ไม่ว่าจะโตขึ้นมากแค่ไหน ปริมาณอาหารที่เด็กผู้หญิงทานได้เนี่ยก็มากเกินไปจริงๆ

พวกเรากลับมาที่ร้านหลังจากจ่ายค่าอาหารไปประมาณ 3 เท่าจากที่ฉันทานปกติ รวมกับของฉันด้วยแล้ว ฉันเปลี่ยนป้ายหน้าร้านเป็น [โหมดกดกระดิ่ง] ก่อนจะไปที่ห้องของฉันกัน

 

“ฉันฝากผ้าคลุมฟูกให้โลเรียจังจัดการได้หรือเปล่า?”

“ค่ะ! นี่เป็นครั้งที่ 2 ของฉันแล้ว ฉันคิดว่าจะทำได้ดีกว่าครั้งก่อนนะคะ!”

“คราวก่อนเธอก็ทำได้ดีมากเลยนะ เพราะงั้นต้องไม่เป็นไรแน่นอน”

 

ฉันทำหน้าที่จัดรูปฟูกในครั้งนี้เหมือนกัน แล้วเดี๋ยวเราค่อยช่วยเก็บเย็บผ้าม่านระหว่างที่สอนวิธีทำไปด้วยก็แล้วกัน

ว่าตามตรง การเอาผ้าปรับอากาศมาทำผ้าม่านเนี่ยมันก็ค่อนข้างจะเสียเปล่าอยู่นะ แต่จะย้อมสีผ้าอีกก็เสียเวลา เพราะงั้น ตรงนี้ก็แอบฟุ่มเฟือยนิดนึงแล้วกัน… ทำไมถึงขายไม่ได้กันนะ?

พวกเราค่อยๆ ทำงานกันไปอย่างสบายๆ ในระหว่างที่คุยเล่นไปเรื่อยๆ แล้วก็มีพักดื่มชากันระหว่างทางด้วย

ก่อนที่ฉันจะทันรู้ตัว ข้างนอกก็เริ่มมืดแล้ว

 

“โลเรียจัง ข้างนอกเริ่มจะมืดแล้วนะ จะไม่เป็นไรเหรอ?”

“เออคือ ทำยังไงดีล่ะคะ ฉันก็อยากทำให้เสร็จด้วย แต่ว่า…”

 

งานเสร็จไปเกินครึ่งทางแล้ว แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดว่าอีกแป๊บเดียวก็จะเสร็จแล้วแบบนั้น

 

“อื~อ ถ้าไม่รังเกียจ จะค้างคืนที่นี่มั้ยล่ะ? ฉันทำอะไรให้ไม่ได้หรอกนะ นอกจากเลี้ยงอาหารมื้อเย็นน่ะ”

“ได้เหรอคะ!? งั้น ฉันขอไปบอกคุณพ่อก่อนนะค้า!”

 

พอฉันพูดแบบนั้น โลเรียจังก็รีบลุกขึ้นวิ่งออกไปเลย

 

“…อาระอาระ”

 

ว่าแล้วเชียว การค้างคืนกับเพื่อนเนี่ย ยังไงก็น่าสนุกนั่นแหละเนอะ? ฉันเองก็ไม่เคยทำแบบนั้นมาก่อนด้วยสิ

เธออุตส่าห์มาช่วยฉันวันนี้ด้วย ฉันก็อยากให้เธอได้ทานอะไรอร่อยๆ เป็นการขอบคุณด้วยนะ แต่ฉันไม่เหมือนคุณมาเรีย ฉันก็เลยทำขนมหวานให้เธอทานไม่ได้ด้วย…

อะไรอย่างผลไม้หรือชีสจากเซาว์ท สแตรกเหรอ?

เอาวัตถุดิบดีๆ ไปให้คุณดีรัล แล้วให้เธอช่วยทำอะไรอร่อยๆ ให้โลเรียจังทานดีมั้ยนะ?

 

“กลับมาแล้วค่า!”

 

―――ระหว่างที่ฉันกำลังคิดเรื่องพวกนั้นอยู่ โลเรียจังก็กลับมาแล้ว

เร็วจัง หน้าของเธอแดงนิดๆ แล้วก็หอบหายใจไม่ทันด้วย แสดงว่าคงจะวิ่งไปวิ่งกลับตลอดทางเลยสินะเนี่ย

 

“ยินดีต้อนรับกลับนะ โลเรียจัง อาหารมื้อเย็นน่ะ―――”

“อะ ฉันควรจะกินข้าวเย็นก่อนค่อยมาที่นี่จะดีกว่าเหรอคะ…?”

 

ฉันรีบส่ายหัวให้โลเรียจัง ที่สีหน้าเปลี่ยนจากยิ้มแย้มเป็นมืดหม่นไปซะแล้ว

 

“เปล่า! ฉันจะเลี้ยงให้เองน่ะ ฉันจะทำแบบนั้น แต่เราจะไปร้านของคุณดีรัลอีกรอบนึง จะดีหรือเปล่า? ถึงมันจะไม่ใช่ ‘งานเลี้ยง’ หรอก”

“ค่ะ! แน่นอนค่ะ! ถ้าเป็นอาหารฝีมือคุณดีรัลล่ะก็ นั่นก็พอแล้วค่ะ”

“ยังงี้เอง ถ้างั้น นี่ก็มืดแล้ว เดี๋ยวฉันสั่งแบบเอากลับบ้านแล้วกันนะ”

 

โรงอาหารตอนกลางคืนที่มีคนเมาเยอะแยะเนี่ย ไม่เหมาะให้เด็กไปสุดๆ เลยล่ะ

 

“อา ให้ฉันไปด้วยมั้ยคะ?”

“ไม่เป็นไร โลเรียจังพักก่อนได้เลยนะ เหนื่อยหรือเปล่า?”

“อะ อะฮะฮะ…”

 

ฉันปล่อยให้โลเรียจังที่ยิ้มอย่างเขินๆ พลางเช็ดแก้มของตัวเอง แล้วฉันก็ทำเรื่องที่ผิดจากทุกทีไปเล็กน้อย―――ฉันไปหาคุณดีรัล พร้อมกับวัตถุดิบที่หาได้ยากในหมู่บ้านนี้ติดมือไปด้วย

ฉันให้คุณดีรัล (หรือพูดให้ถูกกว่าคือ คุณดัดลีย์ สามีของเธอนะ) ช่วยทำอาหารจากวัตถุดิบนี้ให้ที แล้วพอฉันกลับมา โลเรียจังก็ทำงานต่ออย่างขะมักเขม้นเลย

 

“กลับมาแล้วนะ โลเรียจัง ทานอาหารกันเลยมั้ย? ทานตอนที่ยังอุ่นๆ อยู่อร่อยกว่านะ”

“อะ ค่ะ… ว้าว! ดูน่าอร่อยจัง!”

 

โลเรียจังที่หยุดมือไว้ ก็ยิ้มกว้างเลยพอเธอเห็นอาหารที่หน้าตาไม่คุ้นนิดหน่อย

คุณดัดลีย์เป็นพ่อครัวที่สุดยอดไปเลยนะเนี่ย ขนาดฉันส่งวัตถุดิบแบบสุ่มๆ ไปให้ เขายังทำอาหารที่หน้าตาน่าทานขนาดนี้ได้ด้วย

 

“ถ้างั้น ทานกันเลยมั้ย?”

“ค่ะ! จะกินล่ะนะค้า!”

 

หลังจากเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อย ตบท้ายด้วยผลไม้เป็นของหวาน พวกเราก็กลับไปทำฟูกกันต่อ ในอีกไม่กี่ชั่วโมง ฟูกที่นอนก็เสร็จ บางทีอาจจะเป็นผลจากการเสริมโภชนาการก็ได้นะเนี่ย

หลังจากนี้ ก็แค่เข้านอนแล้วล่ะ แต่…

 

“โลเรียจัง จะแช่น้ำหรือเปล่า?”

“จะดีเหรอคะ!? ขนาดที่บ้านของคุณผู้ใหญ่บ้านยังไม่มีอ่างอาบน้ำเลยนี่คะ?”

“อื้อ แน่นอนสิ อ่างน้ำน่ะเป็นของจำเป็นสำหรับนักเล่นแร่แปรธาตุเลยนะ”

“ถ- ถ้างั้น! แน่นอนค่ะ!”

 

พอฉันลองถามดู เหมือนว่าโลเรียจังไม่เคยแช่น้ำมาก่อนเลย

อื~ม ก็ คนทั่วไปก็อาจจะเป็นแบบนั้นล่ะมั้ง

กรณีของฉันเนี่ย คุณพ่อคุณแม่จะแช่น้ำก่อนจะไปทำธุระใหญ่ตลอด ฉันก็เลยเคยมีประสบการณ์อยู่

คุณพ่อเคยบอกว่า ‘ถ้าเกิดตัวดูไม่สะอาด ก็ปิดการเจรจาทางธุรกิจไม่ได้หรอกนะ’

หลังจากนั้น หลังจากที่ฉันเสียคุณพ่อคุณแม่ไป แล้วเข้าไปอยู่ในบ้านเด็กกำพร้า แน่นอนว่ามันก็ไม่มีอ่างอาบน้ำอยู่แล้วล่ะ

ครั้งถัดมาที่ฉันได้แช่น้ำ ก็คือหลังจากเข้าหอพักในโรงเรียน

แต่ว่า ก็แค่ครั้งนึงในทุกๆ 2-3 วันเท่านั้น

กลับกัน ฉันได้รับอนุญาตให้ใช้อ่างที่ร้านของอาจารย์ทุกวันเลย

แล้วอ่างน้ำนี่มันก็จำเป็นสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุด้วยเหมือนกัน

 

“ดีล่ะ! ถ้างั้น โลเรียจังก็จะได้สนุกกับการแช่น้ำแล้วนะ เดี๋ยวฉันจัดการให้เรียบร้อยก่อน เพราะงั้นก็รอแป๊บนึงนะ”

 

โลเรียจังรอฉันอยู่ ส่วนฉันก็เข้าไปในห้องน้ำ

ฉันยังไม่ได้ทำอาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) เกี่ยวกับอ่างอาบน้ำเลย เพราะงั้น ก็เลยต้องใช้เวทมนตร์ทำน้ำร้อนขึ้นมาเอา

ถึงต้องใช้พลังเวทด้วย แต่งานมันก็ง่ายมากๆ เลยล่ะนะ อีกไม่นานก็พร้อมจะกลับออกไปแล้วล่ะ

 

“เอาล่ะ โลเรียจัง! เข้ามาได้แล้วนะ!”

 

โลเรียจังมองมาที่ฉันที่กำลังยิ้มอยู่ ด้วยสีหน้างงๆ ก่อนจะพูดว่า

 

“ค- คือ… คุณซาราสะ มาด้วยกันได้หรือเปล่าคะ? ฉันยังกลัวๆ อยู่…”

 

บ้านของคนอื่น แล้วก็อ่างอาบน้ำที่จะได้ลองใช้เป็นครั้งแรกเลย ฉันก็พอเข้าใจความรู้สึกอยู่นะ

 

“อา เข้าใจแล้วล่ะ แต่ ดีแล้วเหรอ? ถึงจะเป็นฉันก็เถอะ”

“ค่ะ แน่นอนค่ะ ที่จริง ฉันก็รู้สึกปลอดภัยกว่าด้วย”

 

ฉันชินกับการอาศัยอยู่ในหอพักกับคนอื่นๆ แล้วล่ะ

แต่ โลเรียจังนี่… ฉันคิดยังงั้น แต่ดูเหมือนความกังวลของฉัน มันจะไม่มีเหตุผลเอาซะเลย

 

“ยังงี้เอง ถ้างั้น มาแช่ด้วยกันเถอะ!”

 

“ฟู่ว~~ ว่าแล้วเชียว ได้แช่น้ำเนี่ยมันดีจริงๆ นั่นแหละ”

“ค่ะ อุ่นสบายดีจัง”

 

พวกเราค่อยๆ แช่ตัวลงในอ่างอาบน้ำอยู่ข้างๆ กัน

บางที คนที่สร้างอาจจะมีวัตถุประสงค์ไว้ทำอย่างอื่นก็ได้ อย่างเอาไว้ทำอาร์ติแฟกต์อะไรแบบนั้น อ่างอาบน้ำของพวกเราก็กว้างเลยแบบนี้เลย

 

 

[canvas]แต่ ในเวลาแบบนี้ ร่างกายทั้งตัวของโลเรียจังก็เลยอยู่ในสายตาของฉันเลย

―――อืม การเติบโตนี่ดีจังเลยนะ ทั้งๆ ที่เด็กกว่าฉันแท้ๆ

เอ๊ะ? นี่คือมาตรฐานงั้นเหรอ? ที่เธอดูเป็นแบบนั้นเพราะฉันเทียบเธอกับตัวฉันเองงั้นเหรอ?

ฉันไม่รู้ความเป็นจริงข้อนี้เลย แล้วก็ไม่อยากรู้ด้วย

ไม่สิ ก็ ถ้าเกิดดูอย่างใจเย็นแล้วเนี่ย มันไม่ได้ต่างกันมากขนาดนั้นหรอกนะ แต่พอเอาข้อเท็จจริงที่ว่าเธอเด็กกว่าฉันมารวมเข้าไปด้วยแล้วนี่มันก็… อึก

 

“คุณซาราสะ มีอะไรหรือเปล่าคะ?”

“อ- อือ! ไม่มีอะไรหรอก!”

 

ฉันรีบส่ายหัวตอบโลเรียจังที่กำลังดูคลางแคลงใจอยู่ บางที อาจจะเพราะฉันจ้องเธออย่างโจ่งแจ้งเกินไปก็ได้ ก่อนที่ฉันจะจมตัวเองลงไปในอ่างน้ำช้าๆ จนน้ำร้อนขึ้นมาถึงไหล่ แล้วหลับตาลง

 

“ฟู่ว… อ่างอาบน้ำนี่ดีจังเลยค่ะ ในเมืองนี่มีมันอยู่เต็มไปหมดเลยเหรอคะ?”

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ ยังไง ก็มีอยู่แค่ในบ้านของพวกคนรวยนั่นแหละ นอกจากนั้น ก็อาจจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ กับใครที่จำเป็นต้องเอาไว้ใช้ทำงานล่ะมั้ง?”

“เป็นยังงั้นเหรอคะ?”

“เป็นแบบนั้นแหละ แต่ โลเรียจัง ถ้าเกิดเธอชอบอ่างอาบน้ำนี้ล่ะก็ เธอมาได้ตลอดเลยนะ… เพราะฉันอยู่ที่นี่ทุกวันนั่นแหละ…… อาเระ? โลเรียจัง?”

 

เพราะไม่มีคำตอบกลับมา ฉันก็เลยลืมตาแล้วมองไปที่โลเรียจัง

 

“ฟุเอ๊~~ ค- คูนซาราสะ… ตามัน หมุนไปหมดเลยค่า~”

“เอ๊ะ!?”

 

โลเรียจังดูหมดเรี่ยวหมดแรง พาดตัวเองอยู่ที่ขอบอ่างอาบน้ำ

ท- ทำไมล่ะ? เป็นลมเหรอ? แต่ยังไม่ทันได้แช่นานขนาดนั้นเลยนี่นา?

 

“ป- เป็นอะไรน่ะ? ไม่สบายเหรอ?”

“ปล่าวค่า~ ทามมัย มันฟู มืนมืน หมูนหมูน… อุเฮะเฮะ”

 

ตอนที่ฉันช่วยโลเรียจัง ในขณะที่ยังสงสัยในอาการของเธออยู่ พอฉันมองที่หน้าของเธอ มันก็แดงแจ๋ ม่านตาของเธอขยาย ปากของเธอก็เปลี้ยไปหมด… อ๊ะ!

 

“นี่หรือว่า อาการเมาพลังเวทงั้นเหรอ!”

“มาว~ พะลังเวด~?”