[ เธอก็รู้อยู่แล้วว่า” ไม่มีทาง!!” ]
เมื่อผมพูดออกไป ซิลเวียถึงกับทำหน้าตกใจออกมา
ใบหน้าที่ไม่พอใจของเธอ
ที่ผมไม่ได้เห็นมานาน . .
[นายก็รู้จักเวทมนตร์ของชั้นดี! ถ้าศัตรูของนายคือกลาเครียสต้า ชั้นสามารถเป็นกำลังให้ได้นะ ]
[ นั้นและคือปัญหา เธอบ้ารึปล่าว ตอนนี้เธอน่ะเป็นผู้นำของอาณาจักรเลยนะ รู้ตัวบ้างใหมเนี้ย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนอย่างผู้นำมาอยู่ในสนามรบแบบนี้ และที่สำคัญมันผิดตั้งแต่เธอไปสู้กับเทราคิโอแล้ว ]
[ ก-ก็ตอนนั้นมัน.ชั้นไม่รู้จะทำไง กองทัพของเรากำลังเสียหายอย่างหนัก ]
[ ถ้าหากเธอตาย มันจะเลวร้ายมากเลยนะ รู้ตัวหน่อยสิ!!! ]
[ แต่ยังเหลือ “อลิเซีย” นะ สายเลือดของตระกูลชั้นยังไม่ได้หมดลง!! ]
[ ยัยลิงสมองลมเอ๊ย !!!! ]
[ ถึงชั้นจะโง่เง่า แต่ชั้นเป็นมนุษย์นะ!!! ]
[ ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นเห้ยยย!!! ]
ขณะที่พวกเรากำลังตะโกนเถียงกันอยู่
ก็มีเสียงหัวเราะเล็กๆให้พวกเราได้ยิน
[ พวกคุณทั้ง2ช่างเหมาะสมกันจริงๆ ถ้าจะทำตัวสวีทเหมือนคู่แต่งงานใหม่กันก็ไม่มีปัญหาหรอกนะ แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงสงครามอย่าลืมสิขอรับ ]
ดอลซังหัวเราะออกมาหลังจากพูดบางสิ่งที่ทำให้ผมงงไปชั่วขณะ
แย่ล่ะ มันจริงอย่างที่ตาลุงนั้นทิ้งระเบิดไว้เลย
ประโยคที่ผมพูดกับซิลเวียมันชวนเข้าใจผิดจริงๆ อาจเพราะผมกับเธอไม่ได้เจอกันมานานด้วยล่ะมั้ง ผมเลยตื่นเต้นไปหน่อย . .
[ คะ. -คู่ แต่งงาน!! ]
[ อย่าตอบสนองสิ่งต่างๆด้วยประโยคสั้นๆแบบที่เธอมักจะทำเซ่!! ]
ตอนนี้หน้าของซิลเวียเธอกลายเป็นสีแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงซะแล้ว
[ เห้อ- ลิลลิรูริ เธอบอกเวลาที่กลาเครียสต้าจะมาถึงได้รึปล่าวครับ ]
[ กลาเครียสต้า? คนนั้นไม่ได้กำลังจะมา ]
[ หาาา? ]
ลิลลิรูริเธอเอียงของสงสัยในคำพูดของผม
ถ้าจะถามผมว่าผมจะพูดอะไรต่อนะหรอ
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ลิลลิรูริที่พูดออกมาหมายความว่าอะไร
[ ไม่มา? เดียวนะ เธอบอกเองไม่ใช่หรอว่ากลาเครียสต้ากำลังมา! ]
[ หืออออ ชั้นจำไม่ได้เลยว่าเคยพูดอะไรประมาณนั้นสักหน่อย ]
โอ้ยย รู้มั้ยตอนนี้ผมงงกับลิลลิรูริจนหัวฟูไปหมดแล้ว . .
เอ๊ะ เดี่ยวนะ คู่ต่อสู้ที่ผมไม่สามารถจะสู้ได้กำลังมา และผมอยู่ในสนามรบตอนนี้
มันก็ต้องเป็นระดับ ดยุค เท่านั้น . . .
ก็มีเพียงกลาเครียสต้าคนเดียว . .
เอาล่ะ ถึงเวลามาแจกแจงดูแล้วว่าใครโผล่มาแล้วบ้าง
อืม. .วินทอส. .เทราคิโอะ แล้วก็ผู้ชายอีกคน
อะไร.. . อ้อผมยืนยันได้เลย 3 คนนี้เป็น ตัวผู้หมดเลย
ช่างน่าสิ้นหวังจริงๆ . .
หรือว่า หมายถึงระดับ ดยุค คนอื่นๆนะหรือ?
แน่นอนว่าพวกเขาเหมาะสมกับเป็นคู่ต่อสู้ของผม
แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ใช่
และที่สำคัญ ผมไม่สามารถเปิดเผยตัวโดยใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ได้
และนั้นมันทำให้บทบาทของผมในสงครามถูกลดลงไปอย่างมาก
แต่ก็นะ สำหรับตอนนี้ ผมก็แข็งแกร่งพอที่จะ “ไม่แพ้” พวกดยุค 3 คนนี้หรอก
เพราะงั้น 3 คนนี้คงไม่ใช่
เพราะผมไม่มีทางแพ้แน่นอน
เดียวสิ มีบางอย่างผิดปกติ
มันผิดปกติจริงๆ
ใช่แล้ว
พวกเราเข้าใจผิดตั้งแต่แรกต่างหาก!!
ใครเป็นคนบอกกันว่าพวกมันมาที่สนามรบเพียงแค่ 3 คนกัน!
ที่จริงในตอนแรก มีเพียงแค่ วินทอส กับกลาเครียสต้าเท่านั้นที่โผล่มาในสนามรบ
ลุงเทราคิโอ ได้โผล่มาในระหว่างที่สงครามเริ่มไปแล้ว
แสดงว่าใครจะโผล่มาตอนนี้
มันก็ไม่แปลกแล้ว .
[ ค-คะ, คือว่า ลิลลิรูริครับ มีเรื่องนึงที่ผมอยากจะยืนยัน-. ผู้หญิงคนนั้นมี- [ผม] สีอะไรครับ . . . ]
[เอ๋ ]
บ้าเอ้ย นี่มันเลวร้ายชัดๆ
ผมพึ่งจะเอาชนะ ตาลุงเทราคิโอะ โดยไม่ใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์
และตาลุงนั้นก็ได้กลับไป
นั้นหมายความว่า . . . .
ไอ้นั้นคงกำลังมาที่นี่แล้วสิ!!!!!!!!!!!!!
[ . . . . เกิดอะไรขึ้น มีอะไรอยู่ข้างหลังชั้นหรอ ? ]
เพราะว่าเธอสังเกตุเห็นว่าผมกำลังจ้องอะไรบางอย่างอยู่
เธอจึงได้หันหลังกลับไป
และสิ่งนั้นได้ปรากฎ คนที่กำลังมาจากบนฟ้า . .
ผู้หญิงที่มีผมสีแดง . . .
เธอพุ่งลงมาที่พื้นด้วยท่าชันเข่าและอีกมือยันพื้น . .
มืออีกข้างของเธอกำลังถือขวานที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ
ผิวสีฟ้าซีด . .
ปีศาจสาวผู้มีผมสีแดง
ได้พุ่งลงมาที่พื้นจนเกิดเคลื่อนลมพุ่งออกจากตัวเธอ
[ ผมสีแดงแบบนี้ใช่รึปล่าว ]
[ อืม คนนี้แหละ ยู ]
เด็กสาวไม่ควรพูดออกมาแบบนี้เลย
เพราะมันทำให้เธอกลายเป็นจุดสนใจ . .
[ ข้ามาที่นี่เพราะได้ยินมาว่าเทราคิโอถูกจัดการ นี่มันอะไรกัน ซิลเวีย นั้นเธอเองรึ อ่าา หมอนั้นพูดว่าอะไรนะ อ้อ “ไอ้เตี้ยบ้าๆบอๆ เป็นคนที่เอาชนะข้าได้” อ่าา? ]
ปีศาจสาวผู้มีหุ่นตรงตามสเป็กที่ผมชอบ
และเธอดูเหมือนจะชอบหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา
ใช่แล้วครับ
6ดาบขุนพล , เจ้าหญิงสงครามขวานเพลิง
[ อัคนีร่า !!!!!! ]
ชื่อจริงๆของเธอ คือ เฟม
หรืออีกชื่อคือ “อัคนีร่าผู้ถูกลงทันฑ์”
เธอคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม 6 ดาบขุนพล
สำหรับผมในตอนนี้ เธอคือคู่ต่อสู้ที่ผมไม่สามารถจะเอาชนะได้
แม้ผมจะใช้ความเร็วจาก เวทมนตร์กาลเวลาของ ลิลลิรูริ
ในตอนนี้มาวิเคราะห์กันก่อน
ด้านพลังของเธอถ้าเทียบกับตาลุง เทราคิโอ
แต่เธอไวกว่าตาลุงนั้นโครตๆ
พลังการโจมตีธรรมดานั้นก็ต่างกันไม่มาก
และเธอก็ยังไม่มีวันตายด้วย
เธอมีพลังของการ “เกิดใหม่” มันเป็นพลังที่เหมือนกับของนกฟีนิกซ์
การที่เธอมีพลังอมตะนั้น ทำให้เธออยู่บนจุดสูงสุดของเผ่าปีศาจ
และที่สำคัญ. . .
สมองที่เต็มไปด้วยกล้ามของเธอนั้นทำให้เธอไม่คิดหน้าคิดหลัง
รู้มั้ยมันกี่ครั้งกันที่ ผมฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่าและฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่า และฆ่าเธอกัน . . .
แต่เธอก็ยังบ้าเหวี่ยงขวานเพลิงของเธอนั้นใส่ผมอย่างมีความสุข . .
เธอมันโรคจิตขนานแท้เลย
ผู้ที่รักกลิ่นคู่ต่อสู้ของเธอเวลาโดนเธอเผา . .
และนั้น เธอคือคนเดียว ที่”ผมตอนนี้” ไม่มีทางเอาชนะได้
[ . . .อ่า? ]
[ เอ๋ ]
ผมได้ยินบางอย่าง มันเป็นเหมือนเสียงเส้นอะไรบางอย่างขาดดึงผึง
อ่าา [ชิ]. . ไม่สิ [ชุ] . . .ไม่ใช่แบบนี้
[ แกกก . . . ไอ้สวะ กล้ามากนะที่เรียก “ชื่อ” นั้นออกมาได้ ]
อ่าา รู้แล้ว มันเป็นเสียง [ชุ๊วว] เวลาไฟถูกจุดนี่เอง
ผมรู้แล้ว ผมเข้าใจความหมายของเสียงนั้นแล้ว
เพราะสิ่งที่ อัคนีร่าแสดงออกมา
มันเฉลยในทุกๆอย่าง
ชู๊มมมมมมมมมมมมมมม
สำหรับเธอที่ตอนนี้ที่กำลังเดือดจัด
ไฟได้ลุกท่วมที่ตัวเธอ . .
แน่นอนไฟท่วมแค่อัคนีร่าคนเดียวนะแต่ . . . อะ . ไร กะ—
[ ตายซะ ไอ้มนุษย์ ]
ขณะที่ผมรู้สึกว่าทำไมหัวผมจู่ๆก็ร้อนขึ้น
สติของผมของตอนนี้ก็ตัดไปในทันที