เย่ฉางหมิ่นที่อยู่ไกลถึงเย่นจิง ได้แต่ฟังความเคลื่อนไหวในสายโดยไม่พูดอะไร ยิ่งฟังเธอก็ยิ่งรู้สึกเสียใจต่อจงเทียนหยู่

เย่ฉางหมิ่นไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าเพราะอะไรจงเทียนหยู่ถึงได้ล้มเหลวขนาดนี้ เนื่องจากที่เขาทำมาทุกอย่าง ก็เพื่อตามจีบกู้ชิวอี๋ แต่พอถึงท้ายที่สุดกลับถูกกู้ชิวอี๋รังเกียจขนาดนี้

ถ้าถูกกู้ชิวอี๋รังเกียจคงไม่เป็นไร แต่เพราะกู้ชิวอี๋ล่วงเกินเย่เฉิน มันไม่คุ้มกันเลย

ตอนนี้เย่ฉางหมิ่นไม่รู้เหมือนกันว่าจะจะอธิบายกับจงเจิ้งทาวอย่างไร เขายังรอให้ตนช่วยลูกชายของเขาออกไป แต่ลูกชายของเขากลับถูกหลานชายของตนจับตัวไว้ ถ้าอยากเจอหน้าเขาจะต้องรออย่างน้อยสามปี

ในตอนที่เย่ฉางหมิ่นกำลังเครียดอยู่นั้น จู่ๆมือถือก็ดังขึ้น เป็นสายจากจงเจิ้งทาวโทรเข้ามา

ด้วยความสิ้นหวัง เธอจึงทำได้แค่ตัดสายของจงเจิ้งทาวทิ้งก่อน และต่อสายกับจงเจิ้งทาว

สายแรก จงเจิ้งทาวถามด้วยความร้อนใจว่า“ฉางหมิ่น คุณสืบอะไรได้บ้างไหม?เทียนหยู่ถูกตระกูลเย่ของพวกคุณลักพาตัวไปใช่ไหม?”

เย่ฉางหมิ่นพูดอย่างทำอะไรไม่ถูก“เจิ้งทาว เมื่อกี้เทียนหยู่โทรมาบอกกับฉันว่า ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกงจริงๆ”

จงเจิ้งทาวจึงรีบถามว่า“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องของตระกูลเย่ลักพาตัวเขาไปใช่ไหม?”

เย่ฉางหมิ่นกระแอมสองครั้งอย่างอึดอัดใจ แล้วกล่าวว่า“เอ่อคือ……คนที่ลักพาตัวเขาไปไม่ชาลูกน้องของตระกูลเย่หรอกค่ะ แต่เป็นหลานชายฉันเอง”

“หลานชายคุณ?!”จงเจิ้งทาวพูดอย่างมึนงง“เทียนหยู่ไปขัดแย้งกับหลานชายของคุณได้ยังไงกัน?เย่เฟิงหรือเย่เห้า?”

“ไม่ใช่ทั้งสองค่ะ”เย่ฉางหมิ่นพูดเสียงเบา“คือเย่เฉินค่ะ!”

“เย่เฉิน?!”จงเจิ้งทาวมึนงงกว่าเดิม เขาถามโพล่งออกไปว่า“ทำไมผมถึงไม่รู้ว่าคุณยังหลานชายอีกคนที่ชื่อเย่เฉิน?ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย”

เย่ฉางหมิ่นถอนหายใจ“เย่เฉินเป็นลูกชายของเย่ฉางอิงพี่รองของฉันค่ะ”

จงเจิ้งทาวกล่าวอย่างตกใจ“ลูกชายของเย่ฉางอิง?!เขาหายตัวไปนานแล้วไม่ใช่หรอ?!”

เย่ฉางหมิ่นกล่าว“เรื่องนี้ฉันไม่เคยบอกกับคุณเลย ก่อนหน้านี้พึ่งตามหาเย่เฉินเจอ ในนี้ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังไม่แน่ชัด เรื่องมันยาวน่ะค่ะ”

จงเจิ้งทาวกล่าวอย่างรีบร้อนว่า“ผมไม่อยากรู้ว่าครอบครัวของพวกคุณเก็บงำซ่อนอะไรไว้ ผมแค่อยากรู้ว่า ทำไมเย่เฉินคนนี้ต้องลักพาตัวลูกชายผมด้วย?ลูกชายผมมีปัญหาอะไรกับเขา?”

เย่ฉางหมิ่นกล่าว“จากที่ฉันเข้าใจ ทั้งสองคนน่าจะขัดแย้งกันในโทรศัพท์ หลานชายของฉันอยู่ที่จินหลิงพอดี ดังนั้นพอเทียนหยู่บินไปที่นั่น ก็เลยถูกคนของเขาลากตัวออกไปทันที”

จงเจิ้งทาวกล่าวอย่างมึนงง“หลานชายของคุณบุ่มบ่ามเกินไปรึเปล่า อยู่ในแวดวงเดียวกันทั้งนั้นก้มหน้าไม่เจอเงยหน้าก็ต้องเจอ จะต้องทำขนาดนี้เชียวหรอ?เทียนหยู่ถูกเขาจับตัวไป เรื่องที่สนามบิน เป็นแผนการของเขาเหมือนกันใช่ไหม?ถูกเขาทำถึงขนาดนี้ จากนี้ไปเทียนหยู่ก็คงอยู่ในวงการบันเทิงยากแล้วล่ะ รอเทียนหยู่กลับมา แค้นนี้ผมควรคิดยังไงกับเขาดี?”

“จะคิดยังไง……”เย่ฉางหมิ่นพึมพำหนึ่งคำ แล้วพูดขึ้นมาอีกว่า“เจิ้งทาว สถานการณ์ของเรื่องนี้มันซับซ้อนกว่าที่คุณคิดไว้อีก เทียนหยู่คงไม่สามารถกลับมาได้สักพัก”

“หมายความว่าไง?!”จงเจิ้งทาวถามด้วยความโกรธ“หรือหลานชายของคุณทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว ยังจะไม่ยอมปล่อยคนออกมาอีกงั้นหรอ?”

“ใช่ค่ะ”เย่ฉางหมิ่นพูดอย่างทำอะไรไม่ได้“ฉันพยายามเกลี้ยกล่อมเขาแล้ว แต่ไม่มีประโยชน์อะไร เขาไม่เห็นอาอย่างฉันอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ”

จงเจิ้งทาวกัดฟันกรอดถามว่า“ถ้าอย่างนั้นต้องทำยังไงเขาถึงจะยอมปล่อยคน?”

เย่ฉางหมิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วพูดอย่างอึดอัดใจว่า“เย่เฉินบอกว่า จะให้เทียนหยู่ไปเป็นลูกเรือสามปี ภายในเวลาสามปีนี้ เทียนหยู่ห้ามออกจากเรือ ยิ่งห้ามลงเดินพื้น หลังจากสามปีถึงจะเป็นอิสระ”