขาก็จะสามารถทำร้ายผู้บริสุทธิ์ได้มากยิ่งขึ้น ถ้าหากว่าคุณไม่บอกความจริงมา นั่นก็ถือเป็นการสมรู้ร่วมคิด! คนต่อไปทุกคนที่ซวนเฟิงเหนียนฆ่าตาย คุณล้วนมีความรับผิดชอบที่หนีไม่พ้น!”

“ตลก!” ไหม้เฉิงซินพูดอย่างโอหัง “ทั้งชีวิตข้าอยู่อย่างเป็นธรรม ไม่เคยทำเรื่องที่ทำร้ายโลก นายก็อย่าได้คิดจะเอาบาปกรรมของคนอื่นมาใส่บนหัวของข้า! แม้ว่าจะอยู่ต่อหน้าทางตำรวจของทั้งโลก ข้าก็จะต้องไร้ความผิดแน่นอน!”