“เอาล่ะ… มาถูกทางแล้วค่ะ… ใส่ลงไปตรงนั้น… ไม่ใช่ตรงนั้นค่ะ… ใช่ค่ะ ถูกแล้ว เอาล่ะ เท่านี้น่าจะใช้ได้แล้วค่ะ”

“{ซอฟต์ วินด์ (ลมโชย)}”

 

หลังจากที่ฉันพูดแบบนั้น ฉันก็รู้สึกได้ถึงลมเบาๆ ที่พัดอยู่ในห้อง

นี่มัน…

 

“สำเร็จแล้วค่ะ ท่านลีน ท่านเรียนรู้ทักษะนี้ได้ด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อเลยค่ะ”

“เยี่ยมไปเลย! ฉันทำได้แล้วสินะคะ!”

 

หลังจากการพยายามเรียนรู้สุดชีวิตมาชั่วโมงนึงเพื่อเข้าใจการประมวลสูตรเวทมนตร์ ฉันก็ทำให้มันทำงานได้ซะที

ในที่สุด ฉันก็เรียนรู้เวทมนตร์ได้สำเร็จแล้ว

เวทมนตร์

พลังเหนือธรรมชาติที่ชาติก่อน ฉันได้แต่ฝันถึง

ฉันเรียนรู้มันได้แล้ว ถึงจะเป็นแค่เวทที่อ่อนแอที่สุดบทเดียวเองก็เถอะ แต่มันก็เป็นแรงผลักดันให้ฉันได้มากเลย

 

“เมื่อท่านทำสำเร็จได้ครั้งหนึ่งแล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะสามารถประมวลสูตรนั้นออกมาโดยอัตโนมัติได้เลยค่ะ ลองดูอีกครั้งนะคะ คราวนี้แค่เอ่ยชื่อของเวทนะคะ”

“ค่ะ งั้น… {ซอฟต์ วินด์ (ลมโชย)}”

 

ฉันรู้สึกถึงลมที่พัดมาอีกครั้ง แต่ฉันไม่ได้รู้สึกว่าต้องประมวลสูตรเวทมนตร์เลย

 

“แน่นอน ไม่ใช่ว่าเวทมนตร์ทุกบทจะสามารถร่ายได้อย่างอัตโนมัตินะคะ แล้วก็ จำนวนเวทมนตร์ที่แต่ละคนสามารถเรียนรู้ได้นั้นก็ขึ้นกับพรสวรรค์ทางเวทมนตร์ของคนคนนั้นค่ะ อย่างฉัน ฉันสามารถเรียนรู้ได้ 40 บทค่ะ ฉันคิดว่าท่านลีนก็น่าจะเรียนรู้ได้ประมาณนั้นนะคะ”

 

เข้าใจแล้วค่ะ

 

“ขอบคุณมากนะคะ คุณเทียน่า ทางฉันก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ-… แต่ฉันไม่เอาแบบอันแรกสุดแล้วนะคะ ขอร้องนะคะ”

“น่าเสียดายที่ท่านจอมมารสั่งห้ามไม่ให้ฉันทำแบบนั้นแล้วค่ะ… ฉันจะสอนท่านอย่างเหมาะสมและตรงไปตรงมานะคะ”

 

ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็อยากให้คุณสอนฉันแบบตรงไปตรงมาตั้งแต่แรกนะคะ

แต่ยังไงก็ตามการสอนของคุณเทียน่าน่ะดีมาก สมกับที่เป็น [นักปราชญ์] เลยล่ะ

ฉันว่านี่ต้องเป็นเหตุผลที่ฉันเรียนเวทมนตร์ได้เร็วขนาดนี้แน่ๆ เลย

 

“ถ้างั้น เราไปต่อที่ขั้นต่อมากันเลยดีกว่าค่ะ ก่อนอื่น เรารู้แล้วว่าท่านลีนมีความเข้ากันได้กับคุณสมบัติธาตุลมแล้วเรียบร้อย แต่เดี๋ยวฉันจะตรวจสอบความเข้ากันได้ของคุณสมบัติธาตุอื่นๆ ด้วยนะคะ”

 

…หืม?

 

“อึม… มีเวทมนตร์บางประเภทที่ไม่ใช่ทุกคนจะใช่ได้สินะคะ”

“เปล่าค่ะ ไม่ว่าใครก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้หมดตามที่คนคนนั้นต้องการค่ะ แต่เวลาที่ใช้ในการเรียนรู้จะขึ้นกับความเข้ากันได้กับเวทมนตร์นั้นๆ ค่ะ ถ้างั้น ให้ฉันตรวจสอบมันให้ท่านก่อนนะคะ”

“อ่าว แล้วทำไมเราไม่ทำแบบนั้นก่อนล่ะคะ?”

“ท่านลีนคะ… เผ่าพันธุ์แวมไพร์นั้นจะมีความเข้ากันได้กับคุณสมบัติธาตุลมมาแต่กำเนิด ฉันเลยคิดว่าจะเป็นแรงผลักดันในการเรียนเวทมนตร์กับท่านที่ดีหากเรียนรู้เวทลมได้ก่อนน่ะค่ะ”

 

โห นี่แวมไพร์มีคุณสมบัติธาตุลมในตัวเหรอเนี่ย ไม่รู้มาก่อนเลย

คุณสมบัติธาตุลมนั้นค่อนข้างครอบคลุมหลายอย่าง ขนาดธาตุสายฟ้ายังรวมอยู่กับคุณสมบัติธาตุลมด้วย

 

“ถ้างั้น ขอฝากด้วยนะคะ”

 

พอพูดแบบนั้น คุณเทียน่าก็ยื่นหน้ามาใกล้ฉัน… เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย… เรื่อย…… แล้ว… แล้วก็…

 

“ค- คุณเทียน่าคะ?! นี่กำลังจะทำอะไรคะเนี่ย!”

“ก็…ตรวจสอบความเข้ากันได้ของเวทมนตร์ไงคะ?”

“เดี๋ยว ดูยังไงก็ไม่ใช่เลยนะคะ!”

 

ถ้าดูจากด้านข้าง นี่มันต่างจากการจ-… จูบ ตรงไหนคะ…  

 

“นี่คือวิธีที่เร็วที่สุดในการตรวจสอบค่ะ โปรดเข้าใจด้วยนะคะ”

“ด-…เดี๋ยว…”

 

ฉันพยายามจะวิ่งหนี แต่ถูกจับแก้มไว้แน่นเลยทำแบบนั้นไม่ได้

ไม่นะ… ครั้งแรกของฉัน…

 

…ว้าว ขนตาคุณเทียน่ายาวจังเลย…

ฉันชอบหน้าตาเธอนะ ดูกี่ครั้งก็เป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ เลยนะ

เธอเป็นราชินีของเผ่าเอลฟ์ ขนาดฉันที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ยังตะลึงกับความสวยของเธอเลย

แถม กลิ่นของเธอทำให้รู้สึกสงบดีจัง ไม่เหมือนน้ำหอมหรอก เหมือนเป็นกลิ่นของธรรมชาติมากกว่า

 

อือ…แปลกจัง รู้สึกร้อนๆ ยังไงไม่รู้

ครั้งแรกกับเอลฟ์สาวสวยเหรอ…อาจจะไม่แย่ก็ได้มั้ง…

 

*―――ตึบ*

 

“…เอ๋?”

“อา อยู่นิ่งๆ ก่อนนะคะ หืม…อืม… เข้าใจแล้วค่ะ ท่านลีนมีคุณสมบัติธาตุครบทั้ง 4 ธาตุเลย แม้ธาตุดินค่อนข้างต่ำกว่าธาตุอื่นๆ แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหานักค่ะ แล้วก็ ท่านเข้ากับเวทฟื้นฟูได้ในระดับสูงเลยนะคะ น่าอิจฉาจัง ฉันไม่สามารถใช้เวทสายฟื้นฟูได้ซักนิดเดียว ส่วนความเข้ากันได้อื่นๆ ก็มีเวทเสริมกำลังกับเวทมนตร์ความมืดที่ดีเยี่ยมเช่นกันค่ะ… ตรงกันข้าม ท่านลีนไม่มีความเข้ากันได้กับเวทมนตร์แสงหรือเวทคุ้มครองสักนิดเลยค่ะ”

“…เอ๋?”

“อ้อ ที่ฉันทำเมื่อซักครู่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการตรวจสอบความเข้ากันได้ของเวทมนตร์ค่ะ แค่เอาหน้าผากมาชนกัน หรือก็คือ เป็นการทำให้สมองของพวกเราเข้าใกล้กันที่สุดเพื่อช่วยให้รับรู้ถึงเวทมนตร์ได้ง่ายที่สุดด้วยค่ะ นั่นคือกระบวนการที่เราใช้ในการตรวจสอบความเข้ากันได้ของเวทมนตร์-…เออ ท-ท่านลีนคะ กำลังจะออกไปไหนเหรอคะ?”

 

บ้าที่สูดดดด! ฉันเกลียดคุณเทียน่าที่สุดเลย!

 

“…เออ ใจเย็นลงหรือยังคะ?”

“…ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ”

 

ไม่กี่นาทีต่อมา หลังจากที่ฉันเกือบเปิดประตูเข้าสู่ดินแดนแห่งใหม่ ฉันอายมาก แถมโมโหมากด้วย ฉันที่วิ่งหนีออกมาก็ได้คุณเทียน่ามาช่วยพาตัวกลับมาอย่างปลอดภัย

 

“ฉันไม่รู้ว่าทำไมท่านทำแบบนั้นนะคะ แต่ถ้ารู้สึกไม่ค่อยดีตรงไหนล่ะก็… อ๊ะ ขอโทษนะคะ ท่านจอมมารติดต่อมาพอดี………… ฟู่ว… ท่านลีนคะ การฝึกเวทมนตร์ต้องให้เลื่อนไปก่อนชั่วคราวนะคะ มีสายด่วนมาจากท่านจอมมาร ท่านต้องการให้ฉันพาท่านลีนไปหาด้วยค่ะ”

“ท่านจอมมาร!?”

“ค่ะ พวกเราเชื่อมมิติไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ”

 

พอฉันเปิดประตูจากห้องเรียนออกมา มันก็นำฉันไปยังสถานที่อื่นแล้ว

แต่ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ครั้งนี้มันเหมือนห้องประชุมเลย

ผู้บริหารทุกคนมารวมกัน นั่งล้อมรอบโต๊ะอยู่ที่นี่หมดแล้ว ยกเว้นแค่คุณเทียน่า

 

“เอาล่ะ ทุกคนมารวมกันที่นี่หมดแล้วสินะ ลีน เจ้าก็รีบไปนั่งด้วยซะนะ”

 

พอฉันถูกสั่งแบบนั้น ฉันก็รีบไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนึงที่เหมือนจะถูกตั้งไว้ให้ฉัน

คุณเทียน่าก็ไปนั่งตรงเก้าอี้ลำดับที่ 3 ด้วย ตอนนี้เก้าอี้รอบโต๊ะเลยถูกนั่งจนเต็มหมดแล้ว

 

“…ทุกคนมาพร้อมแล้วนะ ขอโทษด้วยสำหรับการเรียกตัวฉุกเฉิน มีเหตุด่วนเกิดขึ้นแล้ว”

 

 

ด้วยประโยคนั้น บรรยากาศในห้องที่เดิมก็ตึงอยู่แล้ว ยิ่งดูเคร่งเครียดขึ้นไปอีก

เอาจริงๆ ตั้งแต่ที่ท่านจอมมารบอกว่าเป็นเรื่องด่วน มันก็ต้องมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นอยู่แล้วล่ะ

 

“…เมื่อไม่กี่นาทีก่อน เราได้รับเทพพยากรณ์จากท่านอิซึสึมา เนื้อความนั้นคือ…

.

.

.

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน จิตใจของ [ผู้กล้า] พังทลายลงแล้ว”