เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน 

 

ขณะที่ผมกำลังเตรียมตัวไปทำงาน ผมก็ได้เองยินเสียงพูดคุยของเพื่อนในห้อง

 

“ทุกคน! วันนี้พวกเราไปคาราโอเกะกันดีมั้ย?” 

 

คนที่พูดก็คือชายหนุ่มหน้าตาที่ชื่อว่านิจิมะ เคนโก 

 

“นาสนุกจัง! ไปกันเถอะ! ซาเองุสะเองซังก็จะไปด้วยใช่มั้ย?” 

 

พวกสาวๆตอบตกลงทันที ราวกับว่าเตี๊ยมกันไว้อยู่แล้ว 

 

—พวกนั้นไปกันเกือบทุกคนเลย 

 

เห็นได้ชัดเลยว่าเป้าหมายของนิจิมะนั้นก็คือการชวนไอดอลของห้องอย่างซาเองุสะซังให้เข้าร่วมกับพวกของเขา 

 

“เอ๋ ฉันด้วยเหรอ?” 

 

“พวกเราไม่ได้บังคับคุณหรอกค่ะ แต่ถ้าอยากจะมาด้วยพวกเราก็ยินดีค่ะ!” 

 

“ที่จริงพวกเราอยากจะฟังเพลงของ Angel Girls แบบสดๆมากเลยค่ะ” 

 

พวกสาวๆต่างกล่าวความตั้งใจของตนออกมาให้ซาเองุสะได้ฟัง 

 

ในเมื่อได้อยู่ห้องเดียวกันแล้ว ก็เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนอยากฟังอดีตไอดอลชื่อดังร้องสดสักครั้ง 

 

และแล้วซาเองุสะซังก็กลอกตามามองผมและกล่าวว่า “ได้ร้องสักหน่อยก็น่าจะดีเหมือนกันนะ” ดูเหมือนว่าเธอจะมองผมแล้วหน้าแดงด้วยล่ะ 

 

“โอ้ ทาคุยะนายจะมาด้วยมั้ย? หรือว่าวันนี้ต้องทำงาน” 

 

“ฉันขอผ่านละกัน พวกนายไปสนุกกันเถอะ” 

 

“นายเอาแต่ทำงานมาตั้งแต่เปิดเทอมแล้วนะ เอาเถอะขอให้โชคดีละกัน” 

 

โทษทีนะทาคายูกิ 

 

ยังไงๆผมก็ไม่คิดจะเข้าร่วมตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะ 

 

ถ้าให้พูดตามตรงการไปคาราโอเกะกับคนอื่นๆเป็นเรื่องที่โคตรจะน่ารำคาญ เพราะงั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคนที่ชอบเรื่องแบบนี้ก็แล้วกัน 

 

—อืม แต่ถ้าได้เห็นซาเองุสะซังร้องเพลงก็น่าจะดีไม่น้อยนะ 

 

หลังจากการสนทนาระหว่างผมและทาคายูกิ ผมก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่มองตรงมาที่ผม พอผมลองหันไปมองก็พบเข้ากับซาเองุสะซังที่กำลังพองแก้มเหมือนปลาปักเป้า 

 

—หืม? ไม่ ไม่ ไม่ คราวนี้อะไรอีกเนี่ย? 

 

—ฉันทำอะไรผิดไปงั้นเหรอ? 

 

ผมสับสนอย่างมากที่ถูกซาเองุสะซังจ้องแบบนั้น 

 

“ขอโทษนะทุกคน ฉันเพิ่งนึกได้ว่าคืนนี้ฉันมีธุระน่ะ เอาไว้คราวหน้าแล้วกันนะ” 

 

ซาเองุสะซังกล่าวไปโดยที่แก้มยังพองอยู่ 

 

ด้วยเหตุนั้นบรรยากาศในห้องก็เปลี่ยนไปราวกับความตื่นเต้นก่อนหน้านี้เป็นเรื่องโกหก 

 

เอาเถอะยังไงมันก็ไม่ได้เกี่ยวของอะไรกับผมอยู่แล้ว และตอนนี้ผมก็กำลังจะไปทำงานสายด้วยผมจึงรีบออกไปจากห้อง 

 

ขณะที่ผมเดินตรงไปที่ทำงาน ผมก็นึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น 

 

—ซาเองุสะซังสามารถพูดเสียงปกติได้แม้ว่าจะกำลังพองแก้มอยู่ นั่นมันเป็นไปไม่ได้! 

 

ผมมองรอบๆเพื่อให้แน่ใจวาไม่มีใครอยู่แถวนี้ก่อนที่จะพยายามเลียนแบบเธอ แต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย ผมที่ได้เห็นว่าเธอพองแก้มพูดได้อย่างคล่องแคล่วจึงจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกพ่ายแพ้

 

ให้ตายสิ ซาเองุสะซังทำแบบนั้นได้ยังไงเนี่ย? บางทีคราวหน้าผมควรจะถามเธอว่า เป็นไปได้มั้ยที่จะเรียนรู้พลังนี้— 

 

 

ขณะนี้เวลาสองทุ่มครึ่งเมื่อผมได้ยินเสียงเพลงของประตูอัตโนมัติดังขึ้น 

 

ผมกล่าวทักทายแบบที่เคยทำเป็นประจำ “ยินดีต้อนรับครับ” 

 

คนที่เข้ามาในร้านก็คือซาเองุสะซังคนดีคนเดิม 

 

และเธอก็พยายามที่จะปลอมตัวเหมือนกับทุกครั้ง 

 

—มาแล้วสินะซาเองุสะซัง 

 

ผมล่ะสงสัยจริงๆว่าวันนี้เธอจะมาซื้ออะไร 

 

ในเมื่อไม่มีลูกค้าคนอื่นๆ ผมจึงจับตาดูการกระทำของเธอ 

 

อย่างแรกที่เธอทำก็คือเดินที่มุมนิตสารและหยิบมาอ่านเล่มนึง 

 

โอ้ คราวนี้เป็นนิตยสารล่ะ! ระหว่างที่ผมมองเธออยู่ผมก็สังเกตุุเห็นสิ่งผิดปกติ 

 

—ซาเองุสะซัง นิตยสารนั่นมันกลับหัวอยู่นะครับ 

 

ใช่ครับ เธอถือนิตยสารกลับหัวและเปิดหน้าไปแบบผ่านๆ 

 

ผมรู้สึกดีจังที่ซาเองุสะยังคงทำตัวเป็นปกติอยู่…..ปกติในหลายๆความหมายล่ะนะ 

 

เมื่อผมลองมองดูชัดๆก็เห็นว่าซาเองุสะที่แกล้งทำเป็นอ่านอยู่นั้นเหลือบตามองผมผ่านแว่นของเธอ 

 

ผมกำลังสนุกกับการหาสาเหตุว่าทำไมเธอถึงไม่รู้ตัวว่านิตยสารในมือมันกลับหัวอยู่ 

 

ภาพที่อยู่ในนิตยสารก็คือภาพของซาเองุสะตอนที่เธอยังเป็นไอดอลอยู่ แต่ก็ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้รับรู้เลยสักนิด 

 

ผมรู้สึกตลกไม่น้อยที่ได้เห็นไอดอลกำลังอ่านนิตยสารของตัวเองอยู่ 

 

แต่การที่ซาเองุสะซังจ้องมองผมแบบนั้นก็ยังคงเป็นปริศนา 

 

สงสัยว่าเธอจะยังคงไม่พอใจเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเลิกเรียน ผมพยายามหาเหตุผลต่างๆมารองรับแต่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้เลย 

 

หลังจากที่เธอเก็บนิตยสารไว้บนชั้นแล้ว ก็เดินมาหยิบตากร้าและหยิบทั้งชา กาแฟและนมเปรี้ยวใส่ในตะกร้า ก่อนที่จะเดินมาที่แคชเชียร์ 

 

ผมคิดกับตัวเอง “วันนี้เครื่องดื่มสินะ” ขณะที่ผมกำลังคิดเงินก็ทำเป็นจำไม่ได้ว่าเป็นเธอ 

 

“ทั้งหมด 426 เยนครับ” 

 

ระหว่างที่ผมกำลังเอาของใส่ถุง ซาเองุสะซังก็เอาแบงค์พันเยนยื่นให้กับผม 

 

ผมจึงรับเงินมาและทอนเงินกลับไป 

 

เมื่อผมยื่นมือออกไป เธอก็กุมมือผมไว้และรับเงินเข้ากระเป๋า 

 

คุณทำแบบนี้ทุกครั้งเลยนะ……สงสัยจริงๆว่าทำไปเพื่ออะไร? 

 

บางทีเธออาจจะชอบเก็บสะสมเหรียญก็ได้มั้ง? ขณะที่ผมจมกับความคิดของตัวเอง ซาเองุสะซังก็ได้กล่าวขึ้นอย่างไม่คาดคิด 

 

“เอ่อ….คุณไม่ชอบคาราโอเกะเหรอคะ?” 

 

“เอ๊ะ?” 

 

ฉันไม่ชอบคาโอเกะงั้นเหรอ? นั่นมันเกินความคาดหมายไปเยอะเลยแหะ 

 

ผมแน่ใจแล้วว่ามันเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเลิกเรียน…….แต่ซาเองุสะซังคุณลืมรึเปล่าว่าคุณพยายามปลอมตัวอยู่น่ะ 

 

“ชอบคาราโอเกะมั้ยเหรอ? ชอบสิ ฉันชอบร้องเพลงน่ะ แต่ก็ชอบฟังคนที่ร้องเพลงเพราะๆในคาราโอเกะเหมือนกัน” 

 

ผมตอบไปด้วยร้อยยิ้มแบบพนักงานขายของ 

 

แถมผมยังกล่าวเพิ่มด้วยว่าผมชอบคนที่ร้องเพลงเพราะ ต่อหน้าซาเองุสะซังที่เคยเป็นไอดอล 

 

ผมไม่ได้โกหกนะ มันเป็นความรู้สึกของผมจริงๆ 

 

ผมชอบเสียงของซาเองุสะซังจนต้องเอาเพลงวง Angel Girls ไปฟังระหว่างเดินทางเลยนะ 

 

แล้วหน้าของซาเองุสะซังก็กลายเป็นสีแดงขณะที่มองมาที่ผมและพูดว่า “ขอบคุณมากค่ะ!” ก่อนที่จะก้มหัวขอบคุณและเดินออกไปจากร้าน 

 

ผมก็ยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ตอนเธอออกไปดูเหมือนจะอารมณ์ดีด้วยแหะ ผมจึงคิดว่าคงจะไม่มีอะไรมากและตั้งใจทำงานต่อไป