เมื่อเห็นเว่ยเลี่ยงเอ่ยเรียกสรรพนามใหม่ให้ชินปาก เย่เฉินจึงนั่งลงข้างๆเว่ยเลี่ยง เอ่ยถามเขาว่า “ได้รับใบอนุมัติวางขายยากระเพาะเก้าเสวียนจากFDAหรือยัง?”
“ได้รับแล้วครับ” เว่ยเลี่ยงเอ่ยขึ้น “FDAยังเพิ่มยากระเพาะเก้าเสวียนเข้าไปใช้ในโรงพยาบาล ตอนนี้ทางเราเริ่มทำเรื่องยื่นขออนุมัติกับทางศุลกากรไปแล้วครับ ยาจำนวนห้าร้อยกระปุกจะถูกขนส่งทางอากาศไปยังอเมริกาในอีกไม่ช้า”
เย่เฉินเอ่ยถามว่า “ช่องทางการขายในอเมริกาเปิดแล้วหรือยัง? ถึงยังไงยากระเพาะเก้าเสวียนก็เป็นยาประเภทใช้ทาน เราคงเป็นฝ่ายเริ่มขายเองไม่ได้หรอกใช่ไหม?”
“ใช่ครับ” เว่ยเลี่ยงอธิบายว่า “สิ่งไหนที่ถูกนิยามว่าเป็นยา ต้องทำการขายผ่านร้านยาที่ถูกกฎหมายทั้งนั้น ดังนั้นเราจึงต้องฝากขายในร้านยาเชนวอลกรีนส์เพื่อเป็นการปูทางก่อน ร้านนี้มีสาขาอยู่ในอเมริกากว่าแปดพันสาขา เป็นร้านยาที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกา ผมพูดคุยกับผู้ดูแลร้านเอาไว้แล้ว ถึงตอนนั้นสามารถเอาขึ้นชั้นวางขายในร้านใหญ่ๆได้เลย คงต้องยืมช่องทางของพวกเขาตีตราสินค้าไปก่อน พอได้ตราสินค้าแล้ว หลังจากนั้นผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพของเรา ก็จะเริ่มมีช่องทางขายเป็นของตัวเอง”
เย่เฉินเอ่ยถามเขาว่า “ร้านยานี้ยอมรับยาแผนโบราณของหัวเซี่ยด้วยเหรอ?”
“ยอมรับครับ” เว่ยเลี่ยงเอ่ยพูดยิ้มๆ “เจ้าของร้านเป็นแฟนพันธุ์แท้ยาจีนเลยล่ะครับ พูดได้เลยว่าคลั่งไคล้การครอบแก้ว และการฝังเข็มสุดๆ เขาถึงขั้นอยากเอายาเหน็บริดสีดวงทวารจื้อชวงซวนเข้ามาในอเมริกาด้วยซ้ำ แต่FDAไม่อนุมัติ ส่วนยากระเพาะเก้าเสวียนที่เราผลิต เขาเริ่มทานตั้งแต่ที่เพื่อนแนะนำแรกๆแล้ว”
เว่ยเลี่ยงเอ่ยพูดขึ้นมาอีกว่า “คุณไม่รู้หรอก ว่าม้ามและกระเพาะของเขามีปัญหามาหลายยี่สิบปีแล้ว ยิ่งในกระเพาะของเขายิ่งปั่นป่วนอยู่ทั้งวัน ลองรักษาด้วยวิธีของแพทย์แผนปัจจุบันมาหมด ก็ยังไม่ดีขึ้น ต่อมาพอลองทานยากระเพาะเสี่ยวหลิน ก็ติดใจทันที แต่คุณก็น่าจะรู้ มาตรฐานการรักษาของยากระเพาะเสี่ยวหลินไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุ ประสิทธิภาพจึงแย่กว่ายากระเพาะเก้าเสวียนของเราค่อนข้างมาก หลังจากที่เรารวบกิจการบริษัทผลิตยาโคบายา ยากระเพาะเสี่ยวหลินก็หยุดผลิต เขาเลยหันมาทานยากระเพาะเก้าเสวียนตามคำแนะนำของเพื่อนเขาอีกครั้ง ซึ่งในภาพรวมยาของเราสามารถรักษาที่ต้นเหตุได้ ดังนั้นเขาเลยแสดงท่าทีเป็นมิตรกับยาของเรามากๆ”
“ดี” เย่เฉินพยักหน้า เอ่ยพูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว ก็รีบผลักดันให้เรื่องลงตัวเร็วๆซะ”
เว่ยเลี่ยงเอ่ยขึ้นมาว่า “อาจารย์…..เอ่อผู้จัดการเย่ ผมคิดว่าเราเปิดบริษัทในอเมริกาเอาไว้ก่อนล่วงหน้าก็ไม่เสียหายนะครับ หลังจากนั้นค่อยลงทุนสายผลิต เพราะถึงยังไงตลาดในอเมริกาก็เป็นตลาดใหญ่ ถ้ามีสายผลิต ต้นทุนโดยรวมก็จะลดลงเยอะเลย อีกอย่าง ก็จะประหยัดภาษีได้ด้วย”
เย่เฉินโบกมือ “ไม่จำเป็น ถ้าทำอย่างนี้ ถึงภาษีจะลด แต่ทุกอย่างก็จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของรัฐบาลกลางอเมริการทั้งหมด ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่ อีกอย่างต่อให้ยาที่ผลิตออกมาไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษี แต่พวกวัตถุดิบยาต่างๆที่นำเข้าก็ต้องจ่ายภาษีอยู่ดี พอดูรวมๆแล้ว ก็ไม่ได้ประหยัดมากเท่าไหร่ ฉันว่าลองใช้ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนเจรจากับพวกเขาดูก่อนดีกว่า ยื่นเงื่อนไขไปว่าพวกเขาต้องให้ผลิตภัณฑ์ยาทุกอย่างของบริษัทเราปลอดภาษีทั้งหมดเราถึงจะให้ยาเกิดใหม่เก้าเสวียนกับพวกเขา”
เมื่อเว่ยเลี่ยงได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากค้าง พูดขึ้นมาว่า “มัน…มันได้เหรอครับ….”
เย่เฉินเอ่ยพูดอย่างจริงจังว่า “ได้สิ ไม่เชื่อลองหยั่งเชิงสมิธอะไรนั่นดูก่อนก็ได้ ถ้าฉันคาดการณ์ไม่ผิด คนที่ดันหลังเขาอยู่ตอนนี้ น่าจะเป็นทำเนียบขาว”
“ทำเนียบขาว?!” เว่ยเลี่ยงอุทานออกมา “หรือว่าพวกเขาคิดจะทำอะไรกับยาเกิดใหม่เก้าเสวียน?”
เย่เฉินเอ่ยพูดยิ้มๆว่า “ถ้าพวกเขารู้เกี่ยวกับยาชนิดนี้แล้วไม่คิดอะไรเลยแบบนั้นสิถึงจะแปลก”
ขณะที่พูด เย่เฉินก็เอ่ยพูดขึ้นมาอีกว่า “อีกสักพักนายทำแค่วางท่าก็พอแล้ว ที่เหลือเดี๋ยวฉันคุยเอง”
เว่ยเลี่ยงพยักหน้าอย่างเคารพ “ได้ครับ ไม่มีปัญหา!”