บทที่ 33 – ปี 2025

 

“ตอบรับคำขอ”

เสียงปริศนาที่ไม่ใช่เสียงของหญิงสาวตรงหน้าดังขึ้นแทบจะทันที วินาทีที่มิวร้องตะโกนขอความปรารถนามันก็ตอบรับทันทีเหมือนกับรอเวลานี้อยู่

หญิงสาวคนนั้นถึงกับลืมตาขึ้นทันที

“ข้ายังไม่อนุมัติเลยนะ”

เธอร้องออกมาพร้อมกับลืมตาขึ้น ดวงตาของสีทองของเธอเปล่งแสงประกายวาวออกมาหยุดชะงักการดำเนินการแทบจะทันที

แต่ทว่านั่นก็ไม่มากนัก เพราะร่างของมิวยังคงสลายหายไปด้วยความเร็วที่สูงจนแทบไม่ต่างจากเดิมมากนัก

นางมองไปที่มิวพร้อมกับพูดด้วยความตระหนก

“ฟังนะสหายข้า.. ที่เจ้าจะไปคือตัวเจ้าในตอนนี้.. มันไม่ใช่ย้อนกลับไปในตัวเจ้า เพราะคำขอของเจ้าคือบอกให้พาเจ้ากลับไปมันเลยเป็นแบบนั้น”

“แต่ว่าแบบนั้นอาจจะดีแล้ว.. เจ้าจะได้มีพลังในการต่อต้านกับ ‘เจ้านั่น’ ..”

“ความปรารถนาทำได้เพียงพาไปและพากลับเท่านั้น”

เธอกล่าวเช่นนั้นจบร่างมิวก็แทบสลายหายไปจากโลกนี้จนหมด สำหรับเธออีกไม่กี่วินาทีมิวก็คงจะกลับมาแล้ว

แต่สำหรับมิวมันนานกว่านั้น ถ้าสำเร็จน่ะนะ… แต่ว่าก่อนหน้านั้นเธอคนนี้หลังจากที่มิวหายไปก็หันไปพูดขึ้นว่า

“นี่คือหอคอยของข้า.. ทำไมท่านถึงมายุ่งด้วย”

“ก็นั่นคือสิ่งที่เจ้าขอร้องไม่ใช่เหรอว่าจะบันดาลความปรารถนาให้เป็นจริงสามคนน่ะ ฉันถึงกับมาช่วยเลยนะ”

“…..”

“อีกอย่าง..เมื่อกี้เธอจะปฏิเสธนางไม่ใช่หรือไง บอกว่าขอทุกอย่างก็ได้แท้ๆ ขี้โกงจริงเชียว”

เธอไม่ได้ตอบกลับ ดวงตาของเธอปิดลงช้าก่อนจะกอดอกรออีกไม่กี่วิที่มิวน่าจะกลับมาแต่ถ้าไม่กลับมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จ

ส่วนคนลึกลับนั้นก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วก็สลายหายไปอย่างไร้ร่องรอย… แต่ก่อนหน้านั้นมิวในตอนนี้กำลังเดินทางข้ามผ่านห้วงเวลาอยู่

“สหายข้า… เวลามันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เจ้าเห็นในหนังหรอกนะ”

“อีกอย่าง เจ้า ‘ผู้คุม’ นั่นต้องโผล่ออกมาแน่”

“ผู้คุมแห่งกาลเวลา..ที่ซึ่งจู่ๆ ก็ปรากกฏขึ้นมา..”

“เฮ้อ…”

มิวมองภาพตรงหน้าที่เป็นภาพแปลกตาราวกับเธอมองเห็นทุกอย่าง.. แต่ก็เหมือนไม่เห็นทุกอย่างเช่นเดียวกัน

เพราะเธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น หรือมันกำลังเกิดสิ่งใด แต่เธอกลับเห็นทุกสิ่ง บางทีเมื่อเธอออกจากสถานที่แห่งนี้ไปเธอคงจะลืมมันในทันที

เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับแม่น้ำ.. เป็นเหมือนกับทุ่งหญ้า.. เป็นเหมือนกับภูเขาไฟ.. ราวกับเป็นทุกอย่างที่สามารถเป็นได้ก็คือตัวมันเอง

มันแปลกประหลาดอย่างยิ่ง กลับดูสามัญยิ่งกว่าอะไร.. ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้มิวรู้สึกฉงนอย่างช่วยไม่ได้

เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเสียงแตรรถก็ดังขึ้น.. มิวก็พบว่าตนเองยืนอยู่กลางถนนแถวชนบทจนถึงกับสะดุ้ง

ภาพตรงหน้ากลับมาชัดเจน.. แถวนี้เป็นชนบทที่มีทุ่งนาข้าวสวยงามแบบหาได้ยากอยู่.. มิวรีบหลบออกจากกลางถนนทำให้รถคันนั้นเริ่มวิ่งผ่านหน้ามิวไป

เมื่อมองไปยังทิศไหนก็ภาพบรรยากาศที่คุ้นเคย… บรรยากาศของบ้านเกิดเมืองนอนเธอ…

ปี ค.ศ 2025 เดือนมกราคม วันที่ 25 เวลา 10 นาฬิกา

ประเทศญี่ปุ่น นับถอยหลังเวลาตายของคางาริเหลือ 23:59 น.

ความรู้สึกที่เหมือนกับไม่ได้กลับมาบ้านนานนี้มันทำให้มิวรู้สึกเหมือนกับในที่สุดก็ได้กลับมาที่ของตัวเอง นี่แหละที่เป็นที่ของเธอ

ความคิดถึง ความโหยหา ความรู้สึกบางอย่างนั้นทำให้มิวน้ำตาไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้..

“เอ้ะ.. ทำไม”

เธอเช็ดน้ำตาของตัวเองด้วยท่าทางที่สับสนแต่น้ำตามันกลับไหลไม่หยุด เธอไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าทำไมเธอถึงน้ำตาไหลขนาดนี้

เป็นเพราะไปอยู่โลกที่แตกต่าง.. ถูกมองเป็นศัตรู ถูกโจมตี ถูกผนึก… พอตื่นมาอีกทีโลกก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

สำหรับมิวแล้วโลกเคยเปลี่ยนไปสามครั้ง เป็นโลกที่เธอไม่รู้จัก.. แต่เธอเป็นผู้ใหญ่อายุอีกไม่กี่ปีก็เข้าวัยสามสิบ

เธอไม่มีวุฒิภาวะแล้ว.. แต่ทว่า..เมื่อมายืนอยู่ที่นี่น้ำตามันกลับไหลออกมาทั้งความตื้นตันหรือความเศร้าโศกไม่มีใครทราบ

เมื่อมองไปด้านซ้ายมือนั้นก็มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่.. เป็นหมู่บ้านที่มิวคุ้นเคยเช่นเดียวกันเพราะมันคือบ้านเกิดเธอ.. ก่อนที่จะเข้าไปเรียนมหาลัยเข้าทำงานในเมืองหลวง

จะว่าไปแล้วนับตั้งแต่วันที่เธอจากบ้านไปจนถึงวัยทำงานเธอแทบจะไม่ได้กลับมาเลย เพราะเธอไม่มีเวลาอย่างมากก็มีแค่ครอบครัวที่ไปหา

แต่เธอไม่ได้เห็นหมู่บ้านนี้นานแล้ว… นานมาก.. กลิ่นของผิวหญ้า กลิ่นของลมเย็นๆ มันทำให้เธอ…

“กลับมาแล้ว…”

เธอพึมพำด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา… แต่ในตอนนั้นเองก็มีเสียงอันคุ้นเคยของใครบางคนก็ดังขึ้น

“เอ่อ… เป็นอะไรไหมคะ?”

เสียงที่ไม่ได้ยินมานานแสนนานดังขึ้นมิวถึงกับหันไปมอง.. ตรงหน้าของมิวมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อายุประมาณ 17 ปี

กับเด็กผู้ชายอายุประมาณ 10 ขวบ อีกคนหนึ่งที่นั่งซ้อนท้ายจักรยานอยู่ซึ่งมิวอยากจะบอกน้องทั้งสองของเธอว่า.. ทำแบบนั้นมันผิดกฎหมายนะ

ใช่แล้ว สองคนนี้คือน้องสาวกับน้องชายมิว.. เดิมทีมิวหรือคางาริมีพี่น้องทั้งสิ้นสี่คนประกอบไปด้วยพี่สาว น้องชายและน้องสาวรวมเธอที่เป็นพี่ชายคนกลาง

เด็กน้อยทั้งสองที่เห็นมิวยืนร้องไห้อยู่คนเดียวจึงจอดจักรยานถามด้วยความเป็นห่วง มิวยิ้มออกมาก่อนจะส่ายตอบ

“ฉันไม่เป็นไร”

ในตอนนั้นเองน้องชายตัวน้อยของมิวก็ลงจากจักรยานเดินมาทางมิวแล้วก็จับผมของมิวทันที

“ว้าว พี่ดูสิ ผมของเธอโคตรสวยเลยอ่า สวยเหมือนพี่ชิโอะเลย”

“เดี๋ยวสิ ลงไปตอนไหนเนี่ย”

เพราะผู้เป็นพี่มัวแต่มองใบหน้าของมิวด้วยสายตาแข็งค้างอยู่นั้น เลยไม่รู้ว่าน้องชายตัวน้อยมือบอนไปจับผมของมิวไปแล้ว

ซึ่งสาวน้อยคนนั้นรู้ว่ามันไม่ควรเลยรีบดึงมือน้องชายกลับมาทันที พร้อมกับก้มหัวขอโทษ

“ขอโทษด้วยค่ะ น้องชายของหนูเขา…”

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรฉันไม่ได้ว่าอะไรหรอก”

ว่ากันว่าผมคือสมบัติของสตรี.. สาวน้อยรู้เรื่องนั้นดีเพราะเธอเองก็เป็นผู้หญิง แต่ว่าข้างในมิวเดิมทีก็เป็นผู้ชายนี่นะ

แถมอีกอย่างไม่ว่าจะความสวยของผมหรือหน้าตาก็เพราะผ่านการวิวัฒนาการมาแบบเหนือระดับกว่ามนุษย์ที่วิวัฒนาการจากลิงซะอีก

น้องชายคนเล็กมิวมีชื่อว่า ซาจิ ส่วนน้องสาวชื่อว่านาโอะ และพี่สาวของมิวอีกคนมีชื่อว่าชิโอริ

น้องๆ รวมถึงมิวจะเรียกว่าพี่ชิโอะตลอด

“เอ่อ.. พี่เป็นคนต่างชาติเหรอคะ?”

เพราะหน้าตามิวไม่เหมือนคนญี่ปุ่นเลย อันที่จริงมิวก็หน้าตาไม่เหมือนคนในโลกนี้สักคนหรอก แม้รูปร่างจะเหมือนมนุษย์แต่หน้าตาของเธอก็เหมือนชาวต่างชาติสำหรับทุกๆ ประเทศบนโลก

ผมสีม่วงดำนั่นยิ่งทำให้ดูเหมือนไม่ใช่คนประเทศใดในโลกนี้.. แต่ก็นั่นแหละสำหรับสาวน้อยก็มองว่าเธอเป็นคนต่างชาติก็ไม่แปลก

มิวเองก็พยักหน้า

“ใช่แล้ว ฉันมาทำธุระที่นี่นิดหน่อยน่ะ เดี๋ยวก็ไปแล้วล่ะ..”

“ไม่ได้มาเที่ยวเหรอคะ?”

อาจจะเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเด็กเธอจึงถามออกมาโดยไม่รู้ตัวจนไม่รู้ว่ามันอาจจะเป็นการเสียมารยาท

เพราะเดิมทีนาโอะก็นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าเมืองชนบทแบบนี้จะมีธุระอะไรให้ทำ ซึ่งถ้าพูดว่ามาเที่ยวก็คงจะถามว่าเมืองชนบทแบบนี้มีอะไรให้เที่ยวเหมือนกันนั่นแหละนะ

แน่นอนว่าสำหรับน้องสาวแท้ๆ ของตัวเองมิวไม่ได้คิดว่ามันเสียมารยาทอะไรอยู่แล้ว..

“ที่มาที่นี่ก็มาเที่ยวนั่นแหละ ธุระของฉันอยู่ที่โตเกียวนู้น”

“ว่าแต่วันนี้วันที่เท่าไหร่นะ?”

มิวเหมือนนึกอะไรขึ้นได้.. จึงรีบถามขึ้น นาโอะก็บอกไปตามตรงว่าวันที่ 25 เดือนมกรา.. มิวถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก

ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งวันก่อนที่มิวจะตาย.. เธอจะตายในวันที่ 26 ตอนเช้า

อย่างไรก็ตามแม้มิวจะอยากอยู่เล่นกับน้องๆ อีกสักหน่อยแต่เธอไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้นมิวถึงได้พูดขึ้นว่า

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวก่อนนะ.. พอดีต้องไปแล้วล่ะ”

ว่าแล้วมิวก็เดินจากไป

“อ้ะ พี่.. รถไฟอยู่ทาง..นี้..”

นาโอะกำลังชี้บอกว่ารถไฟอยู่อีกทาง แต่พอหันมาอีกรอบมิวก็หายตัวไป.. ซาจิที่ยืนอยู่ก็พูดขึ้น

“พี่สาวเมื่อกี้โคตรเท่เลย หายตัวได้ด้วย”

“คนคนนั้น.. สวยจริงๆ ฉันจะสวยแบบนั้นได้ไหมนะ?”