“ยินดีต้อนรับค- ―――อาจารย์!?”

“โอ้ ซาราสะ ยังสบายดีใช่มั้ย?”

 

คนที่ยกมือตอบกลับมาอย่างใจเย็น เป็นอาจารย์ของฉัน โอฟิเลีย มิลลิส ไม่ผิดแน่นอน

 

“สบายดีค่ะ… แต่นี่มันยังไงกันน่ะคะ!?”

“เอ? การมาดูว่าลูกศิษย์ตัวเองเป็นยังไงบ้างเนี่ย มันแปลกตรงไหนเหรอ?”

“ก็ไม่ได้แปลกหรอกค่ะ… ไม่สิ! มันแปลกมากอยู่แล้วสิค่ะ! คิดว่าพวกเราอยู่ไกลกันขนาดไหนล่ะคะ!?”

 

อาจารย์เป็นหนึ่งในนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปรมาจารย์ที่มีอยู่แค่ไม่กี่คน และพูดไปก็อาจจะฟังดูแปลกนะ แต่อาจารย์น่ะค่อนข้างจะงานรัดตัวเลย

ปริมาณงานที่อาจารย์จะรับก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของอาจารย์เอง แต่คนที่ต้องการจะส่งคำร้องขอน่ะมีเต็มไปหมดนั่นแหละ

พอคิดแล้วว่าฉันใช้เวลาเดินทางมีที่นี่เดือนนึง ถ้าจะไปกลับก็ต้องใช้เวลา 2 เดือนเลยนะ

การจะปิดร้านนานขนาดนั้นน่ะ เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

 

“ก็จริงของเธอนะ ใช้เวลาตั้ง 3 วันแน่ะ”

“ใช่มั้ยล่ะคะ! เวลาขนาดนั้นน่ะ! ―――เอ๊ะ? 3 วัน?”

“อ้า ใช่แล้ว 3 วัน”

“ได้ยังไงน่ะคะ!? ตอนที่ฉันมา ต้องเปลี่ยนรถม้าไปๆ มาๆ ใช้เวลาตั้ง 1 เดือนเลยนะ!”

“เพราะฉันวิ่งมาไงล่ะ”

“ไม่ใช่แล้วค่ะ มันเร็วกว่าวิ่งด-… ไม่สิ ถ้าเป็นอาจารย์ ก็อาจจะเป็นไปได้ก็ได้ แต่ แค่ 3 วันเองเนี่ยมัน!”

“ถ้าฝึกฝน เดี๋ยวเธอก็ทำได้นั่นแหละ ซาราสะ แสดงว่าเธอยังฝึกฝนไม่พอสินะ?”

“ถึงอาจารย์จะพูดเหมือนนักรบแบบนั้นก็เถอะค่ะ… พวกเราเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุไม่ใช่เหรอคะ?”

“ก็นะ แต่ถ้างั้น ก็ต้องใช้หัวสิ”

“อ๋า เข้าใจแล้ว อาจารย์ใช้อาร์ติแฟกต์ (อุปกรณ์แปรธาตุ) หรือโพชั่น (ยาแปรธาตุ) พิเศษอะไรซักอย่างใช่มั้ยล่ะคะ!”

“เปล่า ฉันไม่ได้ใช้อะไรทั้งนั้นแหละ”

“อ่าว”

 

พูดเรื่องที่แปลกมาก จนเผลอเอามือขึ้นมาตบมุกเลยค่ะ

 

“แต่ว่า ถ้าคอยฝึกฝนอยู่เสมอมันก็ดีกว่า จริงมั้ย? ถ้าเกิดเธอหาวัตถุดิบเล่นแร่แปรธาตุมาไม่ได้ ก็ต้องออกไปหา แล้วก็เก็บกลับมาเองไงล่ะ”

“อาจารย์ก็ด้วยเหรอคะ?”

“สมัยก่อนนะ ก็ พอขึ้นมาเป็นระดับปรมาจารย์แล้ว จะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นนั่นแหละ”

“อา ลูกค้าที่เอาวัตถุดิบมาเองก็มีใช่มั้ยคะ?”

 

ขนาดตอนที่ฉันทำงานพิเศษอยู่ ก็มีลูกค้าไม่น้อยเลยที่มาหาฉันหลังจากเก็บวัตถุดิบที่หาได้ยากมาเพื่อให้อาจารย์ช่วยรับงานด้วยน่ะ ลูกค้าแบบนี้ก็มักจะเป็นขุนนาง ไม่ได้ใช้ความพยายามมากขนาดนั้นในการเก็บสะสมวัตถุดิบ แล้วก็มีแนวโน้มว่าอาจารย์จะรับงานแบบนี้สูงอยู่นะ แต่ก็แน่นอน ถ้าเป็นใครที่อาจารย์ไม่ชอบ ต่อให้เอามา ก็จะเป็นอาจารย์นี่แหละที่ปฏิเสธงานไปง่ายๆ เลย

แล้วก็ เพราะเป็นระดับปรมาจารย์ด้วยนี่แหละถึงได้สามารถทำแบบนี้ได้

 

“จะว่าไปแล้วเนี่ย ฉันไม่เคยสอนวิธีสู้ให้เธอเลยสินะ”

“ค- ค่ะ เคยได้ฝึกอยู่บ้างตอนเรียนที่โรงเรียนนะคะ แต่”

 

ถึงจะแค่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ระดับที่จะแพ้พวกสัตว์ป่าหรอกนะ ตอนที่ฝึกการเก็บสะสมวัตถุดิบ อาจจะเก่งกว่าพวกโจรที่ไม่ได้รับการฝึกอย่างเหมาะสมอีกด้วยซ้ำ

 

“แค่เรื่องการฝึกล่ะนะ ดีล่ะ ฉันอุตส่าห์มาถึงที่นี่แล้ว ฉันจะเบามือให้ก็แล้วกัน”

“คะ? นี่เป็น เรื่องการแนะนำในการเล่นแร่แปรธาตุอย่างทุกทีใช่มั้ยคะ?”

“ถ้าติดปัญหาอะไร ฉันก็ว่าจะช่วยอยู่หรอก แต่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ติดขัดอะไรใช่มั้ยล่ะ?”

“ค่ะ ก็เป็นยังงั้นค่ะ”

 

ฉันมีวัตถุดิบไม่พอ แต่จนถึงตอนนี้ ฉันยังมีประสบการณ์ไม่พอ ก็เลยยังไม่ชำนาญพอที่จะทำมัน

ถ้าจะบอกว่าเป็นขอบเขตของการศึกษาด้วยตัวเอง ก็คงได้ประมาณนี้ล่ะมั้ง

 

“ในจุดนี้เนี่ย การฝึกการต่อสู้ ถ้าได้คนช่วยสอนจะมีประสิทธิภาพกว่านะ ถ้างั้น ไปกันเถอะ”

“เอ๊ะ ด- เดี๋ยวสิคะ อาจารย์! รอเดี๋ยวสิคะ!”

 

ฉันโดนคว้ามือลากออกมานอกร้านซะแล้ว

พื้นที่ระหว่างร้านของฉันกับบ้านของคุณเอลลิสที่อยู่หลังข้างๆ มีที่เปล่าๆ โล่งๆ แบบถมเถ ก็เลยมีพื้นที่สำหรับออกกำลังกายเบาๆ กันตรงนี้เยอะแยะเลย

ฉันควรจะพูดโชคดีจัง หรือว่าโชคร้ายจังดีกันนะ

ถ้าเป็นโชคดีจริง ก็คงจะรู้สึกขอบคุณมากๆ เลย…

 

“ซาราสะใช้อะไรเป็นอาวุธเหรอ?”

“เออ คือ เคยใช้ดาบอยู่ช่วงนึงนะคะ… อ๊ะ จริงด้วยค่ะ ฉันไม่มีดาบอยู่ด้วยซักเล่มเลย ช่วงฝึก ฉันยืมของที่โรงเรียนเอาน่ะค่ะ อา~ น่าเสียดายจัง”

 

ฉันซื้อดาบมาใช้เองไม่ไหวหรอก

ฉันไม่ได้ใช้นอกห้องเรียนเลย เพราะงั้น ฉันก็เลยยืมของที่โรงเรียนใช้เอา

ตอนนี้ ฉันมีมีดสั้นเล่มนึงเอาไว้ป้องกันตัวระหว่างเดินทาง แต่นั่นก็เป็นของอย่างเดียวที่ฉันมีเลยล่ะ

โชคดีที่ไม่ต้องเจอสถานการณ์ไหนที่ต้องหยิบออกมาใช้เลยล่ะนะ

อา ถึงยังงั้น ทักษะการใช้ดาบของฉันก็ดีที่สุดในรุ่นเลยนี่นา?

เหตุผลเหรอ แน่นอน! เพราะมันมีรางวัลในการสอบทักษะกระบวนดาบด้วยไงล่ะ!

ยิ่งกว่านั้น มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับการเล่นแร่แปรธาตุขนาดนั้นด้วย คนที่ไม่ได้มีเป้าหมายเรื่องเงินรางวัลก็มักจะไม่จริงจังกับเรื่องนี้เท่าไหร่ ในสถานการณ์แบบนั้น ไม่ว่ายังไง ฉันก็ต้องพยายามอย่างเต็มที่อยู่แล้ว!

พอคนส่วนใหญ่ไม่ได้จริงจังกับเรื่องนี้ แล้วฉันเป็นคนที่มุ่งมั่นกับมัน ครูสอนดาบก็เลยช่วยชี้แนะให้ฉันเยอะเลย

แต่ก็นะ เพราะจุดประสงค์ของฉันมันคือเรื่องเงินรางวัล ก็เลยไม่ใช่ว่าฉันชอบวิชาดาบเป็นพิเศษหรืออะไรแบบนั้นหรอก

 

“อะไรกัน ไม่มีกระทั่งอาวุธเป็นชิ้นเป็นอันเลยงั้นเหรอ? ช่วยไม่ได้นะ”

“นั่นสินะคะ ถ้างั้น วันนี้ก็- ―――”

“เอานี่แล้วกัน ไม่ใช่ของดีขนาดนั้น แต่ก็ใช้ได้อยู่นะ”

 

ก่อนที่ฉันจะทันได้พูดว่า ‘แค่นี้แล้วกัน’ อาจารย์ก็ล้วงเอาดาบเล่มนึงออกมาจากกระเป๋าข้างเอว แล้วโยนมาให้ฉันแล้ว

 

“หวา!”

 

ฉันรีบคว้ามันเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ ชักดาบเล่มนั้นออกมา สิ่งที่ปรากฏก็คือใบดาบที่ใหญ่พอจะสะท้อนหน้าของฉันได้ชัดเจนเลย อาจารย์ให้ฉัน แสดงว่าไม่ใช่แค่ให้ชื่นชมแน่ๆ

 

“จะดีเหรอคะ? ดูมันจะแพงน่าดูเลย”

“ไม่ต้องใส่ใจหรอก ความทนก็ระดับนึง ไม่ได้เป็นดาบที่ดีอะไรขนาดนั้น”

 

ไม่ได้เป็น ‘ดาบที่ดีอะไรขนาดนั้น’ นั่นคือคำที่อาจารย์ของฉันพูดสินะ

อย่างน้อย แค่ดู ก็รู้แล้วล่ะว่ามันแพงน่ะ… ฉันขอรับมันเอาไว้อย่างไม่ลังเลเลยแล้วกัน

 

“ถือเอาไว้ซะ แล้วดูแขนของฉันให้ดี”

“เออ คือ ให้ใช้ดาบเล่มนี้เลยเหรอคะ?”

 

อาจารย์หยิบดาบที่ดูทื่อๆ อีกเล่มนึงออกมา ดูเหมือนจะเป็นดาบสำหรับใช้ฝึก แต่ดาบที่ฉันถืออยู่ตอนนี้น่ะเป็นดาบจริงๆ เลย ไม่ว่าจะมองยังไง นี่ก็ไม่ใช่ดาบที่เอาไว้ใช้ฝึกซ้อมเลยนะ

 

“โอ๊ะโอ เธอคิดจริงๆ เหรอว่าจะฟันโดนฉันน่ะ?”

“กึก…”

 

พออาจารย์พูดแบบนั้นพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ฉันก็พูดอะไรไม่ออกเลย

แน่นอนล่ะว่าไม่มีทางอยู่แล้ว!

แต่ว่า มันก็น่ากลัวอยู่ดีนี่? ถ้าเกิดฉันเผลอทำร้ายอาจารย์ล่ะ

 

“เอาเถอะ วางใจได้เลย ต่อให้ฉันกำลังจะตาย ฉันก็มีโพชั่นสำหรับฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสมบูรณ์อยู่ตลอดอยู่แล้ว ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ล่ะนะ เพราะงั้นนะ ซาราสะ ไม่ต้องกลัวจะบาดเจ็บหรอก เข้ามาได้เลย”

“ฉันเกลียดการบาดเจ็บนะคะ! เป็นยังไงไม่รู้ด้วยแล้วนะคะ!”

 

ฉันหงุดหงิดอาจารย์นิดหน่อยที่กำลังกวักมือเรียกฉันเข้าไปหา ฉันก็เลยพยายามโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็แน่ละ การโจมตีนั่นถูกรับไว้ได้ง่ายๆ เลย

ขนาดโจมตีต่อเนื่อง ก็ถูกหยุดเอาไว้ง่ายๆ แถมยังโดนปัดออกไปด้วย ยังกับว่าฉันกำลังโจมตีใส่ของนิ่มๆ หยุ่นๆ เลย นี่ขนาดฉันใช้การเสริมแกร่งเพิ่มความเร็วของตัวเองไปแล้วด้วยนะ!

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ซาราสะ เธอเนี่ย เก่งกว่าที่ฉันคิดอีกนะ? นี่คือสิ่งที่เธอได้จากแค่ในห้องเรียนจริงๆ เหรอ?”

“พูด! แบบนี้! ทั้งที่! ปัดทิ้ง! ง่ายง่าย! ไม่ได้! น่าเชื่อ! ซักนิด! เลย! ค่ะ!”

“อึม ถ้าทักษะแบบนี้ได้มาจากแค่ในห้องเรียนอย่างเดียวล่ะก็ ไม่แน่นะซาราสะ เธออาจจะมีพรสวรรค์อย่างคาดไม่ถึงเลยก็ได้…”

 

อาจารย์พูดคุยได้ตามปกติ แต่ระหว่างนั้น ฉันก็กำลังโจมตีใส่อย่างเอาเป็นเอาตายเลย ใช่ แบบนั้นแหละ

ว่าตามตรง ฉันอยากจะพูดว่า อย่ามาล้อเล่นสิคะ

นี่ทักษะวิชาดาบที่ดีที่สุดในรุ่นทำได้แค่เล่นสนุกเองเหรอ? นี่ได้พยายามหรือเปล่าเนี่ย?

 

“ให้ตาย~ แบบนี้ค่อยควรค่าที่จะฝึกให้แล้วสิ!”

 

อาจารย์เล่นกับดาบของฉันดัง *แก๊ง แก๊ง* ไปมา

ฉันไม่มีเวลาพอจะพูดอีกแล้ว ก็เลยทิ้งระยะห่างออกมา แล้วก็ถอนหายใจ

 

“อาจารย์น่ะ เป็นนักเล่นแร่แปรธาตุจริงๆ น่ะเหรอคะ?”

 

ใช่แล้ว เอาจริงๆ ฉันก็แอบมั่นใจนิดๆ อยู่นะ

ก็ถึงขนาดที่เดินทางคนเดียวมาในถิ่นชนบทขนาดนี้ด้วยมีดสั้นเล่มเดียวเลย

―――ความมั่นใจนั่น ตอนนี้พังทลายไม่มีชิ้นดีแล้วล่ะ

จะว่าไป ขนาดสู้กันหนักขนาดนี้ ประกายไฟจากดาบก็กระจัดกระจาย แต่ไม่มีรอยบิ่นซักรอยที่คมดาบให้เห็นเลย สมแล้วล่ะ เป็น [ดาบที่ถึกทนดี] จริงๆ ด้วย

 

“…อาจารย์ค่ะ ยังจะต่ออีกเหรอคะ?”

“พูดเรื่องอะไรน่ะ? ฉันแค่จะตรวจกำลังแขนของเธอนิดหน่อยเท่านั้นเอง การสอนอย่างจริงจังยังไม่ได้เริ่มเลยนะ ต่อจากนี้เลยมั้ย?”

“เอาจริงเหรอคะ…”

 

พอเห็นอาจารย์หัวเราะอย่างมีความสุขแบบนั้น ฉันก็กระชับดาบในมือให้พร้อม ในใจก็รู้สึกกลัวแล้ว

 

“เอาล่ะ เธอจะได้เห็นผลบ้างในเวลาครึ่งวันนี่แหละ วางใจได้เลย”

 

ให้วางใจเรื่องอะไรกันล่ะคะเนี่ย

แต่ อีกฝ่ายก็เป็นอาจารย์ด้วย แล้วไหนจะเรื่องที่ฉันก็ติดหนี้อาจารย์อีก ไม่ว่าอาจารย์จะบอกให้ฉันทำอะไร ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำมันอยู่แล้ว

ก่อนอื่น เริ่มตั้งแต่วิธีการเหวี่ยงดาบ เป็นการฝึกตามสั่งที่ธรรมดาจังเลย

แล้วในเวลาแบบนี้เนี่ย ก็ดันไม่มีลูกค้ามาซักคนเลย

ไม่สิ พูดให้ถูกกว่าคือ เหมือนพวกเขาจะมาแล้วนะ แต่พอพวกเขามองเห็นฉันกับอาจารย์จากที่ไกลๆ ก็หันหลังกลับไปตั้งแต่กลางทางแล้ว เหมือนพวกเขาจะเห็นว่าไม่ควรจะเข้าไปขวางยังไงยังงั้นเลย

ทุกคนค้า~ ไม่ต้องยั้งเอาไว้ก็ได้นะคะ?

คุณลูกค้าไม่ได้ขัดขวางอะไรเลยค่า! จริงๆ น้า!

―――เสียงกรีดร้องในใจของฉันเหมือนจะไปไม่ถึงเลย การฝึกระหว่างฉันกับอาจารย์ก็เลยดำเนินต่อเนื่องไปจนอาทิตย์ตก จนฉันไม่อยากจะหันกลับไปมองดาบเลยล่ะ

 

TN: สาวม้าน่ะ สู้เทรนเนอร์สาวม้าไม่ได้หรอกนะ 555