ตอนที่ 34 ทัศนคติทั้งสามโดนเขาบดขยี้แล้ว

รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ

ตอนที่ 34 ทัศนคติทั้งสามโดนเขาบดขยี้แล้ว

สมองว้าวุ่นไปแปปนึง มู่เทียนซิงนิ่งไป

บนริมฝีปากสัมผัสความอุ่นๆ เหมือนโดนของเบาๆ สะกิด

พอตั้งสติได้ มือข้างหนึ่งเคลื่อนไปที่หน้าของหล่อนช้าๆ ปิดตาของหล่อนเบาๆ

กลิ่นเย็นๆ ของต้นยี่เข่งที่แผ่ออกมาจากร่างกายเขา สดชื่นเบาๆ อ้อยอิ่งอยู่ที่ปลายจมูก หล่อนอยากยืดแขนออกอย่างตื่นตระหนก กลับพบว่าแขนนี้เมื่อเทียบกลับของเมิ่งเสี่ยวหลง กลับใหญ่และแข็งแรงกว่า

หล่อนพยายามลืมตาขึ้น มือใหญ่ตรงหน้ากอดหล่อนไว้แน่น ทำให้หล่อนหลบไม่ได้

ในหัวจู่ๆ ก็นึกถึงจูบเมื่อหกเดือนก่อนที่เขื่อนในเมืองชิงเฉิง

บอกว่าจูบก็ไม่น่าใช่

หล่อนกำลังให้โชคเขา

แล้วความเจ็บๆ บางๆ ก็เข้ามา หล่อนเลยเงยหัวแล้วขมวดคิ้ว อ้าปากเหมือนกำลังกินของที่เผ็ดมากๆ อย่างนั้น

หลิงเล่ใช้สายตาเศร้าๆ มองไปที่หล่อนแล้วพูดอย่างเป็นห่วงว่า:“กัดคุณเจ็บไหม?”

หล่อนดันเขาออกด้วยความโกรธ แล้วอยู่ที่โซฟาห่างจากเขาไปสองเมตร พูดอย่างโกรธๆ :“คนอันธพาล!ลามก!ไอ้บ้า!”

ใจดีจะพาเขาลงไปทานข้าวเย็น เขากลับเอาเปรียบหล่อน!

คนนี้ช่างแย่จริงๆ !

หลิงเล่กลับพิงเก้าอี้อย่างสบายๆ มองปากของหล่อนอย่างนิ่งๆ อย่างไม่ยอมรับว่าถูกต้อง สายตานั้นเหมือนมีบางอย่างยังไม่หายอยาก“แต่ว่าเมื่อกี้ คุณไม่ได้เอนจอยด้วยเหรอ?”

“ฉัน”

มู่เทียนซิงกัดฟันแล้วหมุนตัวไป ก้าวเท้าใหญ่ออกไป!

เขานั่งอยู่ในห้องทำงานอย่างโดดเดี่ยว ขมวดคิ้วอยู่นาน พระอาทิตย์ตกด้านนอกหน้าต่างค่อยๆ ถูกแสงความมืดกลืนกินไป สายตามองดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่หดหู่อยู่ไกลๆ ในที่สุดเขาก็หยิบโทรศัพท์ส่งข้อความหาจั๋วซี

ด้านล่าง——

ฉวีซือเหวินรออยู่นานมากแต่ไม่ได้ขึ้นไปรบกวน

ยังคิดว่ายืดเวลาไปนานแบบนี้ ความรู้สึกของคุณชายสี่กับคุณหนูมู่ก็น่าจะลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น แต่ไม่คิดว่าไม่เพียงแต่คุณหนูมู่จะลงมาคนเดียว พอลงไปก็ยังไปนั่งที่หน้าโต๊ะอาหาร กลืนข้าวลงไปอย่ามูมมามไม่รอคุณชายสี่

มู่เทียนซิงถือชาม หยิบตะเกียบ กวาดสายตา!

หล่อนจำได้ว่าก่อนหน้านี้หลิงเล่บอกว่าเขาหิว

ดังนั้นหล่อนเลยตั้งใจ ตั้งใจใช้ตะเกียบหยิบอาหารบนโต๊ะที่ประณีตอย่างยุ่งเหยิง แล้วจึงกินข้าวไปคำใหญ่ ไม่อยากเหลือให้เขาสักนิด!

กินซุปอีกชาม มู่เทียนซิงอึดอัดมาก

กินเข้าไปเยอะขนาดนั้น ครบรสทั้งเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด กลับล้างกลิ่นยี่เข่งในปากเขาไม่ออก!

ลูบท้องใหญ่ๆ นั่น แปปนึง หล่อนก็มองฉวีซือเหวินอย่างหมดแรง:“พี่อาซือ ปกติคุณชายสี่ชอบดื่มชาต้มยี่เข่งไหม?”

ฉวีซือเหวินงงไปแปปนึงแล้วจึงถาม:“ทำไมล่ะ?”

“ชอบไหม?”

“ไม่”

“งั้นพวกแป้งที่ทำจากยี่เข่งล่ะ?”

“ไม่”

“ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ?”

หน้าที่ได้รับคำตอบของมู่เทียนซิงผิดหวัง คอตกลงตรงนั้นเหมือนลูกบอลที่แฟบลง

ฉวีซือเหวินยิ้มแล้วพูด:“ดอกยี่เข่งเต็มไปด้วยสรรพคุณ เอาไปต้มก็ล้างพิษได้ บรรเทาอาการปวดบวม、หยุดเลือด;รากของยี่เข่งยังรักษาอาการเจ็บได้;ใบรักษาโรคบิด;เมล็ดก็ไปทำยาได้ ฆ่าวัชพืชได้ แต่ว่าประโยชน์ของยี่เข่งก็อีกเรื่องหนึ่ง คุณชายสี่จะใช้ไม่ใช้ก็อีกเรื่อง”

ความหมายแฝงคือ คุณชายสี่ไม่ได้ใช้ดอกยี่เข่งต้มน้ำ เพราะว่าไม่จำเป็น

มู่เทียนซิงคิดไม่ถึงว่าฉวีซือเหวินจะเข้าใจเยอะขนาดนี้ มองหล่อนด้วยสายตานับถือและก็มองหล่อนอย่างสงสัย:“งั้นทำไมปากของเขาถึงมีกลิ่นยี่เข่งล่ะ?หรือว่าลมพัดกลิ่นเข้ามา ทำให้ปากเขาเต็มไปด้วยกลิ่นนั่น?”

พูดจบ หน้าของฉวีซือเหวินก็ตื่นเต้น

หล่อนเหมือนรักแรกของสาวน้อยที่พบคนรักที่อยู่ในใจมานาน เอามือมาประกบกันที่ใต้คาง ตาคู่นั่นเป็นประกายพูดเบาๆ ว่า:“คุณ คุณคุณคุณ Kissกับคุณชายสี่?”

มู่เทียนซิงมองหล่อนอย่างบื้อๆ แล้วก็ตระหนักได้ว่าพูดอะไรออกมา

คำพูดน่าอายตกลงมาจากฟ้า!

แล้วกระแทก ไปที่หน้าอกของมู่เทียนซิง!

“ฉัน ฉันฉันฉัน ฉันเปล่า!”หล่อนลุกขึ้นมองท่าทางของฉวีซือเหวิน ถอยหลังไปสองก้าวด้วยความกลัว:“พวกเราจะKissกันได้ไงล่ะ?เขาปากหมาขนาดนั้น ไม่มีทาง ไม่มีทาง ไม่ได้จูบ!”

หล่อนโบกมือพร้อมกับถอยหลังออกไปแล้วก็ชนเข้ากับอะไรบางอย่าง

พอหันตัวไป สายตาที่ลึกซึ้งของหลิงเล่ก็จ้องหล่อน!

เหงื่อออก!

ไม่ซวยขนาดนี้มั้ง เขามาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ?

จั๋วซีเข็นหลิงเล่เข้าไป ยิ้มเบาๆ แล้วพูด:“คุณหนูมู่ ได้ชนอะไรไหม?”

มู่เทียนซิงส่ายหัว จะพูดออกมา แต่กลับได้ยินเสียงเย็นชาที่ไม่พอใจพูดมาว่า:“ทำไม จูบกับผมก็ทำเป็นไม่เห็นเลยเหรอ?จำเป็นต้องปฏิเสธอย่างบริสุทธิ์ขนาดนี้เหรอ?”

เทพเจ้าสายฟ้าคะ ผ่าผู้ชายคนนี้ที!

มู่เทียนซิงอยากจะหลบหนีแต่รู้สึกหมดหนทาง!

หล่อนปิดปากแน่นแล้วก็ปเดปากอออกมา จ้องเขาด้วยสายตาดุร้าย:“คุณยังพูดอย่างน่าไม่อาย?คุณมันประหลาด!บ้า!สกปรก!หน้าด้าน!”

“ปากขาวๆ มาส่งให้ถึงที่ ทั้งหอมทั้งนุ่ม ผมไม่กิน?”

“คุณ คุณคุณคุณ!”

เขาขมวดคิ้ว แสงสว่างส่องเข้ามาในตาอย่างไร้เดียงสา มองเขาด้วยความสงสัยหนัก:“ผมแค่พิการส่วนล่าง ด้านบนยังใช้งานได้!”

ตูม!

ทัศนคติของมู่เทียนซิงถูกเขาบดขยี้ไปหมดแล้ว!

กำมือแน่นเดินไปเดนมาหลายรอบ ความเหนื่อยล้าในใจไม่สามารถขับออกได้!

จักรวาลใกล้จะระเบิดแล้ว หล่อนยังไม่มีวิธีทางที่จะหาทางออกจากเขาได้!

เพราะว่าเขามักจะทำท่าหมูกินเสือแบบนั้น ไม่ทันระวัง หล่อนก็กลายเป็นผู้ร้ายที่รังแกคนพิการ!

ทน ทนไม่ไหว!

จั๋วซีมองมู่เทียนซิงที่ท่าทางโดดเดี่ยวอย่างเห็นใจหน่อยๆ ก้มตัวลงพูดกับหลิงเล่:“คุณชายสี่ คุณหนูมู่แย่แล้ว”

หลิงเล่กลับหันศรีษะของเขาเล็กน้อย ชมท่าทางที่หล่อนกำมือเหมือนกำลังชมภาพยนตร์วรรณกรรม:“อือ”

รอจนมู่เทียนซิงจัดการอารมณ์ได้ ตอนที่ไม่อยากสนใจกับเขาที่หูก็ได้ยินเสียงนิ่งๆ :“น่าเสียดายจริงๆ ”

มู่เทียนซิงไม่สนเขา เดินเท้าใหญ่ขึ้นไป!

อยู่กับเขาแล้วสู้ไปอยู่กับเจินเจินข้างบนดีกว่า!

ใครจะรู้ว่าเขาก็พูดขึ้นมาว่า:“ตอนบ่ายกินไข่ต้มน้ำตาลทรายแดงชามนั้นที่ตระกูลมู่ น่าจะทานกับคุณ ผมทานไข่ คุณดื่มน้ำต้มน้ำตาลทรายแดง บางทีแบบนี้ ฮอร์โมนที่เปลี่ยนช่วงประจำเดือนของคุณอาจจะดีกว่านี้”

มู่เทียนซิงที่อยู่ตรงบนบันไดจ้องเขา:“อารมณ์ฉุนเฉียวช่วงประจำเดือน?ฉัน?”

“หรือว่าไม่ใช่?”หลิงเล่มองหล่อนแล้วพูดต่อ:“หลังจากเมื่อกี้ที่คุณออกมา ผมหาข้อมูลในเน็ตเยอะมาก ถึงได้แน่ใจว่าเหตุผลที่คุณจู่ๆ ก็ระเบิดมาแบบนี้เพราะว่า——ประจำเดือนมา!”