เย่เฉินกลับไปถึงที่ห้อง และอ่านรายชื่อที่ซ่งหวั่นชิงส่งมาให้ อย่างจริงจังในทันที
เขาพบว่า ในบรรดาผู้ลงทะเบียนสมัครหลายร้อยคน ส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป
ในหมู่พวกเขาเพียงสหรัฐอเมริกาประเทศเดียว ก็มีผู้สมัครมากกว่าสามร้อยคนแล้ว
และจากรายชื่อผู้สมัครจะเห็นได้ว่า ในนั้นไม่เพียงจะมีแต่ชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังมีรุ่นหลังของชาวจีน ชาวญี่ปุ่น และชาวเกาหลีจำนวนมากมายอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือ ผู้สมัครส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา เป็นกลุ่มมหาเศรษฐีและผู้ประกอบการ
และผู้สมัครในยุโรป ส่วนใหญ่เกินครึ่ง เป็นผู้คนในราชวงศ์และขุนนางจากประเทศต่างๆ
แม้แต่ราชวงศ์ยุโรปเหนือ ก็ลงชื่อสมัครเข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้ด้วย
และผู้สมัครนั้น ก็คือราชินีเก่าที่เพิ่งสละราชสมบัติ
เย่เฉินอดคิดไม่ได้ว่า “ไม่รู้ว่าทรัพย์สินของราชวงศ์ยุโรปเหนือมีมูลค่ารวมกันถึงหมื่นล้านหยวนหรือไม่ แม้ว่าจะรวบรวมได้พอดี แต่เกรงว่าน่าจะไม่มีโอกาสเสนอราคาเลย?”
แต่อย่างไรก็ตาม เขาเปลี่ยนความคิด ราชินีเฒ่าที่เพิ่งสละราชสมบัติจะต้องอยากได้ยาอายุวัฒนะเป็นพิเศษอย่างแน่นอน แม้ว่าจะไม่สามารถเอาชนะการประมูลยาอายุวัฒนะไปทั้งเม็ดได้ กลัวว่ายังจะต้องชนะได้หนึ่งส่วนสี่เม็ดของยานั้น แม้ว่าจะไม่สามารถชนะได้หนึ่งส่วนสี่เม็ดของยาได้ อย่างน้อยก็ยังได้มาใกล้ชิดกับตัวเองบ้าง และถือว่าให้เกียรติที่มาร่วมงานของผม
บางทีราชินีเฒ่าอาจจะมาขอเครดิตในเวลานั้น แนะนำตัวคนที่ตัวเองดึงมาทีละคน แล้วขอยาอายุวัฒนะกับตัวเองไปกินเล็กน้อย
ดังนั้น การค้าที่ถึงจะไม่ได้กำไร แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะขาดทุนเช่นนี้ ราชินีเฒ่าก็จะไม่ปล่อยมันไปโดยธรรมชาติอยู่แล้ว
ผู้สมัครนอกจากจะมาจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีผู้ประกอบการในประเทศจำนวนเล็กน้อยที่เข้าร่วมในการลงทะเบียนด้วย
ในหมู่พวกเขา ยังมีลูกค้าเก่าของยาอยุวัฒนะอีกสองราย เป็นหลี่ไท่หลายและกู้เย้นจง
ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโส กู้เย้นจงมีความกังวลเกี่ยวกับตัวเองอยู่เสมอมา การประมูลในครั้งนี้ เขาลงทะเบียนเข้าร่วม ก็เพราะอยากให้การสนับสนุนอย่างแน่นอน
สำหรับหลี่ไท่หลาย อาจจะเป็นเพราะว่าหลังจากที่เก็บยาอายุวัฒนะหล่นไปหนึ่งเม็ดในครั้งล่าสุด ก็เลยอยากได้ยาอยุวัฒนะมาโดยตลอด ดังงนั้นจึงอยากจะมาลองดูว่าจะมีโอกาสที่จะได้อีกหนึ่งเม็ดหรือไม่
สิ่งที่เย่เฉินไม่คาดคิดที่สุดคือ คุณปู่ของตัวเองก็ลงทะเบียนเข้าร่วมด้วย
ในความเป็นจริง เย่โจงฉวนรู้เรื่องการมีอยู่ของยาอายุวัฒนะมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ที่เย่โจงฉวนป่วยหนัก และยาอายุวัฒนะเม็ดเดียวก็ทำให้เขาอายุน้อยลงกว่าสิบปี ซึ่งในเรื่องนี้ทำให้เย่โจงฉวนรู้สึกประทับใจอย่างมาก
เขาอยากจะหาโอกาสขอยาอายุวัฒนะกับเย่เฉินมาโดยตลอด แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ เขาก็จะใช้ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเย่แลกกับเย่เฉินเพื่อได้ยาอายุวัฒนะมากินสักหนึ่งเม็ด
แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ หลังจากหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา ในท้ายที่สุดเย่เฉินก็ได้นั่งเก้าอี้ของหัวหน้าตระกูลเย่โดยตรง จากความช่วยเหลือของสำนักว่านหลง
จึงทำให้เขาสูญเสียน้ำหนักที่มีค่าที่สุด
เมื่อเขารู้ว่าเย่เฉินกำลังจะประมูลยาอายุวัฒนะอยู่ในเมืองจินหลิง ความคิดแรกของเขาก็คือลงทะเบียนไว้ก่อนทันที
ถ้าถึงเวลานั้นสามารถเอาชนะการประมูลได้ มันก็ถือว่าดีที่สุด
ถ้าไม่สามารถเอาชนะได้ก็ไม่เป็นไร ก็ถือว่ามาสนับสนุนเย่เฉิน และเตือนสติเย่เฉินด้วยการปฏิบัติจริง เพื่อให้เย่เฉินรู้ว่าสำหรับยอายุวัฒนะเขาก็เต็มไปด้วยความปรารถนาเหมือนกัน
เขารู้สึกว่า ตัวเองอายุมากขนาดนี้แล้วยังจะมาเข้าร่วมการประมูลอย่างยากลำบากเช่นนี้ ถึงเวลานั้นบางทีหัวใจของเย่เฉินอาจจะอ่อนลง และมอบให้กับตัวเองหนึ่งเม็ดโดยตรงก็ได้
เย่เฉินพอจะคาดเดาจุดประสงค์ที่ทำเช่นนี้ของคุณท่านเย่ได้เช่นกัน แต่เขาก็ยังไม่ได้เตรียมจะมอบยาอายุวัฒนะให้แก่คุณท่าน อย่างน้อยก็ยังไม่ถึงเวลานั้น
เมื่อดูรายชื่อทั้งหมด สิ่งที่ทำให้เย่เฉินน่าสนใจที่สุดก็คือ ไม่มีราชวงศ์บริเตนอยู่ในรายชื่อเลย
ก่อนหน้านี้เย่เฉินยังเห็นการเคลื่อนไหวของราชวงศ์บริเตน จากเครือข่ายข่าวกรองของสำนักว่านหลง ว่ากันว่าหลังจากที่มกุฎราชกุมารเสด็จกลับไปยังบริเตน พระองค์ไม่ได้รายงานสถานการณ์ของยาอายุวัฒนะตามความเป็นจริงต่อพระราชินีเลย พระราชินียังคงรู้สึกโกรธเกรี้ยวกับเรื่องนี้มาโดยตลอด และอยากจะได้ยาตัวนี้เป็นอย่างมาก
แต่ว่า ทำไมมีการประกาศข่าวการประมูลออกมาแล้ว และราชินีไม่ได้มาลงชื่อสมัครเลย?