เย่เฉินเข้าใจในทันที ถ้ามหาวิทยาลัยผู้สูงอายุก็ไปด้วย ถ้าอย่างงั้นด้วยการศึกษา อารมณ์ และรูปลักษณ์ของหานเหม่ยฉิงแล้ว จะต้องได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยผู้สูงอายุอย่างแน่นอน

ด้วยภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถึงแม้จะฆ่าพ่อตาของตัวเองให้ตาย เขาก็คงไม่พาแม่ยายของตัวเองไปที่นั่นอย่างแน่นอน

หม่าหลันกลับฟังไม่ออกข้อมูลที่ซ่อนอยู่ในการสนทนาระหว่างทั้งสอง เมื่อได้ยินเซียวฉางควนพูดแบบนี้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ยืดเยื้ออีกต่อไป

เซียวฉางควนยืนขึ้นในเวลานี้ และเอ่ยปากกล่าวว่า “มันสายแล้ว ผมจะต้องไปที่สมาคมแล้ว”

หลังจากพูดจบ เขาก็รีบออกจากบ้านพัก และขับรถออกไป

หม่าหลันรู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย รู้สึกแต่ว่าตัวเองไม่ชอบเซียวฉางควนมาเกือบครึ่งชีวิต แต่ไม่เคยคิดว่าการงานของเซียวฉางควนจะดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว และความรู้สึกที่แตกต่างก็หล่นทับลงมาเหมือนดั่งภูเขา

เธอถามเย่เฉินอย่างระมัดระวังว่า “ลูกเขยแสนดี คุณคิดว่าแม่ควรทำธุรกิจคนชราอะไรได้บ้างเหรอ?”

เย่เฉินตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็ถามเธอว่า “แม่ คุณอยากจะทำธุรกิจอะไรเหรอ?”

หม่าหลันถอนหายใจ “เฮ้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกว่าพ่อของคุณเฟื่องฟูอยู่ในสมาคมการเขียนพู่กันจีนและภาพวาด ฉันอยู่เฉยๆ ที่บ้านแบบนี้มาโดยตลอด มันก็คงไม่ใช่เรื่อง………”

เย่เฉินหัวเราะและพูดว่า “ขาของคุณยังไม่หายดีเลยไม่ใช่เหรอ?”

หม่าหลันรีบพูดว่า “นี่ก็ใกล้จะหายดีแล้ว…… ฉันเบื่ออยู่ที่บ้านมานานเกินไปแล้ว และอยากจะหาอะไรทำสักอย่าง………”

เย่เฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพูดอย่างผ่านๆ ว่า “หรือว่าถ้าคุณไม่มีอะไรทำคุณก็ไปเต้นสแควร์ก็ได้? ผมเห็นว่าชายหญิงสูงวัยมากมายเต้นกันได้อย่างสนุกสนานทั้งวัน และบางทีมก็มีชุดเครื่องแบบของเขาอีกด้วย ชายหญิงสูงวัยพวกนั้นก็ดูมีพลังมาก”

หม่าหลันโบกมือ “การเต้นรำเป็นเพียงงานอดิเรก และไม่สามารถถือเป็นอาชีพได้! เว้นแต่จะมีสมาคมการเต้นสแควร์อยู่ในเมือง และให้ฉันไปเป็นรองประธานหรืออะไรก็ได้……..”

เย่เฉินหัวเราะเยาะเย้ย และกล่าวว่า “อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันจริงๆ แต่คุณก็อย่ากังวลมากไป รอให้ขาของคุณหายดีก่อนค่อยศึกษาที่หลังก็ไม่สายเกินไป”

ในขณะที่พูด จู่ๆ เย่เฉินก็ได้รับเอกสารที่ส่งมาจากซ่งหวั่นถิง และยังมีข้อความที่เธอส่งมา เนื้อหาของข้อความคือ อาจารย์เย่ ในเอกสารฉบับนี้มีข้อมูลการลงทะเบียนทั้งหมดในปัจจุบัน รวมเป็นเจ็ดร้อยสี่สิบคน

เย่เฉินอยากจะดูว่า ณปัจจุบันในรายชื่อของผู้ลงทะเบียนสมัครนั้น จะมีคนดังที่มีชื่อเสียงคนไหนบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาอยากจะรู้ว่ามีตระกูลรอธส์ไชลด์อยู่ในนั้นหรือไม่ หรือคนในครอบครัวของแม่

ดังนั้น เขาก็เลยพูดกับหม่าหลันทันทีว่า “แม่ ผมมีเรื่องต้องจัดการ งั้นผมขอตัวกลับห้องก่อนนะ”

หม่าหลันรีบพูดว่า “ลูกเขยแสนดีคุณอย่าเพิ่งไปเลย ช่วยคิดให้แม่หน่อย ตกลงแม่จะทำอะไรได้บ้าง? แม่จะปล่อยให้เซียวฉางคุวเทียบลงไปไม่ได้!”

ขณะที่เย่เฉินเดินขึ้นบันได เขาก็ตอบด้วยว่า “แม่คุณไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมจะลองคิดให้คุณอย่างดีๆ เลย”

หม่าหลันถามอย่างกังวลจากด้านหลังว่า “ลูกเขยแสนดี แล้วคุณจะกลับมาตอนไหนล่ะ!”

เย่เฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจโดยไม่หันกลับมามอง “รอให้ขาของคุณหายดีก่อน ผมจะช่วยหาทางให้คุณได้แน่นอน!”

หลังพูดจบ เขาก็เก้าขึ้นไปชั้นบนอย่างรวดเร็ว……..