“คือ ฉันอยากให้ช่วยซื้อเจ้านี่หน่อยค่ะ”

“โห อะไรล่ะ? …นี่ หัวใจของแองเกอร์แบร์เหรอ ทั้งยังสด ทั้งผ่าเก็บรักษาอย่างดีเลย ซัก 120,000 ว่ายังไงบ้าง?”

“…แพงขนาดนั้น เลยเหรอคะ?”

 

สูงกว่าที่ฉันคาดเอาไว้เกือบ 2 เท่าแหนะ

ราคาที่ต่ำจนไม่เป็นธรรมน่ะเป็นปัญหา แต่ราคาที่สูงทะลุราคาตลาดไปเยอะเองก็เป็นเรื่องน่าสงสัยเหมือนกันนะ

 

“ช่วงนี้ มันหายากมากเลยล่ะ เธอเองก็เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุใช่มั้ย?”

“ค่ะ จากหมู่บ้านย็อค… รู้จักหรือเปล่าคะ? ฉันเพิ่งเปิดร้านที่หมู่บ้านใกล้ๆ กับทะเลป่าใหญ่ ณ ตีนเขา เกอร์บา รอคฮาค่ะ”

“ว้าว! ที่นั่นเลยเหรอ!? ช่วยได้มากเลย ตั้งแต่ที่คุณตาที่อยู่ที่นั่นปิดร้านไป ก็ไม่ค่อยมีวัตถุดิบดีๆ เวียนมาเลย ฉันเองก็เจอปัญหาอยู่เหมือนกัน”

“หรือเป็นเพราะ มันแพงเกินไปเหรอคะ?”

“ใช่แล้วล่ะ ค่อนข้างขาดแคลนเลยล่ะ แล้ว เธอก็จัดการมันทันทีเลยงั้นเหรอ? ของระดับนี้นะ หายากนะที่จะเวียนมาหาน่ะ”

 

ถ้าไม่ใช่ว่าโชคดีพอที่จะฆ่ามันได้ใกล้ๆ กับหมู่บ้านพอดี คุณภาพขนาดนี้ก็เป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ

แล้วฉันก็ดีใจนิดๆ กับเรื่องคุณภาพอยู่นะ ก็นะ ทักษะของฉัน ได้รับคำชมด้วยล่ะ

 

“เธอน่ะ ยังเด็กอยู่เลย แล้วก็ยังฝีมือดีด้วย เรียนมาจากที่ไหนเหรอ?”

“…ถ้าหมายถึงอาจารย์ของฉันล่ะก็ อาจารย์ของฉันคือโอฟิเลีย มิลลิสค่ะ”

 

พอคุณพนักงานได้ยินชื่อจริงของอาจารย์ของฉันเป็นครั้งแรกหลังจากที่ไม่ได้พูดถึงมาซะนาน เธอก็ตาเบิกกว้างเลย

 

“เอ๋!? โอฟิเลีย มิลลิสนี่ ท่านโอฟิเลียคนนั้นน่ะเหรอ?”

“น่าจะใช่นะคะ? นักเล่นแร่แปรธาตุระดับปรมาจารย์น่ะค่ะ”

“จริงเหรอเนี่ย? ลูกศิษย์ของท่านผู้นั้น มาอยู่ที่ชนบทไกลลิบแบบนี้เลยเหรอ?”

 

อาจจะฟังดูน่าสงสัย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องโกหกนะ

ฉันได้ของขวัญอำลาในฐานะลูกศิษย์ด้วย แล้วเรื่องที่ฉันได้รับการสั่งสอนมาก็เป็นเรื่องจริง

ถึงจะต่างจากการแยกตัวออกมาเปิดร้านเองตามปกตินิดหน่อย แต่มันก็ไม่เกี่ยวหรอก เพราะถ้าฉันพูดอะไรอย่าง ‘ฉันเปิดร้านเองหลังจากเรียนจบเลยค่ะ’ มองจากภายนอกแล้ว มันก็ดูไม่ดีใช่มั้ยล่ะ?

 

“เอ คือแบบว่า ‘ฉันจะเปิดร้านให้ แล้วส่งวัตถุดิบหายากมาให้ฉันด้วยล่ะ’ แล้วอาจารย์ก็บอกว่ามัน ‘เหมาะสำหรับการฝึกเลยนะ’ ค่ะ…”

“อื~ม สมกับที่มีอาจารย์เป็นระดับปรมาจารย์เลยนะ โหดหินไม่น้อยเลย”

 

พอได้ยินคำพูดของฉัน คุณพนักงานก็คร่ำครวญ พลางยิ้มแห้งๆ ออกมา

แน่นอน แค่ได้ยินแบบนี้ มันก็ทำให้ฉันรู้สึกยังกับว่าตัวเองโดนโยนทิ้งเอาไว้ที่หมู่บ้านไกลลิบเลยนะ

 

“อา เปล่าหรอกค่ะ ตรงนั้นเป็นส่วนที่ฉันอยากทำเอง”

“ขนาดยังเด็กขนาดนี้ แต่ความต้องการจะพัฒนาตัวแรงกล้าไม่เบาเลยนะ! ถูกใจฉันเลยล่ะ!”

“ฮะฮะฮะ…”

 

ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีร้านอยู่ในชนบทแบบนี้เลยนะ

ที่ฉันอยากได้ ก็แค่หางานทำในร้านธรรมดาๆ ซักที่เท่านั้นเอง

 

“ฉันชื่อเลโอโนร่า เป็นผู้จัดการร้านนี้ เธอล่ะ?”

“อะ ค่ะ ฉันชื่อซาราสะค่ะ จากนี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”

“ฝากตัวด้วยเช่นกันนะ ถ้ามีนักเล่นแร่แปรธาตุมีฝีมืออย่างซาราสะอยู่ด้วยแบบนี้ จำนวนนักเก็บสะสมอาจจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งก็ได้นะเนี่ย?”

“อะฮะฮะ หวังว่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ”

 

มีวัตถุดิบเล่นแร่แปรธาตุเยอะเลยล่ะที่จำเป็นต้องจัดการทันทีที่เก็บมาเลย เพราะงั้น ถ้าไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุอยู่ใกล้ๆ ล่ะก็ คุณภาพของมันก็จะตกลงไปมาก หรือถ้าจัดการได้ไม่ดีล่ะก็ คุณค่าของมันจะเสียไปเลย

การจะเดินจากหมู่บ้านมาที่นี่ ก็ใช้เวลา 2 ถึง 3 วัน เวลาขนาดนั้น การตกลงของคุณภาพจะเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แล้วราคาขายก็ร่วงลงไปจนแทบไม่มีค่าด้วย ผลก็คือ นักเก็บสะสมก็ต้องออกไปจากหมู่บ้านเหมือนกัน

 

“ตอนแรกก็อาจจะลำบากหน่อย แต่เดี๋ยวเธอก็ผ่านไปได้―――คิดถึงจังเลยน้า เมื่อตอนที่ฉันเปิดร้านของตัวเอง ตอนที่เงินเก็บค่อยๆ ลดลงไปวันแล้ววันเล่า มันรู้สึกเหงามากๆ เลยล่ะ ซาราสะ ถ้าเธอมีปัญหาอะไร ก็มาปรึกษากับฉันได้นะ ฉันจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้เอง”

“ขอบคุณนะคะ”

“เอาล่ะ ถ้าขายหัวใจนี้ได้ ก็คงไม่มีปัญหาแล้วล่ะ แล้วถ้าเกิดเธอมีหัวใจอยู่ แสดงว่าเธอก็ต้องมีส่วนอื่นๆ อยู่ด้วยใช่มั้ย?”

“ค่ะ ฉันมีลูกตา 1 ดวง”

 

นอกจากวัตถุดิบส่วนอื่นๆ ของแองเกอร์แบร์แล้ว ฉันก็เอาวัตถุดิบอื่นๆ ที่จะขายมาเรียงไว้บนเคาน์เตอร์ คุณเลโอโนร่าก็ค่อยๆ พิจารณาพวกมันทีละชิ้นๆ ก่อนจะพยักหน้าให้

 

“อื้อ ทั้งหมดถูกจัดการเป็นอย่างดีเลย―――เป้ใบนั้นเองก็ดูดีทีเดียวเลยนะ”

“ใช่เลยค่ะ ของขวัญอำลาจากอาจารย์ค่ะ”

 

ของที่ฉันภูมิใจเลยล่ะ

แน่นอนว่า ชิ้นนี้ไม่ขายหรอกนะคะ

 

“สมกับเป็นฝีมือระดับปรมาจารย์จริงๆ คนละระดับกับของที่ฉันทำเลย ฉันซื้อทั้งหมดนี่เลยได้หรือเปล่า?”

“ค่ะ แล้วก็ ฉันมีวัตถุดิบที่อยากจะซื้ออีกนิดหน่อย…”

 

พอฉันอยู่กระดาษโน้ตไปให้ คุณเลโอโนร่าก็บอกว่า ‘รอเดี๋ยวนะ’ แล้วก็เข้าไปในตัวร้าน ไปหยิบพวกมันมา แล้วก็เอามาให้ฉัน

หลังจากหักราคาของที่เอามาขายกับราคาของที่จะซื้อ เงินสุทธิที่ฉันได้คือประมาณ 380,000 แรร์ วัตถุดิบจากแองเกอร์แบร์ขายได้ราคาสูงอย่างคาดไม่ถึงเลย

 

“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือมากเลยนะคะ คุณเลโอโนร่า”

“หือ? อะไรกัน? ทางฉันต่างหากล่ะที่ได้ความช่วยเหลือเอาไว้น่ะ”

 

คุณเลโอโนร่าที่เอาวัตถุดิบที่ซื้อจากฉันไปเก็บบนชั้นหลังเคาน์เตอร์ หันกลับมามองสีหน้าฉัน ก่อนจะเอียงคอด้วยความสงสัย ฉันก็เลย

 

“ฉันได้ยินว่าร้านเล่นแร่ในเมืองนี้ไม่ได้ต่างอะไรกัน ฉันก็เลยแวะไปที่อีกร้านนึงก่อน…”

“อ๋า ร้านของเจ้าหมอนั่นสินะ เป็นยังไงบ้าง?”

“หัวใจ เขาเสนอให้ 12,000 น่ะค่ะ”

 

พอฉันพูดแบบนั้นออกไปให้คุณเลโอโนร่าฟังพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ ในขณะที่เธอก็กำลังมีสีหน้าสนอกสนใจ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่นออกมาเลย

 

“อะฮะฮะฮะฮ่า! ช่วยไม่ได้ล่ะนะ!”

“ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะนะคะ ถ้าร้านนี้เป็นเหมือนกับร้านนั้นล่ะก็ ฉันคงจะวิ่งไปที่เมืองอื่นแล้วค่ะ”

“ฮะฮะฮะ ฉันไม่ห้ามหรอกนะ แต่มันค่อนข้างไกลอยู่นี่นา? ถ้าเธอมีวัตถุดิบจากแองเกอร์แบร์ รวมส่งไปให้อาจารย์ของเธออาจจะดีกว่านะ”

“ค่ะ ถ้าฉันมาติดต่อที่นี่ได้ไม่ดี ก็คิดเรื่องนั้นเอาไว้อยู่เหมือนกันค่ะ”

 

เพราะอาจารย์บอกให้ฉันส่งวัตถุดิบหายากไปให้ด้วยนี่นา

ถ้าเป็นแองเกอร์แบร์ที่คุณภาพขนาดนี้ ก็ คิดว่าน่าจะใช้ได้อยู่นะ

 

“ฉันก็ไม่อยากพูดให้ร้ายเพื่อนร่วมอาชีพหรอกนะ แต่จากที่ฉันเคยได้ยินมา เขาค่อนข้างจะเป็นพวกหน้าเงินโลภมากอยู่ประมาณนึงเลยล่ะ”

“เดี๋ยวก่อนนะคะ? นั่นมันน้อยกว่าราคาตลาดเกินครึ่งอีกนะคะ?”

“เขาคอยสังเกตคนที่เดินเข้ามาอยู่ตลอด ก็คงอาจจะคิดว่าตัวเองจะหลอกซาราสะได้ล่ะมั้งนะ?”

“ถึงจะมี ‘ตา’ เอาไว้มอง แต่ตาเขาก็ ‘ไม่มีแวว’ เอาซะเลยนะคะ”

 

พอฉันยักไหล่พร้อมกับสีหน้าขยะแขยง คุณเลโอโนร่าก็หัวเราะอย่างร่าเริงอีกครั้งรอบ

 

“ถูกต้องตามนั้นเลยล่ะ! อะฮะฮ่า ต้องขอบคุณเธอด้วยนะ ฉันก็เลยได้วัตถุดิบดีๆ แบบนี้มา ไว้ฉันจะดื่มฉลองให้ตามืดบอดของเจ้านั่นอีกทีก็แล้วกัน”

“คือ ฉันไม่ต้องไปซื้อขายด้วยแล้ว ฉันก็เลยไม่สนแล้วล่ะค่ะ อนาคต ฉันอาจจะให้ใครมาทำการซื้อขายวัตถุดิบแทนฉัน พอจะทำได้มั้ยคะ?”

“อา ที่นี่ก็ไกลด้วย ก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้นักเล่นแร่แปรธาตุมาด้วยตัวเองทุกครั้ง แน่นอน พวกเราจะซื้อขายด้วยราคาที่เป็นธรรม เพราะงั้น คอยพึ่งพากัน ช่วยเหลือกันเอาไว้แบบนี้ต่อไปนะ”

 

ฉันจับมือที่ยื่นมาหาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ในอกก็รู้สึกสบายใจขึ้นด้วยแล้ว

ฉันคิดว่าถ้ามาทำการเจรจา ฉันมาเองก็จะดีกว่า แต่ฉันก็ทิ้งร้านไปบ่อยๆ ก็ไม่ได้ด้วย ถ้าให้คุณดาร์นามาเป็นตัวแทน ก็จะง่ายขึ้นเยอะเลย

 

“จะว่าไป ฉันไม่คิดว่ามีรถม้าที่วิ่งไปที่หมู่บ้านนั้นนี่นา นี่เธอมีม้าขี่มาด้วยเหรอ?”

“อะ คือ ฉันวิ่งมาเองค่ะ ใช้เวลาครึ่งวัน แต่ก็เร็วกว่าม้านะคะ―――ก็แบบ ฉันไม่มีเงินไปซื้อม้าหรอกค่ะ”

 

ม้าน่ะราคาแพงจะตาย แถมต้องใช้ทั้งเงินทั้งเวลาในการดูแลด้วย

อีกอย่าง ม้าที่มีขายทั่วๆ ไปน่ะก็ช้ากว่าฉันวิ่งเองอีก…

แต่ถ้าฉันไม่มีเป้ของอาจารย์ ก็อาจจะต้องมีม้าเอาไว้เพื่อขนของนั่นแหละนะ

 

“อ๋า ยังงี้นี่เอง-… หือ? ไม่สิๆ มันไม่ได้ห่างกันแค่ครึ่งวันถึงนี่!?”

“แน่นอนว่า ใช้การเสริมแกร่งร่างกายไงล่ะคะ ฉันยังใช้ได้ไม่คล่องเท่าไหร่ ก็เลยต้องพักทุกๆ 2 ชั่วโมง แบบนั้นแหละค่ะ”

 

ต่อให้ใช้โพชั่นช่วยด้วยแล้ว นี่ก็คือขีดจำกัดของฉันแล้วตอนนี้

ถ้าฉันเพิ่มอัตราขึ้นอีกอย่างน้อยซัก 2 เท่า ก็น่าจะสามารถเช้าไปเย็นกลับไปอยู่นะ แต่ตอนนี้ ดวงอาทิตย์กำลังจะตกแล้วเนี่ยสิ

ถึงแถวนี้จะเป็นเขตที่ค่อนข้างปลอดภัยก็เถอะ แต่ยังไง ฉันก็อยากเลี่ยงการวิ่งคนเดียวเปล่าเปลี่ยวบนถนนในยามค่ำคืนอยู่นะ

 

“ไม่เลยๆ นั่นก็ไม่ปกติอยู่ดีนั่นแหละ ก่อนหน้านั้นเนี่ย การเสริมแกร่งก็ไม่ใช่ของที่ใช้ติดกันได้เป็นชั่วโมงๆ อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

“เอ๊ะ? อาจารย์น่ะ คงเอาไว้ได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ ระหว่างที่เล่นแร่แปรธาตุอยู่”

“อย่าเทียบกับระดับปรมาจารย์สิ! ตามปกติน่ะ เขาใช้กันแค่ไม่กี่สิบวินาที หรือนานสุดๆ เลยเนี่ย ก็ใช้ติดกันนานซักนาที 2 นาทีเท่านั้นแหละ ต้องมีสมาธิระดับไหนกัน ถึงได้คงสถานะของเวทมนตร์เสริมแกร่งเอาไว้ด้วย ระหว่างทำงานอย่างอื่นไปด้วยเนี่ย…”

 

คุณเลโอโนร่าจ้องฉันด้วยสายตาตกตะลึง ส่วนฉันก็เอียงคอด้วยความสงสัย

อึ~ม การเสริมแกร่งที่ฉันเข้าใจว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีเนี่ย ดูเหมือนด้วยเกณฑ์ทั่วๆ ไปจะใช้ได้ดีแล้วเลยนะ?

 

“พอใช้จนชินแล้ว ก็จะใช้ได้แบบไม่ต้องเพ่งสมาธิได้ค่ะ แต่… แน่นอนว่าก็จะเหนื่อย ก็เลยจำเป็นต้องพักด้วยน่ะค่ะ”

“เธอนี่ต้องมีของจริงๆ นะเนี่ย ท่านโอฟิเลียถึงได้รับเป็นศิษย์ด้วยน่ะ”

“แต่ ในกรณีของฉัน ความสามารถทางร่างกายดั้งเดิมของฉันออกจะแปลกนิดหน่อยน่ะค่ะ… น่าจะดีกว่านี้ถ้าเกิดร่างกายของฉันแข็งแรงกว่านี้ซักหน่อย ฉันเคยฝึกร่างกายนิดๆ หน่อยๆ เองค่ะ”

 

ฮึบ ฉันงอแขนเข้ามา แต่ไม่มีไบเซปขึ้นมาเลย

มีแต่เนื้อหนุบๆ หนับๆ เท่านั้นแหละ ไม่มีความคืบหน้าเลยซักนิด

แค่ออกกำลังกายตอนเช้ากับเย็นนี่ยังไม่พอจริงๆ สินะ?

 

“เอ๋~~ น่ารักจังเลย!! ไปทำให้กล้ามขึ้นมากเกินไปน่ะเสียของเปล่าๆ นะ!”

“เปล่าหรอกค่ะ ฉันไม่ได้จะทำให้ตัวเองมีกล้ามขึ้นบึกบึนหรอกค่ะ แต่ถ้าเพิ่มความสามารถพื้นฐานทางร่างกายขึ้นมาได้ซักนิดก็ยังดี มันจะช่วยให้การเสริมแกร่งทำได้ง่ายขึ้นด้วย”

“เอาเถอะ… รู้สึกได้เลยล่ะว่า ซาราสะน่าจะไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเรียนใช่มั้ยเอ่ย?”

 

ใช่ค่ะ ตามนั้นเลย นอกจากการฝึกแล้ว ฉันก็ไม่ได้ทำกิจกรรมกลางแจ้งเท่าไหร่

ทั้งหมดที่ฉันทำ คือนั่งเรียนอยู่ในห้องสมุดน่ะค่ะ

กลับกัน คุณเลโอโนร่ายังดูตัวใหญ่นิดนึง แล้วก็พอมีกล้ามเนื้อด้วย

 

“คุณเลโอโนร่า ฝึกร่างกายเป็นอย่างดีเลยเหรอคะ?”

“ก็นะ ตอนที่ฉันเพิ่งเปิดร้านใหม่ๆ ฉันเคยออกไปหาวัตถุดิบเองน่ะ อ๊ะ ฉันควรจะหยุดซาราสะเอาไว้ก่อนจะดีกว่าสินะ? ทะเลป่าใหญ่น่ะ ไม่ใช่ที่สำหรับมือใหม่หรอกนะ”

“รับทราบค่า~ ขนาดป่าที่ใช้ฝึกภาคสนามยังลำบากเลยค่ะ”

 

แต่ว่า คุณเลโอโนร่าก็เป็นสายลุยพอตัวเลยนะเนี่ย ถึงขนาดออกไปเก็บวัตถุดิบด้วยตัวเองเลย

เรื่องฉันจะออกไปเก็บวัตถุดิบเองมั้ยเนี่ยเอาไว้ก่อนเลยแล้วกัน บางทีฉันควรจะฝึกร่างกายตัวเองอีกซักหน่อยดีกว่าสินะ?

ฉันเคยทำแบบนั้นในคาบที่โรงเรียนอยู่นะ แต่ช่วงนี้ฉันรู้สึกขี้เกียจน่ะสิ

 

TN: ม้ารึ จะสู้สาวม้าได้ 555
เรามีรูปของชายผู้โชคร้าย เจอสาวม้าคนนี้วิ่งผ่านมาฝากจากมังงะด้วยนะครับ 555