ตอนที่ 7 เครื่องจำหน่ายอาหารเช้าอัตโนมัติ

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 7 เครื่องจำหน่ายอาหารเช้าอัตโนมัติ (รีไรท์)

ตอนที่ 7 เครื่องจำหน่ายอาหารเช้าอัตโนมัติ (รีไรท์)

เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากสือจื่อจิ้นออกไป ซูเถาก็ออกไปซื้ออาหารเช้าตามปกติ และตระหนักว่าต้องซื้อไปเผื่อสือจื่อเยว่และเฉินเทียนเจียวด้วย

หญิงสาวใช้เงินไปทั้งหมด 32 เหลียนปัง และค้นพบว่าตนเองเป็นคนใจกว้างมากกว่าที่เคย โดยเฉพาะกับตัวเอง

ก่อนหน้านี้ในตอนที่อยู่บ้านซู นับประสาอะไรกับการใช้เงิน 32 เหลียนปังเพื่อซื้ออาหาร แค่ซื้อพาย 2 เหลียนปังก็ถูกดุด่าจนไม่เหลือชิ้นดี

สื่อจื่อเย่วไม่คิดว่าพี่สาวเจ้าของบ้านคนนี้จะนึกถึงตนเองด้วย เด็กสาวยิ้มขอบคุณพลางก้มศีรษะลงกินข้าวอย่างเชื่อฟัง

ระหว่างกำลังกินข้าวอยู่เพลิน ๆ ในใจก็คิดว่าถ้าให้พี่ชายของตนได้กินข้าวนิ่ม*[1]จากพี่สาวเจ้าของบ้านคงจะดีไม่น้อยเลยนะ

พี่สาวเจ้าของบ้านทั้งรวยทั้งมีบ้าน อีกทั้งยังสวยแล้วก็อ่อนโยนอีกด้วย!

หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ เฉินเทียนเจียวที่ได้รับบาดเจ็บก็พูดกับซููเถาว่า

“ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมเกือบจะหายดีแล้ว พรุ่งนี้จะออกไปปฏิบัติภารกิจกับกัปตันและคนอื่น ๆ ภารกิจครั้งนี้น่าจะใช้เวลาราว ๆ ครึ่งเดือน หลังจากระยะเวลาเช่าห้องนี้สิ้นสุดลง คุณสามารถลงมือตกแต่งห้องใหม่ได้เลยนะครับ เมื่อผมกลับมาแล้วค่าเช่าเท่าไหร่ผมจะจ่ายส่วนที่ขาดให้ วันที่ผมไม่อยู่อย่าลืมนับรวมไปด้วยนะ”

ซูเถาโบกมือปฏิเสธพัลวัน “ไม่ ๆ ฉันจะเก็บห้องไว้ให้คุณ ไว้คุณกลับมาเราค่อยพูดเรื่องนี้กันอีกที”

หลังจากสนิทสนมคุ้นเคยกันแล้ว เธอรู้สึกกระดากอายเกินกว่าจะตักตวงผลประโยชน์จากอีกฝ่าย

เฉินเทียนเจียวเองก็ไม่ได้เกรงใจเธอเช่นกัน เขาพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไรอีก

สือจื่อเยว่ขยับเข้าไปใกล้ซูเถา และเอ่ยแนะนำเสียงแผ่ว

“พี่ซูเถาคะ หนูคิดว่าพี่น่าจะวางตู้ขายของอัตโนมัติหรือตั้งตู้แช่แข็งไว้ในห้องโถงเพื่อเก็บพวกอาหารชุดอะไรแบบนั้น ทุกคนจะได้ไม่ต้องไปซื้อของที่ตงหยาง แต่สามารถซื้อได้จากพี่โดยตรง ส่วนต่างไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าพี่ยังทำเงินได้นะคะ”

ซูเถาบีบใบหน้าน้อย ๆ ของเด็กสาวอย่างแผ่วเบา “ฉลาดจริง ๆ นะเรา”

สือจื่อเยว่พูดได้ดี!

คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ที่นี่ล้วนงานยุ่ง และไม่รู้ว่าจะทำอาหารกินยังไง เลยทำให้ต้องกินจำพวกอาหารขยะอยู่เกือบตลอดเวลา

อีกอย่างมันสามารถทำเงินได้

สือจื่อเยว่รู้สึกเขินอายกับคำชมของพี่สาวคนสวย และยืนบิดตัวไปมาด้วยใบหน้าแดงซ่าน

ซูเถากลับมาที่ห้องของตัว เธออดใจรอแทบจะไม่ไหวแล้วที่จะใช้เงิน 10,000 เหลียนปังเพื่ออัปเกรดระบบ

[ระบบเจ้าของอสังหาฯ อัปเกรดเป็นเลเวล 2 ได้รับห้องคู่ 1 ห้อง และปลดล็อกร้านขายอาหาร โปรดตรวจสอบและยอมรับ]

แรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นใต้ฝ่าเท้า และส่วนปลายของระเบียงทางเดินเดิมก็ขยายตัวออก และมีห้องขนาดประมาณ 20 ตารางเมตรปรากฏขึ้นทางด้านซ้ายมือ ในห้องมีฉากกั้นห้อง ห้องนอนอยู่ทางซ้ายมือ มีห้องน้ำแยกและระเบียงเล็ก ๆ ทางขวามือ

เยี่ยมไปเลย!

ซูเถาเพิ่มเตียงเดี่ยว 2 เตียงทันทีตามความต้องการของระบบ เพิ่มอ่างล้างหน้าคู่ในห้องน้ำ ห้องอาบน้ำแยก ห้องสุขา และแม้แต่วางราวตากผ้าง่าย ๆ ไว้ที่ระเบียง

เงิน 1,850 เหลียนปัง ถูกใช้ไปกับการปรับปรุงบ้าน

[เงื่อนไขการเช่าเสร็จสมบูรณ์ ขอให้โฮสต์เลือกโหมดการเช่ารายวัน เช่าระยะสั้น เช่ารายเดือน หรือเช่ารายปี หลังจากเลือกแล้ว ราคาและการตกแต่งจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ภายในเวลาที่กำหนด]

ซูเถายังคงเลือกรูปแบบการเช่ารายเดือน

[ห้องคู่หมายเลข 001 เปิดให้เช่ารายเดือนตามระบบการตกแต่งภายใน ค่าเช่ารายเดือนอยู่ที่ 15,000 เหลียนปัง หากคุณต้องการเพิ่มค่าเช่า ขอให้โฮสต์ซื้อของตกแต่งบ้านคุณภาพสูงขึ้น]

ซูเถาเดินไปรอบ ๆ ห้องด้วยความพึงพอใจ โหมดห้องคู่นี้เหมาะสำหรับการแบ่งปันกับเพื่อน ๆ มันคุ้มค่ากว่าการเช่าห้องเดี่ยวคนเดียว น่าจะเป็นที่นิยมในหมู่คนหนุ่มสาว

รอรับค่าเช่ากันได้เลย!

ซูเถาวางแผนว่าในเช้าวันพรุ่งนี้จะบอกคนของสือจื่อจิ้นว่ามีห้องใหม่แล้ว

หลังจากนั้นซูเถาก็ซื้อโต๊ะกาแฟ แก้วกาแฟ และวางเก้าอี้ไม้สี่ตัวไว้ในห้องนั่งเล่น เมื่อทำแบบนี้ เวลาที่ทุกคนไม่ได้อยู่ในห้องของตัวเอง พวกเขายังสามารถมานั่งคุยเล่นกันได้ในห้องนั่งเล่น

แต่แล้วก็ทนไม่ไหวเพิ่มตู้เสื้อผ้าไม้เนื้อแข็งในห้องของตัวเอง

ค่าใช้จ่ายข้างต้นของเธอรวมเป็น 1,100 เหลียนปัง

ตอนนี้เงินฝากเหลือเพียง 625 เหลียนปัง

ทำไมใช้เงินง่ายจัง!

ซูเถากุมหน้าอกด้วยความทุกข์ใจ มองไปที่ร้านขายอาหารที่เพิ่งปลดล็อกอีกครั้ง ไม่ใช่การขายปลีก แต่ขายพร้อมกับตู้แช่แข็งหรือตู้ขายของอัตโนมัติ

ซูเถาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งและซื้อเครื่องจำหน่ายอาหารเช้าอัตโนมัติมาวางไว้ในห้องนั่งเล่น

[-500 เหลียนปัง]

ซูเถากดหน้าอกและสงบสติอารมณ์ จากนั้นเริ่มศึกษาวิธีการตู้อัตโนมัติ เครื่องว่างเปล่าไม่มีของแม้แต่อย่างเดียว เธอยังต้องใช้เงินอีก 100 เหลียนปังเพื่อนำเข้าสินค้า

พริบตาเดียวเครื่องจำหน่ายอาหารเช้าที่ว่างเปล่าก็เต็มไปด้วยกล่องอาหารกลางวันหลากหลายอย่าง มีขนมปัง นมสด กาแฟ ขนม ซาลาเปา น้ำเต้าหู้ ฯลฯ รวมทั้งหมด 10 ชุด

ตอนนี้ซูเถากำลังหิวไส้กิ่ว เครื่องจำหน่ายอาหารเช้าของเธอมีความสมบูรณ์กว่าร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในฐานอีกนะ ยังมีคุณค่าทางโภชนาการที่สมดุลอีกด้วย อีกทั้งราคายังค่อนข้างเป็นมิตร ราคาอยู่ที่ 20-50 เหลียนปังต่อชุด

ซูเถาคำนวณและพบว่าหากขายทั้งหมดนี้ ไม่รวมค่าต้นทุน กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 200 เหลียนปัง แต่อาหการเช้ามีอายุการเก็บรักษาเพียง 2 วันเท่านั้น หากขายไม่หมดก็ต้องรับผิดชอบต่อผลกำไรและขาดทุนของตัวเอง

ซูเถาหญิงสาวผู้ยากจนคนนี้จะไม่มีวันปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด! ส่วนที่เหลือจากการขายไม่หมด เธอจะต้องไปที่ฐานเพื่อตั้งแผงขายก่อนถึงวันหมดอายุ

นอกจากเครื่องจำหน่ายอาหารเช้าแล้ว ยังมีตู้แช่แข็ง เครื่องทำเครื่องดื่ม เครื่องทำโยเกิร์ต มีแม้กระทั่งเครื่องทำข้าวโพดคั่วขายด้วย!

ซูเถาอยากจะซื้อมันใจแทบขาด แต่ดูเหมือนว่ากระเป๋าเงินเธอจะไม่อนุญาต (ノ﹏ヽ) ตอนนี้เธอเหลือเงินอยู่เพียง 25 เหลียนปัง และมันแทบจะซื้ออะไรไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

ต้องหาเงินและเก็บเงินค่าเช่าโดยด่วน!

ฤดูร้อนกำลังจะมาในเร็ว ๆ นี้ เธอต้องการซื้อเครื่องปรับอากาศสำหรับแต่ละห้องด้วย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก ไอศกรีมและเครื่องดื่มเย็น ๆ ในหน้าร้อนก็น่าจะขายดีเหมือนกัน

เงินเป็นสิ่งจำเป็นทุกที่!

เช้าวันรุ่งขึ้น ซูเถาซักเสื้อผ้าที่มีเปลี่ยนเพียงชุดเดียวของด้วยมือ

วันนี้วางแผนจะออกไปซื้อเสื้อผ้าราคาถูกสำหรับตัวเอง 2 ชุด แล้วกะไว้ว่าถ้าห้องคู่มีคนมาเช่าเมื่อไหร่ เธอจะซื้อเครื่องซักผ้าให้ตัวเอง

ขณะนั้นเสียงดังกังวานของเฉินเทียนเจียวดังก็ขึ้น

“เรามีเครื่องจำหน่ายอาหารเช้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ กัปตัน ๆ มีอาหารเช้าร้อน ๆ ขายด้วย! เข้าท่าเลย พวกมันไม่ใช้อาหารขยะ ของพวกนี้หาซื้อไม่ได้ในตงหยางนะ”

ขณะที่พูด เขาก็จ่ายค่าอาหารเช้าสามชุดทันที

[+90 เหลียนปัง]

ซูเถาหรี่ตาด้วยรอยยิ้ม แขวนเสื้อผ้าที่ซักไว้ข้างเตียงแล้วเดินออกไป บังเอิญเจอเข้ากับสือจื่อจิ้นและน้องสาวพร้อมทั้งเฉินเทียนเจียวกำลังนั่งกินอาหารเช้าด้วยกันบนโซฟาในห้องนั่งเล่น

สือจื่อเยว่หรี่ตาลง กำลังทำสมาธิขณะกินอาหารเงียบ ๆ บางคนอาจจะไม่รู้ แต่เขาคุ้นเคยกับผลผลิตของตงหยางเป็นอย่างดี

ตงหยางไม่สามารถผลิตอาหารที่ทำจากธัญพืชที่มีคุณภาพเช่นนี้ได้ เถาหยางมีคนอยู่เบื้องหลังอยู่กี่คนกันถึงจัดการอาหารคุณภาพสูงเช่นนี้ได้?

เฉินเทียนเจียวผู้มีนิสัยเรียบง่ายไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และเมื่อทั้งสามคนจัดการกินอาหารตรงหน้าเสร็จ ก็ตะโกนเรียกซูเถา

“เถ้าแก่น้อย เครื่องขายอาหารเช้าของคุณอร่อยจริง ๆ ราคาก็ไม่แพงอีกด้วย ถ้ามีห้องว่างอีกอย่าลืมบอกผมนะ ผมอยากพาแม่มาอาศัยอยู่ด้วย”

ซูเถาพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้มีห้องว่างอยู่แต่เป็นห้องคู่ซึ่งเหมาะสำหรับการแชร์กับเพื่อนมากกว่า”

สือจื่อจิ้นพยักหน้าและพูดกับเฉินเทียนเจียว “งั้นให้ต้าโจวกับเอ้อร์โจวแล้วกัน ส่วนคนที่เหลือก็รอก่อน ไม่ต้องรีบร้อน”

เฉินเทียนเจียวตะเบ๊ะเพื่อแสดงการยอมรับ

[1] 吃软饭 แปลตรงตัวจะได้คำว่า ‘กินข้าวนิ่ม’ หมายถึงการเลี้ยงชีพด้วยการเกาะผู้หญิงกิน