พูดจบ ซูจือหยูก็พูดอีกว่า“อีกทั้งเราไม่นั่งสายการบินพลเรือน แค่จัดเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวหนึ่งลำเราก็สามารถนอนไปตลอดทางได้”

ตู้ไห่ชิงยิ้มเบาๆ“แม่ไม่ไปหรอก ไม่อยากไปเห็นหน้าคนตระกูลซู ถึงจะเป็นซูอานสุ้นก็ตาม ไม่งั้นลูกให้พี่ชายของลูกไปเป็นเพื่อนสิ?”

“พี่ชายหนูหรอคะ?”ซูจือหยูเบะปาก“หนูไม่ไปกับเขาหรอก ถ้าแม่ไม่อยากไป หนูไปเองก็ได้ค่ะ”

“ทำไมล่ะ?”ตู้ไห่ชิงถามอย่างแปลกใจ“ทะเลาะกับพี่ชายลูกมาหรอ?”

ซูจือหยูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวไปมา

เธอไม่อยากบอกกับแม่ว่าความจริงพี่ชายรายงานเรื่องทุกอย่างให้คุณปู่ไปหมดแล้ว เนื่องจากมันเป็นการคาดเดาของตัวเธอเองเท่านั้น อีกทั้งทุกคนมีความคิดเป็นของตัวเอง พี่ชายรายงานกับคุณปู่มันก็เป็นทางที่เขาเลือก ไม่อาจจะปฏิเสธว่าไม่ดีทั้งหมดได้ยังมีดีอยู่บ้าง

ดังนั้น เขาจึงอธิบายว่า“คอนเสิร์ตของกู้ชิงอี๋จะเริ่มในอีกไม่กี่วัน สองวันมานี้พี่กำลังวุ่นๆอยู่ค่ะ”

ตู้ไห่ชิงพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า“พี่ชายของลูกดูเหมือนจะตกหลุมรักกู้ชิวอี๋นะ”

“ใช่ค่ะ”ซูจือหยูกล่าว“เขาชอบกู้ชิวอี๋มานานแล้วค่ะ เขาหาโอกาสเข้าใกล้เธอมาตลอด เพื่อให้จังหวะสารภาพรัก”

ตู้ไห่ชิงถอนหายใจ แล้วกล่าวว่า“ผู้หญิงตระกูลกู้คนนั้นดีมาก แต่ว่า……”

ซูจือหยูถามอย่างแปลกใจ“แต่ว่าอะไรหรอคะ?”

ตู้ไห่ชิงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างสะท้อนใจว่า“แต่ว่าตระกูลกู้กับตระกูลซูไม่ถูกกันมาตลอด แม่คิดว่ากู้เย้นจงไม่มีทางยกลูกสาวของเขาให้แต่งเข้าตระกูลซูแน่”

ซูจือหยูกล่าว“ถ้าพี่กับเธอต่างมีใจตรงกัน ต่างฝ่ายต่างรักกัน ถ้าอย่างงั้นลุงกู้น่าจะไม่ขัดขวางหรอกมั้งครับ?เนื่องจากตอนนี้ทุกคนต่างมีความรักได้อย่างอิสระ มีเสรีภาพในการแต่งงาน”

ตู้ไห่ชิงฝืนยิ้ม“ผู้หญิงตระกูลกู้น่าจะไม่ชอบพี่ชายของลูกหรอก”

ซูจือหยูถามอย่างไม่เข้าใจ“แม่คะ ในสายตาของแม่ ความสามารถในการแข่งขันของพี่แย่ขนาดนั้นเลยหรอคะ?”

ตู้ไห่ชิงอธิบาย“ไม่ใช่ว่าความสามารถในการแข่งขันของพี่ชายลูกแย่หรอก แต่การความสามารถในการแข่งขันของเย่เฉินอข็งแกร่งเกินไป”

“เย่เฉิน?!”ซูจือหยูถามอย่างแปลกใจ“นี่มันเกี่ยวอะไรกับเขาหรอคะ?”

ตู้ไห่ชิงพูด“เย่เฉินกับกู้ชิวอี๋มีการสัญญาหมั้นหมายกันนานแล้ว ก่อนหน้าเย่เฉินหายตัวไปนานขนาดนี้ คนของตระกูลกู้ไม่ละทิ้งความพยายามในการตามหาเขา ตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าเย่เฉินยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งตอนนี้เขายังโดดเด่นขนาดนี้ คนของตระกูลกู้จะปล่อยมือไปได้ยังไง?”

ซูจือหยูอดที่จะโพล่งออกไปไม่ได้“แต่ผู้มีพระคุณแต่งงานนานแล้วนะคะ!หรือคนของตระกูลกู้ไม่รู้เรื่องนี้?”

ตู้ไห่ชิงมองไปที่เธอ แล้วถามกลับอย่างทำอะไรไม่ได้“ลูกก็รู้ว่าเย่เฉินแต่งงานแล้ว แต่ในใจของลูกก็ไม่ยอมปล่อยมือสักทีไม่ใช่หรอ?”

ซูจือหยูถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ตู้ไห่ชิงพูดต่อไปว่า“ลูกดูสิ ลูกเป็นลูกสาวของศัตรูเย่เฉิน เมื่อพูดถึงแล้ว ระหว่างลูกกับเย่เฉินมีช่องว่างต่างกันมาก แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นลูกก็ไม่ยอมปล่อยมือ คนของตระกูลกู้เป็นเพื่อนกับพ่อและแม่ของเย่เฉิน ลูกสาวกับเย่เฉินก็มีสัญญาหมั้นหมายกัน มีความแน่นแฟ้นกันอยู่แล้ว คนอื่นเขาไม่มีวันยอมปล่อยมือหรอก”

ซูจือหยูเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างตกใจว่า“หนูเข้าใจแล้วค่ะ!ในที่สุดหนูก็เข้าใจแล้ว!”

ตู้ไห่ชิงถามอย่างประหลาดใจ“ลูกเข้าใจอะไรหรอ?”

ซูจือหยูพูดด้วยใบหน้าเข้าใจได้อย่างกะทันหันว่า“ในที่สุดหนูก็เข้าใจแล้วค่ะ ทำไมกู้ชิวอี๋ซูเปอร์สตาร์เบอร์ใหญ่ขนาดนี้ ถึงต้องจัดการทัวร์คอนเสิร์ตปีนี้ที่จินหลิงซึ่งเป็นเมืองรองเป็นที่แรก!”

“ก่อนหน้านี้หนูกับพี่แปลกใจกันมาก ถ้าว่ากันตามหลักแล้ว ซูเปอร์สตาร์เบอร์ใหญ่แบบนี้จะจัดทัวร์คอนเสิร์ต ก็จะต้องเริ่มที่เมืองระดับที่หนึ่งก่อน หลังจากนั้นค่อยจัดที่เมืองรอง!”

“อีกทั้ง เธอเป็นคนเย่นจิงแต่เดิมอยู่แล้ว จัดคอนเสิร์ตที่สนามกีฬาโอลิมปิกที่ใหญ่ที่สุดตรงหน้าบ้านของตัวเองเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ไม่มีเหตุผลเลยที่จะใกล้เกลือกินด่าง ทำจากที่เล็กๆ วิ่งแจ้นมาเปิดคอนเสิร์ตที่จินหลิงเป็นที่แรก……”

“ที่เธอเลือกมาจินหลิง จะต้องเป็นเพราะเย่เฉินอย่างแน่นอน!”