บทที่ 3458 ต้องประเมินบุญคุณ

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

เมื่อเห็นว่าลู่เห้าเทียนนึกเสียใจจริงๆ เย่เฉินจึงพยักหน้าอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็ควักยาอายุวัฒนะออกจากกระเป๋ากางเกงหนึ่งเม็ด พร้อมแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่งครึ่งหนึ่งให้เฉินจงเหล่ย เอ่ยว่า: “ให้นายนำยาครึ่งเม็ดนี้ใส่ปากลู่เห้าเทียน ไม่นานแผลของเขาก็จะสมานหายดี”

ทุกคนรวมทั้งว่านพั่วจวิน เมื่อได้ยินเย่เฉินพูดมาเช่นนี้ก็ตะลึงงันทันที!

เมื่อก่อนบนภูเขาเย่หลิงซาน เย่เฉินได้ใช้ปราณทิพย์ฟื้นฟูเส้นลมปราณของว่านพั่วจวิน

ตอนนั้น ภายในใจของว่านพั่วจวินชัดเจนดีว่า เย่เฉินจะต้องเป็นคนที่มีพลังวิเศษ

ขณะเดียวกัน ว่านพั่วจวินก็เข้าใจดีว่าระบบพลังงานภายในร่างกายของเย่เฉินไม่เหมือนกับระบบพลังงานของนักต่อสู้

และเนื่องด้วยเหตุนี้เอง เย่เฉินจึงสามารถใช้พลังงานระดับสูงยิ่งขึ้นนั้นเพื่อฟื้นฟูเส้นลมปราณที่เดิมได้รับความเสียหายไม่สามารถฟื้นกลับมาได้แล้วของว่านพั่วจวินจนหายเป็นปกติ

ทหารคนอื่นของว่านพั่วจวินดูเหมือนจะเดาถึงตรรกะนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นพวกเขาล้วนคิดว่า เย่เฉินน่าจะใช้วิธีการเดียวกับที่รักษาว่านพั่วจวินเมื่อก่อนหน้านี้ ในการรักษาลู่เห้าเทียนเช่นกัน

ทว่า ไม่มีใครคาดถึงว่าครั้งนี้ เย่เฉินกลับหยิบเม็ดยาขึ้นมาใช้รักษาลู่เห้าเทียน

อีกทั้ง ยาเม็ดนี้กลับใช้เพียงครึ่งเม็ดก็ได้

ดังนั้นภายในใจทุกคนต่างก็ถามตัวเองว่า: นั่นมันยาอะไรกันแน่ แค่ต้องกินครึ่งเม็ดก็สามารถรักษานักบู๊หกดาวที่ร่างกายบาดเจ็บทั้งร่างได้?

เฉินจงเหล่ยแม้จะฉงนใจ ทว่าก็ยังคงทำตามที่เย่เฉินสั่ง ยัดยาอายุวัฒนะครึ่งเม็ดนั้นเข้าปากลู่เห้าเทียน

และสิ่งที่ทำให้ลู่เห้าเทียนประหลาดใจก็คือ แม้ยาเม็ดนี้จะเป็นรูปแบบเม็ด ทว่าเมื่อเข้าสู่ปากแล้วก็ละลายทันที ไม่เห็นแม้แต่เงาละลายไหลลงสู่ท้องตามหลอดลมทันที

หลังจากนั้น ฤทธิ์ยาก็เริ่มกระจายสู่แขนขาทั้งสี่ของเขาอย่างรวดเร็ว

เวลาต่อมา แขนขาที่ไร้ความรู้สึกของลู่เห้าเทียนก็เริ่มระคายและร้อนผ่าวขึ้นมา กระทั่งว่ามีความรู้สึกกระตุกเล็กน้อย เขาต้องการยืดขาออกเพื่อต่อต้านอาการกระตุกตามสันชาตญาณ ครั้นคิดไม่ถึงว่าพอออกแรงที่ขาเล็กน้อย ก็ทำให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ได้แล้ว!

ฉากนี้ ทำให้ทหารของสำนักว่านหลงตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

ไม่มีใครคาดคิด ว่ายาเม็ดที่เย่เฉินหยิบออกมานี้ จะมีฤทธิ์ที่แกร่งถึงเพียงนี้ได้

ลู่เห้าเทียนตกตะลึงเสียยิ่งกว่า เขาขยับแขนขาของตนตามสันชาตญาณ พบว่าแขนขาทั้งสี่ของเขาฟื้นกลับมาเป็นปกติโดยสมบูรณ์ เขาจึงอดไม่ได้ที่จะร้องดีใจ: “ฉัน…ฉัน…ฉันกลับมาเป็นปกติแล้ว…เส้นลมปราณของฉันก็กลับเป็นปกติแล้ว…”

ว่านพั่วจวินสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ!

เขาสบถในใจตามสันชาตญาณว่า: “ตอนแรกคิดว่าคุณเย่ได้พลังงานลึกลับที่สูงขึ้นระดับหนึ่งเท่านั้น กลับคิดไม่ถึงว่า แค่คุณเย่หยิบยาเม็ดออกมาเท่านั้นก็มีพลังงานที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้แล้ว นี่มัน…นี่มันแข็งแกร่งเกินไปแล้ว…”

ในเวลานี้ลู่เห้าเทียนก็ตกตะลึงสุดขีด นึกย้อนกลับไปถึงท่าทางที่ตนเองทำเป็นเหนือกว่าโดยไม่ประมาณความสามารถตัวเอง ทั้งยั้งจองหองอวดดีต่อหน้าเย่เฉินในตอนแรก ในใจก็รู้สึกละอายขึ้นมาที่สุด

ในเวลานี้ ในที่สุดเขาก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่างระหว่างตนและเย่เฉิน มันช่างเหมือนแสงของหิ่งห้อยและแสงของดวงจันทร์เสียจริง การที่เย่เฉินไว้ชีวิตอันด้อยค่าของตนไปได้ กระทั่งยังรักษาบาดแผลให้ ถือเป็นพระบุญอันใหญ่หลวงสำหรับตนแล้ว!

ดังนั้น เขาจึงรีบคุกเข่าบนพื้น เอ่ยด้วยความเสียใจภายหลัง: “คุณเย่ คุณไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าแล้วให้อภัยกระผม แถมยังช่วยอาการบาดเจ็บให้กระผมอีก กระผมซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ถ้ากระผมไม่เคารพภักดีต่อคุณเย่แม้แต่น้อย ขอให้ตายโดยไร้ที่กลบฝัง!”

เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ: “นายต้องขอบใจฉันถูกต้องแล้วละ เพราะยาอายุวัฒนะครึ่งเม็ดที่ฉันให้นายกินเมื่อกี้ อีกไม่นานจะถูกจัดอยู่บนงานประมูล อย่างน้อยก็น่าจะสามารถประมูลได้สูงถึงหลายพันล้านหยวน!”

คำพูดอันราบเรียบของเย่เฉินนี้ ทำเอาทหารของสำนักว่านหลงที่อยู่ในขณะนั้นตกตะลึงเข้าไปใหญ่!

แม้แต่ว่านพั่วจวินก็ยังตกใจจนอึ้งไปด้วย

ยาครึ่งเม็ด มีราคาอย่างน้อยพันล้านหยวนเชียวหรือ?!

เมื่อเริ่มต้น เขารู้สึกว่านี่มันเป็นไปไม่ได้

ทว่าเมื่อมาคิดถึงฤทธิ์ยาอันวิเศษของยาอายุวัฒนะนี้แล้ว เงินเพียงพันล้านเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเลย

หากเป็นเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ผลการฝึกฝนดับไป อย่าว่าแต่พันล้านหยวนเลย ต่อให้พันล้านดอลลาร์เข้าก็ยินดีที่จะจ่าย!