ภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อพลังเวทในร่างกายสูงกว่าปกติ อย่างเช่น ในตอนที่อยู่ในสถานที่ที่มีพลังเวทเข้มข้นสูงเป็นเวลานาน หรือได้รับเวทฟื้นฟูมากเกินไป

สำหรับอาการ ก็เป็นแบบที่โลเรียจังเป็นตอนนี้เลยนี่แหละ ร่างกายจะร้อนแดง สมองมึนงง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดอันตรายมากขนาดนั้น แต่ถึงยังงั้น―――

 

“มันเป็น ความผิดของอ่างน้ำนี่เหรอ!”

 

อ่างน้ำนี้ ฉันใช้เวทมนตร์เติมน้ำลงไป แล้วก็ใช้เวทมนตร์ต้มน้ำ

แน่อยู่แล้วล่ะ พลังเวทปริมาณมากของฉันเองก็ต้องผสมอยู่ในนี้ด้วย

ถ้าทิ้งไว้ซักพัก พลังเวทก็จะสลายไปเองนั่นแหละ แต่พอฉันต้มน้ำเสร็จ พวกเราก็ลงแช่กันทันทีเลย โลเรียจังก็เลยดูดเอาพลังเวทพวกนั้นเข้าไปในตัวด้วย…

 

“เดี๋ยว! ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนั้นนี่นา!”

 

ฉันรีบอุ้มตัวโลเรียจังขึ้นมาด้วยการเสริมแกร่งร่างกาย แล้วก็รีบออกมาจากอ่างอาบน้ำอย่างเร็วเลย

 

“ฟุหวา~ คูนซาราสะ แขงแรงจางค่า~ เอะเฮะเฮะ”

“จ้าๆ เดี๋ยวฉันเช็ดตัวให้นะ”

 

ด้วยเหตุผลบางอย่าง โลเรียจังที่ดูจะมีความสุขดีตอนที่กอดฉันไปด้วย ก็ถอดผ้าขนหนูออก แล้วก็เอาชุดนอนของฉันไปใส่ แล้วก็ มานอนที่เตียงของฉันด้วย

ให้พักในที่ปกติๆ นี่แหละ เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และปลอดภัยที่สุดในการกำจัดพลังเวทแล้ว

แถมผ้าคลุมเตียงของฉันก็เป็นผ้าปรับอากาศด้วย เหมาะมากๆ สำหรับการดูดซับพลังเวทเลยล่ะ

 

“โลเรียจัง คืนนี้ก็นอนแบบนี้ไปก่อนนะ”

“ข้าวใจแล้วค่า~ คูนซาราสะไม่นอนเหรอค้า”

“ฉันก็นอนเหมือนกัน เออ… อยู่ที่พื้นนี่แล้วกันนะ”

 

ถึงที่นี่จะมีห้องว่างอยู่เยอะ แต่ตอนนี้ ฉันอยากจะคอยดูอาการของโลเรียจังก่อนมากกว่า

 

“เอ๋ นอนด้วยกานสิค้า นอนแล้วสะบายม้ากเลย”

“เออ… ก็ ได้นะ”

 

พอฉันโดนโลเรียจังดึงมือเอาไว้เบาๆ ฉันก็เลยคลานขึ้นไปนอนข้างๆ เธอแทน

โชคดีจังที่เตียงของคุณเกเบิร์กใหญ่พอให้นักเก็บสะสมชายตัวใหญ่ๆ นอนได้เลย

พวกเรา 2 คนที่ตัวเล็กอยู่แล้วก็เลยนอนได้ ไม่ได้เล็กเกินไป แล้วก็ต้องขอบคุณผ้าปรับอากาศด้ววย ฟูกก็เลยสบายมากๆ เลย

ถ้ามีเจ้านี่ล่ะก็ จะสามารถนอนอยู่กับคู่ของตัวเองได้ แม้แต่ในกลางฤดูร้อนเลยนะ! ถึงฉันจะไม่มีก็เถอะ!

 

“เอะเฮะเฮะ ราตีสะหวัดนะค้า”

“อื้อ ราตรีสวัสดิ์นะ”

 

ฉันพาโลเรียจังที่ยังสับสนกับการพูดของตัวเองอยู่ให้นอนหลับไป ก่อนที่ฉันจะหลับตาลงตามไปด้วยเหมือนกัน

 

2-3 วันต่อมา เตียง โต๊ะ แล้วก็ป้ายกระดานข่าวที่ฉันสั่งคุณเกเบิร์กเอาไว้ก็มาถึงแล้ว

งานช่างก็ยังดีเหมือนเดิม ให้ความรู้สึกเข้ากับบรรยากาศในร้านเป็นอย่างดีเลยล่ะ

ฉันก็เอากระดานข่าวไปแขวนบนกำแพง แล้วเอาใบปลิวประกาศเตือนแปะลงไปทันทีเลย

ที่ว่างยังเหลืออีกเต็มเลย แต่ ฉันจะเอาอะไรมาติดดีล่ะ…?

 

“หวัดดี~~”

 

ระหว่างที่ฉันกำลังมองดูกระดานข่าวแล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ประตูร้านก็เปิดออกเสียงดัง พร้อมกับลูกค้าค่อนข้างประจำอย่างคุณอังเดรก็เดินเข้ามาพร้อมการทักทายเล็กๆ น้อยๆ

 

“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณอังเดร”

“โอ้ คราวก่อนช่วยได้เยอะเลยล่ะ ทำเงินได้เต็มกระเป๋าเลย นี่ ขวดโพชั่น (ยาแปรธาตุ) เปล่านะ”

 

คุณอังเดรเท้าศอกที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะเอาขวดยารักษาบาดแผลเบื้องต้นเปล่าออกมาเรียงบนนั้น

ยารักษาบาดแผลเบื้องต้นสามารถทำได้ผลกับแค่แผลโดนบาดเล็กๆ เท่านั้นแหละ แต่เพราะอาการบาดเจ็บสาหัสไม่ใช่อะไรที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ขนาดนั้นด้วย เพราะงั้น เจ้ายานี่ก็เลยเป็นที่ต้องการที่สุดเลย

 

“ไม่เลยค่ะ ไม่เลย ฉันเองก็ได้การช่วยเหลือเอาไว้เหมือนกัน ถ้าเกิดการผ่าชำแหละทำได้แย่ มันก็เสียมูลค่าในตัวไปด้วย รับโพชั่นเดิมเลยหรือเปล่าคะ?”

“อ่า ตามนั้นเลย โพชั่นนั่นก็ช่วยได้เยอะเลยเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ใช้มันง่ายๆ แบบนี้ ก็เลยบาดเจ็บอยู่ตลอดเลยล่ะ”

 

ก่อนหน้านี้ ตามปกติ แผลที่ไม่หนักเกินไปก็จะปล่อยให้มันหายเอง ถ้าอาการบาดเจ็บไปขัดขวางในการทำงานถึงค่อยใช้โพชั่น

แต่ถึงจะไม่ได้แย่มาก มันก็ยังเจ็บอยู่ดี จะบอกว่าไม่มีผลเลยก็คงไม่ได้หรอก

ดูเหมือนแผลแบบนั้น ตอนนี้ก็จะรักษาเป็นอย่างดีทุกครั้งก่อนที่จะทันส่งผลอะไรแล้วล่ะ

 

“ถ้าการเก็บสะสมของทุกคนเป็นไปได้ด้วยดี มันก็เป็นผลดีกับทางฉันเองด้วยเหมือนกันค่ะ”

“ไม่หรอกๆ ถึงยังไง ก็ไม่มีที่ไหนให้บริการแบบนี้ด้วย―――หือ? นี่อะไรเนี่ย?”

 

สังเกตเห็นกระดานข่าวของฉันทันทีเลยสินะ

ดีล่ะ อธิบายให้ฟังอย่างนุ่มนวลเลยก็แล้วกัน

 

“อา ฉันเพิ่งเอามาติดวันนี้เองค่ะ ประกาศแจ้งเตือน? ล่ะมั้งคะ”

“โอ้โห เตือนภัยเหรอ? ―――เจ้านักเล่นแร่แปรธาตุนั่น มันเป็นคนแบบนี้เหรอเนี่ย?”

“แค่เพราะฉันถูกทำแบบนั้นใส่ตอนที่ฉันไปที่นั่นน่ะค่ะ คงคิดว่าฉันเป็นแค่เด็ก ก็เลยดูถูกนั่นแหละค่ะ”

 

คุณอังเดรมองดูใบปลิวที่ฉันเอามาติดเพื่อเตือนให้ระวัง เขาก็มีสีหน้าครุ่นคิดอย่างหนักเลย

ใบปลิวอันนั้น แค่บอกข้อเท็จจริงโดยไม่ได้ใส่สีตีไข่อะไรแปลกๆ ลงไปเพิ่มเลยแม้แต่นิดเดียวนะ

โดยเฉพาะแค่เรื่องที่ว่า [ถ้าคุณเอาวัตถุดิบเดียวกันไปที่ร้าน 2 ร้าน ราคารับซื้อมันต่างกัน 10 เท่าเลย]

แน่นอนว่า ฉันเขียนไว้ชัดเลยว่าร้านไหนให้ราคาดี ร้านไหนกดราคาน่ะ

 

“ถึงยังงั้นก็เถอะ ต่างกันตั้ง 10 เท่านี่มันก็นะ ถ้าเป็นพวกข้าก็คงแยกไม่ออกหรอก ถ้าเกิดมีคนมาบอกว่า ‘ของมันเสียหาย’ น่ะ”

“ฉันถูกพูดมาแบบนั้นเลยล่ะค่ะ”

 

ฉันมั่นใจในการจัดการกับวัตถุดิบของตัวเองเลยล่ะ แล้วฉันก็ประเมินคุณภาพของมันได้ด้วย เพราะงั้น ฉันก็เลยออกจากร้านนั่นมาทันทีเลย แต่ถ้าเกิดว่าเป็นนักเก็บสะสมที่โดนชี้ตรงนั้นตรงนี้ พวกเขาก็ไม่รู้หรอกว่ามันจริงหรือเปล่า นิสัยแบบนี้น่ะแย่ที่สุดเลย

 

“ดูไม่ออกรึไงว่าซาราสะจังเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุน่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า เป็นเจ้าบ้าที่โง่เง่าชะมัด ข้าก็ไม่ได้คิดว่าจะไปขายของที่ร้านนั้นหรอก เพราะยังไงก็มีร้านนี้อยู่แล้ว แต่ข้าก็จะจำเรื่องนี้เอาไว้ละกัน”

 

ค่า ช่วยจำเอาไว้ แล้วก็เอาข่าวไปกระจายให้ทั่วเลยนะคะ

ฮุฮุฮุ! ร้านเล่นแร่ที่ชั่วช้าน่ะ ให้มันเจ๊งไปเลยค่า!

―――โอ๊ะ จุดประสงค์ที่แท้จริงหลุดออกมาแฮะ

ไม่หรอก แต่เอาจริงๆ การมีอยู่ของคนแบบนั้นเป็นเพื่อนร่วมสายอาชีพเนี่ย มันน่าหงุดหงิดมากเลยนะ

ตอนที่ชื่อเสียงของนักเล่นแร่แปรธาตุเสื่อมเสียไป นักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่นๆ อย่างฉันเองก็จะโดนผลกระทบไปด้วยน่ะสิ

 

TN: “นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ^^”
―――ซาราสะ (ไม่) ได้กล่าวไว้―――

 

“แต่อันที่จริง พอซาราสะจังมาที่นี่ ก็ช่วยนักเก็บสะสมอย่างพวกข้าไว้ได้เยอะเลยนะ รู้รึเปล่า? เพราะรายได้ที่หาได้เนี่ยต่างกันเยอะ! ก็ เพราะแบบนั้น จำนวนคู่แข่งถึงได้เพิ่มมาเยอะเลยล่ะ ช่วงนี้”

“อา จำนวนนักเก็บสะสมยังเพิ่มขึ้นอยู่สินะคะ สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน คึกคักกันหน่อย ฉันคิดว่าก็ดีนะคะ แต่ว่า…”

“ไม่หรอก ข้าว่าแบบนี้เองก็ดีแล้วนะ จริงมั้ย? แต่ก็นะ ยังมีพวกมือใหม่ที่เข้าใจอะไรยากอยู่ด้วย”

“เรื่องนั้น… จริงๆ มันก็เป็นเรื่องที่ฉันรู้สึกอยู่นิดหน่อยนะคะ”

 

ฉันเองก็เห็นด้วยกับคุณอังเดรนะ ที่ตอนนี้เขากำลังกอดอก ขมวดคิ้วอย่างลำบากใจ

ทะเลป่าใหญ่น่ะ ก็สมกับที่ชื่อบอกนั่นแหละ ป่านี้ค่อนข้างจะอันตรายอยู่พอควรเลย

อย่างน้อย ถ้าเป็นเรื่องที่พวกมือใหม่คิดว่า ‘แค่เข้าไปก็ทำเงินได้แล้ว’ เนี่ย ก็หมายความว่าพวกเขาเอาชีวิตเข้าไปทิ้งแล้วนั่นแหละ

ช่วงแรกๆ คนที่เข้ามาที่ร้านของฉันก็มีแต่พวกมือเก๋าหมดเลย แต่ช่วงนี้ ฉันก็เริ่มเห็นพวกมือใหม่บ้างแล้ว… ก็นะ มันก็เป็นความรับผิดชอบของฉันด้วยถ้าเกิดนักเก็บสะสมฝืนตัวเองจนต้องตาย ฉันก็จะไม่ว่าอะไรหรอก นอกจากมันจะไปทำร้ายใครก็ตาม

 

“ตอนนี้ ข้าก็ทักให้ระวังกันไประดับนึงแล้วนะ แต่พวกมือใหม่ไม่ใส่ใจกันก็เยอะอยู่”

“ลำบากเลยนะคะนั่น แม้แต่กับพวกมือเก๋าเอง”

“เอาเถอะ พวกข้าก็เคยเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ต่อให้เกิดอะไรขึ้น ก็คงไม่ไปขอให้ซาราสะจังทำอะไรหรอก ทำแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ”

“เข้าใจแล้วค่ะ ที่หมู่บ้านนี้ก็ไม่มีแพทย์อยู่ด้วย”

 

หน้าที่ของนักเล่นแร่แปรธาตุเอง ก็ต้องเป็นที่พึ่งพาเวลาใครเจ็บไข้ได้ป่วยด้วย ก็อย่างว่าล่ะนะ ถึงจะแค่ใน [ขอบเขตที่ทำได้] แต่พวกเราก็ต้องทำอะไรซักอย่าง

ฉันก็ไม่อยากจะรีบด่วนตัดสินเกินไปหรอกนะ แล้วฉันก็ไม่อยากให้เรื่อง ‘ถ้าเกิดว่า’ แบบนั้นมันเกิดขึ้นด้วย

ฉันมองดูคุณอังเดรที่เติมโพชั่นจนเต็มใหม่เรียบร้อยเดินออกจากร้านไป ระหว่างที่นั่งเท้าศอกอยู่ที่เคาน์เตอร์ร้านพลางคิดเรื่องพวกนั้นอยู่แบบเรื่อยเปื่อย ก็มีเสียงกริ่งดังขึ้นที่ประตูอีกครั้งนึง

*กริ้ง กริ้ง*

พอได้ยินเสียงนั้น ฉันก็เงยหน้าขึ้นไปทักทายตามปกติ

 

“ยินดีต้อนรับค- ―――อาจารย์!?”

“โอ้ ซาราสะ ยังสบายดีใช่มั้ย?”