บทที่ 33 ทำสัญญาเหมาทั้งหลังภูเขา

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 33 ทำสัญญาเหมาทั้งหลังภูเขา

บทที่ 33 ทำสัญญาเหมาทั้งหลังภูเขา

เงินไหลมาเทมาแน่!

รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของอู๋ฝาน เขาอาการตื่นเต้นยินดี ในสายตาของเขา ‘กำแพง’ ที่อยู่ตรงหน้านี้ได้กลายเป็นเหรียญทอง แม้ไม่ว่าคุณภาพของแร่สูงระดับใด แต่มันย่อมมีค่าไม่ใช่น้อย ๆ

เหมืองที่อยู่ตรงด้านหน้าของหมู่บ้านเป็นเหมืองที่ทรุดโทรม มีแร่เพียงแค่ไม่กี่ชนิดและมีจำนวนค่อนข้างน้อย คุณภาพก็ค่อนข้างย่ำแย่ แต่มันก็ถือเป็นทรัพย์สินอันน้อยนิดในภูเขาน้อยของหมู่บ้าน

และ ‘กำแพง’ ที่อยู่ตรงหน้ามันเต็มไปด้วยสารพัดแร่ที่อุดมสมบูรณ์ แร่มีจำนวนมากมายมหาศาล คุณภาพเลิศล้ำ ไม่ว่าจะมองมุมไหน มันก็ดีกว่าเหมืองที่อยู่ตรงด้านหน้าหมู่บ้าน

แม้มีคำกล่าวว่าแร่ด้อยคุณภาพสามารถนำมาใช้สร้างอาวุธ เครื่องมือการเกษตร และอีกหลากหลายอย่างได้ แต่มันต้องเสียทั้งแรงงานและเวลาไปกับกระบวนการใช้ความร้อนกำจัดสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์ออกไป นอกจากนี้ ต่อให้ขั้นตอนการสกัดแร่จะกำจัดสิ่งเจือปนจนหมด อาวุธและอุปกรณ์การเกษตรที่ผลิตขึ้นย่อมมีปัญหาในแง่ของคุณภาพ มันไม่อาจเทียบเปรียบกับสิ่งของที่สร้างขึ้นจากแร่คุณภาพสูงได้ ทั้งด้านความคมและความคงทน

ดังนั้น ราคาของแร่คุณภาพสูงจึงสูงตามชื่อของมัน และยังเป็นที่ชื่นชอบของช่างตีเหล็กอีกด้วย อู๋ฝานได้เรียนรู้ข้อมูลเหล่านี้ตั้งแต่ได้เรียนวิชาช่างฝีมือแล้ว

อู๋ฝานจึงเสียอาการขึ้นมา เพราะพบเห็นแร่คุณภาพสูงจำนวนมากเรียงรายตรงหน้า

แค่สิ่งที่อยู่เบื้องหน้ายังทำเสียอาการ ลึกเข้าไปใน ‘กำแพง’ โลหะนี้จะมีอะไรอีกบ้าง ใครกันจะรู้?

เป็นทรัพย์สินอันยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย!

“ไม่ได้การแล้ว เราต้องคว้าสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ‘กำแพง’ นี่มาให้ได้!” อู๋ฝานไม่คิดปล่อยทรัพย์สินขนาดมหึมาตรงหน้าให้หลุดลอยไป

จากคำกล่าวของช่างตีเหล็กซุน ดูเหมือนว่าเหมืองในป่านั้นจะไม่มีเจ้าของ แต่แท้จริงแล้ว สิทธิ์ความเป็นเจ้าของจะตกไปอยู่กับทางการ พวกเขาจะไม่สามารถทำเหมืองเหล่านี้ได้หากไร้ซึ่งใบอนุญาต

ส่วน ‘กำแพง’ ที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ หากทางการรู้เข้า ทางการย่อมเข้ามาแทรกแซงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของ เมื่อถึงเวลานั้น ต่อให้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอู๋ฝาน ต่อให้หัวหน้าหมู่บ้านรู้เรื่อง อู๋ฝานทำได้แต่คิดว่า ‘กำแพง’ นี้กับตนเองมีโชคชะตาไม่เกี่ยวโยงกัน

ดังนั้น จะต้องไม่มีใครรู้เรื่อง ‘กำแพง’ นี้

เมื่อคิดได้ดังนั้น อู๋ฝานก็เร่งรีบไปยังทางเข้าของถ้ำก่อนหน้านี้ ก่อนจะกระโดดขึ้นไปด้วยพยัคฆ์ทะยาน ก่อนจะปิดปากทางเข้าถ้ำและวิ่งเข้าไปยังหมู่บ้านโดยไม่หันกลับมอง

“หัว… หัวหน้าหมู่บ้าน ผมต้องการเช่าที่ด้านหลังของภูเขา ไม่… ไม่ใช่แค่ที่ดินว่างเปล่า แต่เช่าทุกอย่างเลย!” อู๋ฝานวิ่งมายังบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว เขาจึงหอบหายใจหนักตอนบอกกับหัวหน้าหมู่บ้าน

เพียงแค่เช่าเหมาทั้งด้านหลังภูเขา อู๋ฝานจึงสามารถซ่อนเร้นตัวตนของ ‘กำแพง’ เอาไว้ได้อย่างแยบยล และกรรมสิทธิ์ของ ‘กำแพง’ จะตกอยู่ในมือเขา ต่อให้ภายหลังหัวหน้าหมู่บ้านรู้เรื่องการมีอยู่ของ ‘กำแพง’ ขึ้นมา ก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก

“ทำไมรีบร้อนมาแบบนี้ล่ะ? สูดลมหายใจก่อน ผ่อนลมหายใจออก ไปขุดรูหนีหนูอะไรมาหรือไงกัน?” หัวหน้าหมู่บ้านหัวเราะร่าพลางถาม เพราะเห็นท่าทีอันน่าอับอายของอู๋ฝาน

หัวหน้าหมู่บ้านพูดแทงใจ เพราะอู๋ฝานเพิ่งขุดรูออกมาจริง ๆ

“หัวหน้าหมู่บ้าน บอกผมมาก็พอว่าถ้าต้องการทำสัญญาใช้ทั้งด้านหลังภูเขาเป็นเวลาหนึ่งปี ผมต้องจ่ายเท่าไหร่?” อู๋ฝานเอ่ยถามขึ้นมา

“อยากทำสัญญาเหมาทั้งด้านหลังภูเขาเลยงั้นหรือ? พื้นที่ไม่ใช่น้อย ๆ เลยพื้นที่หลายแห่งรอบชายเขาไม่สามารถเพาะปลูกหรือเลี้ยงอะไรได้ หากเจ้าทำสัญญาไป ก็มีแต่จะสูญเปล่า” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวตอบ

“ผมต้องการพื้นที่รอบชายเขานั่นแหละ!” อู๋ฝานได้แต่พูดอยู่ภายใน

เขาไม่คิดบอกให้หัวหน้าหมู่บ้านรู้แต่อย่างใด เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่อง ‘กำแพง’ จนไม่ยอมให้เขาเช่ายืมด้านหลังภูเขา

“ผมคิดมาดีแล้ว” อู๋ฝานกล่าวอีกครั้ง

“เอางั้นก็ได้” หัวหน้าหมู่บ้านกลอกตามองยังอู๋ฝานก่อนจะกล่าวตอบ “ด้านหลังภูเขามีขนาดใหญ่โตกว่าหมู่บ้านของเรา แม้ว่ามีหลายส่วนที่ไม่อาจใช้การได้ แต่ก็เต็มไปด้วยทรัพยากร ควรจะตั้งราคาเท่าไหร่ดี? ต้องไม่ต่ำจนเกินไป พวกเราคุ้นเคยกันดี ข้าจะมอบราคาพิเศษให้ สัก 5,000 เหรียญทองต่อปี เจ้าว่าไง?”

“5,000 เหรียญทอง? ไม่กระชากคอปล้นกันเลยล่ะ!” อู๋ฝานร้องตอบ “พื้นที่กว้างแค่ปีละ 500 เหรียญทอง ถ้ารวมภูเขาแห้งแล้งกับป่าไม้ไร้ประโยชน์พวกนั้น เอาอะไรมาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า? หัวหน้าหมู่บ้านทำตัวน่าเกลียดเกินไปแล้ว”

“เจ้าจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก” หัวหน้าหมู่บ้านมองอู๋ฝานอย่างเร่งร้อน แต่ก็สงบใจลงได้ในเวลาอันสั้น “ก่อนหน้านี้ข้าเก็บค่าเช่าจาดพื้นที่เล็ก ๆ เพียงแค่ 500 เหรียญทอง แต่ภูขาแห้งแล้ง ป่า และแม่น้ำก็เต็มไปด้วยเงินทองทั้งนั้น เรียกได้ว่าเป็นทรัพย์สินมากมาย ตราบเท่าที่ทำสัญญาครอบคลุม ของพวกมันก็ตกเป็นของเจ้า ดูจะได้เปรียบเสียด้วยซ้ำ”

ในป่าย่อมมีทั้งสมุนไพรและพวกสัตว์ มีปลาและกุ้งในแม่น้ำ มีผลไม้ป่าบนภูเขา อู๋ฝานรู้ดี หัวหน้าหมู่บ้านก็ต้องรู้ดีเช่นกัน เพียงแต่อู๋ฝานมองว่าหมู่บ้านที่มีคนไม่ถึงสิบคนไม่อาจใช้วัตถุดิบเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่ หากอู๋ฝานไม่ทำสัญญา ด้านหลังภูเขาก็ถูกทิ้งร้างเสียเปล่า

แต่แล้วของเหล่านั้นกลับกลายเป็นทรัพย์สิน จากคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน หากพวกเขาให้อู๋ฝานเช่ายืม หมู่บ้านจะสูญเสียผลประโยชน์ ดังนั้นอู๋ฝานจึงต้องจ่ายในราคาสูง

อู๋ฝานเพิ่งได้ตระหนักถึงสายตาอันเฉียบแหลมของหัวหน้าหมู่บ้าน พร้อมกับตระหนักกับตนเองว่าเมื่อครู่นี้ ตัวเขากระหายทำสัญญาด้านหลังภูเขาจนเกินไป จนทำให้หัวหน้าหมู่บ้านระแคะระคาย จึงเป็นเหตุให้เรียกราคาสูงล้ำเพียงนั้น

แน่นอนว่าแม้ไม่มี ‘กำแพง’ อยู่ด้านในของภูเขา วัตถุดิบทั้งหลายบนภูเขา ในน้ำ และในป่าย่อมควรค่าแก่จำนวน 5,000 เหรียญทอง หากเช่าด้วยมูลค่า 5,000 เหรียญทอง ก็ไม่ใช่ว่าอู๋ฝานจะขาดทุนอะไร และหมู่บ้านก็มีรายรับโดยไม่ต้องทำอะไรด้วยเช่นกัน

หัวหน้าหมู่บ้านกัดฟันแน่นก่อนจะปฏิเสธที่จะลดราคา สุดท้ายอู๋ฝานจึงต้องยอมรับราคาดังกล่าว

‘แค่มี ‘กำแพง’ นั่น เราจะไม่ขาดทุนอย่างแน่นอน’ คิดได้ดังนี้ อู๋ฝานก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้างจนรอที่จะได้ขุด ‘กำแพง’ แทบไม่ไหว

“เจ้าเด็กนี่มีอาการผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด” หัวหน้าหมู่บ้านมองตามหลังของอู๋ฝานที่กลับออกไป ก่อนจะพึมพำกับตัวเอง “เขาน่าจะพบอะไรที่ด้านหลังของภูเขาแน่ ไม่งั้นคงไม่กระหายทำสัญญาทั้งด้านหลังภูเขาถึงขนาดนั้น”

เดิมนั้น หัวหน้าหมู่บ้านเรียก 5,000 เหรียญทอง แต่ก็มีเพดานราคาในใจอยู่ที่ 2,000 เหรียญทอง แต่มันก็เป็นดังที่อู๋ฝานคิดเอาไว้ หมู่บ้านแห่งนี้ไม่มีความสามารถมากพอจะนำวัตถุดิบทั้งหมดที่ด้านหลังภูเขามาใช้งาน

แต่สุดท้าย อู๋ฝานก็ยอมรับราคา 5,000 เหรียญทอง จึงทำให้หัวหน้าหมู่บ้านสงสัยว่าอู๋ฝานไปพบเจออะไรที่ด้านหลังของภูเขา

“ช่างเถอะ ต่อให้พบเจออะไรจริง ก็ใช้มันให้ดีก็แล้วกัน” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวกับตัวเอง “พวกเราที่นี่ก็แก่เฒ่ากันแล้ว ของนอกกายล้วนแล้วแต่ไร้ประโยชน์ ให้พวกคนหนุ่มไปก็แล้วกัน”