โซอี้ได้เชิญลูซีหยูไปร่วมงานเลี้ยงระดับสูงในลอนดอน ปาร์ตี้ถูกจัดขึ้นในคฤหาสน์แถวชานเมือง ลูซีหยูตอบรับการชวนของเธอเพราะเค้าใช้เวลาไปสองสามปีในโลกของมาเรียโดยไม่ทำอะไรเลยนอกจากการทดลองเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตต่างๆ เมื่อเค้ากลับมาสู่โลกแห่งความจริงเค้าแทบจะจำวิธีสานสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างไรและแม้กระทั่งสีหน้าของเค้าก็ไม่เป็นธรรมดา

เค้ารู้ว่าถ้าเค้ายังทำแบบนี้อยู่เค้าจะลืมวิธีที่จะทำตัวให้เหมือนแบบที่มนุษย์ควรจะเป็นดังนั้นเค้าต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อออกห่างจากการทดลองเพียงเล็กน้อยและผ่อนคลาย เค้ายังสงสัยเกี่ยวกับชนชั้นสูงของชาวอังกฤษ เค้าเคยเห็นปาร์ตี้เช่นนี้ในหนังและเค้าต้องการที่จะเห็นว่าของจริงเป็นอย่างไร

หลังจากเปลี่ยนเป็นชุดสูทแล้วเค้าก็ขับรถออกไปชานเมือง ขณะที่เค้าขับไปคฤหาสน์เค้าใช้เวลาไปกับการชมวิวตลอดทางและสูดอากาศบริสุทธิ์ของเมือง ครั้งหนึ่งลอนดอนเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกแต่ขณะนี้ไม่มีร่องรอยมลพิษในเมืองนี้เลย อากาศสดชื่นและสภาพแวดล้อมก็สะอาดและสวยงาม

เมื่อเค้าเข้าใกล้คฤหาสน์เค้าจะเห็นอาคารขนาดใหญ่ตั้งอยู่เพียงลำพังที่เชิงเขา ไม่มีตึกอื่นรอบๆคฤหาสน์เลย เมื่อเค้ามาถึงคฤหาสน์แล้วเค้าก็เห็นผู้คนมากมายได้มาถึงมาแล้ว ลงจากรถแล้วเค้าก็หยิบการ์ดเชิญของเค้าขึ้นมา ยามสองสามคนยืนอยู่ที่ประตู พวกเค้าตรวจดูการ์ดเชิญของเค้าและอนุญาตให้เค้าเข้าไปข้างใน หญ้าในสวนถูกตัดแต่งอย่างประณีตและมีดอกไม้หลากหลายชนิดรวมไปถึงน้ำพุและรูปปั้นเทวดา ชาวสวนสองสามคนยังคงทำงานอยู่ในสวยดูแลต้นไม้ แม้ว่าสวนนั้นดูใหม่มากแต่คฤหาสน์ดูเหมือนปราสาทและดูเก่ามาก เห็นได้ชัดว่าเจ้าของคฤหาสน์นี้ไม่ใช่แค่รวยแต่ยังมีภูมิหลังที่ได้เปรียบ

เค้าเข้าไปในคฤหาสน์ผ่านประตูกระจกและเห็นคนกลุ่มใหญ่รวมตัวอยู่ข้างใน ทันทีที่เค้าเดินเข้าไปความสนใจของทั้งห้องก็ตกมาอยู่ที่เค้า ทุกคนมองเค้าด้วยความอยากรู้ว่าเค้าเป็นใคร หญิงสาวในชุดเดรสสีดำยิ้มให้เค้าและเดินตรงมาหาเค้า

เธอยื่นมือของเธอและพูดว่า “ฉันไม่เคยเห็นคุณมาก่อนเลย ฉันลิซ่า”

“แอนโทนี่” ลูซีหยูพูดพร้อมยิ้ม “ยินดีที่ได้รู้จัก”

“ไม่ได้ตั้งใจจะเหยียดนะ” ลิซ่าพูดหลังจับมือกัน “แต่คุณเป็นผู้ชายใช่มั้ย?”

ลูซีหยูขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพยักหน้า จากนั้นก็มีฝูงชนมายืนล้อมเค้า ทุกคนมองเค้าด้วยความสงสัย เมื่อเห็นคำตอบของลูซีหยูดวงตาของลิซ่าก็เบิกกว้าง “คุณหล่อมากจริงๆ” เธอพูด “ฉันกล้าพูดเลยว่าแม้แต่ผู้หญิงก็จะอิจฉา”

“ขอบคุณ” ลูซีหยูตอบกลับ ทันใดนั้นก็มีใครบางคนจับมือของลูซีหยู เค้าหันหลังไปและเห็นโซอี้ยืนอยู่ข้างหลังเค้า

“นี่เพื่อนของฉัน ลิซ่า” โซอี้พูดพร้อมยิ้ม “ฉันมีเรื่องบางอย่างที่ต้องคุยกับเค้า” ลิซ่าขมวดคิ้วแต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเลยเมื่อเธอเดินจากไป

โซอี้พาลูซีหยูไปที่มุมซ้ายของห้อง ทั้งสองเจอโซฟาสีแดงและนั่งลง ทันใดนั้นพนักงานเสิร์ฟก็มาพร้อมกับแชมเปญและขนมขบเคี้ยว พวกเค้าชนแก้วกันและโซอี้ก็ถามว่า “คุณมาคนเดียว? ไม่ได้พาคู่เดทมาหรอ?”

“ฉันไม่รู้ว่าจะมีผู้คนมากมายที่นี่” ลูซีหยูพูดพร้อมกับส่ายหัย “ฉันแค่ต้องการที่จะรู้ว่าปาร์ตี้เป็นอย่างไรแค่นั้น”

โซอี้มองเค้าราวกับว่าคำพูดของเค้ายากที่จะเชื่อ “พระเจ้า คุณไม่ใช่เกย์ใช่มั้ย?”

โซอี้มองเค้าพร้อมคาดหวังคำตอบ ลูซีหยูโบกมือแล้วพูดว่า “ไม่ ไม่ อย่ามาล้อเล่นหน่าโซอี้”

“เอาล่ะ” โซอี้พูดพร้อมยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้า เธอจับมือเค้าแล้วพูดว่า “ถ้างั้นคืนนี้ฉันจะเป็นคู่เดทให้คุณเอง คุณจะเต้นรำกับฉันมั้ย?”

“ฉันเต้นไม่ค่อยเก่ง” ลูซีหยูพูดพร้อมยักไหล่ “ฉันอาจเหยียบเท้าคุณได้นะ”

โซอี้ยิ้ม “ไม่ต้องกังวลหรอก” เธอพูด “มานี่ ฉันต้องการแนะนำใครบางคนให้คุณ”

ตรงกลางห้องมีชายร่างผอมมีเคราเล็กๆ เค้าผอมเพรียวแต่เค้าดูกระตือรือร้นและภูมิใจ ดูเหมือนจะเป็นเพื่อนที่ดีของโซอี้ ขณะที่โซอี้เดินไปกับลูซีหยู เค้าโบกมือให้เธอก่อนแล้วจึงมองไปที่ลูซีหยูอย่างสงสัย หลังจากโซอี้แนะนำลูซีหยูให้กับเค้าแล้วเค้าก็ยิ้มและพูดว่า “สวัสดีคุณแอนโทนี่ ฉันชาร์ล แอนดรู ยินดีต้อนรับเข้าสู่ปาร์ตี้ของฉัน”

“เป็นเกียรติของผม” ลูซีหยูพูดพร้อมจับมือกับเค้า

ปาร์ตี้สนุกกว่าที่ลูซีหยูคิดไว้ ชาร์ลจ้างวงดนตรีมืออาชีพและวงดนตรีก็แสดงดนตรีที่น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์ ท่ามกลางเสียงเพลงดวงจันทร์ขึ้นและส่องแสงเข้าในห้องผ่านหน้าต่างบานใหญ่

ลูซีหยูเดินขึ้นไปบนฟลอร์เต้นรำกับโซอี้โดยไม่คิดว่าจะได้เต้นรำจังหวะวอลซ์ ทั้งสองเต้นจังหวะวอลซ์บนพื้นจนนักเต้นที่อยู่รอบตัวพวกเค้าต้องหยุดมองดูพวกเค้า เมื่อเพลงจบทั้งสองก็จบด้วยท่าเต้นมืออาชีพและเสียงปรบมือก็ดังขึ้นรอบพวกเค้า โซอี้มองไปที่เค้าด้วยรอยยิ้มกว้าง “ฉันคิดว่าคุณบอกว่าคุณไม่สามารถเต้นได้ซะอีก” เธอพูด “คุณเป็นคนเรียบร้อยไม่ใช่หรอ?”

ลูซีหยูยิ้มอย่างงลึกลับ แน่นอนว่าเค้าจะไม่บอกโซอี้ว่าเคาไม่เคยเต้นวอลซ์มาก่อน เค้าใช้สมองน้อยในการหาข้อมูลเกี่ยวกับการเต้น เมื่อรวมกับการควบคุมอย่างสมบูรณ์ของร่างกายและความใส่ใจในรายละเอียดของเค้าทำให้ง่ายต่อการเรียนรู้วิธีการเต้นและแกล้งทำเป็นเหมือนว่าเค้าเรียนรู้มาตั้งแต่เค้ายังเด็ก

หลังจากคุยกันอีกสองสามนาทีหลังจากออกจากฟลอร์เต้นรำลูซีหยูก็กล่าวว่า “ฉันสบายดี คุณไม่ต้องอยู่กับฉันตลอดเวลาหรอก ฉันคิดว่าฉันจะเดินรอบๆอีกนิดหน่อย ฉันค่อนข้างสนใจปราสาทแห่งนี้”

ลูซีหยูรู้เหตุผลที่โซอี้มาที่ปาร์ตี้นี้เพื่อเชื่อมและขยายความสัมผัสของเธอ เธอเป็นลูกสาวของครอบครัวนักธุรกิจและมีพี่น้องหลายคน ถ้าเธอต้องการธุรกิจของครอบครัวเธอก็ต้องต่อสู้เพื่อมัน เธอต้องการเพื่อนเพิ่มและมีคนรู้จักใบหน้าและชื่อของเธอมากขึ้น นี่คือเหตุผลที่ปาร์ตี้สำคัญกับเธอ

ลูซีหยูเดินผ่านโถงทางเดินเพียงคนเดียวโดยมองดูภาพวาดในโถง ภาพวาดแสดงให้เห็นเจ้าของคนก่อนหน้าและมีคำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับพวกเค้าแต่ละคนภายใต้ภาพวาดของพวกเค้าเช่นเดียวกับคำอธิบายบางส่วนของประวัติของปราสาทและบางส่วนของเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นที่นั่น คฤหาสน์นี้มีประวัติอันยาวนานและลูซีหยูก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

“นี่ปู่ของผม” เสียงพูดขึ้นขณะที่ลูซีหยูมองดูภาพวาดของชายชรา เค้าหันว่าและชาร์ลยืนอยู่ข้างๆเค้า “เค้าเป็นคริสเตียนที่อุทิศตน” ชาร์ลพูด

“คุณเชื่อในพระเจ้ามั้ยคุณแอนดรู?” ลูซีหยูถามด้วยความสงสัย