ตอนที่ 13 แย่ยิ่งกว่าหมูป่า

I Was Kidnapped By The Strongest Guild

ยอรึมมองไปที่ซอสที่คยออุลเป็นคนทำ

 

มันดูเหมือนเอาวัตถุดิบมาผสมกันมั่ว ๆ มันอร่อยจริง ๆ เหรอ?

 

เธอนึกถึงคยออุลที่ตั้งใจปรุงปลาซิวและก็ตัดสินใจลองซอสด้วยความกังวลใจเล็กน้อย

 

งั่ม—

 

“ฮืม…?”

 

มันอร่อยจนน่าแปลกใจ

 

ในช่วงเวลาที่ยอรึมกำลังชื่นชมซอส มานาในร่างกายของเธอก็พลุ่งพล่านอย่างควลคุมไม่ได้

 

‘ฮะ?’

 

มานาของเธอเพิ่มขึ้น มันขยายใหญ่ขึ้นเหมือนกับกล้ามเนื้อ

 

เอฟเฟคนี้สูงมากพอที่จะใช้ในดันเจี้ยนได้

 

เธอคาดการณ์ว่าผลเอฟเฟคน่าจะอยู่ได้ประมาณหนึ่งวัน

 

ถ้าเป็นแบบนี้ เธอคงปีนแรงค์ขึ้นไปได้อีกหลายระดับเลย

 

‘อะไรกัน…?’

 

เธอเคยเจอประสบการแบบนี้มาก่อนในตอนที่เธอดื่มชาดอกแดนดิไลออน

 

อาจเป็นไปได้ว่าอาหารที่คยออุลทำจะมีเอฟเฟคโด๊ป

 

‘แต่ตอนที่ฉันกินปลาซิวต้มเมื่อครั้งที่แล้ว ก็ไม่เห็นจะเกิดอะไรขึ้นเลยไม่ใช่เหรอ?’

 

ความแตกต่างระหว่างปลาซิวต้มกับการทำอาหารในครั้งนี้คืออะไร?

 

หลังจากครุ่นคิดแล้ว ยอรึมจึงได้ข้อสรุป

 

เอฟเฟคของอาหารที่เธอทำเพื่อ ‘เอาชีวิตรอด’ อาจแตกต่างจากการทำเพื่อ ‘พักผ่อน’

 

“คยออุลไปเรียนรู้วิธีการทำสิ่งนี้มาจากไหนเหรอ?”

 

“เรื่องนั้น เมื่อก่อนเคยมีคนสอนฉัน”

 

เคยมีคนสอน?

 

เคยมีคนอื่นอยู่กับคยออุลด้วยเหรอ?

 

ยอรึมรู้สึกโล่งใจแปลก ๆ เมื่อรู้ว่าคยออุลไม่ได้โดดเดี่ยว

 

“คยออุล…มีเพื่อนไหม? เคยเจอใครมาก่อนหรือเปล่า?”

 

มันเป็นคำถามที่ไร้เดียงสา

 

ไม่นานหลังจากนั้น ยอรึมก็ตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังทำผิดพลาดอย่างร้ายแรง

 

“……”

 

ใบหน้าของคยออุลซีดลง

 

เธอหยุดเคี้ยวเนื้อในปากและมองลงไปที่พื้น

 

ยอรึมเสียใจที่พูดคำว่า ‘เพื่อน’

 

ด้วยความที่สมองเธอโล่งไปหมด เธอจึงโบกมืออย่างร้อนรน

 

“พี่เองก็ไม่ค่อยมีเพื่อนเหมือนกัน”

 

“……”

 

เธอกำลังอยู่ในวัยที่อายเพราะไม่มีเพื่อน

 

จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะวัยไหนก็น่าอายเหมือนกันที่ไม่มีเพื่อน

 

มันเป็นคำถามที่เธอไม่ควรถามเด็กที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

 

ยอรึมรู้สึกเสียใจกับคำพูดของตัวเอง

 

“เอ่อ คยออุล…?”

 

คยออุลมีพี่เป็นเพื่อนไง

 

ก่อนที่ยอรึมจะพูดคำนั้นออกไป คยออุลก็ชิงพูดก่อน

 

“ฉันมีเพื่อน…”

 

“จริงเหรอ?”

 

“ใช่…”

 

เพื่อนคนนี้ใช่คนที่สอนคยออุลทำซอสหรือเปล่า?

 

ยอรึมไม่แน่ใจ แต่เธอก็รู้สึกโล่งใจที่คยออุลไม่ได้โดดเดี่ยว

 

“คยออุลช่วยแนะนำเพื่อนคนนั้นให้พี่รู้จักในภายหลังได้ไหม?”

 

“ด-ได้…”

 

คยออุลพยักหน้าให้ยอรึมและคิดกับตัวเอง

 

ในชีวิตก่อนเธอมีเพื่อนที่ดีมากมาย

 

แน่นอนว่าในชีวิตนี้ คยออุลไม่เคยมีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว

 

——————————————————————————————————————————

 

หลังจากที่กินบาร์บีคิวเสร็จแล้ว ยอรึมก็ทำความสะอาดและเดินไปหาคยออุล

 

คยออุลก็ทำความสะอาดที่เหลืออยู่อย่างขยันขันแข็ง

 

“คยออุล พี่จะไปที่กิลด์สักเดี๋ยวหนึ่ง ตอนที่พี่ไปแล้วช่วยพักผ่อนให้เพียงพอได้ไหม?

 

“อืม คุณหมายถึงการพักผ่อนใช่ไหม?”

 

“ใช่ อย่าฝืนตัวเองมากเกินไปและพักผ่อนให้เพียงพอ เข้าใจไหม?

 

“โอเค…”

 

ชาแดนดิไลออนกับซัมจัง

 

หลังจากที่รวบรวมของที่คยออุลทำเสร็จแล้ว ยอรึมก็มุ่งหน้าไปที่สำนักงานใหญ่ของกิลด์

 

ยอรึมตั้งใจที่จะรายงานความสามารถที่คยออุลมีให้กิลด์มาสเตอร์ได้รู้

 

ทักษะโด๊ป เป็นที่ต้องการแม้แต่กระทั่งกิลด์รุ่งอรุณเนื่องจากความหายากของมัน แต่การรายงานของเธอไม่ได้เกิดจากความโลภในทักษะนี้เพียงอย่างเดียว

 

ถ้าความสามารถของคยออุลเป็นที่รู้จัก หลาย ๆ คนคงพยายามติดต่อคยออุลแน่

 

ท่ามกลางคนพวกนั้น ต้องมีวายร้ายที่มุ่งเป้าไปที่บุคคลที่มีทักษะเฉพาะตัวอยู่แน่

 

‘มาสเตอร์บอกว่าไม่ต้องประหยัดทรัพยากร’

 

มาสเตอร์จะต้องปกป้องคยออุลอย่างสุดความสามารถแน่นอน

 

หลังจากคิดจบแล้ว ยอรึมก็เคาะประตูห้องทำงานของกิลด์มาสเตอร์

 

ก๊อก— ก๊อก—

 

“มาสเตอร์ ขอเข้าไปได้ไหมคะ?”

 

“เข้ามาได้เลย”

 

เมื่อคังจินโฮที่เป็นกิลด์มาสเตอร์อณุญาต ยอรึมก็เปิดประตูและเข้าไป

 

แต่ยอรึมก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นมนุษย์สัตว์กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของกิลด์มาสเตอร์

 

‘มนุษย์สัตว์…?’

 

ในบางครั้ง สิ่งมีชีวิตจากข้างในดันเจี้ยนก็ออกมา

 

ท่ามกลางมนุษย์สัตว์เหล่านั้น มีผู้หญิงที่มีหูหมาป่าและผู้ชายที่มีเนื้อหนังเป็นเกล็ดกิ่งก่า

 

เป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากมากที่จะมีมนุษย์สัตว์สองตนอยู่ในสำนักงานกิลด์

 

“หาที่นั่งได้เลย”

 

“ค่ะ”

 

ยอรึมสังเกตมนุษย์สัตว์ทั้งสองคนอย่างระมัดระวังในขณะที่เธอนั่งอยู่ข้าง ๆ คังจินโฮ

 

โดยปกติแล้วเธอจะนั่งเผชิญหน้ากับเขา แต่เนื่องจากมนุษย์สัตว์นั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว เธอจึงนั่งลงตรงนี้

 

‘เกิดอะไรขึ้น?’

 

ในขณะที่ยอรึมเหลือบมองคังจินโฮ ผู้หญิงที่มีหูหมาป่าก็เริ่มพูดอย่างระมัดระวัง

 

“คุณใข้พรแห่งเทพสัตว์ป่าไปแล้วใช่ไหม?”

 

“ใช่ เราใช้มันเพื่อช่วยเด็กในกิลด์ของเรา”

 

เด็กในกิลด์ของเรา

 

คำนี้สื่อถึงความเป็นหนึ่งเดียวกัน ไหล่ของยอรึมตั้งตรงขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ

 

ใบหน้าของหญิงสาวหมาป่าเริ่มบูดบึ้ง

 

“ฉันตระหนักรู้ถึงกฏของโลกนี้ดี แต่มนุษย์สัตว์อย่างเราก็มีกฏที่ต้องทำตามอยู่เช่นกัน”

 

“เข้าใจได้ แต่ถ้าจะเอาตามกฎ คุณก็รู้ใช่ไหมว่าไอเทมที่ได้รับจากดันเจี้ยนจะเป็นของกิลด์ทั้งหมด?”

 

“ฉันตระหนักดี แต่พรแห่งเทพสัตว์ป่ามันแตกต่างตรงที่มันมีความสำคัญ”

 

พรแห่งเทพสัตว์ป่า

 

มันคือไอเทมที่ให้กำเนิดราชาแห่งมนุษย์สัตว์

 

สมบัติล้ำค่าดังกล่าวไม่ได้ถูกใช้โดยมนุษย์สัตว์ แต่ถูกใช้โดยมนุษย์

 

มนุษย์สัตว์กิ่งก่าที่ก้าวร้าวกัดฟันของตัวเอง แต่คังจินโฮดูเหมือนจะไม่ได้สนใจเลย

 

“ฉันเข้าใจคุณค่าของมันดี แต่พวกเราทำอะไรไม่ได้แล้วเนื่องจากไอเทมถูกใช้ไปแล้ว”

 

“โดยปกติ คน ๆ นั้นจะถูกลงโทษตามกฎของมนุษย์สัตว์…”

 

“กฎ?”

 

“ใช่ ถ้าคนที่ไม่คู่ควรใช้พร…”

 

หญิงสาวหมาป่าลุกจากเก้าอี้ โดยที่ทุกคนในห้องต่างก็เข้าใจดี

 

กฎก็คือ ถ้าหากมีคนที่ไม่คู่ควรกินพรเข้าไป คน ๆ นั้นก็จะถูกประหารชีวิต

 

คังจินโฮเยาะเย้ยให้กับความกล้าของมนุษย์สัตว์

 

“ก็ลองดูสิ”

 

“อะไรนะ…?”

 

“ถ้าหากคุณคิดว่าคุณทำได้ ก็เชิญลองดูได้เลย”

 

ออร่าอันน่าเกรงขามที่อธิบายไม่ได้พวยพุ่งออกมาจากร่างกายของคังจินโฮ

 

มนุษย์สัตว์ตัวน้อยรู้สึกกดดันจากความน่าเกรงขามของคังจินโฮ

 

“อยากเป็นศัตรูกับเผ่ามนุษย์สัตว์ทั้งหมด…?”

 

“แล้วคุณจะทำยังไงกับเรื่องนี้? ต้องการเริ่มสงครามกับเรางั้นเหรอ?

 

“……”

 

มนุษย์สัตว์เพศหญิงเงียบลง

 

ถึงแม้สมาชิกของกิลด์รุ่งอรุณจะแข็งแกร่ง แต่ความแข็งแกร่งคังจินโฮอยู่ที่อีกระดับหนึ่งเลย

 

แม้แต่ราชามนุษย์สัตว์คนก่อนก็ยังไม่สามารถเอาชนะเขาได้

 

หากไร้ซึ่งราชา มนุษย์สัตว์ก็ไม่มีทางสู้กิลด์รุ่งอรุณได้ ต่อให้พวกเขาพยายามแค่ไหนก็ตาม

 

“อา ฉันยังพูดไม่จบเลย ขอฉันพูดต่อได้ไหม?”

 

“เชิญเล่าต่อได้”

 

คังจินโฮลดออร่าอันเข้มข้นลง

 

มนุษย์สัตว์ทั้งสองคนถอนหายใจออกมาโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น

 

“โดยปกติ เราจะปฏิบัติตามกฎของเผ่าเรา แต่พวกเราไม่ต้องการระเมิดกฎของโลกใบนี้”

 

“และ?”

 

“พวกเราอยากพบคนที่ใช้พรเพื่อประเมินว่าคน ๆ นั้นสมควรเป็นราชาหรือเปล่า”

 

ความเหมาะสมในการเป็นราชา

 

นั่นไม่น่าเป็นไปได้เลย

 

คยออุลเป็นแค่เด็กธรรมดาในสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา

 

ยอรึมอยากคัดค้านแต่เธอก็รู้ว่ามันไม่ใช่สถานการณ์ที่เธอจะพูดได้

 

ทั้งหมดที่เธอทำได้คือการสบตาของคังจินโฮอยู่อย่างเงียบ ๆ

 

“แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเด็กคนนั้นไม่คู่ควร?”

 

“พวกเราจะฝึกเด็กคนนั้น ทักษะการเรียนรู้ของเด็กจะต้องสูงขึ้นแน่”

 

เผ่ามนุษย์สัตว์จะช่วยคยออุลควบคุมพลังของราชาสัตว์ป่า

 

มันเป็นข้อเสนอที่ดี แต่ติดปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง

 

จะเชื่อใจได้ยังไง?

 

“จะมั่นใจได้ยังไงว่าคุณจะไม่ฆ่าเด็กในภายหลัง?”

 

“จำนวนประชากรของมนุษย์สัตว์มีอยู่น้อย พวกเราไม่อยากสร้างศัตรูรวมถึงมนุษย์โลกอย่างคุณด้วย”

 

“งั้นเหรอ”

 

ในฐานะชนกลุ่มน้อย พวกเขากลัวไปสร้างความโกรธแค้นให้มนุษย์โลก

 

คำกล่าวนี้น่าเชื่อถืออยู่พอควร

 

“ก็ได้ แต่ฉันจะไปพร้อมกับคุณ”

 

“ขอบคุณ”

 

พวกเขาโค้งตัวขอบคุณ

 

ยอรึมมองหญิงสาวหมาป่าโค้งคำนับและคิดกับตัวเอง

 

เธอควรมอบซัมจังให้มาสเตอร์

 

——————————————————————————————————————————

 

“อึ๋ย”

 

ฉันนอนลงบนเตียงกล่องและจ้องมองเพดาน

 

ฉันไม่รู้ว่าจะทำตามคำขอของหญิงสาวยังไง

 

—ช่วยแนะนำเพื่อนคนนั้นให้พี่รู้จักในภายหลังได้ไหม?

 

ขอให้ช่วยแนะนำเพื่อนที่ไม่มีอยู่จริง

 

ฉันโกหกไปแล้วว่ามี ฉันก็ถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว

 

‘ฉันควรทำยังไงดี?’

 

ถ้าฉันยอมรับว่าฉันไม่มีเพื่อน ผู้หญิงคนนั้นจะแสดงออกยังไง?

 

ฉันไม่รู้หรอกว่าเธอจะแสดงออกยังไง แต่ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องเยาะเย้ยฉันแน่

 

อาจเป็นไปได้ว่าเธอรู้อยู่แล้วว่าฉันไม่มีเพื่อน

 

‘ฉันควรพูดว่าเพื่อนของฉันทั้งหมดตายแล้ว…’

 

เธอจะยอมเชื่อเหรอ?

 

ฉันพลิกตัว ซุกหน้าลงบนหมอนที่ทำจากเสื้อผ้าเก่า

 

กลิ่นแชมพูที่เธอทิ้งเอาไว้ เป็นสิ่งที่บอกว่าผู้หญิงคนนั้นเคยนอนพักอยู่ตรงนี้และความจริงข้อนี้ทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น

 

ทำไมประสาทการรับกลิ่นของฉันถึงได้คมมากขนาดนี้?

 

ฉันส่ายขาขึ้นลงด้วยความรำคาญ หลังจากนั้นฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายก้าวกำลังเดินมาทางฉัน

 

“ฮะ?”

 

ปกติที่นี่ไม่มีที่ที่คนมักจะมานี่นา

 

ทำไมถึงมีเสียงฝีเท้าเยอะจัง?

 

ฉันรีบวิ่งหนีเข้าไปในที่หลบภัยอย่างตื่นตระหนก

 

ขอร้องละ อย่ามาทางนี้เลย

 

ฉันปิดฝาของที่หลบภัยและภาวนาให้พวกเขาอย่าหาฉันเจอ

 

แต่คำขอของฉันก็ไม่เป็นผลเลย เสียงฝีเท้ายังคงมุ่งตรงมาทางฉัน

 

เสียงฝีเท้าของคนสี่คน

 

มันแย่ยิ่งกว่าการที่หมูป่ามาซะอีก