เย่เฉินโบกไม้โบกมือ พูดอย่างจริงจังว่า : “เรื่องของวันพรุ่งนี้ อย่าลืมปิดข่าวเด็ดขาดเลยนะ อย่าให้สถานะของฉันแผ่แพร่สู่โลกภายนอก ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะปรากฏตัวออกมา” ใบหน้าของถังซื่อไห่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ พูดถามว่า : “คุณชาย ถ้าหากคุณชนะสำนักว่านหลงแล้ว ทำไมถึงไม่ใช้โอกาสที่ดีแบบนี้ ประกาศตัวตนของตัวเองเลย ในขณะเดียวกันก็ประกาศเป็นผู้นำตระกูลเย่?” เย่เฉินพูดอย่างจริงจังว่า : “สำนักว่านหลงเล็กๆ นอกจากคนเยอะพละกำลังยิ่งใหญ่แล้ว ไม่ได้มีอิทธิพลที่แท้จริงเลยด้วยซ้ำ นายดูพวกตระกูลชาวยิวชนชั้นสูงที่วอลล์สตรีตในอเมริกานั่น สามารถควบคุมเศรษฐกิจได้มากกว่าครึ่งโลก สามารถใช้ประโยชน์จากกฎทางการเงินมาทำลายประเทศหนึ่งที่สร้างเศรษฐกิจมากว่า 20 ปีได้ สามารถใช้ประโยชน์จากรัฐสภา ระดมทหารกว่าหลายแสนนายและกองเรือบรรทุกเครื่องบินเข้าโจมตีประเทศหนึ่งได้ นี่ถึงจะเป็นกองกำลังที่แท้จริง ” พูดมาถึงตรงนี้ เย่เฉินก็ถอนหายใจ พูดว่า : “ตระกูลรอธส์ไชลด์ในโลกตะวันตกที่ไม่ยอมปล่อยให้โอกาสไหนหลุดมือ เป็นตระกูลที่ทรงอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้ เพราะงั้นฉันอยากที่จะเก็บซ่อนตัวอยู่ในที่มืด สืบดูเบื้องหลังของพวกเขาก่อน ” “เข้าใจครับ!” ถังซื่อไห่รีบพูดกล่าวทันทีว่า : “พรุ่งนี้ผมจะพาคนไปปิดภูเขาเย่หลิงซานไว้ล่วงหน้า นอกจากคนของตระกูลเย่และสำนักว่านหลงแล้ว คนอื่นๆไม่อนุญาตให้เข้าทั้งนั้น” เย่เฉินถามเขาว่า : “พ่อบ้านถัง ตอนนี้ที่เย่นจิง นายยังมีคนที่สามารถใช้การได้กี่คน?” ถังซื่อไห่รีบพูดตอบว่า : “ขอตอบคุณชาย ลูกน้องของผมยังมีคนที่เชื่อถือได้เกือบหนึ่งร้อยคนครับ รับฟังคำสั่งอยู่ทุกเมื่อ!” เย่เฉินถามอย่างอยากรู้ว่า : “ทำไมถึงเยอะแบบนี้?ครั้งนี้สำนักว่านหลงพูดข่มออกมา พวกเขาไม่หนีไปเหรอ?” “ไม่ครับ” ถังซื่อไห่พูดด้วยความเคารพว่า: “คนของพวกเราเหล่านี้ ล้วนแต่เคยได้รับความกรุณาอันยิ่งใหญ่จากพ่อของคุณทั้งนั้น ทุกคนรวมตัวกัน ความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือแก้แค้นให้พ่อของคุณ!แม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิตก็ไม่คิดที่จะเสียดาย ตอนนี้มีบางคนคิดที่จะรบกวนความสงบชีวิตหลังความตายพ่อของคุณ พวกเราเตรียมพร้อมที่จะสู้ให้ถึงที่สุดตั้งนานแล้ว แล้วจะหลบหนีไปในเวลาจวนเจียนเช่นนี้ได้ยังไง!” พูดแล้ว ถังซื่อไห่ก็พูดอีกว่า : “หนึ่งในนี้ มีบางคนที่คุณรู้จัก มีบางครั้งที่ปีนั้นแอบซ่อนตัวในกลุ่มคนนั้นอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจินหลิง ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า หลังจากที่พวกเขาถอนตัวออกจากจินหลิง ก็กลับเย่นจิงกันหมดแล้ว ในนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่เหมือนกับผม อายุค่อนข้างมากแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่อายุน้อยเหมือนกับคุณ ถึงขั้นอาจจะอายุน้อยมากกว่าคุณอีก” เย่เฉินถามอย่างไม่เข้าใจว่า : “ในเมื่อเป็นหน่วยงานเก่าของพ่อแม่ฉัน ทำไมถึงยังมีคนที่อายุน้อยกว่าฉันอยู่อีกล่ะ?” ถังซื่อไห่พูดอธิบายว่า : “บางคนเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อของคุณเคยช่วยเหลือไว้ และบางคนก็เป็นเด็กที่อยู่ภายใต้หน่วยงานเก่าของพ่อคุณด้วย ถ้าหากไม่ใช่พ่อของคุณ คนส่วนใหญ่ในนี้ก็ตายไปตั้งนานแล้ว รวมถึงผมด้วย ชีวิตของเรา พ่อของคุณเป็นคนมอบให้ทั้งหมด” พูดมาถึงตรงนี้ ถังซื่อไห่พูดด้วยน้ำเสียงที่ถอดถอนหายใจว่า : “พ่อของคุณจากไปนานมากขนาดนี้แล้ว สาเหตุที่พวกเราไม่ไปจากตระกูลเย่ ก็เพราะรอคุณกลับมา!” เมื่อเย่เฉินได้ยินมาถึงตรงนี้ ไม่เพียงแค่ถอนหายใจในใจอย่างมาก แถมยังเต็มไปด้วยความชื่นชมและเคารพในตัวของพ่อแล้ว คนๆหนึ่งที่เสียชีวิตไปเกือบยี่สิบปี ยังมีคนมากมายขนาดนี้ที่จะยอมตายเพื่อเขา เพราะงั้นจึงเห็นได้ว่า ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ จะต้องเป็นคนที่เที่ยงตรงและยิ่งใหญ่แน่นอน ในช่วงเวลาที่ถอนหายใจ ถังซื่อไห่ก็นำรถมาจอดที่ประตูบ้านตระกูลกู้แล้ว ถังซื่อไห่เดินลงจากรถ เปิดประตูให้เย่เฉิน พูดด้วยความเคารพว่า : “คุณชายวันนี้คุณพักผ่อนให้เต็มที่นะครับ บำรุงและสะสมกำลังให้แข็งแกร่ง ส่วนเรื่องอื่นๆที่ไม่สำคัญผมจะจัดการอย่างเหมาะสมแน่นอน!” “โอเค” เย่เฉินพยักหน้าเล็กน้อย: “พ่อบ้านถังเหนื่อยแล้วนะ กลับไปก็พักผ่อนให้ดีๆ” “ขอบคุณความห่วงใยของคุณชาย!” หลังจากที่เย่เฉินบอกลากับถังซื่อไห่แล้ว เมื่อเข้ามายังตระกูลกู้ กู้ชิวอี๋ก็พุ่งตัวออกมา เธอวิ่งมาตรงหน้าของเย่เฉินด้วยสายตาแดงก่ำ กอดเย่เฉินไว้ พูดสำลักอย่างน่าสงสารว่า : “พี่เย่เฉิน พรุ่งนี้ฉันจะไปภูเขาเย่หลิงซานกับคุณด้วย” เย่เฉินเห็นเธอร้องไห้ตาแดงก่ำ อดไม่ได้ที่จะพูดถามว่า : “เป็นอะไร?แถมยังร้องไห้จนเป็นแบบนี้?” กู้ชิวอี๋พูดอย่างสำลักว่า : “พี่เย่เฉิน วันนี้ตอนนี้ที่คุณออกได้ไม่นาน พ่อก็ได้ยินมาว่าสำนักว่านหลงจะหาเรื่องคุณ ออกไปข้างนอก เพื่อวิงวินขอร้องทุกหนทุกแห่งทั้งวัน แต่ว่าไม่มีใครยอมที่จะช่วยเหลือเลย ตอนที่พ่อกลับมา โกรธจนความดันโลหิตสูง ทรงตัวไม่ได้แล้ว……