ตอนที่ 26 มีประโยชน์

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

“เจ้ามันลูกเนรคุณ! สละตำแหน่งซื่อจื่อเรื่องใหญ่เช่นนี้กลับไม่บอกกล่าวข้าสักคำ! เห็นตำแหน่งซื่อจื่อเป็นของเล่นหรืออย่างใด ไม่อยากได้ก็ไม่อยากได้ยังไปรบกวนองค์หญิงใหญ่อีก! เจ้าเหยียบย่ำจวนจงหย่งโหวเพื่ออนาคตของตัวเองเช่นนี้น่ะหรือ!”

ฉินหล่างขอบตาร้อนผ่าวจุกแน่นในลำคอ เงียบไปครู่หนึ่ง ถอยหลังไปหนึ่งก้าวก้มศีรษะแนบพื้นคาราวะจงหย่วโหว “ตั้งแต่ท่านแม่จากไป ท่านพ่อแต่งงานกับภรรยาใหม่ ข้าไม่รู้ว่าเหตุใดทั้งๆ ที่ข้าปฏิบัติตนด้วยความกตัญญูแต่ท่านแม่เลี้ยงก็ยังมิชอบใจ ตั้งใจร่ำเรียนวิชาท่านพ่อก็ยังมิพอใจ ข้าไตร่ตรองอยู่นานก็ยังคิดไม่ตก จวบจนเมื่อช่วงฤดูใบไม้ผลิ น้องชายคุกเข่าอยู่ตรงหน้าพวกท่าน ท่านพ่อกล่าวชมว่าน้องชายมีพรสวรรค์ในการเรียน ท่านแม่น้ำตานองหน้าตัดพ้อว่าน้องชายไม่ใช่บุตรคนโต ธรรมเนียมของตระกูลไม่ยุติธรรม ข้าจึงได้รู้ว่าท่านแม่อยากให้น้องชายเป็นซื่อจื่อ! ข้าไร้ความสามารถ ไม่อาจบรรเทาความกังวลของพวกท่านได้ ถือว่าอกตัญญู ข้าทบทวนดูแล้วจึงขอสละตำแหน่งซื่อจื่อ ข้าอยากถอนตัวออกมามิใช่ว่าไม่กตัญญูต่อท่าน อีกไม่กี่วันข้าจะย้ายออกจากจวนนี้ ข้าหวังว่า…จวนโหวจะมีแต่ความปรองดอง ท่านพ่อท่านแม่ร่างกายแข็งแรง ภรรยาของข้าได้อยู่อย่างสงบ ท่านพ่อโปรดอภัยให้ข้าด้วย!”

แววตาของจงหย่งโหวไหววูบ มองดูฉินหล่างโค้งคำนับอีกครั้งแล้วหมุนกายเดินจากไป เขาขยับปากเล็กน้อย ยกมือขึ้น……สุดท้ายก็ไม่ได้รั้งฉินหล่างเอาไว้

ไป๋ชิงเหยียนทานอาหารเย็นเสร็จจึงฝึกร่างกายต่อจนเหงื่อท่วมตัว ร่างกายเริ่มคุ้นชินแล้ว ไม่ปวดเมื่อยไปทั้งร่างดังเช่นสองวันก่อน

หลังอาบน้ำเสร็จ ชุนเหยียนกำลังเช็ดผมให้ไป๋ชิงเหยียนที่นั่งอ่านตำราอยู่ภายใต้แสงไฟ เห็นชุนเถาถือชาร้อนเดินเข้ามา

“คุณหนูใหญ่ เรื่องที่ท่านสั่งให้ญาติผู้พี่ของข้าไปจัดการเรียบร้อยแล้วเจ้าคะ ดึกแล้วเขาไม่สะดวกเข้ามาที่เรือนหลังจึงให้บ่าวมารายงานคุณหนูเจ้าค่ะ” ชุนเถาวางชาร้อนลงข้างมือของไป๋ชิงเหยียน

เฉินชิ่งเซิงเป็นคนฉลาดมาก นางไม่มีสิ่งใดต้องกังวลในตัวของชายหนุ่มอีก แม้ว่าวันนี้นางจะกล่าวอย่างเป็นนัยแต่เฉินชิ่งเซิงก็รู้ดีว่าควรจัดการเช่นใด

ไป๋ชิงเหยียนละสายตาจากตำรา เอ่ยถาม “ญาติผู้พี่ของเจ้าจัดการเช่นใด”

เดิมทีชุนเถาไม่อยากเล่าเรื่องสกปรกโสมมเช่นนี้ให้ไป๋ชิงเหยียนฟัง แต่ในเมื่อไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถาม ชุนเถาก็ไม่คิดจะปิดบัง “ญาติผู้พี่ให้องครักษ์หลูผิงนำคนบุกไปที่จวนของเจี่ยงซื่อเจ้าค่ะ เขาใช้สัญญาทาสแย่งตัวหมิงอวี้มาจากคนพวกนั้น จากนั้นก็มัดตัวหมิงอวี้แล้วขี่ม้าพาเข้ามาในเมือง ส่งตัวนางคืนให้ที่บ้านของนางเจ้าค่ะ บอกว่า…หมิงอวี้ทรยศนาย แม้คุณหนูรองจะเมตตาเห็นแก่ที่นางรับใช้คุณหนูหลายปีจึงไม่ถือสาหาความ แต่ก็ไม่กล้าใช้ต่ออีกจึงให้คนส่งหมิงอวี้กลับบ้าน อนุญาตให้ครอบครัวไถ่ถอนตัวหมิงอวี้กลับไปได้ ขอให้จบกันแค่นี้”

เฉินชิ่งเซิงฉลาดมาก จัดการได้ดี…

ชื่อเสียงของตระกูลไป๋จะเสื่อมเสียไม่ได้

ไป๋ชิงเหยียนพับตำราวางลงบนโต๊ะไม้โอ๊กตัวเล็กอย่างอารมณ์ดี รู้ว่าเรื่องยังไม่จบแค่นี้ ยกน้ำชาขึ้นจิบ

“เจ้าว่าต่อเลย…”

“พี่ชายของหมิงอวี้เกรงกลัวอำนาจบารมีของจวนเจิ้นกั๋วกงจึงรีบไปยืมเงินจากทุกสารทิศถึงคืนให้เราได้ครบ! ก่อนญาติผู้พี่ข้าจะกลับได้ลอบเตือนพี่ชายของหมิงอวี้ ต่อมาบ่าวรับใช้จากโรงเก็บเงินก็ไปกระตุ้นพี่ชายของนางอีกรอบ! พี่ชายของหมิงอวี้จึงตีขาของนางจนหักทั้งสองข้างโดยอ้างว่าเป็นกาลกิณี จากนั้นขายนางไปที่ซ่องโสเภณีเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลง เฉินชิ่งเซิงเป็นคนชั้นเลิศจริงๆ แววตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เอ่ยถามต่อ “จากนั้นล่ะ” ชุนเถาหน้าแดงแต่ก็กล่าวต่อ “ญาติผู้พี่บอกให้คุณหนูสบายใจได้เจ้าค่ะ เขาจัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้หมิงอวี้เป็นโสเภณีชั้นต่ำสุด ขอแค่มีลมหายใจอยู่ก็ต้อง…”

ชุนเถากล่าวต่อไม่ได้

เมื่อฟังเรื่องราวเข้าใจ ชุนเหยียนอดเสียวสันหลังไม่ได้ “นี่มัน…เฉินชิ่งเซิงดูเป็นคนอบอุ่นอ่อนโยนแท้ๆ เหตุใดจึงลงมือได้อำมหิตถึงเพียงนี้กัน อย่างน้อย…หมิงอวี้ก็เป็นคนเคยรู้จักกัน” ทำให้หมิงอวี้กลายเป็นโสเภณีชั้นต่ำสุด ขอแค่มีลมหายใจอยู่ก็ต้องรับแขกตลอดเวลา โดนกระทำชำเลาอย่างแท้จริง

ชุนเถามองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างระมัดระวัง กลัวว่าไป๋ชิงเหยียนจะคิดว่าเฉินชิ่งเซิงเลือดเย็นเกินไปเช่นเดียวกัน

“ญาติผู้พี่ของเจ้าทำได้ดีมาก! บ่าวรับใช้ที่มีใจเป็นอื่นจะได้เห็นว่าจุดจบของคนทรยศนายมันเป็นเช่นไร” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มให้ชุนเถา “พรุ่งนี้นำเงินร้อยตำลึงไปตบรางวัลให้ญาติผู้พี่เจ้าด้วย”

“บ่าวขอบพระคุณ คุณหนูใหญ่แทนญาติผู้พี่เจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองชุนเหนียนที่ใบหน้าขาวซีด “เจ้าไปดูที่โรงครัวสิว่าต้มนมแพะเสร็จหรือยัง หากเสร็จแล้วก็นำไปให้คุณหนูรอง”

“เจ้าค่ะ” ชุนเถารับผ้ามาเช็ดผมให้ไป๋ชิงเหยียนต่ออย่างรู้งาน

พอชุนเหยียนเดินจากไป ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวขึ้น “บอกญาติผู้พี่ของเจ้าให้ช่วยข้าอีกสองเรื่อง…”

“คุณหนูใหญ่ว่ามาได้เลยเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนหยิบตำราขึ้น พลิกไปหน้าถัดไป “เริ่มกระจายข่าวเรื่องที่เจี่ยงซื่อกดสาวใช้ติดตามของน้องรองจนจมน้ำตายได้แล้ว!”

ก่อนหน้านี้มีเรื่องที่ไป๋จิ่นซิ่วได้รับบาดเจ็บตกน้ำจนเกือบเสียชีวิต จวนเจิ้นกั๋วกงรับกลับไปดูแลที่จวน ต่อมามีเรื่องคนจากจวนเจิ้นกั๋วกงไปลากตัวหมิงอวี้ที่ทรยศเจ้านายออกมาจากจวนของเจี่ยงซื่อ จากนั้นส่งตัวนางกลับบ้าน

ตอนนี้คนทั้งเมืองหลวงต่างคาดเดาสาเหตุที่ไป๋จิ่นซิ่วตกน้ำไปต่างต่างนานา แต่ทั้งนายทั้งบ่าวของจวนเจิ้นกั๋วกงต่างปิดปากเงียบ

เมื่อไม่รู้ข้อมูลที่แน่นอน สตรีในเรือนหลัง บุรุษที่สังสรรค์ในโรงเหล้าต่างก็วิจารณ์กัน

หากตอนนี้ปล่อยข่าวเรื่องการตายของสาวใช้ที่เจี่ยงซื่ออ้างว่าขายไปหมดแล้วให้แพร่ออกไป ไม่เพียงแต่เจี่ยงซื่อที่จะโดนชาวบ้านติฉินนินทาเท่านั้น ชื่อเสียงของจวนจงหย่งโหวก็จะเสียหายด้วยเช่นกัน ค่อยๆ ปล่อยออกไปทีละเรื่อง จึงจะทำให้คนดูอยากรู้เรื่องราวที่จะเกิดต่อไปคอยจับจ้องทุกความเคลื่อนไหวของจวนจงหย่งโหว ถึงเวลานั้นต่อให้จงหย่งโหวอยากปกป้องเจี่ยงซื่อแค่ไหนก็ต้องคำนึงถึงชื่อเสียงของจวนจงหย่งโหวก่อน

“ก่อนแพร่ข่าวออกไป…ให้คนไปที่สำนักทะเบียนลบปะวัติการเป็นทาสของสาวใช้ห้าคนนั่นด้วย จบเรื่องนี้จะได้ฝั่งร่างของพวกนางในฐานะคนธรรมดา”

ชุนเถาไม่เคยสงสัยในการจัดการของไป๋ชิงเหยียน รีบรับคำ “เจ้าค่ะ พอบ่าวรับใช้คุณหนูเสร็จจะรีบไปสั่งญาติผู้พี่เจ้าค่ะ!”

“ส่วนอีกเรื่อง…อีกสามวันท่านย่าจะส่งคนไปรับคนสองคนมาจากจวนของท่าน ข้ากับท่านย่าอยากทดสอบนิสัยของสองคนนั่นสักหน่อย เจ้าให้ญาติผู้พี่ของเจ้าจัดการด้วย”

เรื่องลูกเมียน้อยที่ท่านอารองทิ้งเอาไว้ แม้ตอนที่ฮูหยินสองรู้เรื่องแล้วโกรธแต่สุดท้ายนางก็ยอมรับได้

อย่างไรเสียเรื่องที่ท่านอารองออกไปร่ำเรียน หญิงคนนั้นได้ช่วยชีวิตท่านเอาไว้จนทั้งสองรักใคร่ชอบพอกัน ท่านอาสะใภ้สองเองก็รับรู้อยู่แล้ว

ส่วนเด็กที่เกิดมาคนนั้น ในจวนก็ใช่ว่าจะไม่มีลูกอนุ นางก็ปฏิบัติกับทุกคนเท่าเทียมกันหมด แค่จัดตะเกียบเพิ่มอีกสักคู่นางไม่คิดมากหรอก

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองชุนเถาด้วยใบหน้ายิ้มๆ แววตาเต็มไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนอย่างปิดไม่มิด

“ญาติผู้พี่ของเจ้ามีประโยชน์มาก หลังปีใหม่ข้าจะให้เขาไปฝึกฝนหาประสบการณ์จากข้างนอกสักสองสามปี ถึงตอนนั้นเขาคงรับหน้าที่พ่อบ้านได้อย่างสบายๆ ข้าเองจะได้วางใจยกเจ้าให้แก่เขา”

ชุนเถาหน้าแดงก่ำกล่าวอย่างขวยเขิน “คุณหนู!”

ไป๋ชิงเหยียนมองดูใบหน้าแดงระเรื่อ แววตาเต็มไปด้วยความเขินอายของชุนเถา หญิงสาวยิ้มน้อยๆ ลูบไปที่มือของนาง

ชุนเถาติดตามรับใช้นางมาหลายปี ความคิดของชุนเถาปิดไป๋ชิงเหยียนไม่ได้หรอก

ชาติที่แล้วชุนเถาติดตามไปปกป้องนางที่หนานเจียง ยังไม่ทันได้แต่งงานกับเฉินชิ่งเซิงก็ต้องแยกห่างไกลกัน ชาตินี้…ไป๋ชิงเหยียนจะให้ชุนเถาออกเรือนอย่างยิ่งใหญ่สมเกียรติ ได้ครองคู่กับชายอันเป็นที่รักอย่างมีความสุขไปตลอดชีวิต