สำหรับเย่ฉางโคงแล้ว เขายินยอมให้ภูเขาเย่หลิงซานถูกสำนักว่านหลงทำลาย ถ้าหากคุณท่านไม่ยอม เขาเองก็ยอมให้ว่านพั่วจวินฆ่าคุณท่านทิ้ง จากนั้นตัวเขาที่เป็นผู้สืบทอดอันดับหนึ่งของตระกูลเย่ ก็จะรีบประกาศยอมรับเงื่อนไขทั้งหมดของว่านพั่วจวิน แบบนี้ เขาก็จะได้กลายเป็นผู้นำของตระกูลเย่ที่น้อยลงครึ่งหนึ่ง แต่ถึงแม้ตระกูลเย่จะน้อยลงครึ่งหนึ่ง ก็ยังเป็นสามอันดับต้นของประเทศอยู่ดี เพราะว่าเขาคิดเหมือนกับเย่เฉิน ตระกูลเย่ราบเรียบมานานขนาดนี้ คุณทานนั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูลมานานขนาดนี้ ถ้าหากไม่มีอำนาจที่แข็งแกร่งของทางฝ่ายต่างประเทศมาทำลายฐานของตระกูลเย่ คนอื่นๆก็จะไปกระทบตำแหน่งของคุณท่านได้ยาก แต่ว่า นี่เขาไม่อยากเห็นมากที่สุด ก็คือสถานการณ์ในตอนนี้ ว่านพั่วจวินจบเห่ แล้วปรากฏว่าเย่เฉินขึ้นตำแหน่ง อีกอย่างวิธีการของเย่เฉินก็แข็งแกร่งเพียงนี้ เขาขึ้นเป็นผู้นำตระกูลเย่ คนอื่นๆรวมทั้งเย่ฉางโคง ต่างก็จะหมดสิทธิ์ออกความคิดเห็นในทันที อนาคต พวกเขาก็ทำได้เพียงอยู่ภายใต้กำมือของเย่เฉิน! ในเวลานี้จิตใจของคุณท่านเย่เองก็รู้สึกไม่ดี เขาเป็นคนฉลาด จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าคำพูดเมื่อกี้ของเย่เฉินหมายความว่าอะไร ในวันนี้ เย่เฉินกลับสู่ตระกูลเย่ แล้วก็ใช้กำลังเพียงตัวคนเดียวเอาชนะสำนักว่านหลง ในเวลาแบบนี้ เย่เฉินจะควบคุมทุกอย่างในตระกูลเย่ ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล ก็ไม่มีใครกล้าพูดว่าไม่สักคำ รวมทั้งตัวเย่โจงฉวนเองก็ด้วย แต่ว่า แค่เพียงในคำพูดเดียวของเย่เฉิน ก็ถูกดึงลงจากตำแหน่ง ในใจของเย่โจงฉวนจะต้องมีความหดหู่อยู่บ้างไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว เขาแอบคิดในใจอย่างเจ็บปวด “ในตอนที่จักรพรรดิซ่งไท่จู่จ้าวควงอิ้นใช้สุราหนึ่งจอกรวบคืนอำนาจทหาร ก็ยังจัดเลี้ยง เคารพสุราต่อทุกท่าน ทำไมพอมาที่ฉัน ใช้เพียงคำพูดเดียวกับคนอื่น ก็แย่งตำแหน่งไปจากฉันแล้วละ? อย่างน้อยก็บอกกับฉันก่อนสักคำก็ได้…..” ความรู้สึกแบบนี้ ยากที่จะให้เขายอมรับได้จริงๆ แม้ว่าเขาจะตัดสินใจไว้แล้ว ที่จะส่งต่อตระกูลเย่ให้กับเย่เฉิน แต่เขาหวังว่าจะเป็นหลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ตัวเขาใช้งานเย่เฉิน ฝึกฝนเย่เฉิน ตัวเองค่อยๆให้อำนาจกับเย่เฉิน แล้วในขณะเดียวกันก็ค่อยๆพยุงเขาขึ้นตำแหน่ง แบบนี้ อำนาจค่อยๆปรับเปลี่ยน ตัวเองก็ยังสามารถอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูลเย่อย่างมั่นคงได้อีกหลายปี แต่ว่า เย่โจงฉวนเองก็รู้ ว่าความสามารถแบบนี้ของเย่เฉิน ไม่จำเป็นต้องให้เขาช่วยพยุงขึ้นตำแหน่งด้วยซ้ำ ภายใต้ความเศร้าและหดหู่ เย่โจงฉวนเองก็ค่อยๆคิดได้ เขารู้ มีเพียงเย่เฉิน ถึงจะสามารถนำพาตระกูลเย่ขึ้นเป็นอันดับต้นของโลกได้ ต่อหน้าเป้าหมายนี้ ตัวเองยังยึดอยู่ในตำแหน่งผู้นำตระกูล ยังจะมีความหมายอะไร? กลับกันที่ให้มันง่ายดายรวดเร็วสักหน่อย ให้เย่เฉินรีบรับช่วงต่อ! อย่างนี้ ตัวเขาก็จะยิ่งได้รับความรู้สึกที่ดีจากเย่เฉินมากขึ้นหน่อย! เพราะยังไงซะ จักรพรรดิในสมัยโบราณที่ออกจากตำแหน่งทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ ชีวิตล้วนไม่ได้ดีมากนัก ถ้าหากสามารถทำให้เย่เฉินรู้สึกดีได้มากหน่อย อนาคตถึงแม้จะไม่ได้ควบคุมอำนาจตระกูลเย่ แต่อย่างน้อยก็จะได้มีชีวิตอยู่เป็นผู้อันดับสองอย่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่นา! คิดถึงนี่ ในที่สุดในใจของเย่โจงฉวนก็รู้สึกสบายใจขึ้นเยอะ แต่ว่า ยังไม่ทันรอให้สีหน้าของเย่โจงฉวนสบายใจลงเหมือนอย่างอารมณ์ เย่ฉางโคงที่อยู่ด้านข้างคอยแอบดูสีหน้าของพ่อ สังเกตเห็นว่าคุณพ่อดูหดหู่ ก็รู้ในทันทีว่าคุณท่านจะต้องรู้สึกไม่ดีต่อเย่เฉินแน่นอน ฉะนั้น เขาจึงรีบเดินเข้าไป พูดเสียงต่ำว่า “พ่อครับ!เย่เฉินนี่มันต้องการจะแย่งตำแหน่งนี่ครับ!ปัญหาในบ้านของเราปล่อยให้มันรับช่วงเมื่อไหร่กัน? นี่มันเห็นได้ชัดเลยว่าจะแย่งตำแหน่งของท่านไม่ใช่หรอครับ?!” เย่โจงฉวนหันหน้าไป ถลึงตาใส่เขา แล้วฟาดฝ่ามือใส่! เสียงดังขึ้น ตบจนทำเอาเย่ฉางโคงหน้าชาไปหมด! ในเวลานี้ เขาได้ยินเพียงแค่คุณท่านตะโกนด่าอย่างน่าโหดเหี้ยมว่า “ไอ้ขยะ!กล้ามาทำลายความสัมพันธ์ของฉันกับเฉินเอ๋อ!แกมีความคิดอะไรกันแน่?!วันนี้ฉันพูดไว้ตรงนี้เลย!พวกแกลูกหลานตระกูลเย่ฟังไว้ให้ดี ตำแหน่งผู้นำตระกูลเย่ เป็นของเฉินเอ๋อ!”