เมื่อได้ยินว่าคุณท่านให้ตนไปรับเย่เฉินด้วย เย่เห้ารู้สึกไม่เต็มใจเลย แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องอย่างเย่เฟิงยังต้องยอมแพ้ มีหรือที่เขาจะกล้าต่อต้าน ดังนั้น เขาจึงทำได้เพียงแค่ตอบตกลงอย่างว่าง่าย ในเวลานี้เอง มีคนรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงานว่า“คุณท่านครับ คุณชายเฟิงครับ เจ้าหญิงเฮเลน่ามาครับ” เมื่อเย่เฟิงได้ยินว่าเฮเลน่ามา สีหน้าเคร่งขรึมก็ค่อยๆอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย เจ้าหญิงเฮเลน่า เป็นคู่หมั้นของเย่เฟิง เฮเลน่า อีเลียด เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์ยุโรปเหนือ ตระกูลเย่กับตระกูลอีเลียดถึงแม้ว่าจะเกี่ยวดองกัน แต่เนื่องจากตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้เข้าพิธีหมั้นหมายกันอย่างเป็นทางการ ดังนั้นคำนึงถึงเรื่องความเคารพ และกลัวว่าปาปารัสซีจะซุบซิบนินทาให้เป็นข่าวเสียหาย เพราะฉะนั้นคนในตระกูลเย่จึงไม่ได้ให้เจ้าหญิงเฮเลน่าเข้าพักในคฤหาสน์ตระกูลเย่ หลังจากที่เฮเลน่ามาเยือนที่เย่นจิง ก็พักอยู่ในโรงแรมป๋ายจินฮ่านกงของเย่นจิงมาโดยตลอด แต่ตอนกลางวันเธอมักจะมาเยียมเยือนตระกูลเย่อยู่เสมอ บางครั้งเธอจะไปเที่ยวกับเย่เฟิงในเย่นจิง เย่เฟิงชอบเฮเลน่ามากเช่นกัน ไม่เพียงเพราะเฮเลน่าเป็นเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เหนือ ที่ทำให้เขารู้สึกเชิดหน้าชูคอได้ เขาชอบรูปลักษณ์ภายนอกของเฮเลน่า บุคลิก รูปร่างเป็นแบบสาวสวยฝั่งยุโรป ตอนนี้ รูปร่างสูงเพรียวร่างหนึ่ง บนร่างกายสวมกระโปรงยาวสีขาวสง่า หญิงสาวที่มีผมบรอนด์ทองพาดบ่าราวกับน้ำตก กำลังก้าวเข้ามาด้านใน ผิวของเธอขาวกว่าหิมะ มีความแวววาว นัยน์ตาสีฟ้ากลมโตคู่นั้น เคลื่อนไหวดุจดั่งทะเล จมูกสูงโด่ง ริมฝีปากสีแดงบางเฉียบ ช่างเหมือนกับประติมากรรมชั้นดีที่รังสรรค์อย่างประณีต ไม่ว่าจะด้วยหน้าตาหรือรูปร่าง สามารถกล่าวได้เลยว่าเป็นสิ่งที่หาได้ยากในโลกใบนี้ การปรากฏตัวของเธอ ทำให้ทั้งในห้องโถงของตระกูลเย่ราวกับเปล่งประกายในทันที เฮเลน่าอายุน้อยกว่าเย่เฟิงห้าปี ปีนี้เธอพึ่งจะอายุยี่สิบสี่ปี เธอเป็นเจ้าหญิงคนโตแห่งราชวงศ์ยุโรปเหนือ แต่เดิมเป็นรัชทายาทสืบทอดบัลลังก์ แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เธอถึงถูกกำจัดออกจากสิทธิ์การเป็นผู้สืบทอด ดังนั้นจึงถูกพาตัวมาให้ดองกับตระกูลเย่ ถ้าหากเธอยังอยากเป็นรัชทายาท ราชวงศ์ยุโรปเหนือไม่มีทางให้เธอมาอภิเษกสมรสที่เอเชียแน่ เธอจะต้องเลือกเจ้าชายที่ไม่มีหวังได้สืบทอดราชบัลลังก์ จากประเทศอื่นๆในยุโรปเพื่ออภิเษกสมรส เมื่อเย่เฟิงเห็นเฮเลน่า เขาก็รีบเข้าไปหาเธอด้วยรอยยิ้ม แล้วถามอย่างอ่อนโยนว่า“ที่รัก ทานอาหารรึยังครับ?” เฮเลน่าพยักหน้า แล้วใช้ภาษาจีนตอบกลับอย่างคล่องแคล่ว“ฉันทานแล้วค่ะ” พูดจบ เธอก็มองไปที่เย่โจงฉวน แล้วทำความเคารพเบาๆ“สวัสดีค่ะคุณท่านเย่” ต่อมา เธอก็ทักทายเย่ฉางโคงพ่อของเย่เฟิง เย่ฉางหยุนผู้เป็นอาสาม เย่ฉางจุ้นผู้เป็นอาสี่รวมถึงเย่ฉางหมิ่นผู้เป็นอาสาว และเย่ฉางซิ่วทีละคน เย่โจงฉวนเห็นว่าเธอมีความรู้และมารยาท เขาจึงยิ้มอย่างชื่นชม“เฮเลน่า ในบ้านเธอไม่จำเป็นต้องห่างเหินขนาดนั้นก็ได้ ยิ่งไปต้องเรียกฉันว่าคุณท่านเย่อะไรหรอก เรียกคุณปู่ เหมือนเสี่ยวเฟิงก็พอแล้ว!” เฮเลน่าถามอย่างเขินๆว่า“ฉันได้ยินมาว่า ตามหลักธรรมเนียมของหัวเซี่ย จะต้องเปลี่ยนการเรียกหลังจากแต่งงาน……” “ใช่แล้ว!”เย่ฉางโคงพ่อของเย่เฟิงพูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า“เฮเลน่า ตามธรรมเนียมแล้ว จะต้องเปลี่ยนการเรียกหลังจากที่เธอก้าวเข้ามาในบ้านอย่างเป็นทางการก็จริง แต่ส่วนตัวไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดขนาดนั้นก็ได้ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเป็นทองแผ่นเดียวกัน เปลี่ยนการเรียกตั้งแต่เนิ่นๆก็เพื่อให้สนิทชิดเชื้อกันมากขึ้น” เย่ฉางหมิ่นที่อยู่ข้างๆกล่าว“โธ่พี่ใหญ่ พี่ยังไม่ได้ให้ค่าเปลี่ยนการเรียกกับเฮเลน่าเลยนะ จะให้คนอื่นเรียกพี่ว่าพ่อแล้วหรอเนี่ย?” เย่ฉางโคงรีบกล่าวว่า“ถึงตอนนี้จะเรียกแล้ว ถึงเวลานั้นก็ต้องให้ค่าเปลี่ยนการเรียกอยู่ดี!” พูดจบ เขาก็มองไปที่เฮเลน่า แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“เฮเลน่า ฉันกับแม่ของเสี่ยวเฟิงปรึกษากันแล้ว ถึงเวลาค่าเปลี่ยนการเรียก เราสองคนจะให้พวกเธอกันคนละสิบแปดล้านหนึ่งแสนแปดหมื่น!ดอลลาร์!” เฮเลน่าตกใจเล็กน้อย เธอรีบกล่าวว่า“มันเยอะเกินไปรึเปล่าคะ……คนหัวเซี่ยบอกว่าไร้ผลงานจะรับยศไม่ได้ ฉัน……ฉัน……” เย่โจงฉวนพูดอย่างยิ้มๆว่า“ทำไมถึงพูดว่าไร้ผลงานจะรับไม่ได้ล่ะ ตามธรรมเนียมหัวเซี่ยของเรา ในวันแต่งงานจะต้องให้เปลี่ยนการเรียก ไม่เพียงแค่พ่อสามีและแม่สามีในอนาคตจะต้องให้นะ ยังมีคนเป็นปู่อย่างฉันด้วย รวมถึงอาคนอื่นๆ และอาหญิงด้วย ต้องให้ทุกคน” เฮเลน่าตกตะลึง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า“ถึงจะไม่เจตนา แต่ฉันคิดว่าธรรมเนียมแบบนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะกับฉันเท่าไร……