บทที่ 27 ใช้แก้วที่เขาเคยใช้
ตาสองข้างมาสบกัน
มู่เทียนซิงยอมรับว่าสายตาของเขาดูสุขุมมาก ทำให้เธอรู้สึกไม่มีทางอื่นที่จะหนีพ้นไปได้
แต่ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้ ทั้งๆ ที่ในใจกลัวจะตายอยู่แล้ว แต่ก็ยังทำตาโตจ้องไปทางเขา
หลิงเล่ก็ไม่เหนื่อย ตาทั้งสองข้างเหมือนเป็นของปลอม ไม่กะพริบตาเลย ตอนที่มองมาทางเธอแถมยังเห็นทุกสีหน้าที่เธอทำ!
สุดท้ายจั๋วซีทำให้ทุกอย่างพัง!
“คุณมู่เทียนซิง พวกเราซื้อที่นอนแมวและที่ปีนแมวมาด้วย ยังซื้อพวกห้องน้ำมาด้วย แต่ไม่รู้จะต้องใช้ยังไง พวกเราลงไปก่อน ไปหาห้องนอนเล็กๆ ให้กับเจินเจิน คุณช่วยพวกเราทำเสร็จก่อนค่อยไปว่าอย่างอื่นดีไหม?”
มู่เทียนซิงเมื่อยตาจะตายอยู่แล้ว
ใจก็เหนื่อย
คำพูดของจั๋วซีเป็นการให้หน้าเธอ เธอก็โอเค
หลับตาแล้วลงจากรถ เธออุ้มเจินๆ ลงจากรถ “โอเค ไหนๆ ก็พูดขนาดนี้ละฉันไปช่วยพวกนายก็ละกัน”
ทางเดินที่ข้างๆ มีดอกไม้ พร้อมกับกลิ่นหอมๆ ทำให้อารมณ์ของมู่เทียนซิงดีขึ้นมาทันที
เดินไปทางประตูทีละก้าวๆ และยิ่งอยู่ยิ่งเร็ว
ตอนที่เธอเดินไปถึงทางประตู กำลังจะเรียกให้จั๋วซีมาเปิดประตู แต่ประตูถูกเปิดจากด้านในก่อนแล้ว
มู่เทียนซิงยืนเอ๋ออยู่ที่เดิม มองไปทางผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า
“ฮ่าๆ คุณมู่เทียนซิงใช่ไหม ยินดีต้อนรับ!” ผู้หญิงยิ้มหวานแล้วทักทายกับเธอและไม่ลืมแนะนำตัวเอง “ฉันคือภรรยาของจั๋วหรัน พี่สะใภ้ของจั๋วซี ฉันชื่อฉวีซือเหวิน คุณมู่เทียนซิงเรียกฉันว่าซือเหวินก็พอแล้วค่ะ”
ฉวีซือเหวินใส่ชุดทำงานหญิงที่ดูทางการ เป็นเสื้อสีครีมกระโปรงสีดำ ขาอันยาวเรียวถูกถุงน่องปกปิดไว้ สูงกว่ามู่เทียนซิงนิดๆ ผมสั้น ผิวขาวมาก องค์ประกอบหน้าดีจนไม่ต้องพูดถึง
โดยเฉพาะตอนที่เธอยิ้ม ดูอ่อนโยนไปหมด เหมือนเป็นสาวในสมัยก่อน ดูสวย เรียบร้อยและฉลาด
คนที่อยู่ด้านหลังเริ่มเข้าใกล้ มู่เทียนซิงไม่รู้ตัว
เธออุ้มเจินเจินไว้และชี้ไปทางฉวีซือเหวิน พูดอย่างเหลือเชื่อว่า “เธอคือภรรยาของจั๋วหรัน?”
ฉวีซือเหวินยิ้มอ่อนพร้อมกับพยักหน้าและยิ้มให้กับพวกผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเธอ
รถเข็นของหลิงเล่กำลังจะเข้าใกล้ก็ได้ยินมู่เทียนซิงพูดเสียงดังว่า “เสียดายจริงๆ เลย ผู้หญิงอย่างเธอที่ดีขนาดนี้จะแต่งงานกับจั๋วหรันที่หน้าเหมือนน้ำแข็งได้ยังไง เขาเป็นคนประเภทเดียวกับหลิงเล่ ไม่พูดก็คือไม่พูด ถ้าพูดมาคำนึงก็จะทำให้คนอื่นตกใจจนตาย แถมยังเป็นคนปากจัดอีกและยังเป็นเหมือนเจ้าอุบาย เธอเป็นสามีพระยากับจั๋วหรันเธอทนได้ยังไงเนี่ย ฉันที่จะต้องกดไลท์ให้เธอจริงๆ เลย เธอเยี่ยมมาก!”
ทุกคน: “.”
ฉวีซือเหวินมองเห็นจั๋วหรันที่อยู่หลังหลิงเล่สีหน้าของเขาดูแย่มาก ยิ้มอ่อนๆ และพูดว่า “คุณมู่เทียนซิงน่ารักจริงๆ พูดเร็วๆจัง น่ารักเหมือนเด็กเลย”
จั๋วซีอดกลั้นไม่หัวเราะและรีบหนีออกจากที่นี่ วิ่งขึ้นไปชั้นบน “คุณมู่เทียนซิง ผมรอที่ชั้นบนนะ”
มู่เทียนซิงยังไม่เข้าใจว่าทำไมจั๋วซีหนีเร็วขนาดนี้ แต่พอตอนที่เธอได้รับรู้ถึงความเย็นจากคนที่ได้หลังสองคนถึงจะรู้ จากนั้นก็วิ่งตามจั๋วซี “ฉันมาแล้ว มาแล้ว! ”
แค่แว๊บดียวก็หายไปแล้ว
ฉวีซือเหวินยืนอยู่ที่ประตูแล้วหัวเราะเบาๆ มองดูสามีตัวเองเข็นหลิงเล่เข้ามาแล้วพูดว่า “ฉันชอบคุณมู่เทียนซิงนะ”
มีเสียงดังขึ้นมาว่า “ความหมายของเธอก็คือ ฉันกับหลิงเล่เป็นคนประเภทเดียวกัน หน้าไร้ความรู้สึก เป็นคนที่พูดแล้วทำให้คนอื่นตกใจและปากจัด”
“เออ กาแฟได้แล้ว ฉันไปดูแป๊บ!” ฉวีซือเหวินหันหลังแล้วหนีไป!
เธอก็ได้ยินจากสามีและน้องชายว่าคุณชายสี่ยอมพูดแล้ว แต่เธอไม่เคยได้ยิน
วันนี้ไม่เพียงแต่ได้ยินแล้ว แถมยังได้ยินคุณชายสี่พูดเยอะขนาดนี้ เขาจะไม่กลัวได้ยังไง?
ส่วนคำถามที่คุณชายสี่ถามถึงว่าพวกเขาคือคนแบบที่มู่เทียนซิงพูดไหม เห็นได้ชัดว่าการกระทำของฉวีซือเหวินที่หนีไปนั้นหมายความว่ายังไง!
จั๋วหรันเข็นหลิงเล่ไปอยู่ตรงหน้าโซฟาแล้วพูดมาช้าๆ “อาซือ”
หลิงเล่ยกมือ หมายความว่าจั๋วหรันไม่ต้องอธิบาย
ตั้งแต่เขาอายุหกขวบจมน้ำเกือบตาย คุณหญิงเยว่หยาก็ให้อายุที่คล้ายๆ กับเขา นั่นคือจั๋วหรันและฉวีซือเหวินมาอยู่เคียงข้างเขา เป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันหลิงเล่รู้จักนิสัยของฉวีซือเหวินดี
ก็เหมือนอย่างที่เขาพูด คนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ไม่มีความลับต่อกัน
ผ่านไปซักแป๊บก็ได้กลิ่นหอมจากกาแฟ รวมไปถึงกลิ่นหอมจากดอกไม้ลอยเต็มอยู่บนอากาศ
มู่เทียนซิงลงมาจากชั้นบนรู้สึกสบายใจมาก
ฉวีซือเหวินยิ้มแล้วพูดกับเธอ “พึ่งทำลาเต้เสร็จ คุณมู่เทียนซิงจะชิมดูไหม?”
“ดีสิ! ” มู่เทียนซิงยิ้มหวาน ของหลิงเล่ดีทุกอย่าง กาแฟก็จะต้องดีแน่ๆ ไหนๆ เธอก็มาแล้วจะพลาดไม่ได้ แต่ตอนที่เธอนั่งลงบนโซฟาหลิงเล่พูดกับฉวีซือเหวินว่า “เธอกำลังเติบโตอยู่ ดื่มกาแฟไม่ดี ให้นมหนึ่งแก้วหรือผลไม้ปั่นดีกว่า”
ผู้หญิงกินพุทราสีหน้าดี
ผู้หญิงดื่มนมดีต่อผิวพรรณ
ฉวีซือเหวินมองไปทางมู่เทียนซิง ยิ้มแล้วพูดว่า “นมหรือผลไม้ดีไหม?”
มู่เทียนซิงโกรธ
ไม่รู้ทำไม เธอรู้สึกว่าผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟากำลังหาเรื่องเธออยู่
เธอเดินไปตรงหน้า ไปแย่งแก้วที่อยู่ในมือของหลิงเล่ ในนั้นยังมีกาแฟเหลืออยู่แถมยังอุ่นๆ อีกด้วย
หลิงเล่เหมือนกลัวกาแฟจะหก เห็นเธอมาแย่งก็เลยปล่อยไป
เธอดื่มกาแฟที่อยู่ในแก้วจนหมด จากนั้นก็เลียที่ริมฝีปากแล้วมองไปทางหลิงเล่
ฉวีซือเหวินทนไม่ไหวหัวเราะออกมา
หลิงเล่มองไปทางมู่เทียนซิงด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก จากนั้นเธอเอาแก้วน้ำเปล่าไปไว้ในมือเขา จากนั้นหันหลังแล้วหัวเราะดังๆ “ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ฉันกลับบ้านละนะบ๊าบ บาย!”
เธอเดินไปตรงหน้าประตู ยกมือไปทางจั๋วซี “นายขับรถไปส่งฉัน! ”
จั๋วซียักไหล่ สีหน้าแย่มาก “คุณชายสี่บอกว่า ถ้าคุณไปก็จะโยนเจินเจินลงจากดาดฟ้า”
มู่เทียนซิงอึ้งไปเลย ตะโกนไปทางหลิงเล่ “ถ้านายยังเกเรแบบนี้ ฉันจะคิดว่านายชอบฉัน!”
หลังจากที่เธอตะโกนเสร็จ ทุกอย่างก็เงียบไป
หลิงเล่จ้องมาทางเธอ ผ่านไปสักแป๊บถึงจะพูดว่า “ถ้าเธอคิดว่าเป็นอย่างงั้น ก็เป็นอย่างงั้นเถอะ!”