บทที่ 38 สังหารให้สิ้นซาก

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา

บทที่ 38 สังหารให้สิ้นซาก

“ไอ้เด็กเวรไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!”

หัวหน้าฐานที่สวมชุดคลุมยาวสีทองสีหน้าย่ำแย่สุดขีด ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่ากำลังคนของตัวเองจะจัดการเด็กคนนี้ไม่ได้

โดยเฉพาะเมื่อครู่เขายังคุยโวไปว่าจัดการได้ภายในหนึ่งก้านธูป ตอนนี้หนึ่งก้านธูปก็ได้ผ่านไปแล้วจริงๆ แต่ฝ่ายที่ถูกจัดการกลับเป็นองครักษ์ของตัวเอง

“ไอ้พวกไร้ประโยชน์!” ประกายเย็นเยือกฉายวาบขึ้นในตาของหัวหน้าฐาน เขาก้าวข้ามธรณีประตูออกไปก้าวหนึ่ง มุ่งหน้าไปหาสวี่ชิงทันที

ระลอกคลื่นพลังวิญญาณนอกร่างของเขาปะทุแข็งแกร่งขึ้นตามฝีเท้าที่ก้าวไปข้างหน้า ร่างกายก็แผ่เลือดลมที่น่าหวาดกลัวยิ่งกว่าออกไป ร่างใต้เสื้ออาภรณ์ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้เงาของเขาดูแล้วราวกับภูเขาลูกหนึ่ง

กระทั่งว่ายังมีแสงสีแผ่ซ่านออกมาจากร่างของเขารางๆ เสียด้วยซ้ำ

หัวหน้าฐานก็เป็นผู้ฝึกกายาเหมือนกัน!

แต่เห็นได้ชัดว่าเคล็ดวิชาที่ฝึกฝนไม่ได้เป็นระดับต่ำแบบเคล็ดคีรีสมุทร แต่เป็นวิชามหาวัชระ เคล็ดวิชาชั้นยอดจากสำนักวัชระ

ตอนนี้ด้วยการโคจรอย่างเต็มที่ รัศมีอำนาจปะทุ ฝีเท้าของเขาก็รวดเร็วขึ้นในพริบตา แปรเปลี่ยนเป็นเงามหึมาพุ่งตรงมายังสวี่ชิง

รวดเร็วยิ่งยวด เพียงพริบตาก็มาอยู่หน้าสวี่ชิงแล้ว เหวี่ยงหมัดหนึ่งออกมาทันที การเหวี่ยงของหมัดนี้ ทั่วร่างของเขาเปล่งแสงทองเจิดจ้า เต็มไปด้วยอำนาจกดดัน

สวี่ชิงกวาดตามองชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นที่ยืนอยู่หลังธรณีประตูคอยมองมาทางนี้กับหัวหน้าเหลยที่ถูกหิ้วอยู่ในมือเขา ฝืนสะกดความกังวลลงไป หรี่ตาลงเล็กน้อย

เขารู้ดีว่าทันทีที่ตนชิงความได้เปรียบมาได้ เช่นนั้นก็เป็นไปได้อย่างมากว่าอีกฝ่ายจะใช้หัวหน้าเหลยมาข่มขู่

เรื่องแบบนี้เป็นสิ่งที่สวี่ชิงไม่อยากเห็น และวิธีป้องกันไม่ให้ภาพนั้นปรากฏขึ้นก็คือลงมือจู่โจมทันที!

จู่โจมโดยให้อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว

ดังนั้นแล้วสวี่ชิงจึงหรี่ตา ชกหมัดออกไปปะทะกับหัวหน้าฐานเช่นกัน

เสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น ร่างของสวี่ชิงถอยไปข้างหลังเจ็ดแปดก้าว แต่ก็ไม่ได้ถอยตรงไปเสียทีเดียว ทว่าเบี่ยงไปข้างๆ สามสี่ก้าว

ตอนนี้แสงอาทิตย์อยู่ข้างหลังเขา เงาที่สะท้อนอยู่บนพื้นก็ไหววูบไปตามการเคลื่อนไหวของเขา

และหัวหน้าฐานที่ปะทะกับสวี่ชิงก็สัมผัสถึงพลังที่มาจากเขา ตอนนี้ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน ถอยไปข้างหลังเช่นกัน

แต่ในขณะที่เงยหน้าขึ้นมาในดวงตาของเขากลับฉายแววดูถูก ร่างเพียงไหววูบก็พุ่งมาหาสวี่ชิงอีกครั้ง พลังบำเพ็ญในกายโคจรอย่างเต็มกำลัง เกิดเป็นเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น

เขาพูดจาดูถูก สายตาเหยียดหยาม แต่ยามลงมือ…กลับทุ่มสุดกำลัง

เห็นได้ว่าสิ่งที่แสดงออกมาล้วนแต่แกล้งแสดงทั้งสิ้น อย่างไรการจะเป็นหัวหน้าฐานได้ ทำให้คนเก็บขยะกลุ่มหนึ่งยำเกรง แม้จะเป็นลูกศิษย์ของสำนักใหญ่ ก็ไม่มีทางประมาทเด็ดขาด

“วิชามหาวัชระกระบวนที่หนึ่ง!” หัวหน้าฐานคำราม ระหว่างนั้นร่างก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก พลังและความเร็วเพิ่มขึ้นพรวดพราด หลังจากที่ประชิดเข้ามาใกล้เพียงแค่เสี้ยวพริบตา ก็ทุ่มพลังลงมาเต็มแรง

สวี่ชิงก้มหน้า ทำให้หัวหน้าฐานมองไม่เห็นดวงตาคู่นั้นของเขา มือทั้งสองข้างพลันยกขึ้นปัดป้อง ถอยไปอีกครั้งท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง การไหววูบของเงาที่ฝีเท้าเคลื่อนไหวชัดเจนขึ้นอีกเล็กน้อย

ทว่าไม่มีใครพบเห็น

“วิชามหาวัชระกระบวนที่สอง!” เห็นสวี่ชิงทานรับการโจมตีทั้งสองครั้งของตัวเองได้ ทำให้จิตสังหารในดวงตาของหัวหน้าฐานที่พลังบำเพ็ญถึงระดับรวมปราณขั้นแปดสุดยอดแล้วเข้มข้นขึ้นไปอีก

ทั้งร่างขยายขึ้นอีกครั้ง ซัดหมัดไปหาสวี่ชิงอีกที

แสงสีทองที่ปะทุออกมาจากหมัดนี้ยิ่งเจิดจ้าขึ้นอีก แต่ในพริบตาที่ซัดลงมา สวี่ชิงก็พลันเงยหน้าขึ้น

จิตสังหารในดวงตาของเขาปะทุออกมาอย่างรุนแรง ณ เสี้ยวขณะนี้ เขาย้ายตำแหน่งหลายครั้ง ในที่สุดก็ทำให้เงาของตัวเองตอนนี้ตรงกับชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นที่อยู่ตรงธรณีประตูเสียที

อีกทั้งอาศัยการเคลื่อนไหวซ่อนความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นในยามที่เขาควบคุมเงา

และสืบเนื่องจากมุมองศาดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า เงาในตอนนี้จึงยืดยาวมากจนมาถึงยังบริเวณที่ไม่ไกลจากข้างหน้าชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นมากนัก

ตามการเงยหน้าขึ้นของสวี่ชิง ตามจิตสังหารที่ปะทุขึ้นทั่วทั้งร่างของเขา เขาเมินหมัดที่มาจากหัวหน้าฐาน ร่างพลันกระโดดทะยานขึ้น

และในพริบตาที่ระดับความสูงของเขาเพิ่มขึ้น เงาของเขาก็ข้ามผ่านระยะห่างระหว่างชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นทันที

มีเงาส่วนหนึ่งแผ่ลามออกไปจากเงาที่บิดเบี้ยวอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันให้ได้ตั้งตัว ปกคลุมไปยังข้อมือขวาของชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นที่หิ้วหัวหน้าเหลยเอาไว้ทันที!

เงาของสวี่ชิงไม่พาดผ่านร่างของหัวหน้าเหลยเลยแม้แต่น้อย!

นี่ก็คือเหตุผลสำคัญอีกข้อหนึ่งที่เขาปรับฝีก้าวเมื่อครู่นี้

พลังแปลกประหลาดของเงาก็พลันปะทุขึ้นท่ามกลางเสียงคำรามของสวี่ชิงเพียงเสี้ยวพริบตา

ในชั่วขณะนั้นชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันใด ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงและการปะทุขึ้นของไอพลังประหลาดทำให้มือขวาของเขากลายเป็นสีเขียวคล้ำทันที

การเปลี่ยนแปลงเฉียบพลันนี้ทำให้เขาตกใจคลายมือที่จับร่างของหัวหน้าเหลยเอาไว้ไปโดยสัญชาตญาณ

และในเสี้ยวพริบตาที่เขาคลายมือออก ทางสวี่ชิงทั่วร่างก็ส่งเสียงเลื่อนลั่น พยายามแบกรับหมัดของหัวหน้าฐาน ในขณะที่ความเร็วของเขาปะทุขึ้นเต็มที่ก็พ่นเลือดสดๆ ออกมา

ทั้งร่างแปรเปลี่ยนเป็นรอยเงาหายไปจากที่เดิมทันที แล้วพุ่งไปยังทางชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นทางนั้น

ประกายวาววับประดุจสายฟ้าฟาดสองทางที่แปรเปลี่ยนมาจากเหล็กแหลมและกริช พุ่งประชิดเข้าไปหาชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้น ทำให้เขาที่มือขวากลายพันธุ์จำต้องถอยหลังหลบ

และในขณะเดียวกับที่เขาถอยหลบ สวี่ชิงก็พุ่งเข้าไปข้างในคว้าหัวหน้าเหลยเอาไว้

ใช้แรงเหวี่ยงออกไปข้างนอก เงาร่างของกางเขนและเขี้ยวหงส์ทะยานตัวเข้ามาจากกลุ่มคนอย่างเร็วรี่ คว้าตัวเอาไว้แล้วถอยไปอย่างว่องไว

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วยิ่งนัก รวดเร็วเป็นอย่างยิ่ง!

“เงาของเจ้า!!” ชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นหน้าเปลี่ยนสี พลันมองไปทางสวี่ชิง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เกิดขึ้นกะทันหัน เหนือความคาดหมายเกินไป เขาตั้งตัวไม่ทันเลย

หัวหน้าฐานที่อยู่นอกประตูตอนนี้ดวงตาก็หดเล็กลง การเคลื่อนไหวของสวี่ชิงทำให้เขาตื่นตะลึงสุดขีดจริงๆ

สวี่ชิงเช็ดเลือดที่มุมปาก มองทั้งสองคนอย่างเย็นชา เงาร่างของเขาราวกับเหยี่ยวล่าเนื้อภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น อ้าปากส่งเสียงต่ำทุ้ม

“ตอนนี้เป็นทีของข้าบ้างแล้ว”

เขาพูดจบ ร่างก็ส่งเสียงดังบึ้มแล้วทะยานไปหาชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นทันที เทียบกับคนที่ฝึกกายา สวี่ชิงรู้สึกว่าคนที่ตนต้องฆ่าก่อนเป็นอันดับแรก ควรจะเป็นคนที่ฝึกฝนวิชาเวท

ตอนนี้เมื่อพุ่งออกไปก็เข้าประชิดได้ในทันที

ชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นสีหน้าย่ำแย่ ถอยไปข้างหลังอย่างเร็วรี่ สองมือประสานปางมือชี้ไปหาสวี่ชิง หมอกหลอมรวมขึ้นอย่างรวดเร็วทันที มันแปรเปลี่ยนเป็นเงาผีร้ายพุ่งมาหาสวี่ชิงอย่างเหี้ยมโหด

ทางหัวหน้าฐานทางนั้นก็คำรามออกมาเช่นกัน แสงสีทองปะทุออกมาทั่วร่าง พุ่งมาหาสวี่ชิง ร่วมกับการลงมือของชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นก็กลายเป็นการล้อมโจมตี

เห็นว่าจะเกิดอันตรายแล้วเต็มที ประกายเย็นเยียบฉายวาบขึ้นในตาของสวี่ชิง เลือดลมทั่วร่างปะทุอย่างเต็มที่ในชั่วขณะนี้เอง

ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง พลังเลือดลมก็กวาดไปทั่วทุกสารทิศราวกับพายุ เงาขุยเงาหนึ่งปรากฏออกมาอย่างเหี้ยมโหดยิ่งนัก ส่งเสียงคำรามไร้เสียงสั่นคลอนไปทุกทิศ

มือทั้งสองของสวี่ชิงกำเป็นหมัดในชั่วขณะเดียวกับที่ยกขึ้น ซ้ายข้าง ขวาข้าง ซัดลงมาพร้อมกัน!

ในยามที่ซัดลงมา เงาขุยข้างหลังก็แยกออกเป็นสองส่วน พุ่งไปหาหัวหน้าฐานและชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นในเวลาเดียวกัน

“เลือดลมหลอมเป็นเงา!! นี่…นี่…”

หัวหน้าฐานสีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง หลังจากที่หมัดของเขาปะทะเข้ากับมือซ้ายของสวี่ชิงแล้ว แสงสีทองที่ร่างของเขาก็หมองหม่นอับแสงลงทันทีจากการเงาขุยที่พุ่งมาหาด้วยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม ทั้งร่างถอยหลังห่างออกไปไกลเจ็ดแปดจั้ง

ส่วนชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นใบหน้าก็ตื่นกลัวทันทีเช่นกัน ผีร้ายที่แปลงออกมาจากวิชาเวทของเขา เมื่ออยู่ต่อหน้าเงาขุยกลับตัวสั่นงันงก หลังจากถูกเงาขุยที่ยิ้มเหี้ยมเกรียมกลืนกิน เงานั่นก็ไม่ได้หยุดชะงัก แต่ทะยานไปหาชายชราทันที

เสียงสนั่นหวั่นไหวดังกึกก้องไปทั่ว ชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นกระอักเลือด ร่างถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว

ทว่านอกร่างของเขาตอนนี้มีเกราะแสงสีน้ำเงินสายหนึ่งปรากฏขึ้น ทำให้เขาแค่กระอักเลือดเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

และต้นกำเนิดของเกราะแสงก็คือกระดาษยันต์แผ่นหนึ่ง!

นี่คือ…ของวิเศษเวท!!

สวี่ชิงหน้าขาวซีดเช่นกัน แม้เขาจะแข็งแกร่ง แต่เผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีจากหัวหน้าฐานและชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้น อวัยวะภายในของเขาก็สั่นสะเทือนรู้สึกย่ำแย่เช่นกัน

ตอนนี้เลือดไหลออกมา แต่ความเหี้ยมโหดของเขาไม่ลดลงแม้แต่น้อย ฉวยโอกาสที่หัวหน้าฐานตื่นตะลึงหวาดกลัว จิตสังหารในดวงตาสวี่ชิงก็ปะทุ ทะยานไปหาชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นทันที

ชกออกไปอย่างสุดกำลัง

“รนหาที่ตาย!” ชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นหน้าซีดเผือด แต่ในดวงตาฉายแววอำมหิต

ขณะที่ร่างถอยไปข้างหลังก็คงการป้องกันของวิเศษเวท สองมือก็พลางประสานปางมือ แล้วพลันสะบัด ผีร้ายเจ็ดแปดตนก็ปรากฏออกมาทันที

ทุกตัวท่าทางเทียบได้กระทั่งระดับรวมปราณขั้นเจ็ด มาพร้อมด้วยความเย็นเยือกและเสียงคำราม พุ่งกัดกินไปหาสวี่ชิง

ประกายความเหี้ยมโหดฉายวาบในดวงตาสวี่ชิง เขาไม่หลบหลีก ปล่อยให้ผีร้ายพวกนั้นโถมเข้ามากัดกินทั้งร่าง ทว่าความเร็วของร่างกายไม่ลดลง รัศมีอำนาจไม่ถดถอย เขาชกหมัดหนึ่งออกมา

ท่ามกลางเสียงดังกึกก้อง การป้องกันของของวิเศษเวทสั่นสะเทือนขึ้นมา

แต่จะอย่างไรอาวุธชิ้นนี้ก็เป็นของวิเศษเวท นอกเสียจากว่าจะใช้พลังจนหมดเกลี้ยง ไม่อย่างนั้นก็ยากจะทำให้มันแหลกสลายได้

แต่เห็นได้ชัดว่าต่อให้เป็นชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นคนนี้ก็ยากจะมีของวิเศษเวทชิ้นที่สอง อีกทั้งของวิเศษเวทชิ้นนี้ก็ใช้ไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้ว ตัวอักษรบนนั้นจึงจางเลือนรางลงไม่น้อย

ตอนนี้เมื่ออยู่ภายใต้การโจมตีของสวี่ชิงก็ยิ่งเลือนรางไปอย่างรวดเร็ว

นี่ทำให้สีหน้าของชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นเปลี่ยนสีอีกครั้ง

เขาสัมผัสได้ถึงความเหี้ยมโหดของสวี่ชิง รู้ถึงวิกฤตชีวิตความเป็นตาย ดังนั้นในดวงตาก็มีความบ้าคลั่งเช่นกัน ระหว่างประสานปางมือก็พ่นเลือดออกมา เปลี่ยนเป็นเงาเลือดมาพร้อมด้วยเสียงกรีดร้องแหลมสูง เข้าประชิดสวี่ชิง

แต่สวี่ชิงตอนนี้ทั่วร่างเลือดลมพวยพุ่ง ไม่สนใจวิชาเวทของอีกฝ่าย ฝืนชกหมัดออกไปอีกครั้งด้วยร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บ!

เงาขุยเงยหน้าคำรามในเสี้ยวเวลานี้ ผสานไปกับหมัดซัดลงมา

แม้ของวิเศษเวทจะสามารถต้านได้ แต่การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก็ยังทำให้ชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นที่รากฐานพลังเคยแตกสลายมาก่อนต้องกระอักเลือด ร่างถอยไปข้างหลังทันที ความบ้าคลั่งในดวงตาแปรเปลี่ยนเป็นลนลาน

ความรู้สึกของความตายมาเยือนทำให้เขาคำรามแสบแก้วหู

“จางซื่อหยวน เจ้ามัวแต่อึ้งอะไรอยู่ ยังไม่มาร่วมมือกับข้าต่ออีก!!”

จางซื่อหยวนคือชื่อของหัวหน้าฐาน ตอนนี้เขาได้ยินประโยคนี้จากที่ไกลๆ ก็สะกดความครั่นคร้ามในใจ ก่อนจะพุ่งเข้ามา

ส่วนตอนนี้ที่ท้องของสวี่ชิงก็มีรูเลือดที่ถูกเงาเลือดพุ่งทะลุ แต่สวี่ชิงไม่สนใจความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้แล้ว เลือดลมทั่วทั้งร่างปะทุขึ้นอีกครั้ง จิตสังหารในใจก็พุ่งไปถึงขีดสูงสุดแล้วเช่นกัน

ทุกๆ หมัดล้วนทุ่มด้วยทุกอย่างที่มี เงาขุยเงยหน้าคำรามร่วมไปกับหมัดของเขา ซัดไปที่การป้องกันของชายชราไม่หยุด

เสียงบึ้มๆ ดังก้องไปทั่วฐานที่มั่น ตัวอักษรของของวิเศษเวทก็ยิ่งรางเลือนลงไปอีก แต่กลับยังไม่แตก ทว่าชายชราชุดผ้าแพรปักดิ้นก็ทนรับแรงสั่นสะเทือนที่มาจากสวี่ชิงไม่ไหวแล้ว

จิตใจของเขาเกิดความตื่นตระหนกหวาดกลัวที่ไม่อาจบรรยายได้เป็นระลอกๆ ความรู้สึกของความตายมาเยือนยิ่งชัดเจน

ของวิเศษเวทของเขามีผลอย่างน่าอัศจรรย์กับประเภทวิชาเวท แต่สำหรับพลังสั่นสะเทือนที่เกิดจากการโจมตีของฝึกกายา ร่างของเขาที่เคยถูกทำลายรากฐานพลังไม่มีทางยืนหยัดได้นานนัก

เลือดพ่นออกมาไม่หยุด ชายชราร้อนรนสิ้นหวัง

อยากตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่การโจมตีของแรงสั่นสะเทือนแผ่กระจายไปทั่วร่างของเขา ทำให้เขาส่งเสียงไม่ออก ท่ามกลางความตื่นกลัวทั่วทั้งตัวก็สั่นสะท้านรุนแรง วิชาเวทก็ถูกสั่นสะเทือนจนไม่อาจสำแดงออกมาได้ ทำได้แค่กรีดร้องโหยหวนในใจเท่านั้น

“ข้า…ข้าไม่อยากตาย ข้า…”

เสี้ยวพริบตาต่อมา เส้นเลือดที่หน้าผากสวี่ชิงเต้นตุบ ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ สองมือกุม แล้วทุ่มไปยังการป้องกันของวิเศษเวทอย่างเต็มกำลัง

“ตาย!”

พลังรุนแรงน่าหวาดกลัวปะทุดังสนั่นหวั่นไหว การป้องกันของวิเศษเวทบิดเบี้ยว มันยังคงไม่แหลกสลาย แต่ชายชราที่อยู่ในนั้นทั่วทั้งร่างสั่นสะท้านรุนแรง ดวงตาปูดโปน

ในเสี้ยวขณะนี้ร่างกายไม่อาจทนรับการสั่นสะเทือนได้อีกต่อไป

ดวงตาทั้งสองระเบิดทันที อวัยวะภายในแหลกสลาย เลือดเนื้อแหลกเหลวกลายเป็นเศษเนื้อ เละเทะไปทั่ว!

ทำทุกอย่างนี้เสร็จสิ้น สวี่ชิงก็หอบหายใจแล้วพลันหันหน้ากลับมา มือขวาชกออกไปปะทะกับหัวหน้าฐานที่พุ่งเข้ามาข้างหลัง

ร่างที่ได้รับบาดเจ็บของเขาขดม้วนกลิ้งถอยหลัง กระเด็นไปไกลเจ็ดแปดจั้งทันที บาดแผลที่สมานดีแล้วกว่าครึ่งมากมายบนร่างปริแตกอีกครั้ง เลือดสาดกระจาย สวี่ชิงในตอนนี้อยู่ใต้แสงอาทิตย์ยามเย็นได้กลายเป็นมนุษย์เลือด

ส่วนทางหัวหน้าฐานทางนั้นในใจก็สั่นสะท้านรุนแรง

เขามองผู้ร่วมมือที่ถูกซัดระเบิดทั้งเป็น แล้วมองไปยังสวี่ชิงที่ทั่วทั้งร่างลอยอวลไปด้วยเลือดสดๆ แต่ก็ยังตั้งท่าอยู่ตรงนั้น รักษาท่าทางโจมตี ดวงตาฉายจิตสังหารจ้องมาที่ตนเขม็ง ก็รู้สึกเพียงหลังเย็นวาบ

ภาพนี้ก็ทำให้คนเก็บกวาดที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างตื่นตะลึงกันสุดขีด ในยามที่มองมาที่สวี่ชิงแต่ละคนล้วนฉายแววหวาดกลัวและ…ยำเกรง