หลังจากเฟ่ยเข่อซินพาเฉินอิ่งซานออกมาจากจี้ซื่อถัง ก็รีบขึ้นมาบนรถตู้สุดหรู ที่จอดอยู่ข้างถนน
เมื่อปิดประตูลง เฟ่ยเข่อซินรีบพูดอย่างเด็ดขาดว่า “ดูเหมือนว่าการที่เซียวฉางควนรักษาจนหาย ไม่ใช่ฝีมือของซือเทียนฉี ซือเทียนฉีเป็นแค่เครื่องมือปิดบังที่ถูกผลักออกมา เพราะฉะนั้นยังมีบุคคลลึกลับอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
เฉินอิ่งซานอดถามไม่ได้ “คุณหนู หรือจะเป็นอาจารย์เย่จริงๆ ตัดซือเทียนฉีออกไป คงมีแค่เขาที่น่าสงสัยมากที่สุด”
เฟ่ยเข่อซินพยักหน้า พูดอย่างตื่นเต้นว่า “ตอนนี้จุดสำคัญ น่าจะอยู่ที่เซียวฉางควน! เขาบาดเจ็บ เข้าโรงพยาบาล บุคคลลึกลับคนนั้น ถึงกับเอาซือเทียนฉีออกมาปกปิด น่าจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขา!”
เฉินอิ่งซานก็พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เราหากันมายกใหญ่ ในที่สุดก็ล็อกเป้าหมายหลักได้แล้ว! งั้นฉันจะให้คนสืบข้อมูลของเซียวฉางควน!”
“โอเค!” แววตาเฟ่ยเข่อซินลุกโชน พูดกำชับว่า “หาข้อมูลเซียวฉางควน รวมไปถึงญาติของเขามาให้หมด ประวัติของเขากับญาติ ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน รวมไปถึงครอบครัวต่างๆ นานา นอกจากนั้นต้องจำไว้ว่า ต้องใช้ช่องทางเดียว ระดับลับสุดยอด ห้ามให้เบาะแสอะไรรั่วไหลออกไป”
ช่องทางเดียวที่ว่า หมายความว่าการส่งประวัติข้อมูล สามารถส่งได้ในทิศทางเดียวเท่านั้น
นั่นก็คือตัวเองรู้ข่าวของผู้ให้ข้อมูล สามารถรับข้อมูลและรายงานที่ผู้ให้ข้อมูลส่งมาให้ แต่ผู้ให้ข้อมูลไม่รู้ข่าวของตัวเอง
เมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าผู้ให้ข้อมูลเปิดโปงร่องรอยของตัวเอง อีกฝ่ายก็ไม่สามารถหาตัวเองเจอได้จากเบาะแสของผู้ให้ข้อมูล เรียกได้ว่าเป็นการรับข้อมูลที่ปลอดภัยที่สุด
เฟ่ยเข่อซินรู้คุณสมบัติของเครือข่ายข่าวกรองเป็นอย่างดี บางครั้งสิ่งนี้เป็นดาบสองคม ตัวเองสามารถหาข้อมูลของอีกฝ่ายได้จากเครือข่ายข่าวกรอง อีกฝ่ายก็มีโอกาสสอดแทรกการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า ในเครือข่ายข่าวกรอง เมื่อมีคนสืบประวัติของตัวเอง ก็จะได้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องส่งกลับไปทันที
เมื่อเป็นเช่นนี้ เดิมทีตัวเองอยู่ในที่ลับ แต่อีกฝ่ายอยู่ในที่แจ้ง แต่เพราะตัวเองใช้เครือข่ายข่าวกรองหาข้อมูลของอีกฝ่าย ก็จะเป็นการเผยความเคลื่อนไหวและตัวตนของตัวเอง ให้อีกฝ่ายทันที
ดังนั้น เธอต้องมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุด
ตอนนี้เย่เฉิน ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งกำลังแยกเบาะแสของเมืองจินหลิง อย่างละเอียดทีละขั้น เป็นอันดับแรก อีกทั้งยังกำจัดออกทีละขั้น สุดท้ายเอาเบาะแสไปโฟกัสที่พ่อตาของเขา
อีกทั้งความสามารถและวิธีการของตระกูลเฟ่ย แข็งแกร่งกว่าตระกูลเย่ ไม่ใช่แค่ขั้นเดียว
ดังนั้น การสืบหาของเฟ่ยเข่อซิน ไม่ได้แตะต้องถูกรายงานการเตือนภัยของตระกูลเย่
ตอนเฉินอิ่งซานเอาข้อมูลของเซียวฉางควน รวมไปถึงข้อมูลของญาติใกล้ชิดทั้งหมด มาวางไว้ตรงหน้าเฟ่ยเข่อซิน เฟ่ยเข่อซินหยิบแผนผังครอบครัวของเซียวฉางควนขึ้นมาเป็นอันดับแรก
บนแผนผังนี้ ตั้งแต่คุณท่านตระกูลเซียว จนถึงนายหญิงใหญ่ ต่อมาเป็นครอบครัวเซียงฉางควนกับเซียวฉางเฉียน แยกให้เห็นอย่างชัดเจน
เพราะตระกูลเซียวไม่ได้เป็นตระกูลเก่าแก่และมีชื่อเสียง อีกทั้งไม่ใช่ตระกูลลึกลับ ดังนั้นหาประวัติของพวกเขาได้ง่ายมาก
เฟ่ยเข่อซินดูตามลำดับชื่อ เมื่อเห็นชื่อเซียวชูหรัน ลูกสาวของเซียวฉางควน ก็รีบมองคำอธิบายข้างชื่อเซียวชูหรัน: คู่สมรส เย่เฉิน
เมื่อเห็นชื่อเย่เฉิน แววตาเฟ่ยเข่อซินฉายแววตื่นเต้น
ตั้งแต่มาถึงเมืองจินหลิง เธอความรู้สึกไวกับคำว่า “เย่” มาก
เมื่อเธอเห็นลูกเขยของเซียวฉางควน ชื่อเย่เฉิน เธอรีบพูดอย่างมั่นใจว่า “เป็นเขา! ต้องเป็นเขาแน่ๆ!”
พูดจบ เธอรีบเงยหน้าขึ้น ถามเฉินอิ่งซานว่า “หาประวัติเย่เฉินมาได้หรือเปล่า”
“หาได้แล้วค่ะ” เฉินอิ่งซานรีบพูด “อยู่ในกองข้อมูลโดยรวมด้านหลังค่ะ”
“โอเค!” เฟ่ยเข่อซินรีบพลิกดูประวัติของเย่เฉิน เมื่อเปิดดู เห็นรูปบัตรประชาชนของเย่เฉินทันที
เธอกำมือทั้งสองข้าง พูดอย่างตื่นเต้นว่า “เป็นเขาจริงด้วย!”