ตอนที่ 9 รุรุซัง สาวทีมกู้ภัยซัง และเฮ็นไตซัง ที่บุกรุกบ้านของผม
ผมเป็นผู้ชายที่อาศัยอยู่คนเดียว แต่ตอนนี้มีเด็กผู้หญิงถึง 3 คนมาอยู่ตรงหน้า
ผมไม่มีแฟนด้วยซ้ำ ไม่คิดเลยว่าต้องมารับมือพร้อมกัน 3 คนแบบนี้
……ผมสงสัยจังว่าจะมีความสุขขนาดไหนถ้าหากมีร่างกายเป็นผู้ชาย
“ฮา……หมายความว่าคุณคือโซยะ ฮารุมิซัง”
“โซยะ ฮารุมิ……เพราะแบบนั้นฮารุจังถึงไลฟ์สดได้”
“ใช่แล้ว อะ นี่ติดตามไลฟ์สดกันด้วยสินะ”
“อะ อืม…….อะ ค่ะ……เอมิจังที่พึ่งพาได้ตรงนั้น……บอกไว้……อาจจะเป็นอย่างงั้น”
“จากเฮ็นไตซังเหรอ”
“อือฟู๊!”
เธอสวมปลอกแขนที่มีเครื่องหมายกากบาทสีแดง……ดูเหมือนว่าเด็กคนที่จะสวมชุดนี้แม้ในขณะที่ออกไปทำงานนอกสถานที่ เพื่อให้สามารถบอกได้ทันทีว่าเธอคือทีมกู้ภัยที่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยน และฟุคายะ รุรุ ที่ผมจำได้ว่าเคยช่วยไว้ก่อนหน้านี้
แล้ว
“นั่น……นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ฉันเห็นเอมิจังเป็นแบบนี้……ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดีเหมือนกัน……”
“เป็นเฮ็นไตซังอย่างงั้นเหรอครับ?”
“ฟู๊ววววววววววว!!”
“เป็นเฮ็นไตซังจริงด้วย”
“ฮึ่มมมมมมมมม!!”
ถึงผมจะคุ้นเคยกับคนที่ฟุ้งซ่านอยู่บ้างก็ตาม……แต่เพราะสายตาของเธอมีบางอย่างที่อันตราย ผมจึงพูดขึ้นมาว่า「คน ๆ นี้น่ากลัว」ทันใดนั้นระหว่างที่คิด ทีมกู้ภัยก็เคลื่อนเข้าไปใกล้อย่างเงียบ ๆ คนที่น่าอนาถใจคนนี้ก็ถูกพันผ้าพันแผลปิดปาก มือและขาก็ถูกพันด้วยผ้าพันแผลแน่นจนส่งเสียงดังเอี๊ยดเช่นกัน
……มุมหนึ่งก็ดูสองแง่สองง่าม
บางทีคน ๆ นี้ก็น่าจะมีเลเวลที่สูงมากเหมือนผมเช่นกัน แค่เห็นการมัดก็เข้าใจได้ในทันทีแหละ
ยังเหลือแสงแห่งเหตุผลอยู่นิดหน่อย
ยอดเยี่ยม
“อะ……นั่นคือสาเหตุที่เอมิจังมักจะรับคำขอจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบ่อย ๆ……”
“ฟู๊วววววววว!?”
“นอกจากนี้ ที่แน่วแน่กับการจัดทัวร์ทดลองสำหรับเด็กนักเรียนชั้นประถมนั้นก็ด้วย”
“ฟูมู๊วววววว!? มู๊มมมมมมมมม!?”
“เอมิจัง……”
“มู้วววววววว!!”
ยังไงดี ดูเหมือนจะแตกต่างจากที่คิด แต่……อะ
ผมถอยหลังมาหนึ่งก้าว
ก็แบบ ตอนนี้ผมเป็นสาวน้อยนี่น่า……
“เอาล่ะๆๆ สำหรับตอนนี้พักเรื่องของมิคาสุกิซังไว้ก่อน แล้วกลับมาเข้าเรื่องของโซยะซังกันก่อนดีไหม……?”
“อะ นั่นสินะ สำหรับตอนนี้ เกี่ยวกับเอมิจัง…..อืม……”
“ฮึ่มมมมมมมมมมมมมมม!?”
มิคาสุกิ……เอมิซัง เป็นคนที่ค่อนข้างสูงและหน้าตาดี แต่เป็นคนที่น่าเสียดาย และ
การเข้าใกล้…….ก็น่ากลัว……
ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่ผมยังเป็นผู้ชาย ผมก็คงจะหัวเราะไปพร้อมกับเรียกเธอว่า「เฮ็นไตซังล่ะ」แต่ตอนนี้ผมอยู่ในสถานะที่เฮ็นไตซังคนนั้นสามารถทำอะไรบางอย่างที่เป็นอันตรายของแท้ได้
“โกฮอน โซยะ……ฮารุมิซัง”
“ฮารุก็ได้ครับ เพราะตอนนี้ผมแทบไม่เคยถูกเรืยกอย่างอื่นนอกจาก『ชื่อนี้』ม๊า ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้ใช้ในโลกจริงด้วยล่ะ”
โซยะ
นามสกุลหายากที่ทำให้มีช่วงเวลาที่ยากลำบากล่ะนะ
ความทรงจำในวัยเยาว์ของผมเต็มไปด้วยเรื่องราวความยากลำบากกับเพื่อนที่ไม่สามารถเข้าใจชื่อสกุลของผมได้ในรอบเดียว
“จ๊า ฮารุจัง!”
“……ม๊า แบบนั้นก็ได้ ตอนนี้ผมก็เป็นเด็กผู้หญิงแล้ว”
แต่โดนเรียกฮารุจังจากเด็กที่อายุน้อยกว่า……เน๊……?
ไม่สิ ยังไงก็ได้
ยังไงก็ไม่น่ากังวลเท่าเรื่องที่มีเด็กผู้หญิง 2 คนนั่งอยู่บนฟูกของผม และมีเฮ็นไตซังโดนมัดกองอยู่ที่มุมห้อง
พูดแล้วก็ไม่มีประโยชน์ที่ต้องมากังวล
อืม ก็วุ่นวายดี
“ขอพูดอีกรอบนะค๊า……ขอบคุณมากค่ะที่มาช่วยฉัน ถ้าฮารุจังไม่มา ฉัน ฉันคงไม่รอดแล้วจริง ๆ”
ความประทับใจแรกของผมคือเธอเป็นเด็กสาวที่สดใส
เธอมีผมหยิกสีสันสดใส……และเป็นเด็กอายุประมาณมัธยมต้น
ฟุคายะ รุรุ
แม้ว่าเธอจะยังเป็นนักเรียนมัธยมต้น แต่ก็สุภาพมาก เธอแตะนิ้ว…….ทำสิ่งที่เรียกว่าสามนิ้ว* เด็กสมัยนี้สุภาพมาก……ถึงแม้ว่าเธอจะอายุน้อยกว่าผมเป็น 10 ปีก็ตาม
(*สามนิ้ว: นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง วางสามนิ้วบนพื้นและโค้งคำนับอย่างสุภาพ)
แม้ว่าหากนับตามวัยของร่างกายปัจจุบันแล้ว ผมจะอายุน้อยกว่าก็ตาม
“ก็เพราะผมมั่นใจว่าชีวิตของตัวเองจะไม่เป็นไรแหละนะ”
“ตะ แต่ว่า คุณทำในสิ่งที่อันตรายมากเลยนะค๊า!”
“นั่นไม่จริงสักหน่อย เป็นเพราะผมไม่สามารถจัดการมังกรนั่นได้ในการยิงครั้งเดียว……เฮดช็อตได้ไม่ดีจนทำให้เกือบจะล้มไปทับเธอแล้ว นั่นเป็นความผิดของผมเองที่เข้าไปช่วยแต่ทำให้แย่ลง”
“แต่!”
รุรุซังเงยหน้าขึ้น
กะแล้วเชียว สมกับที่เป็นไอดอล หน้าตาของเธอจึงสมบูรณ์แบบล่ะน๊า
ผมในตอนนี้…….ไม่ช๊าย ม๊ายช๊าย ความคิดแบบนั้นผิดแล้ว
“จากที่นั่นยังไงคุณก็ได้เสี่ยงชีวิตช่วยฉันไว้ค่ะ”
“………………………………อืม”
ผมอดไม่ได้ที่จะหันหน้าหนี
ก็แบบ พอโดนจ้องด้วยดวงตาสดใสขนาดนั้นแล้ว……มันก็ไม่ไหวล่ะ
ผมไม่เก่งในการรับมือเรื่องแบบนี้
นั่นเป็นเหตุผลอีกอย่างว่าทำไมผมถึงพยายามไม่ให้ใครพบตัว เมื่อผมไปทำการช่วยเหลือ
โฮร่า คุณรู้ไหมว่ามันรู้สึกยังไงกับการที่คนไม่เข้าสังคมอย่างผมสละที่นั่งบนรถไฟให้แล้วโดยบอกว่า「ขอบคุณ」จนต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟขบวนอื่นที่สถานีถัดไป
“เพราะแบบนั้น ขอขอบคุณจากใจจริง ๆ ค่ะ!”
สำหรับเด็กคนนี้ มันหมายถึงผมได้ไปช่วยเธอไว้ในยามวิกฤตในดันเจี้ยนจริง ๆ
ยังไงก็ตาม สำหรับผม ไม่ได้อันตรายขนาดนั้น……แม้ว่าจะสูญเสียเงินจำนวนมากก็ตาม
“ดรอป”
“เอ๊ะ?”
ฮึ่มมมมมมมมมมมมมมม!”
ผมรู้สึกใจชื้นนิดหน่อยที่เห็นเฮ็นไตซังยังทำได้แค่ดิ้นไปดิ้นมาเท่านั้น ก่อนที่ผมจะชี้ไปที่สมุดบัญชีค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ของดรอปจากมอนเตอร์ที่ผมจัดการได้ในครั้งนั้น ถ้าได้นั่นนี่ผมก็ไม่มีปัญหา ……ล่ะ”
“อะ พอคิดดูแล้ว ถึงแม้ฮารุจังจะตัวเล็ก แต่ก็เป็นผู้ใหญ่แล้วนินะ! สบายสบาย แบบนี้ก็คุยกันง่ายเลยสิค๊า!”
ดูเหมือนว่าทีมกู้ภัยจะเป็นคนไปดูสมุดบัญชีของผมแทนรุรุซัง
“เห้ คุณขยันมากเลยนะคะ โซยะซัง คนส่วนใหญ่ที่ลงดันเจี้ยนกันมักจะมีนิสัยทำสมุดบัญชีค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนแบบคร่าว ๆ เท่านั้น…… ………………………………?”
“ครับ ผมชอบรายละเอียด”
“……..เอ๊ะ เอ๋โตตตตต…..นี่……”
“? มีอะไรงั้นเหรอครับ?”
ใบหน้าที่ร้อนผ่าวจากรอยยิ้มอันสดใสเริ่มเย็นลงในที่สุด ผมแสร้งทำตัวเป็นธรรมชาติ มองผ่านรุรุซังไปหาทีมกู้ภัย
อะ ผมชอบวิธีที่เด็กคนนี้มัดผมหางม้า
เด็กคนนี้ยังเป็นนักเรียนมัธยมปลายหรือเปล่านะ?
งั้นเหรอ เด็กยุคนี้ตัดสินใจเส้นทางอาชีพของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่ดันเจี้ยนปรากฎขึ้นมา ดังนั้นพวกเธอจึงเรื่มทำงานที่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนตั้งแต่ที่อายุเท่านี้กัน……หยุดเถอะ นี่เป็นความจริงอันโหดร้ายสำหรับผม ผู้ซึ่งเป็นนักเรียนอยู่ในรอยต่อระหว่างมัธยมต้นและมัธยมปลายในตอนที่ดันเจี้ยนปรากฎขึ้น
“……นี่ ตะ ติดลบ……”
อะ ถ้าเป็นคนที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับตัวเลข ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเห็นจำนวนเงินที่มีเลขศูนย์จำนวนมาก
“20 ล้านเยนสินะคะ ที่ติดลบวันนี้”
“สิบล้าน!?”
“มู๊ว!?”
อีก 2 คนที่เหลือหน้าซีดสนิท
จริง ๆ ผมก็ไม่เข้าใจสีหน้าของเฮ็นไตซังหรอก……ก็แบบว่ายังแดงก่ำอยู่ตลอดเลย
กลิ้งไปกลิ้งมา…….น่ากลัวแปลก ๆ…….
“ผมใช้กระสุน 16 นัดสำหรับมอนเตอร์ที่ไล่ล่ามาในตอนแรก และกระสุน 2 นัดสำหรับมังกร ก็อย่างที่เห็น เพื่อให้สามารถลงไปในดันเจี้ยนได้ด้วยร่างกายแบบนี้ ผมจึงต้องมีกระสุนพิเศษที่สร้างขึ้นมาสำหรับสถานการณ์แบบนี้”
“อู อา อู อา…..ทำยังไงดีล่ะ จำนวนเงินขนาดนั้น…….”
“มู๊ววววววมูๆๆๆๆๆ มู๊ๆๆๆๆๆ”
“ขอโทษนะเอมิจัง ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่…….”
“มู๊ว!?”
ไม่แปลก ก็เล่นโดนรูดซิปปากขนาดนั้น……..
“พูดตามตรง มันเป็นงานทำมือโดยใช้วัตถุดิบจากของดรอปทั้งหมด ดังนั้นราคาจึงไม่ได้ตายตัวขนาดนั้น ผมแค่ใช้ราคาตลาด แล้วผมพึ่งทำบัญชีแยกประเภทโดยอาศัยราคารับซื้อวัตถุดิบบนหน้าเว็บของสมาคมไว้ด้วย มันมีไว้สำหรับการคำนวณภาษีล่ะน ดังนั้นไม่ต้องกังวลไป”
จำนวนเงินที่ต้องใช้จ่ายจริงไม่ควรมากขนาดนั้น
แต่ว่าน๊า รู้อะไรไหม?
ผมทำธุรกิจด้วยตัวคนเดียวไง?
นอกจากนี้ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะไปยื่นแบบแสดงรายการขอคืนภาษีเงินได้ใบสีฟ้าได้ด้วยไม่ใช่เหรอ?
เพราะแบบนั้นจะปรุงแต่งนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรจริงไหม?
เรื่องแบบนั้นตัดสินว่าไม่จำเป็นจริงไหม?
ยังไงก็เป็นราคาตลาดจึงไม่ถือว่าโกหกไง?
“แล้วก็ เรื่อง……โฮร่า ตอนนี้พลังเวทมนตร์ของผมตกถึงจุดต่ำสุดแล้ว เนื่องจากเป็นความประมาทของผมเองเลยทำให้เสียพลังไปทั้งหมด……ดังนั้นผมจึงเสริมค่าเสียโอกาสที่ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือนสำหรับฟื้นฟูตัวเองเข้าไปด้วย ถ้าคำนวณที่ใช้กับฟุคายะซังแล้วก็…….จะลดลงเหลือประมาณ 12 ล้านเยน”
“สิบสองล้าน………ฮะๆๆๆ…….”
“หืมมมมมมมมมม!?”
เฮ็นไตซังทำตัวดุร้ายดิ้นไปมา มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
เธอดูเหมือนกุ้งชุบแป้งทอดเลยเน๊
“อะ มีจัดการเอกสารในหน้าแยกต่างหากด้วยเหรอคะ……โห๊ เอาจริงเหรอคะเนี่ย――……”
“เพราะผมอยู่คนเดียวตามลำพังเลยว่างทำแบบนั้นแหละ นอกจากนี้”
ผมสะบัดเสื้อเชิ้ต พรึ่บๆๆ
“อู๊อออออออออออออออออ!?”
เฮ็นไตซังหยุดดิ้น ถึงจะถูกมัดอยู่ แต่เธอก็สามารถลุกขึ้นมาได้โดยใช้แค่กล้ามเนื้อหน้าท้องเท่านั้น จนผมถึงกับต้องหยุดมือ
“……ค๊าๆๆๆ การก่อปัญหาจบแล้ว ขอปิดตาเลยนะคะ มิคาสุกิซ๊าน”
“มูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!?!?”
ว้าว เป็นเสียงที่สุดยอดมาก……คน ๆ นี้อยากมองผมถึงขนาดนั้นเลยเหรอ……?
“แล้วก็ โซยะซ๊าน”
“ครับ”
ก่อนที่ผมจะรู้ตัว ผมหางม้าของสมาชิกทีมกู้ภัยที่ขวางเฮ็นไตซังกับผมไว้ก็เริ่มเต้น
“……ถึงพวกเราจะเป็นเพศเดียวกัน…….เอ๊ะโตะ ถึงจะแค่ทางกายภาพ แต่ว่า”
“นั่นสินะ ตอนนี้นั่นถูกแล้ว”
“……ที่ฉันกำลังจะพูดก็คือ รูปร่างหน้าตาของโซยะซังมันยั่วยวนมากเกินไปคะ”
“? ทั้งที่เด็กขนาดนี้น่ะเหรอ?”
“จะ จริง ๆ นะ ฮารุจัง!”
ฟุคายะซังที่ไม่แม้แต่จะมองมิคาสุกิซังอีกต่อไป ก็รีบวิ่งเข้ามาหา……แล้วสวมเสื้อสเวตเตอร์ถักของเธอให้ผม
“ฉันลังเลที่จะพูดอะไรมาสักพักแล้ว แต่ว่า! พูดตามตรง สิ่งที่ฉันสามารถมองเห็นได้ตอนที่ก้มลงขอบคุณ ก็ทำให้ฉันอายจนใจเต้นเลยนะค๊า!”
“?”
“” ――ทุกส่วนที่สำคัญของเด็กผู้หญิงจะปล่อยให้ถูกเห็นไม่ได้นะค๊า!””
“อะ ครับ”
พอลองคิดดูแล้ว ผมพึ่งขึ้นจากอ่างอาบน้ำ แล้วยังมีผมที่ยังเปียกติดอยู่ตามตัว
แล้วอะไรหลาย ๆ อย่างตอนนี้ก็เลยใส่แค่เสื้อเชิ้ต
พูดอีกอย่างก็คือ ผมเป็นโลลิในเสื้อเชิ้ตเปลือยเปล่าที่กำลังนั่งอยู่บนฟูก
“แต่ว่าก็จู่ ๆ พวกคุณก็เข้ามาในบ้านของผม……”
“เพราะแบบนันฉันถึงได้ถามว่า『ต้องการที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหมคะ』ออกไปไงคะ!?”
“อะ พอพูดขึ้นมาแล้ว ก็รู้สึกเหมือนจะถามมาจริง ๆ”
คนจากทีมกู้ภัยดูเป็นคนที่จริงจังมากเลย
เธอดูเหมือนประธานกรรมการนักเรียนล่ะ
“…….แต่ปกติผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว โฮร่า ตอนที่ผมมีร่างกายเป็นเด็กผู้หญิง ผมก็เริ่มรู้สึกสงบจิตสงบใจได้แปลก ๆ เวลาได้นั่งบนฟูกโดยตรงโดยที่ไม่สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น”
“ไม่ได้นะคะ! ฉันหมายถึงนี่คุณเป็นผู้ชายจริง ๆ เหรอคะ!?”
“อืม จนถึงปีที่แล้ว”
“……บอกได้เลยว่าความไม่อายนั้นเป็นของผู้ชายจริงแท้เลยค่ะ……อาโน”
ทีมกู้ภัยถามขณะที่กำลังค่อย ๆ กลิ้งผู้ป่วยซึ่งมีสีขาวสนิทจากผ้าพันแผลที่มัดไปทั้งตัวให้ไปอยู่ชิดกับผนัง
” ――ทำไมผู้ชาย ถึงได้กลายเป็น……เด็กผู้หญิงน่ารักได้? นอกจากนี้ รูปภาพบนการ์ด ทั้งสีผมสีตาของคุณก็……”
“ผมได้ขอพรในสถานที่ที่ดูเหมือนกับน้ำพุอธิฐานที่อยู่ในดันเจี้ยนนะ แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะตีความผิดไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง…..”
ทั้ง 2 คนมีใบหน้าแดง และอีกคนหนึ่งมองไม่เห็นด้วยผ้าพันแผลสีขาวบริสุทธิ์
ต่อหน้าพวกเธอ ในที่สุดผมก็ตัดสินใจที่จะหยุดซ่อนตัว
ภาพไว้จิ้น ฉากหลังอาบน้ำเหมือนกัน คนแต่งตนวาดเดียวกัน ฮา
ふとももの日とまひろちゃんおにまい いいふとももの日
いつも通りにやらかしたまひろちゃん。
お風呂上がりに撮ってもらったのでいろいろとおしまいです。 pic.twitter.com/S7014DphRb— あずももも🐾『ヘッドショットロリなTSハルちゃん』書籍化@Skeb募集中な吸血猫姫VTuber (@AzumoMomo) November 20, 2023
ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
ขอบคุณมากสำหรับการอ่านตอนที่ 9
งานนี้เดิมตั้งใจโพสต์หลายเรื่องพร้อมกัน จากนี้ไปจะโพสต์ประมาณ 3,000 ตัวอักษรวันละครั้ง
ฉันเริ่มเขียนเรื่องนี้เพราะต้องการอ่านเรื่องเด็ก TSไลฟ์สดในดันเจี้ยน(อิทธิพล)
“การไลฟ์สดในดันเจี้ยนควรจะได้รับความนิยมมากกว่านี้”
“อะไรก็ได้ อยากเห็นโลลิ TS”
หากคุณคิดเช่นนั้น เราจะยินดีอย่างยิ่งหากคุณสามารถเปลี่ยนการให้คะแนนด้านล่างจาก [☆☆☆☆☆] เป็น [★★★★★] และเปิดการแจ้งเตือนสำหรับบทล่าสุดโดยการบุ๊กมาร์ก ฉันยังขอขอบคุณความคิดเห็นที่สนับสนุนและติดตามของคุณ
https://ncode.syosetu.com/n1479ik/9/
แปลโลลิคลั่ง 2-3 ตอน ต่อ 1 โลลิเฮดช็อต