บทที่ 2 ตอนที่ 3 

 

    ภายในป่าตอนกลางคืนที่ถูกสาดส่องด้วยแสงจันทร์ ตัวผม รู้สึกได้ถึงการหายใจของสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนผสมกับเสียงของแมลงและกลิ่นของเลือดจางๆ

    พลันเมื่อเคลื่อนย้ายมาสู่ชั้นล่างสุด จิตสังหารของสัตว์จำนวนนับไม่ถ้วนที่รุนแรงก็ทำเอาขนลุก

    ถ้าเป็นผมเมื่อตอนเริ่มผจญภัยครั้งแรก เพียงแค่นี้อย่างเดียวก็คงทำเอาผมหวาดหวั่นได้แล้ว แต่ผมยิ้มขึ้นเล็กน้อย

    พักนี้ พอได้รู้สึกถึงบรรยากาศชวนขนลุกนี่ ก็เหมือนกับว่า『ได้กลับมาในที่ที่ควรอยู่』…..เริ่มจะมีความคิดแบบนั้น

    นี่หมายความว่าผมเองก็คงค่อยๆกลายเป็นนักผจญภัยแล้วล่ะมั้ง ขณะที่คิดอะไรอยู่แบบนั้น ผมก็เชื่อมต่อลิงค์ที่ถูกตัดขาดไปจากการเคลื่อนย้าย

    จิตสำนึกเชื่อมต่อกันด้วยเส้นสายที่มองไม่เห็น แล้วประสาทรับรู้ก็ขยายออก

    พอลืมตา จากความมืดของป่าที่มืดเสียจนไม่อาจมองเห็นมือของตัวเองได้ ได้กลายเป็นทัศนวิสัยที่ค่อนข้างสลัว

    ทัศนวิสัยของเอลิซ่าที่เป็นแวมไพร์ถูกถ่ายทอดมาทางลิงค์

    ด้วยการทำแบบนี้ ขอบเขตการมองเห็นของเหล่าการ์ดจะเพิ่มขึ้น เมอาร่ายวิชั่น(vision)…..เวทส่องกลางคืนให้กับพรรคพวก

    เพียงแค่ไม่ถึง 1 นาที พวกเราก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ผสานทัศนวิสัยหลากหลายเข้าด้วยกัน

 

「โย้ช ไปกันเถอะ」

 

    เมื่อก้าวเท้าออกจากพื้นที่ปลอดภัยบริเวณบันได สัตว์คล้ายสุนัขก็เข้ามาจู่โจมราวกับว่าคำสั่ง『หยุด』ถูกคลายออก

    สุนัขตัวใหญ่สีดำที่ราวกับว่าจะกลมกลืนไปกับความมืด….. มอนสเตอร์แรงค์ D ไลแลปส์(Lailaps) หมาล่าเนื้อของเทพีอาร์ทิมิสซึ่งมีตำนานว่าไม่เคยปล่อยให้เหยื่อหลุดรอดไปได้

    เพราะว่าเป็นหมาล่าเนื้อเลยนึกว่าจะมีรูปร่างเพรียวแบบสุนัขพันธุ์เกรย์ฮาวด์จนมาได้เห็นมันเข้าจริงๆ แต่ในความจริงมันกลับมีร่างกายที่มีกล้ามเนื้อแบบสุนัขพันธุ์มาสทิฟและรูปร่างราวกับม้า

    หรือก็คือ ไม่มีเศษเสี้ยวของความน่ารักอยู่เลย

    เหล่าไลแลปส์กระโจนเข้าใส่พร้อมเพรียงกัน

 

「คะฮะฮ่า ทางนี้เลยจ้าพี่ชาย♬」

 

    เหล่าไลแลปส์ที่เล็งเป้าหมายมาที่ผมซึ่งเป็นจุดที่อ่อนแอที่สุดตามสัญชาตญาณสัตว์ป่า จู่ๆก็เปลี่ยนเป้าหมายพร้อมกันหมด

    จุดหมายก็คือ หญิงงามผมสีแดงที่กำลังปรบมือท่าทางล้อเลียน…..ซุซูกะ ใช้สกิลยักษ์ปิดตารวบรวมค่า hate ของศัตรูมาไว้ทั้งหมด

    สุนัขปีศาจ 4 ตัวพุ่งเข้าใส่โดยหวังจะฉีกขย้ำเนื้อสดๆ

 

「คะฮะฮ่า…..!」

 

    ซุซูกะพร้อมด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยวบนใบหน้าและดวงตาที่ส่องแสงสว่าง พุ่งเข้าใส่เหล่าไลแลปส์ ขณะทำการหลบการโจมตีของศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไว ก็ใช้พลังที่คาดไม่ถึงว่าจะมาจากแขนเพรียวบาง ทำการอัดพวกไลแลปส์จนล้มลงไม่ก็กระเด็นไป

    ด้วยมองขาด, ศิลปะการต่อสู้, กับพละกำลังเหนือชั้นของยักษ์ เป็นผลทำให้สามารถแสดงทักษะการต่อสู้ออกมาได้อย่างเต็มที่

    พวกไลแลปส์ที่ล้มลงก็ไม่ปล่อยโอกาศให้ตั้งตัว การ์ดฝั่งเราเข้าจัดการไปทีละตัว

    ยูคิเข้าไปกัดคอจนขาดในทีเดียว, เอลิซ่าใช้มือเปล่ากระชากหัวใจออกมา, เร็นกะกับเมอาบินอยู่บนฟ้า คอยมองดูสถานการณ์โดยรอบของสนามรบจากมุมสูง

 

    (มาสเตอร์ ดูเหมือนจะมีมาเพิ่มล่ะ!)

 

    หลังจากจัดการไลแลปส์ตัวที่ 5 เสร็จ เมอาก็ถ่ายทอดความคิดมา พอมองดู เหมือนว่าจะมีกำลังเสริมเข้ามาใกล้อีก 6 ตัว

 

『เร็นกะ』

『จัดไป』

 

    พอเร็นกะตอบรับ เท้าของพวกไลแลปส์ที่กำลังมุ่งมาทางนี้ก็หยุดลง แล้วเสียงร้องก็ดังขึ้นให้ได้ยินตามมา

 

「อ่อก! เอ๋ง…..!」

 

    มันราวกับการล่าเหยื่อของนกอีเสือ

    หอกหินจำนวนมากจู่ๆก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน แทงใส่พวกไลแลปส์จากด้านล่าง สุนัขปีศาจผู้น่าสงสารทำได้แค่แกว่งขาไปมาอยู่ในอากาศและปล่อยให้เลือดไหล

    เวทโจมตีขั้นกลางของเร็นกะ เอิร์ธสเปีย

    ถึงแม้จะมีพวกที่โชคดีหลบไปได้บ้างก็ตาม แต่เมอากับเร็นกะก็ไล่ตามไปจัดการเป่าหัวพวกมัน

 

「อืม จบแล้วสินะ ไปกันเถอะ」

 

    ในเวลาแค่ไม่กี่ 10 วินาทีก็จัดการพวกไลแลปส์ได้หมด ทำการเก็บไอเทมที่ดรอป แล้วมุ่งหน้าต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    มันเป็นศัตรูที่สู้ไปแล้วเกินกว่า 100 รอบ ตอนนี้ต่อให้จัดการมันไปมากแค่ไหนก็ไม่รู้สึกถึงความสำเร็จอะไร

    นอกเหนือจากนั้นแล้ว รู้สึกได้ว่าเติบโตขึ้นเพราะว่าสมองไม่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการต่อสู้ระดับนี้อีกแล้ว

 

    —-ขั้นแรกของลิงค์, เทเลพาท(telepath) เทคนิคสำหรับการแบ่งปันความรู้สึก, อารมณ์, และความคิดกับการ์ด

 

    จากหลายเดือนที่ผ่านมานี้ ผมสามารถใช้งานขั้นพื้นฐานของลิงค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

    ไม่ว่าจะทำการแบ่งประสาทรับรู้ติดต่อกันนานกี่ชั่วโมงก็ไม่มีปัญหา จิตของผมเริ่มตามทันความเร็วในการต่อสู้ของพวกการ์ดซึ่งรวดเร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า

    ก็นะ มันยังมีมากกว่านั้น ซึ่งปัจจุบันนี้ก็อยู่ในระหว่างการฝึกอยู่แต่…..

 

「บรู๋วววว—–ว!」

 

    ขณะที่กำลังมุ่งหน้าผ่านป่าไปเรื่อยๆ เปลี่ยนหมาล่าเนื้อที่เข้ามาโจมตีให้กลายเป็นศพทีละตัว จู่ๆเสียงหอนก็ดังก้องจนป่าทั้งป่าสั่นสะเทือน

    ดูเหมือนว่าลูกพี่จะเป็นฝ่ายแรกที่หมดความอดทนก่อนจากการที่ลูกน้องถูกฆ่าทิ้งไปเรื่อยๆ

 

「เร็นกะ ได้เวลาแล้ว ฝากด้วยล่ะ」

「โอ้」

 

    หวนคืนจิตวิญญาณ—-แสงอันศักดิ์สิทธิ์สาดส่องป่ายามค่ำคืน ซาชิกิวาราชิจอมซนเปลี่ยนร่างกลายเป็นเทพธิดาแห่งความงามและความสุข

 

「อำนวยพรแด่นายท่าน」

 

    ด้วยรอยยิ้มของเทพีผู้งดงาม แสงอันอบอุ่นได้เข้ามาห้อมล้อมตัวผมไว้ ความรู้สึกที่ร่างกายถูกชำระล้างไปทุกซอกทุกมุม ความรู้สึกอิ่มเอมใจที่ทำให้รู้สึกไม่ว่าอะไรก็สามารถทำได้ ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็รู้สึกเหมือนจะสามารถจัดการจ้าวได้ด้วยมือตัวเอง…..

    พอจะยับยั้งความรู้สึกที่สามารถทำอะไรก็ได้อันไปคล้ายกับการเย่อหยิ่งอวดดีลงไปได้ แล้วผมก็เพ่งสายตาไปข้างหน้า

    เงาขนาดใหญ่เกินกว่า 3 เมตรราวกับภูเขาขนาดย่อมๆ ปรากฏตัวขึ้นพร้อมโค่นต้นไม้ที่อยู่รอบตัว

    มันคือยักษ์หัวหมาป่า ปากที่ฉีกกว้างยาวถึงหูมีขนาดใหญ่พอจะกลืนทั้งหัวของผมเข้าไปได้อย่างง่ายดาย พร้อมเขี้ยวแหลมคมเรียงราย ขาทั้ง 2 ข้างใหญ่โตราวท่อนซุง….. กรงเล็บที่อยู่บนมือทั้ง 2 สามารถอธิบายได้ว่าเป็นมีดขนาดใหญ่

 

「กรรรรรรู, กรรรรร, บรู๋วววว—–ว!」

 

    ถ้าไม่ใช่เพราะบาเรียล่ะก็ คงได้หูหนวกจากที่โดนคำรามใส่แน่ ผมนำการ์ดเร็นกะกับเอลิซ่าออกมาจากกระเป๋า

    เอาล่ะ คราวนี้จะใช้อันไหนดี

 

 

【เผ่า】คิชโชเต็ง (เร็นกะ)

【พลังต่อสู้】1,200

【ทักษะติดตัว】

    – บทสวดของคิชโชเต็ง : สามารถใช้พลังแห่งความงาม, ความมั่งคั่ง, ความอุดมสมบูรณ์, และโชคลาภของคิชโชเต็งได้

    – เทพธิดา 2 ภาค : สามารถยืมพลัง, แปลงร่างเป็นเทพอีกองค์ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกครึ่งหนึ่งของตนได้

    – ฝนอมฤต : สามารถเสกฝนแห่งน้ำอมตะ อมฤต ได้ แต่จะไม่มีผลของการฟื้นฟูความเยาว์วัย, ประกอบไปด้วยเวทรักษาขั้นสูง

 

【ทักษะเรียนรู้】

    – หวนคืนจิตวิญญาณ

    – จิตวิญญาณอิสระ

    – เวทมนตร์โจมตีขั้นสูง

    – ละการร่าย (CHANGE!)

    – ฟื้นฟูพลังเวท

    – มิตรภาพร่วมมือ

    – เวทมนตร์สถานะผิดปกติขั้นสูง (CHANGE!)

    – ซ่อนแอบ

 

 

【เผ่า】แวมไพร์ (เอลิซ่า)

【พลังต่อสู้】840 (420UP! MAX!)

【ทักษะติดตัว】

    – รีดเลือด : เปลี่ยนเลือดเป้าหมายให้กลายเป็นพลัง, ด้วยการกลืนกินเลือดจะสามารถฟื้นฟูและเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกายได้ ยิ่งกักเก็บเลือดมากเท่าใด ผลลัพธ์จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น, ต้านทานต่อสถานะผิดปกติ

    – สัตว์ประหลาดแห่งราตรี : สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาว, หมาป่า, และหมอกได้ หากเป็นตอนกลางคืนจะไม่สูญสลายไปจนกว่าศรีษะหรือหัวใจจะถูกทำลาย, สกิลนี้จะถูกยกเลิกเป็นช่วงเวลาหนึ่งเมื่อถูกแสงแดดหรือแสงศักดิ์สิทธิ์

    – เวทมนตร์โจมตีขั้นกลาง

 

【ทักษะเรียนรู้】

    – เชื่อฟังเด็ดขาด

    – ทักษะทางเพศ+การแสดง+ปลดกับดัก

    ->อเนกประสงค์ (CHANGE!) : หลักฐานว่าได้เรียนรู้สกิลจำนวนมาก, เพิ่มอัตราการได้มาซึ่งสกิลเทคนิค ประกอบด้วย ทักษะทางเพศ, การแสดง, ปลดกับดัก, มารยาท (NEW!), ศิลปะการต่อสู้ (NEW!)

    – ฟีโรโมน

    – ลอบโจมตี

    – หัวใจเยือกเย็น

    – ปกป้อง

    – เคลื่อนไหวแม่นยำ

    – เวทมนตร์สนับสนุนขั้นกลาง (NEW!)

    – เสริมพลังเวท (NEW!) : เพิ่มความแข็งแกร่งของเวทมนตร์

    – ลดการร่าย (NEW!)

 

 

    ตามคาด พอมองดูแบบนี้แล้ว เร็นกะมีความท่วมท้นในด้านของกำลังรบ พลังต่อสู้มีมากเกินกว่า 1,000 ด้านสกิลเองก็สุดยอด

    ในอีกด้านหนึ่ง ความสามารถในการเติบโตของเอลิซ่าก็ยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าในหลายเดือนที่ผ่านมาการเติบโตของเธอนับว่าเป็นอันดับหนึ่ง

    จุดอ่อนอย่างเดียวและใหญ่ที่สุดของเอลิซ่าก็คือปัญหาด้านกำลังรบ ซึ่งได้ถูกแก้ไขแล้ว แล้วด้วยผลลัพธ์ที่ได้สืบทอดสกิลมามากมาย เอลิซ่าก็ได้เป็นเอสของปาร์ตี้เราทั้งในนามและความเป็นจริง

    ถ้าเป็นในแง่กำลังรบในทันทีแล้ว…..เร็นกะจะมีความได้เปรียบกว่าด้วยหวนคืนจิตวิญญาณ แต่ถ้าเป็นในแง่ของความเสถียรแล้ว เอลิซ่าจะดีกว่า

    อย่างที่คิดไว้ว่า ต้องการได้เอสที่เป็นการ์ดที่เป็นประโยชน์ได้ในทุกๆสถานการณ์ ตัวเร็นกะจะถูกมองว่าเป็นโจ๊กเกอร์มากกว่าจะเป็นเอส

    …..โย้ช ตัดสินใจละ

 

『คราวนี้จะลุยด้วยเอลิซ่าละกัน』

『เข้าใจแล้ว ปล่อยพวกลูกสมุนให้พวกเราเอง』

 

    พอแลกเปลี่ยนความคิดกันสั้นๆเสร็จ ผมก็เพ่งความสนใจไปที่เอลิซ่า

    เชื่อมต่อประสาทกับการ์ดใบอื่นเพียงเล็กน้อย และมุ่งการรับรู้ไปที่เอลิซ่าแทบทั้งหมด

    ราวกับว่าผมคือเอลิซ่า และเอลิซ่าก็คือผม

 

    —-ขั้นที่ 2 ของลิงค์, ซิงโคร(synchro) เทคนิคการใส่จิตสำนึกของมาสเตอร์ลงไปบนการ์ด

 

    ทั่วทั้งร่างเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง ความรู้สึกของการรวมเป็นหนึ่งอันคล้ายคลึงกับความสุขได้แล่นผ่านร่างตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

    รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้า 『ผม/เอลิซ่า』วิ่งเข้าใส่มนุษย์หมาป่า

    เพียงชั่วพริบตาก็ไปอยู่ตรงเท้าของไลแคนโทรป ทำการเตะไปที่ด้านหลังเข่าของมัน

    เข่าของมนุษย์หมาป่าเกิดเสียงดังจากการทำลายทำให้มันเสียการทรงตัวทันที หัวของมันมาอยู่ในตำแหน่งได้ที่พอดีจึงใช้ฝ่ามือส่วนล่างกระแทกอัดเข้าไป เสียงดังสนั่นราวกับว่าเหล็กกระแทกกันดังขึ้น ก่อนที่จะได้ตรวจสอบผลลัพธ์ ทำการปลดปล่อยเวทที่ร่ายเอาไว้อยู่ก่อน เวทมนตร์โจมตีขั้นกลาง, ไลท์นิ่ง กระแสไฟฟ้าถูกปล่อยออกมาเป็นรูปพัด เผาไหม้ทั้งร่างของไลแคนโทรป

 

「กะกะกะกะกะ…..!」

 

    ไลแคนโทรปส่งเสียงร้องทรมาน…..หรือก็คือ ยังมีชีวิตอยู่ ศพมันไม่มาทรมานหรอก

    -กึก- ดวงตาสัตว์ป่าจับจ้องมาที่ผม ภาพของมันสามารถทำให้คนแก่หัวใจหยุดเต้นได้ง่ายๆ

    แต่ด้วย【หัวใจเยือกเย็น】ของ『ผม/เอลิซ่า』แล้ว มันไม่ทำให้หวั่นไหวอะไร

    ไลแคนโทรปโจมตีตอบโต้ ทำการป้องกันการโจมตีด้วยกรงเล็บที่สามารถผ่าต้นไม้ใหญ่ขาดครึ่งได้ ด้วยสกิล【อเนกประสงค์・ศิลปะการต่อสู้ 】ทำให้ผมรับรู้ได้ว่าจะทำอย่างไรดีที่สุด

    เพียงแค่เคลื่อนไหวไปตามลางสังหรณ์ที่แว่บผ่านเข้ามาในหัว ผมก็สามารถเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ได้ชั่วคราว และ【เคลื่อนไหวแม่นยำ】ช่วยกลบช่องว่างของภาพที่คิดและการเคลื่อนไหวจริง

    ทำการเคาเตอร์ใส่มนุษย์หมาป่าที่ฟาดกรงเล็บจนพื้นเกิดเป็นรอยแยก -ตึกตัก- หมัดขวาที่ปลดปล่อยรุนแรงตามการเต้นของหัวใจ เลือดของศัตรูมากมายที่ดื่มมาจนถึงตอนนี้ กลายมาเป็นพลังเหนือมนุษย์ที่มากยิ่งขึ้น

    แขนพุ่งเข้าสู่ดวงตาของไลแคนโทรป มุ่งสู่สมอง

    —-ตอนนี้แหละ

    สติสัมปชัญญะของผมกับเอลิซ่าส่งผ่านหากันเด่นชัด พลังงานไหลผ่านจาก『ผม/มาสเตอร์』สู่『ผม/เอลิซ่า』 พลังงานส่วนเกินเอ่อล้นกลายเป็นออร่าสีแดงพวยพุ่งขึ้น อาศัยแรงผลักดันนั้นปลดปล่อยสายฟ้า

 

「■■■■■■■■■■■—-!」

 

    มนุษย์หมาป่าที่ถูกกระแสไฟฟ้าแผดเผาจนสมองไหม้ ส่งเสียงกรีดร้องแห่งความตายอย่างเงียบๆ

    มันอาจจะเป็นการดิ้นรนเฮือกสุดท้าย หรืออาจจะเป็นปฏิกริยาของกล้ามเนื้อจากกระแสไฟฟ้า มนุษย์หมาป่าส่ายหัวแล้วข้อต่อที่แขนก็เริ่มส่งเสียงไม่พึงประสงค์ออกมา ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปถูกจับแขนไปแน่ จึงทำการแปลงร่างเป็นหมอกอย่างรีบเร่ง

    ทันทีที่ทำมัน -ฉึบ- ราวกับเบรกเกอร์ถูกสับ ผมกับเอลิซ่าก็หลุดออกจากการซิงโคร

    สมองของมนุษย์ไม่สามารถทนรับความรู้สึกที่เป็นไปไม่ได้ในการที่ร่างกายถูกเปลี่ยนกลายเป็นหมอก

    เดาะลิ้นไปเบาๆ ทำการเรียกคืนสติกลับมาอย่างรวดเร็ว เอาเถอะ ยังไงก็จบแล้ว

    ภาพที่อยู่เบื้องหน้า คือไลแคนโทรปที่ล้มลงพร้อมกับเสียงราวกับต้นไม้ใหญ่หักโค่น

    ร่างของมันค่อยๆสลาย หลงเหลือไว้เพียงหินเวทกับ—-การ์ด 1 ใบ

    โย้ช! การ์ดตกแล้ว! ไหนๆ ผลลัพธ์ล่ะ!?

 

「ไม่ใช่แหะ…..」

 

    พอผมได้เห็นภาพของหนุ่มหล่อพร้อมแววตาแหลมคมบนการ์ดก็ต้องผิดหวัง

    การ์ดตกมามันก็น่าดีใจ…..น่าดีใจอยู่หรอกแต่ พอคิดว่าถ้านี่เป็นการ์ดสาวมอนแล้ว มันก็ช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องตลก

    ก็รู้อยู่หรอกว่าเข้าข้างตัวเองเกินไปหน่อยแต่…..

    เอลิซ่าเดินมาหาผมพร้อมกับทำหน้าแปลกๆแล้วโค้งก้มหัวให้ด้วยเหตุผลบางอย่าง

 

「ต้องขออภัยด้วยค่ะ ที่การซิงโครหลุดไปเสียได้」

「ไม่หรอก เป็นผมต่างหากที่พลาดเอง เพราะยังไงซะมันก็เป็นเรื่องยากที่จะให้มนุษย์จินตนาการความรู้สึกตอนที่กลายร่างเป็นหมอกนะ」

 

    ซิงโคร คือเทคนิคที่ทำให้สามารถควบคุมการ์ดได้ตามที่ต้องการ ด้วยการใส่จิตสำนึกลงไปที่การ์ด

    แบบนี้จะทำให้การ์ดสามารถออกการกระทำได้อย่างมีความละเอียดมากกว่าการออกคำสั่งผ่านเทเลพาท

    ทว่าในอีกด้านหนึ่ง จะเป็นเรื่องยากที่จะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพในรูปแบบที่ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถทำได้

    ตัวอย่างเช่น มอสเตอร์ประเภทสัตว์ป่า ถ้าหากว่ามอนสเตอร์นั้นมีชิ้นส่วนร่างกายที่คล้ายคลึงกับสิ่งมีชีวิตอื่น จะเป็นการดีกว่าถ้าปล่อยให้ตัวการ์ดดำเนินการเคลื่อนไหวมันเอง

    แต่นั่นก็เป็นแค่เปลือกนอกของซิงโครเท่านั้น

    แก่นหลักของเทคนิคนี้ก็คือ การดึงพลังที่แท้จริงของการ์ดออกมา

    ตามปกติ ว่ากันว่าการ์ดจะแสดงพลังออกมาได้แค่เพียง 50% เท่านั้น

    นั่นเพราะการ์ดจะต้องแบ่งพลังประมาณครึ่งหนึ่งออกมาไว้เพื่อให้เป็นบาเรียให้แก่มาสเตอร์อยู่ตลอดเวลา

    ซิงโคร คือเทคนิคการเอาข้อจำกัดของพลังต่อสู้ออกไป ด้วยการคืนพลังงานที่ถูกใช้เป็นบาเรียกลับคืนแก่การ์ด

    การแบ่งจิตสำนึกเป็นแค่ผลข้างเคียง หรือจะบอกว่าเป็นผลพลอยได้ก็ได้

    …..แน่นอนว่ามันก็มีข้อเสียจากการที่บาเรียของมาสเตอร์จะบางลง

    ด้วยเหตุนี้ การเพิ่มพลังต่อสู้ด้วยการซิงโครจึงมักถูกมองว่าเป็นไพ่ตายในสถานการณ์คับขัน

    จะมียกเว้นกับในสถานที่อย่างโคลอสเซียมที่มาสเตอร์มีอุปกรณ์เวทช่วยป้องกัน ในจุดนี้หากว่าไม่สามารถซิงโครได้อย่างเชี่ยวชาญแล้วล่ะก็ จะไม่สามารถรับมือได้เลย…..นั่นคือสิ่งที่『อาจารย์』บอกมา

    ซิงโครมีความยากมากกว่าเทเลพาท ซึ่งผมยังซิงโครได้แค่ 1 ใบในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น และพลังที่ดึงออกมาใช้ก็ได้แค่ 70 ~ 80%

    ได้ยินว่าถ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญ จะสามารถซิงโครได้หมดทั้งปาร์ตี้ในคราวเดียว

    …..ยิ่งเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคของการ์ดมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงความยอดเยี่ยมของ『อาจารย์』มากเท่านั้น

    รู้สึกได้ว่าโชคดีที่เอาชนะงานแข่งมาได้

 

「เอาล่ะ ที่เหลือก็แค่เปิดกล่องน่าผิดหวังแล้วกลับบ้านกัน….. ถึงจะไม่มีความคาดหวังสูงนักก็เถอะ」

 

    การอวยพรของเร็นกะ คล้ายๆกับการยืมโชคมาใช้ล่วงหน้า ถ้าการ์ดไม่ตก ของในกล่องน่าผิดหวังจะดีมากขึ้น แต่ถ้าการ์ดตก ของในกล่องจะไม่แน่นอน…..เป็นแบบนี้อยู่เสมอ

    บางทีทุกคนก็คงจะรู้แล้ว ก็เลยไม่ได้คาดหวังอะไรกันนัก

    แต่ว่า

 

「โอ้ เมจิกการ์ด!」

 

    ที่อยู่ภายในคือ เมจิกการ์ด『ฉุกเฉิน』

    เมจิกการ์ด คืออุปกรณ์เวทในรูปแบบของการ์ดที่ช่วยให้มนุษย์สามารถใช้งานเวทมนตร์ได้ 1 ครั้ง

    แม้ว่าจะจำกัดการใช้แค่เพียงภายในเขาวงกต แต่ก็เป็นอุปกรณ์เวทยอดนิยมเพราะทำให้มนุษย์สามารถใช้เวทมนตร์ได้ และเป็นการเพิ่มขอบเขตของกลยุทธ์

    『ฉุกเฉิน』เป็นเวทมนตร์ที่มีความเข้ากันได้สวนทางกับ『เคลื่อนย้าย』หรือจะให้พูดคือผลลัพธ์ตรงกันข้าม มันจะทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายแบบสุ่มไปยังชั้นที่คุณยังไปสำรวจไม่ถึง

    ถ้าหากว่าเพิ่งเริ่มทำการสำรวจเขาวงกต แล้วรู้สึกขี้เกียจจะลุยผ่านชั้นแรก ก็อาจจะใช้มัน แล้วถ้าหากโชคดีอาจจะได้ไปโผล่ที่ชั้นสุดท้ายเลยก็เป็นได้ไม่ใช่เหรอ? ก็มักจะถูกใช้เป็นของสำหรับทดสอบดวงเล็กๆ

    ถึงแม้จะมีความจริงที่การใช้งานมันไม่ได้ง่าย แต่ว่าต่างกับ『เคลื่อนย้าย』ที่มันไม่มีปรากฏเป็นสกิลเวทมนตร์ของการ์ดมอนสเตอร์ และโอกาสดรอปจากเขาวงกตก็มีต่ำ พอเทียบกับ『เคลื่อนย้าย』ที่มีการใช้งานเป็นมิตรมากกว่าในราคาที่พอๆกันแล้ว นักผจญภัยจึงจัดให้มันเป็นเพียงเวทกากๆ

    แต่นั่นมันก็แค่สำหรับคนที่จะซื้อ สำหรับผู้ที่ได้มันมาด้วยตัวเองแล้ว มันเป็นไอเทมที่สามารถขายได้ในราคามากพอสมควร

 

「ทำได้แล้วนะฮะ! ของดีด้วยล่ะนายท่าน!」

「อ-โอ้」

 

    ขณะที่ยูคิแสดงความดีใจอย่างไร้เดียงสาอยู่นั้น ผมกลับไม่อาจรู้สึกดีใจได้

    นั่นเพราะ…..รู้สึกว่ามันโชคดีเกินไป

    ไม่เพียงแค่การ์ดแรงค์ C ตกมา แต่ยังได้เมจิกการ์ดที่ขายได้ในราคาสูงอีก รู้สึกกลัวว่าโชคจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง

 

「โฮ่ นี่มัน…..อย่างงี้นี่เอง」

 

    เร็นกะที่มองดูการ์ดจากด้านหลัง พึมพำอะไรบางอย่างที่แฝงความหมายไว้

 

「อ-อะไรเหรอ」

「เปล่านี่…..」

 

    ขณะที่ผมใบหน้ากระตุก เร็นกะก็เผยรอยยิ้มปริศนาออกมา

 

「ดูเหมือนว่า…..ปีนี้เองก็คงจะไม่เบื่ออีกเหมือนกันล่ะนะ มาสเตอร์เอ๋ย」

 

 

 

 

【Tips】เทเลพาทกับซิงโคร

    ในหมู่ลิงค์ เทคนิคที่ช่วยให้มาสเตอร์กับการ์ดสามารถแบ่งปันความรู้สึกและอารมณ์ให้แก่กันได้จะเรียกว่าเทเลพาท เทเลพาทนับเป็นเทคนิคพื้นฐานของลิงค์ แต่ด้วยการทำลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่ความรู้สึกและอารมณ์ แต่ยังรวมไปถึงจิตสำนึกของมาสเตอร์ก็สามารถส่งไปยังการ์ดได้ นั่นก็คือขั้นที่ 2 ของลิงค์—-ซิงโคร

    เมื่อมาสเตอร์กับการ์ดเป็นหนึ่งเดียวกัน มาสเตอร์จะสามารถถ่ายเทพลังงานจากบาเรียที่ใช้ปกป้องตัวเองไปที่การ์ดได้ เป็นผลให้มอนสเตอร์ที่ปกติแล้วสามารถแสดงความสามารถออกมาได้เพียงครึ่งเดียว จากที่ต้องคงสภาพบาเรียเอาไว้ สามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้

    เทคนิคที่เป็นทั้งพื้นฐานและความลับ นักผจญภัยบางคนกล่าวว่าหากเชี่ยวชาญเทเลพาทกับซิงโครแล้วล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องใช้ลิงค์แบบอื่นแล้ว

 

    ถ้ามีคนอ่านไหนบอกว่ามันไปเหมือน เท็น กับ เร็น แล้วล่ะก็จะฟาดให้…..!

 

 

 

ข้อมูลเพิ่มเติม

ไลแลปส์/Lailaps สุนัขที่สามารถไล่จับเหยื่อได้เสมอ

 

นกอีเสือ/Bull-headed Shrike มีนิสัยนำเหยื่อที่จับได้ไปเสียบไว้บนสิ่งของปลายแหลมเช่น กิ่งไม้, หนาม

https://m.facebook.com/japaninfo2016/posts/1099026110225558/

https://en.wikipedia.org/wiki/Bull-headed_shrike

 

เท็น, เร็น พื้นฐานของเน็นจากเรื่อง hunter X hunter

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=we1rd&month=17-04-2011&group=4&gblog=11