ซูโสว่เต้าตกใจกับกลิ่นอายที่เต็มไปด้วยการสังหารนั่นของเย่เฉินแล้ว ในเวลานี้เขา ในสมองก็มีแค่ความคิดเดียวเท่านั้น งั้นก็อย่าให้สมาชิกตระกูลซูตาต่ำเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เด็ดขาด ทางที่ดีที่สุดอย่าให้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยสักนิด แต่ว่า เขาจะรู้ได้ยังไงล่ะ เฒ่าชราแก่หง่อมของเขานั่น ในเวลานี้ตื่นเต้นจนทนไม่ไหวแล้ว รอแค่พรุ่งนี้เช้า ขึ้นไปภูเขาเย่หลิงซานพร้อมกับว่านพั่วจวิน เป็นสักขีพยานในความพินาศของตระกูลเย่! เวลานี้ซูเฉิงเฟิง กินอาหารค่ำไปพลาง พร้อมใช้ตะเกียบชี้ๆไปสามสี่จาน พูดกับพ่อบ้านซูอานสุ้นว่า : “อานสุ้น มื้ออาหารค่ำนี้ไม่มีเหล้า รู้สึกขาดไปนิดหนึ่งนะ !” ซูอานสุ้นรีบยิ้มพร้อมพูดว่า : “คุณท่าน หมอบอกว่าให้ท่านลดการดื่มเหล้า พยายามไม่ดื่ม อีกอย่างพรุ่งนี้ท่านจะต้องตื่นตั้งแต่เช้าด้วยไม่ใช่เหรอครับ?ผมกลัวว่าท่านดื่มเหล้าแล้วจะทำให้เสียงาน เพราะงั้นจึงไม่ได้เตรียมครับ” ซูเฉิงเฟิงพูดด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกว่า : “ฉันถามนายนะ วันนี้เป็นวันอะไร?” ซูอานสุ้นรีบพูดกล่าว : “4 เมษายนครับ ทำไมเหรอ?” ซูเฉิงเฟิงพูดด่าว่า : “เหลวไหล ฉันจะไม่รู้เหรอว่าวันนี้เป็นวันที่ 4 เมษายน?!ฉันหมายความว่า วันนี้เป็นวันพิเศษอะไร?” ซูอานสุ้นกลอกตาวนไปมา คิดอย่างรวดเร็ว รีบพูดชมทันทีว่า : “ขอตอบคุณท่าน วันนี้เป็นวันที่สำนักว่านหลงฆาตกรรมตระกูลเย่ ทำให้ตระกูลเย่อัปยศอดสู! ” “ถูกต้อง!” ซูเฉิงเฟิงหัวเราะฮ่าๆ พูดว่า : “วันนี้ แม้ว่าเปรียบเทียบกับวันปีใหม่ ก็ไม่ได้ด้อยกว่าเลยใช่ไหม? นายว่าวันที่ยินดีปรีดาเช่นนี้ถ้าหากฉันไม่ดื่มสักสองแก้ว จะไม่ทำให้โลงศพกว่าหนึ่งร้อยกว่าโลงนั้นที่ว่านพั่วจวินส่องให้ตระกูลเย่ผิดหวังเหรอ?!จะไม่ทำให้เย่ฉางอิงที่ต้องถูกทำลายเถ้ากระดูกในเช้าวันพรุ่งนี้ผิดหวังเหรอ?! ” ซูอานสุ้นรีบพยักหน้าทันที : “คุณท่านพูดถูกครับ ผมจะไปเอาเหล้ามาให้ท่านเดี๋ยวนี้เลย!ท่านอยากดื่มแบบไหนครับ?” ซูเฉิงเฟิงถึงจะพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ยิ้มกริ่มพร้อมพูดกำชับว่า : “เอาเหมาไถที่ดีที่สุด แล้วก็เอาแก้วมาให้ฉันเพิ่มอีกใบ ฉันจะชนแก้วในระยะไกลกับเย่ฉางอิง!ฮ่าๆๆๆ!” ซูอานสุ้นรีบเอาเหล้าเหมาไถที่ดีที่สุดมาทันที ขณะเดียวกันก็เอาแก้วเหล้ามาสองแก้วแล้ว ซูเฉิงเฟิงวางตะเกียบลง พูดเสียงดังว่า : “มา รินให้ฉันเต็มแก้ว!” ซูอานสุ้นรีบเปิดเหล้าเหมาไถออกทันที รินทั้งสองแก้วแล้ว ซูเฉิงเฟิงยกขึ้นมาแก้วหนึ่ง เงยหน้าดื่มจนหมดแก้ว ทั้งทำเสียงจุ๊ๆพร้อมทั้งยิ้มและพูดว่า : “ไอ้หยา!จุ๊ๆๆ……คนเราเมื่อเจอเรื่องที่ปีติยินดีจิตใจก็จะรู้สึกสบายใจ เหล้าก็จะเปลี่ยนเป็นมีรสชาติที่กลมกล่อมกว่าปกติ! ” พูดจบ เขาก็ยกอีกแก้วหนึ่งขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็นว่า : “เย่ฉางอิงนะเย่ฉางอิง ปีนั้นแกสามารถเรียกลมเรียกฝนที่เย่นจิงได้ ไม่มีใครอาจเทียบได้ แต่แกเคยคิดไหมว่า หลังจากผ่านไปยี่สิบปีแล้ว ลูกชายของว่านเหลียนเฉิงจะขุดหลุมศพของแกเองกับมือ ทำลายขี้เถ้าของแกให้สิ้นซาก?” พูดมาถึงตรงนี้ ซูเฉิงเฟิงก็หัวเราะเหอะๆ สั่นข้อมือแล้ว นำแก้วเหล้าเทลงบนพื้น แสยะยิ้มพร้อมพูดว่า : “มาสิหลานชาย ดื่มสักแก้วสิ หลังจากพรุ่งนี้ไป แกก็คือวิญญาณเร่ร่อนไร้ญาติที่ล่องลอยอยู่ในอากาศนั่นแล้ว!ฮ่าๆๆๆ!” …… อีกฝั่งหนึ่ง หลังจากที่เย่เฉินออกจากบ้านไร่นั่น ก็ให้ถังซื่อไห่ไปส่งเข้าที่ตระกูลกู้แล้ว ระหว่างทางกลับ เย่เฉินมอบหมายงานให้ถังซื่อไห่ : “พ่อบ้านถัง คืนนี้กลับไป ให้คนของนายเฝ้าอยู่ด้านนอกจับตามองทุกการเคลื่อนไหวของสมาชิกตระกูลเย่ ดูว่ามีใครบ้าง ที่ดึกดื่นมืดค่ำแอบออกไปซื้อผ้าห่อศพ เมื่อใดที่มีคนออกไป ก็ส่งคนไปจับตามองไว้ ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน พรุ่งนี้หลังจากที่จัดการว่านพั่วจวินนั่นแล้ว ฉันค่อยมาคิดบัญชีกับพวกเขา!” ถังซื่อไห่พูดอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยว่า : “ครับคุณชาย!ผมจะไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้!” เย่เฉินพยักหน้าแล้ว พูดพึมพำว่า : “พวกผู้ชายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ของตระกูลเย่นี้ ใช้ชีวิตดีมานานมากแล้ว เริ่มขี้เกียจกันแล้ว หลังจากผ่านครั้งนี้ไป จะต้องฝึกอบรมพวกเขาให้ดีๆแล้ว!” ถังซื่อไห่พูดอย่างเคารพว่า : “คุณชาย หลังจากพรุ่งนี้ไป คุณคือเทพเจ้าแห่งตระกูลเย่ มีคุณอยู่ คนพวกนี้ไม่กล้าทำเรื่องเลวๆอีกแน่! ” พูดแล้ว ถังซื่อไห่ก็พูดอีกว่า : “อีกอย่าง หลังจากพรุ่งนี้ไป คุณคือการมีอยู่ที่ไม่อาจจะเอื้อมถึงได้ ในสายตาของทุกตระกูลทั่วประเทศ เหมือนกับพ่อของคุณในปีนั้น!