เอริกะรู้สึกตื่นตนกกับท่าทีที่เปลี่ยนไปเป็นจริงจังของเซ็น เธอไม่รู้ว่าความตั้งใจจริงๆของเขานั้นคืออะไรกันแน่ เพราะในตอนที่เซ็นกล่าวออกมาแบบนั้น แม้จะจับใจความสำคัญอะไรไม่ได้เลย แต่โดยสัญชาตญาณของเธอแล้ว มันเป็นความไม่สบายใจที่คับอยู่ภายในอก เอริกะรู้สึกว่าถ้าหากเธอปฎิเสธข้อเสนอของเขาในตอนนี้แล้วล่ะก็ หลังจากนี้เธอจะต้องเสียใจกับมันเป็นแน่ 

 

[ เข้าใจแล้วค่ะ แล้วที่ไหนที่พวกเราจะไปกันล่ะคะ ? ]

[ ทางนี้ขอรับ ]

 

     เซ็นหันหลังกลับและเริ่มที่จะก้าวเดินเพื่อนำเธอไปยังสถานที่หนึ่ง จนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่งสถานที่ที่เซ็นเลือกนั้นคือสถานที่ๆเหมาะสมที่จะพูดคุยกันเกี่ยวกับความจริง ที่นี้นั้นก็คือ !! 

 

[ ถึงแล้วขอรับ! ]

 

ห้องของฮาโรลด์นั้นเอง

 

[ . .  . . . เอ๋ ? ]

 

     ดูเหมือนว่านี่มันจะเกินคาดการณ์ของเธอไปเยอะทีเดียว มันทำให้เธอถึงกลับหลุดสำเนียงแปลกๆออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เอริกะได้แต่งงงวยและไม่สามารถสงบจิตสงบใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย

     ตลอดการพูดคุยที่ผ่านมา เธอคิดว่าเขาคงจะเปิดเผยพฤติการณ์บางอย่างของฮาโรลด์ที่ซ่อนเอาไว้เกี่ยวกับการฆาตกรรมหญิงรับใช้ หรือถ้าจะให้พูดง่ายๆ คือความลับของฮาโรลด์

     แล้วนี่มันหมายความว่าอะไร เรามาทำอะไรที่นี่ ในห้องของคนนี้ คนที่ที่เราไม่ต้องการจะเจอด้วยที่สุด บางที มันอาจเป็นเพียงโชคชะตาที่ทำให้เราเข้าใจผิดไปในการตีความหมายการสนทนากับเซ็น แต่ว่า มันมีด้วยหรือ ที่จะเข้าใจผิดไปได้ไกลขนาดนี้ ? ภายใจหัวของเอริกะนั้นเต็มไปด้วยความสับสน

 

[ เอาน่าๆ เข้าไปกันเถอะ ]

[ เอ๋ ? อ๊ะ , เฮ้ . . ]

 

     เพราะกำลังงงๆกับเหตุการณ์ทำให้เธอไม่ทันระวังตัว เซ็นผลักที่หลังของเอริกะเบาๆเพื่อให้เธอเดินก้าวเข้าไปภายในห้อง ดูเหมือนว่าเซ็นจะไม่ลังเลที่จะเข้ามาให้ห้องนี้เลยตั้งแต่ก่อนที่จะยืนยันได้ว่าฮาโรลด์ไม่ได้อยู่ที่นี่

     เซ็นเริ่มที่จะมองไปทั่วภายในห้อง และแล้วดวงตาขอเขาก็มาหยุดอยู่ที่ตู้ๆหนึ่ง เขาเปิดมันออกและผลักเอริกะเข้าไปด้านใน เพราะตอนนี้เธอยังตามสถานการณ์ไม่ทัน สุดท้ายเธอจึงเข้าไปอยู่ภายในตู้

 

[ ขอประทานโทษนะ ได้โปรดรออยู่ที่นี่สักพักนะขอรับ!! ]

 

หลังจากปิดตู้ลง เซ็นก็รีบวิ่งออกไปจากห้องทันที

 

[ เอ่อ . . .  ? ]

 

     แล้วอีกครั้ง เสียงแปลกๆที่ไม่ควรเกิดขึ้นก็หลุดออกมาจากปากของเอริกะ ทั้งๆที่เธอเป็นแขกของเจ้าห้องนี้ แถมยังเป็นคู่หมั้นของเจ้าของห้องนี้ด้วย แต่ดันมาจับเธอขังไว้ในที่ๆแบบนี้ แบบนี้มันเกินกว่าที่จะเรียกว่าล่วงเกินไปไกลโขแล้ว ถ้าหากเป็นคนอื่นแล้วล่ะก็ ไอ้หมอนี่ โทษที่เซ็นจะโดนของเกินกว่าการประหารไปไกลนัก

     โชคดีอยู่สำหรับเซ็น ที่เอริกะไม่ได้เลือกที่จะแสดงความโกรธของเธอออกมารุนแรงอะไรแบบนั้น แต่เมื่อมาคิดตามปกติแล้ว เธอคงไม่ร้องเรียนอะไรหรอกที่เธอถูกปฎิบัติเช่นนี้ แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช้เวลาที่จะคิดแบบนั้น ก่อนอื่นเลย เธอต้องจัดลำดับความสำคัญใหม่ก่อน เพราะอย่างแรกที่เธอต้องทำคือ ออกจากตู้นี้ก่อนเถอะ

     จากมุมมองของเอริกะแล้ว แม้มันจะเป็นสิ่งที่ตรงข้ามที่เธอยากจะทำ แต่ตอนนี้เธอได้กลายเป็นผู้บุกรุก ถ้าหากถูกจับได้แล้วล่ะก็ เธอไม่อยากนึกภาพเลยว่าปากของฮาโรลด์จะกล่าวออกมาแบบไหนบ้าง

     เมื่อกำลังคิดที่ว่าจะตามเซ็นออกไปจากห้องนี้ ในจังหวะที่เธอกำลังเอื้อมมือไปยังประตูของตู้ “ปัง” เสียงบางอย่างได้ดังขึ้นเข้ามาในโสตประสาทของเธอ

 

[ อว๊าา ! ]

 

     เสียงต่อมาที่เธอได้ยิน คือเสียงตกใจของเซ็นที่ร้องออกมา มันช่างพอดีเด๊ะๆกับตอนที่เธอกำลังจะเปิดประตูตู้ การที่เซ็นร้องตกใจแบบนี้ มันคงไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้วนอกจาก . . เจ้าของห้องๆนี้ได้กลับมาแล้ว

ตามคาด หลังจากได้ยินเสียงของเซ็นร้อง ฮาโรลด์ก็คิ้วขมวดทันที

 

[ อย่าส่งเสียน่ารำคาญนั้นสิวะ อีกอย่าง แกมาทำอะไรในห้องของข้า ? ]

[ เอ่อ อืมม ~ . . .  อ้อ กระผมกะว่าจะมาแจ้งท่านเกี่ยวกับอะไรบางอย่างขอรับท่านฮาโรลด์  แต่ว่าหลังจากที่กระผมเคาะประตู มันกลับไม่มีใครขานรับกลับมาผมก็เลยเปิดเข้ามาดูภายในห้องอ่าขอรับ ]

[ ถ้ามันไม่มีใครตอบกลับมา แกก็กลับไปซิวะ นี่แกจะปัญญาอ่อนไปถึงไหน ]

 

     เอริกะได้แต่แอบดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทางช่องว่างของผ้าม่านที่ถูกตกแต่งอยู่ภายในตู้ ดูเหมือนว่าเธอจะสูญเสียโอกาสที่จะหนีออกจากที่นี้ไปแล้ว

     ถ้าเธอออกมาข้างนอกตอนนี้และอธิบาย เธอก็คงแค่ขอโทษนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ว่า . . มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเซ็นล่ะ ?

     ฮาโรลด์ ผู้ซึ่งเป็นคนฆ่าใครก็ได้เพียงเพราะเขาไม่ชอบหน้าพวกเขาแค่นั้น แม้มันอาจจะบอกว่านี่สิ่งที่เซ็นสมควรจะโดนแล้วเพราะเป็นคนก่อเรื่องเอง แต่เธอก็ไม่อยากให้เขาถูกฆ่าหรอก แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้าฮาโรลด์จะรับฟังรึปล่าวถ้าหากเอริกะขอร้องให้ไว้ชีวิตของเซ็น เพราะเมื่อตัดสินจากพฤติกรรมของฮาโรลด์เองแล้ว เธอคิดว่าโอกาสที่เขาจะรับฟังนั้นเป็นไปได้ต่ำมาก

 

(ฉันควรจะทำอย่างไรดี . . . ?)

 

ในขณะที่เอริกะกำลังคิดหาทางออก ก่อนที่สถานการณ์จะแย่ลงไปกว่านี้

 

[ อ้อ !! เกี่ยวกับสิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือ !!! ]

 

     จู่ๆเซ็นก็วกกลับมายังหัวข้อที่เขาต้องการจะพูดในตอนแรก แม้ว่าฮาโรลด์จะยังดูโกรธๆอยู่แต่เขาก็ทำเพียงแค่ ถอนหายใจออกมา และนั่งลงที่โซฟา

 นี่มันผิดจากสิ่งที่เอริกะคาดการณ์ไว้นัก เพราะ ฮาโรลด์ทำเพียงแค่กระตุ้นให้เซ็นพูดต่อเท่านั้นเอง

 

[ แล้วอะไร ? ขอสั้นๆด้วย ]

[ เอ่อ . . มันค่อนข้างยากที่จะพูดขอรับ แต่ว่า . . เกี่ยวกับข่าวลือนั้นตอนนี้ดูเหมือนมันจะแพร่ไปไกลแล้ว . . ]

 

     เซ็นกล่าวออกมาอย่างคลุมเคลือเกี่ยวกับข่าวลือนั้น แต่สำหรับคนอื่นๆที่รู้กันทั่ว พวกเขาต่างรู้ว่ามันคือความจริง . . 

 

[ ก็ตอนนี้น่ะ เมื่อกระผมออกไปซื้อสิ่งของต่างๆภายในตัวเมือง ทุกๆร้านเลยที่ผมไป แม้กระทั้งลูกค้า เขาต่างพากันซักถามผมกันหมด ]

[ . . . ]

 

     ฮาโรลด์ยังคงนั่งกอดอกและหลับตาของเขา เขายังคงฟังเรื่องของเซ็นต่อ แม้ว่าเอริกะ ซึ่งตอนนี้หลบอยู่ภายในตู้ เธอก็ยังไม่เข้าใจว่าอะไรที่เซ็นต้องการจะสื่อออกมา เธอจึงทำได้เพียงแอบฟังต่อไป

 

[ แม้ว่ามันยังไม่ถูกเปิดเผยให้ชัดเจนอะไร แต่ก็เพราะนั้น !! ท่านฮาโรลด์ขอรับ ชื่อเสียงของท่านตอนนี้ต่ำเตี้ยเรี้ยดินแล้วนะขอรับ และกระผมรู้สึกว่ามันจะแย่เอาถ้าพวกเราไม่ทำอะไรซักอย่าง . . .]

[คิดว่าข้าคนนี้ไม่เคยคิดถึงสิ่งที่แกอยากจะพูดงั้นรึ? ไร้ค่าปล่าวๆ ไอ้สิ่งที่แกเรียกว่าชื่อเสียง มันตกต่ำซะจนแปดเปื้อนดินโคลนหมดแล้ว ]

[ แต่ว่า . . . ]

[ แต่ว่า? อะไร ? รึแกอยากไปปล่าวประกาศว่า ” คลาร่าและคลอเล็ตยังมีชีวิตอยู่และหนีไปอยู่ที่หมู่บ้านบร็อช” งั้นรึ ?]

[ ไม่ครับไม่ !! ต่อให้กระผมตาย กระผมก็จะไม่พูดความจริงพวกนั้น ]

(-เอ๊ะ ? )

 

 

 

     เพราะได้ฟังในสิ่งที่พวกเขาคุยกัน ตอนนี้ภายในหัวของเอริกะได้กลายเป็นขาวโพลน

อะไรกัน ? ฮาโรลด์พูดอะไรออกมา ? หญิงรับใช้และลูกของเธอ ? คลาร่าและคลอเล็ตอยังมีชีวิตอยู่ ?

อะไรกัน ? เซ็นพูดอะไร ? ความจริงอะไรกัน ?

     แรงช็อคที่เธอได้รับมันเกินกว่าเมื่อคืนในตอนที่เธอได้รับการยืนยันเรื่องการฆาตกรรมซะอีก เอริกะ ที่ร่างของเธอตอนนี้ได้ตัวแข็งทื่อไปเป็นที่เรียบร้อย เธอไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากฟังพวกเขาทั้ง 2 พูดคุยกันต่อ

 

[ เพราะงั้นมันจึงไร้ความหมายที่จะไปคิดถึงเรื่องไร้สาระพวกนั้น เพราะถ้ามีโอกาสที่จะทำให้พ่อแม่ของข้ารับรู้ว่าพวกหล่อนยังมีชีวิตอยู่แล้วล่ะก็ ข้าก็จะถูกสงสัยได้ ดังนั้นสิ่งที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้ เป็นการกำจัดความเป็นไปได้ต่างๆที่จะทำให้พ่อแม่ของข้าไม่ระแคะระคาย ]

[ แม้ว่ากระผมจะเข้าใจดี แต่อย่างน้อยก็น่าจะบอกความจริงแก่ท่านเอริกะนะครับขอรับ ? เพราะว่าเธอปักใจเชื่อในข่าวลือนั้น ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะดูแย่สุดๆ ]

[ แน่นอนว่าไม่มีทาง ]

 

     มันเป็นการปฎิเสธออกมาในทันที

     ถ้าหากสามารถวัดอุณหภูมิที่เขาพูดออกมาได้ มันของต่ำกว่าจุดเยือกแข็งแน่นอน ร่างกายของเซ็นและเอริกะได้ถูกแช่แข็งในทันที 

 

[ . . . . ทำไมกันขอรับ ? ]

 

     มันช่วยไม่ได้ที่เซ็นจะถามออกมา

     ทำไมฮาโรลด์ถึงปฎิเสธเอริกะถึงขนาดนั้น นั้นก็เพราะ สำหรับฮาโรลด์แล้ว ในโลกของเกมส์ “Brave Hearts” ในความคิดของเขาแล้ว บุคคลเดียวที่เขาจะต้องระมัดระวังเป็นที่สุดนั้นก็คือ เอริกะ

     โดยเนื้อแท้ของตัวละครที่ชื่อเอริกะนั้น เป็นคนที่มีความเมตตา แต่ก่อนหน้านั้น “หนทางที่จะรอดชีวิต”ก็ถูกรวมอยู่ด้วย

     ในเนื้อเรื่องของเกมส์ ฮาโรลด์คิดว่าเขานั้นเป็นบุคคลพิเศษและในการที่เขาคิดแบบนั้นมันทำให้เขาเชื่อว่าเขานั้นคือผู้ถูกเลือกให้อยู่เหนือผู้อื่น และนั้นถึงว่าทำไมเขาถึงสังหารหญิงรับใช้ได้อย่างไม่ใยดี เขาดูถูกดูแคลนและกดขี่กับประชาชนผู้ซึ่งไร้พลัง ถึงแม้กระทั้งทำให้เมืองกลายเป็นทะเลแห่งเปลวเพลิงโดยการสละมันให้กับเหล่ามอนเตอร์เพื่อที่เขาจะได้มีชีวิตรอดอยู่ต่อ

     เขานั้นคือศูนย์รวมแห่งความเลวร้าย และนั้น เอริกะ ถึงแม้ว่าเธอจะเกลียดฮาโรลด์ แต่เธอก็ไม่เคยยอมแพ้ เธอยังทนทุกข์ทรมานโดยอยู่เป็นคู่หมั้นของเขาต่อไป

     เธอรู้สึกว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ต้องตอบแทนให้กับตระกูลสโตร์กที่เคยได้ให้การช่วยเหลือด้านการเงินกับตระกูลของเธอ ถ้าคิดถึงเรื่องนี้ตามปกติ การที่จะต้องมีติดต่อสัมพันธ์กับตระกูลสโตร์ก มันทำให้ตระกูลของพวกเธอถูกดูถูกดูแคลนแถมอันตรายที่ตระกูลสโตร์กนำมายังชุดรั้งขาของพวกเธอลงไปอีกด้วย แต่มันก็เป็นดังคาด สิ่งเหล่านี้คือเหตุการณ์ที่ทำให้เรื่องราวของเอริกะฟังดูน่าตื่นเต้น ต้องขอบคุณความสะดวกสบายของเนื้อเรื่องของเกมส์ที่มีให้จริงๆ

     ดังนั้น นี่คือความกลัวที่มีต่อความใจดีของเอริกะทีมีมากจนเกินไปและมันอาจจะกลับกลายเป็นเขี้ยวกับมาทำร้ายแก่ตัวของฮาโรลด์เอง

     อย่างแรก สิ่งที่ต้องยึดเป็นหลัก ความตั้งใจของฮาโรลด์นั้นคือการรอดชีวิตโดยไม่ตาย ไอ้สิ่งนั้นที่เขาคิดไว้คือการหลบเลี่ยงเดธแฟล็กต่างๆและเคลียฉากจบให้เหมือนเนื้อเรื่องหลัก

มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงเรื่องราวในอดีต เพราะในอนาคต หากจะให้ยกตัวอย่าง ถ้าบอสตัวสุดท้ายยังไม่ถูดจัดการ ผู้คนเกือบทั้งหมดของทั้งทวีปรวมไปถึงฮาโรลด์ด้วยจะต้องตายอยู่ดี

แม้ว่ามันจะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่จากการคาดเดาข้อมูลต่างๆที่มีอยู่ในเกมส์ ความเป็นไปได้ดังคาดนั้นค่อนข้างสูง ในกรณีนี้ ถ้าหากความบ้าคลั่งของลาสบอสไม่ถูกหยุดลง ทวีปๆเดียวที่มีอยู่ในโลกแห่งนี้คงต้องสูญหายไปตลอดกาล . . นั้นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น

     หรือในอีกความหมาย แม้ถ้าเขาจะหลบเลี่ยงเดธแฟล็กได้อย่างจริงๆ แต่ถ้าลาสบอสไม่สามารถถูกจัดการลงเพราะเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องหลักถูกเบี่ยงเบนไปมากเกินไป สิ่งที่ทำมามันก็ไร้ความหมาย

มันยังจำเป็นที่จะต้องให้เหล่าตัวเอกของเรื่องเป็นคนเคลียร์เนื้อเรื่องต่างๆมากเท่าที่จะเป็นไปได้ และในปาร์ตี้ของเหล่าตัวเอกนั้น เอริกะคือผู้ที่มีตำแหน่งสำคัญเป็นฮิลเลอร์ การคงอยู่ของเธอในปาร์ตี้นั้นมันเป็นตัวกำหนดความยากง่ายของเควสต่างๆได้เลย ดังนั้นการคงอยู่ของเอริกะมีผลกระทบต่ออัตราการรอดชีวิตของกลุ่มตัวเอกเป็นอย่างมาก และนี่ก็เพื่อประโยชน์แก่ฮาโรลด์เหมือนกัน ดังนั้น มันจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องให้เอริกะกลายมาเป็นเพื่อนกับเหล่าตัวเอก เพราะถ้าเหตุการณ์มันไม่ได้กลายมาเป็นเช่นนั้น มันจะกลายเป็นปัญหาใหญ่

     เหนือสิ่งอื่นใด เขาได้แต่หวังลมๆแร้งๆว่าถ้าหากเนื้อเรื่องนี้ถูกเคลียร์ให้เหมือนกับเนื้อเรื่องในเกมส์ เขาคงจะสามารถกลับไปยังโลกของเขาได้ หรือก็คือ เขาคิดไม่ออกแล้วว่าจะมีทางอื่นใดอีกที่จะสามารถทำให้เขากลับไปยังโลกจริงๆของเขาได้

     กลับมาเข้าเรื่องเดิม จะเกิดอะไรขึ้นกับเอริกะ ถ้าหากเธอไม่ทอดทิ้งฮาโรลด์จนท้ายที่สุด ก็คงเรียนรู้นิสัยใจคอของกันและกันไปเรื่อยๆ และหลังจากที่ได้เห็นฮาโรลด์ยื่นมือเข้าไปช่วยตระกูลซูเมะรากิที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน มันเป็นสมมุติฐานที่เขาไม่อยากจะคิดเลย เธอจะต้องยืนยันที่จะเป็นคู่หมั้นต่อไปแน่ๆ

     แต่ถ้ามันกลายเป็นแบบนั้น เธอก็จะไม่ได้เข้ารว่มกลุ่มกับเหล่าตัวเอก แล้วอะไรจะกิดขึ้นต่อไป ? มันก็จะกลายเป็นสถานการณ์ที่ฮาโรลด์กลัวที่สุดไง

     นั้นคือเหตุผลว่าทำไม เพื่อที่จะไม่ต้องเดินบนเส้นทางแห่งปีศาจและจะได้หลบเลี่ยงเดธแฟล็กที่จะเกิดขึ้น ฮาโรลด์คิดว่าถ้าจะลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นให้เหลือต่ำที่สุด ก็ควรที่จะทำให้เอริกะเกลียดเขาให้มากๆจะดีที่สุดดีกว่า มันคงถึงเวลาแล้วที่จะประกาศว่า “ปล่อยให้ค่าความรักมันจมดินไปเหอะ” 

     ถึงมันจะฟังดูง่ายถ้าหากจะอธิบายแบบนี้ให้เซ็นฟัง แต่ว่า . . อธิบายไปเดี่ยวเขาจะสงสัยว่าเราเป็นบ้าซะปล่าวๆ คาซูกิจึงตัดสินใจที่จะแต่งเรื่องที่เหตุผลฟังขึ้นดีกว่าเพื่อที่จะหยุดคำถามของเซ็น

หลังจากเงียบอยู่สักพัก ฮาโรลด์ก็เริ่มที่จะพูดต่อ

 

[ . . . . แม่นั้น ร้องไห้ ]

[ เอ๋ ? ]

[ ข้าไม่รู้ว่าที่ร้องไห้นั้นเพราะรู้ว่าข้าฆ่าคน หรือร้องไห้เพราะแม่หญิงรับใช้และลูกสาวถูกฆ่า แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ช่าง หัวใจของแม่นั้นเจ็บปวดและหลั่งน้ำตาให้กับคนแปลกหน้า แม่นั้นมันไม่ต่างอะไรกับคนโง่บรม ]

 

     เขาได้นึกถึงความทรงจำของเรื่องเมื่อคืน คืนที่ส่องสว่างท่ามกลางแสงจันทร์ มันคือภาพหยาดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มของเอริกะ

แม้ว่าเรื่องที่เธอร้องออกมานั้นจะเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ เพราะนั้นคือคุณธรรมในใจของเอริกะเอง

 

[ และอีกอย่าง แม่นั้นใจดีเกินไป ความใจดีนั้นที่สงสารให้กับบุคคลอื่นๆ เธอเป็นเพียงแค่คนใจดีที่อ่อนแอ ถ้าคนพรรคนี้อยากจะมาเดินเคียงข้างข้าแล้วล่ะก็ แม่นั้นคงจะได้รับความบอบช้ำมากมายจนนับไม่ถ้วนแน่ ]

[ นั้นคือเหตุผล ที่ท่านจงใจตีตัวออกห่างจากเธอสินะขอรับ ? ท่านคิดถึงประโยชน์แก่ท่านเอริกะนี้เอง..  ]

[ อย่างพูดไร้สาระน่า ทำไมข้าจะต้องไปคิดถึงประโยชน์ของแม่นั้นด้วย ข้าแค่จะบอกว่าข้าต้องการจะยกเลิกการแต่งงานกับยัยผู้หญิงน่าปวดหัวนั้น ผู้ที่ร้องไห้ให้กับทุกๆสิ่ง นั้นแหละคือสิ่งที่ข้าหวังเอาไว้ ]

 

     คำพูดที่เฉียบคมของฮาโรลด์ได้เสียบแทบลึกเข้าไปภายในใจของเอาริกะ  แต่มันเป็นความเจ็บปวดที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกลับเมื่อคืน

     มันเป็นความเจ็บปวดต่อมโนธรรมของตนเอง , เกลียดตัวเอง , ความเสียใจ

อารมญ์ด้านลบต่างๆพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องราวกับพยายามกลืนกินเอริกะ คลื่นแห่งความรู้สึกได้ถาโถมอย่างต่อเนื่องและคำพูดของฮาโรลด์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง

 

[ สะ , แสดงว่า ท่านฮาโรลด์ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะแต่งงานกับท่านเอริกะเลยซินะขอรับ ? ]

[ ไม่มีทางที่ข้าจะเคยคิดแบบนั้น ]

[ แต่ทำไมถึงหมั้นกับ . . . ]

[ เรื่องง่ายๆแค่นั้นก็หัดใช้หัวคิดเอาเองบ้างซิวะ การหมั้นนี้มันถูกจัดขึ้นก็เพราะเรื่องเงิน ! ]

 

     สำหรับตระกูลสโตร์ก ผู้ซึ่งต้องการสืบสายเลือดบริสุทธ์ต่อ ได้เอาเปรียบแก่ตระกูลซูเมะรากิ ผู้ที่มีรายได้หลักมาจากผืนไม้ของพวกเขา แต่ทว่าตอนนี้รายได้หลักที่ว่าได้ตกต่ำลงอย่างมากนั้นก็เพราะเหตุการณ์ผิดหลักธรรมชาติที่จู่ๆก็เกิดพิษร้ายขึ้นในป่าของพวกเขา ตั้งแต่เหตุการณ์พิษที่ผิดธรรมชาติเกิดขึ้น มันเป็นภัยพิบัติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในทวีปแห่งนี้ และยังไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีวิธีเยียวยาแก่ดินแดนซูเมะรากิ อีกทั้งพวกเขาเองก็มีหนี้ที่ต้องชำระ และในหมู่ชนชั้นสูงขุนนางอื่นๆต่างก็ไม่กล้าที่จะให้ความช่วยเหลือด้านการเงินจำนวนมากมายขนาดนั้นกับซูเมะรากิเพราะเหตุผลหลายๆอย่าง ดังนั้นการหมั้นหมายกับตระกูลสโตร์กในครั้งนี้เป็นดั่งการขายเกียรติของตนเองโดยที่ไม่ได้คำนึงผลที่ตามมาเลย

     หลังจากที่ได้มารู้เหตุจูงใจและการเคลื่อนไหวของทั้ง 2 ตระกูล เซ็นจึงนึกขึ้นได้ถึงบางสิ่ง

 

[ ถ้างั้น สำหรับซูเมะรากิเอง ถ้าหากพวกเขาไม่ยอมยกเลิกการหมั้น… ? ]

 

     จริงอย่างที่เซ็นกล่าว ถ้าหากทางซูเมะรากิยกเลิกการหมั้นนี้ล่ะก็ นั้นก็หมายถึงทางซูเมะรากิจะสูญเสียความช่วยเหลือทางการเงินที่มาจากตระกูลสโตร์ก ดังนั้นในอนาคตอันใกล้ พวกเขาก็คงไม่อาจรักษาดินแดนซูเมะรากิของพวกเขาเอาไว้ได้ แต่ก็นะ ต่อให้ฮาโรลด์โวยวายเพื่อที่จะยกเลิกการหมั้นนี้ มันก็ไม่มีทางที่พ่อแม่ของเขาผู้ที่ถูกครอบงำในสายเลือดบริสุทธิ์จะยอมให้ยกเลิกการหมั้นนี้ได้หรอก

แต่สำหรับฮาโรลด์แล้วเขาไม่ได้สนใจอะไรในเรื่องจิ๊บจ๊อยพวกนั้นเลยซักนิด

 

[ ข้าได้วางหมากต่อไปไว้แล้ว นั้นคือ ยาและการทำฟาร์ม LP นั้นไงที่จะแก้ไขเรื่องนี้ไง ]

 

     แม้ในดินแดน ณ ตอนนี้มลพิษที่เกิดจากพิษร้ายจะยังต่ำอยู่ แต่ถ้าใช้ยาที่คาซูกิสร้างขึ้นนั้นก็จะสามารถทำให้พวกเขาแข็งแรงกลับมาลุกขึ้นตัดไม้แปรรูปได้อย่างเช่นเคย จนกว่ากลุ่มพระเอกจะมาปัดเป่าพิษร้ายนี้ออกไป พิษร้ายนี้ก็จะยังคงขยายเป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ แต่เรื่องนั้นพักเอาไว้ก่อน เพราะอย่างไรซะมันก็คงไม่กว้างไปกว่าที่เกิดขึ้นในเกมส์หรอก

     แล้วในจดหมายที่ส่งถึงทาซูคุนั้น เขาได้วาดแผนที่ในเกมส์ที่มาจากความทรงจำของเขาและแจ้งแก่ทางทาซูคุถึงการคาดการณ์ที่พิษนี้จะแพร่กระจายไปถึง เพราะถ้าหากพวกเขาสามารถทำนายระยะสูงสุดที่ทำให้เกิดความเสียหายจากพิษได้ก่อนล่วงหน้า ทางซูเมะรากิก็จะสามารถอพยพคนของพวกเขาออกได้ทันท่วงที

     เพิ่มอีกอย่าง คาซูกิได้ยื่นข้อเสนอเกี่ยวกลับวิธีการทำฟาร์ม LP อีกด้วย แม้ว่ามันจะฟังดูไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไร เพราะในจดหมายนั้นเขาหยุดเขียนลงเพื่อให้มันอ่านดูแล้วยังดูกำกวม ” ผมมีข้อเสนอเกี่ยวกับความรู้ทางด้านเทคนิคการผลิตนิดหน่อย” 

     หลังจากได้รับการอธิบายโดยตัดเนื้อหาในส่วนของเกมส์ออกไป เซ็นที่ใบหน้าของเขาตอนนี้แสดงถึงความตกตลึงอันเป็นที่สุด

 

[ ข , ขนาดเรื่องพวกนี้ท่านยังคิดเอาไว้แล้ว . . ]

 

     นี่เป็นครั้งแรกที่เซ็นยินเกี่ยวกับเรื่องยารักษาและจดหมาย ถึงเขาจะพอรู้อยู่แล้วว่าการทำฟาร์ม LP นี้จะมีเหตุจูงใจอะไรบางอย่างอยู่ แต่เซ็นก็อดที่จะตะลึงไม่ได้ เด็กผู้ชายคนนี้ . . เขามองเกี่ยวกับอนาคตไว้ไกลขนาดไหนกันนะ

     ไม่ใช่เซ็นเพียงคนเดียวที่ตกใจอยู่ ณ ตอนนี้ แม้กระทั้งเอริกะ ที่ตอนนี้แทบจะลืมหายใจ เพราะกำลังช็อคกับความคิดและการคาดการณ์ต่างๆของฮาโรลด์

     ฮาโรลด์นั้นรู้ถึงภัยอันตรายต่างๆที่เกิดแก่ดินแดนซูเมะรากิอย่างละเอียด เขารู้มาก่อนที่จะพูดเรื่องการหมั้นหมายด้วยซ้ำ ทั้งๆที่การหมั้นนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พิษร้ายนั้นปะทุออกมาไม่นานแท้ๆ และเมื่อคิดเช่นนั้น เธอเชื่อโดยสนิทใจในเรื่องที่เขานั้นสามารถรวบรวมข้อมูลต่างๆและสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในการสร้างยาตัวนี้โดยเขาใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วันหลังจากที่การหมั้นหมายถูกประกาศขึ้น

     หรือในอีกความหมายก็คือ ฮาโรลด์นั้นพยายามทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือซูเมะรากิทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวฮาโรลด์เองเลยสักนิด ถึงเขาจะยืนยันด้วยตัวเองแล้วว่าที่เขาทำมันลงไปเพื่อจะขายมันต่ออีกที แต่ถ้ามันเป็นเพียงแค่เรื่องเงิน ทั้งเวลาและแรงกายที่เสียไปจนสามารถสร้างยาตัวนี้ได้ขึ้นมา เมื่อเทียบ กับบุญคุณที่ทางซูเมะรากิได้รับนั้น เงินพวกนั้นดูน้อยนิดมาก 

เมื่อพิจารณาเกี่ยวกับสิ่งที่ฮาโรลด์มอบให้และการคาดการณ์ของเขา กับเรื่องที่เขาเคยพูดไว้ว่าเขาเป็นพวกนิยมสายเลือดบริสุทธ์ ในหัวของเอริกะตอนนี้ได้เบลอไปหมด

     ก็จริง แม้ฮาโรลด์จะตัดสินใจทำพวกนี้ทั้งหมดหลังจากที่คิดแล้วคิดอีกเกี่ยวกับมันนานพอสมควร แต่มันก็แน่ชัดพอที่จะทำให้เอริกะรู้ว่าที่คาซูกิมอบให้พวกเธอนั้นมันมากมายนัก ดังนั้นความสำนึกบุญคุณที่เธอเคยได้รับย่อมมากกว่าในเนื้อเรื่องของเกมส์ นั้นคือเหตุผลว่าทำไมที่เขาเลือกเส้นทางที่ไม่เหมือนดั่งในเกมส์ นั้นก็เพราะเขาต้องการพันธมิตรนั้นเอง

     ในสถานที่ๆสายตาของ 2 คู่สามีภรรยาสโตร์กมองถึง คาซูกิไม่สามารถที่จะขยับตัวได้สะดวกนักและเขาไม่สามารถที่จะหาวิธีรวบรวมกำลังคนที่จะสามารถเคลื่อนไหวแทนเขาได้ ดังนั้น เขาจึงคิดที่จะสร้างสัมพันธ์กับทางซูเมะรากิโดยใช้ข้ออ้างเรื่องคู่หมั้นเป็นฉากบังหน้า คาซูกินั้นคิดว่าทาซูคุนั้นสามารถเชื่อใจได้ นั้นเพราะเขารู้ลักษณะนิสัยของทาซูคุในเกมส์มาก่อนแล้ว และถ้าหากคาซูกิได้รับความร่วมมือจากทาซูคุแล้ว มันก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากที่จะช่วยสนับสนุนเหล่าปาร์ตี้พระเอกจากในเงามืด

     โดยการยื่นขอเสนอเรื่องยา การทำฟาร์ม LP ที่สามารถมาช่วยหนุนฐานะทางเศรษฐกิจและถ้าเหล่าพระเอกได้มาถึงเหตุการณ์หมอกพิษเหมือนดั่งในเกมส์ แม้ว่าผืนป่าจะถูกฟื้นฟู แต่ถ้าไม่มีความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากตระกูลสโตร์ก พวกเขาก็จะไม่สามารถบริหารดินแดนของพวกเขาได้และดินแดนซูเมะรากิจะหายไปในท้ายที่สุด แต่ถ้าการหมั้นกับเอริกะถูกยกเลิกจริงๆ พวกเขาก็จะไม่ได้รับความเสียหายอะไรนัก ยิ่งกว่านั้น เกี่ยวกับเนื้อหาในการยกเลิกการหมั้น ฮาโรลด์เองก็ได้แจ้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปในจดหมายแล้วว่ามันจะไม่ส่งผลอะไรแน่นอน

     ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจนัก แค่ว่าเขานั้นเชื่อมั่น

     อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังมีอีกความกังวลหนึ่ง คงจะบอกได้ว่าความกังวลนี้ถูกจัดอยู่ในเรื่อง “ความกังวลไร้สาระก็ได้” มันเกี่ยวกับเซ็นที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้เอง ดังนั้นเขาจึงเผลอกล่าวเตือนเซ็นออกมา

 

[ เอาเถอะ หลังจากนี้แกก็คิดถึงตัวเองในอนาคตเอาไว้บ้างด้วยก็ดี ]

[ ท่านหมายถึงอะไร ? ]

 

     ฮาโรลด์ได้ปรับเปลี่ยนน้ำเสียงของเขาใหม่ มันเป็นน้ำเสียงที่ไม่มีใครด้านนอกนั้นเคยได้ยินมาก่อน แต่มันก็ดังมากพอให้เอริกะที่ซ่อนอยู่ในตู้ได้ยินเช่นกัน

 

[ เหมือนที่ข้าเคยบอกแกก่อนหน้านี้ ในอนาคตอันใกล้ ตระกูลสโตร์กจะล้มสลายลง ถ้าหากแกไม่อยากกลายเป็นคนไร้งานทำ มันคงจะดีกว่าถ้าแกจะวางแผนไว้ซะแต่เนิ่นๆ ]

[ แต่ว่า ท่านไม่ได้จะใช้การทำฟาร์ม LP เป็นการป้องกันการเกิดเรื่องนี้หรอกหรือขอรับ ]

[ ถ้าไม่สามารถแก้ไขเรื่องภาษีและการผลาญเงินนั้นได้ ความเสียหายเหล่านี้จะขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ แม้ว่าข้าจะคิดหาทางเอาไว้บ้างแล้วก็เถอะ แต่ว่ามันคงไม่สำเร็จหรอก ดังนั้น ข้าก็ไม่มีความตั้งใจอะไรที่จะช่วยเหลือไอ้โง่อย่างแกหรอกนะ หัดหาอะไรทำเองซะบ้างได้แล้ว ! ]

 

     แม้ว่าเซ็น ผู้ที่จะดู มีเบิกบานอยู่ตลอด เมื่อได้ฟังเรื่องนี้เขาถึงกับนิ่งสนิท

ฮาโรลด์ เด็กชายคนนี้กับพูดถึงเรื่องล้มสลายของตระกูลได้อย่างน่าตาเฉย มันช่างน่าขนลุกเกินไปแล้ว

 

[ ถะ,ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับผู้คนในดินแดนสโตร์กล่ะขอรับ ? ]

[ ใครจะไปรู้ แต่ถ้าเป็น ทาซูคุ ซูเมะรากิ หมอนั้นคงไม่ปล่อยให้อะไรแย่ๆเกิดขึ้นกับคนพวกนั้นหรอก ]

 

     แม้สิ่งที่ฮาโรลด์กล่าวออกมานั้นมันจะฟังดูเลื่อนลอย แต่ก็มีชื่อๆหนึ่งที่เอริกะไม่คิดว่าจะได้ยินถูกเอ่ยขึ้น

 

( ทำไมชื่อของท่านพ่อถึงถูกเอ่ยขึ้นมา . . .  ? )

 

[ เอ่อ . . . ท่านฮาโรลด์หมายถึงอะไรอ่ะขอรับ ? ]

[ ในจดหมายนั้น ข้าให้อุธทรณ์แก่ฝั่งซูเมะรากิถ้าหากพวกเขาไม่มีเงินมาจ่ายก็ให้พวกเขาเอาประชาชนช่วสโตร์กไปด้วยหากตระกูลสโตร์กล้มสลาย มันก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ในความอ่อนแอของฝั่งนั้น เพราะถ้าแค่นี้ยังทำไม่ได้พวกนั้นก็คงไม่มีปัญญาเอาตัวรอดได้หรอก ]

 

     แม้ว่าเขาจะบอกว่าเป็นการอุธทรณ์ก็เถอะ มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาขอความช่วยเหลือกับซูเมะรากิให้ช่วยเหลือคนเหล่านั้น เพราะถ้าเป็นซูเมะรากิผู้ที่มีสัมพันธ์ใกล้ชุดกับทางราชวงค์ เหล่าผู้คนก็ต่างที่จะต้องการหลบใต้ร่มเงาและต้องการความช่วยเหลือจากตระกูลนี้อยู่แล้ว

     หรือก็คือ แม้ว่าคาซูกิไม่รู้ว่าทาซูคุจะยอมรับข้อเสนอนี้รึไม่ แต่เขานั้นยอมขายบุญคุณมากมายต่างๆที่ได้ทำมาทั้งหมดก็เพื่อ “คำขอร้อง” อันนี้เอง

 

( อย่างน้อยที่สุด ดินแดนนี้ก็คงตกไปอยู่ในกำมือของขุนนางคนอื่นๆ ผมก็คงทำได้แต่เพียงภาวนาให้ขุนนางตระกูลนั้นเป็นตระกูลที่ดีกว่า ณ ตอนนี้ด้วยเถิด )

 

     ถึงแม้ในเวลานั้น เขาก็คงจะไม่ได้อยู่ในดินแดนแห่งนี้อีกแล้ว เขาก็ได้แต่ขอฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับผู้ที่มาสืบทอดต่อไป

 

[ ยังไงซะ นั้นก็คือทั้งหมด ถ้าหากแกปริปากไปเล่าให้คนอื่นฟังแล้วละก็ . .อย่าคิดว่าจะรอดไปได้หรอกนะ ]

[ กะ , กระผมเข้าใจขอรับ กระผมจะไม่บอกเรื่องนี้กับใครเป็นอันขาด ขอรับ ]

 

     แววตาของฮาโรลด์ที่ทิ่มแทงออกมานั้น มันทำให้เซ็นตกใจจนพูดติดๆขัดๆ ถึงแม้มันจะเป็นเพราะเหตุผลอื่นที่ทำให้เซ็นพูดติดๆขัดๆ พร้อมกับใบหน้าของเซ็นที่สื่อประมาณว่า “ผมไม่ได้บอกคนอื่นจริงๆนะ” และคาซูกิเองก็ไม่ได้สังเกตเห็นในเวลานั้น เอาเถอะ ต่อให้ตอนนี้เขารู้สึกตัวถึงการคงอยู่ของคนที่เขาเคยก่อกรรมด้วย(เอริกะ)ที่ซ่อนอยู่ในตู้ แต่มันก็คงสายเกินเรียบร้อยแล้ว

………………………………………………………………………………

ปล.ตอนที่แล้วหักธง ตอนนี้ปักธงใหม่ขอบคุณเจ้าหมาเซ็น
ปล1. ตอนหน้าลงวันศุก 🙂