บทที่23 ทะเลาะกัน

“คุณเป็นอะไร?” เจียงหยุนเอ๋อถามเขา ในสายตายังรู้สึกมึนงง

ลี่จุนถิงมองหน้าเธอ เห็นเธอมีท่าทางไม่เข้าใจ ทันใดนั้นจิตใจก็เริ่มรู้สึกแย่ขึ้นมา

เขาก็รู้สึกไม่เข้าใจ ว่าตัวเองทำไมเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้

ที่จริงแล้วความสัมพันธ์ของเขาสองคน ก็ไม่มีอะไรที่ต้องอธิบาย แต่ก็ได้เผลอพูดออกมา “อันนั้น……ผู้ชายคนเมื่อกี้ชื่อกู้ลั่วจิ่น

คุณพ่อได้หมั้นหมายให้ฉันโดยไม่ได้ขอความคิดเห็นจากฉัน”

พูดถึงตรงนี้ เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกตื่นเต้นหน่อย ค่อยๆดูสีหน้าของลี่จุนถิงแล้วพูดต่อ “แต่ว่า……ช่วงหลังเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย เขาขอถอนหมั้น จากนั้นก็ไม่เคยติดต่อกันเลย ครั้งก่อนคุณคงเคยเห็นเขากับน้องสาวได้ออกงานพร้อมกัน ตอนนี้เขาเป็นคู่หมั้นน้อง

สาวฉันแล้ว ฉันก็ไม่รู้วันนี้เขามาที่นี่ทำไม”

หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋ออธิบายเสร็จลี่จุนถิงก็ไม่ได้รู้สึกว่าสบายใจขึ้น แค่คิดว่าผู้ชายคนนั้นเคยเป็นคู่หมั้นของเธอ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

ที่จริงก็รู้สึกแคร์เธอมาก แต่ลี่จุนถิงก็ปากแข็งแล้วพูด “เธอไม่ต้องอธิบายอะไรก็ได้”

ถึงแม้ลี่จุนถิงไม่ได้พูดชัดเจนขนาดนั้น แต่เจียงหยุนเอ๋อก็เข้าใจความหมายเขา ก็ประมาณว่าเราสองคนก็ไม่ได้มีความผูกพันอะไร คำอธิบายของเธอเหมือนกับว่าเธอคิดมากไปเอง

เจียงหยุนเอ๋อได้ด่าตัวเองในใจ สมองมีปัญหาหรือเปล่า ทำไมต้องไปอธิบายให้ลี่จุนถิงฟัง?

“หยุนเอ๋อ พวกเธอสองคนกำลังคุยอะไรกัน?” ซูม่านลีที่เงียบอยู่ข้างๆเริ่มรู้สึกว่าสองคนนี้มีบรรยากาศที่แปลกแปลก ก็เป็นห่วงกลัวเขาสองคนทะเลาะกัน รีบลุกขึ้นมาถาม

เจียงหยุนเอ๋อตกใจนิดหนึ่ง พึ่งมานึกได้ว่าซูม่านลียังอยู่ข้างๆ ฝืนยิ้มนิดหนึ่ง แล้วพูด “แม่ อย่าคิดไปเอง หนูกับเขามีเรื่องต้องคุยกันนิดหนึ่ง ขอออกไปก่อนนะ”

พูดจบ เจียงหยุนเอ๋อก็ทำสายตาใส่ลี่จุนถิง แล้วดึงเขาออกจากห้อง

พอออกมาถึงนอกห้อง ลี่จุนถิงทำท่าทางเย็นชาแล้วดึงแขนออกจากเจียงหยุนเอ๋อ พูดด้วยเสียงเรียบนิ่งว่า “ครอบครัวสมิทธ์ก็ได้ไปแล้ว ก็แสดงว่าการร่วมมือของเราได้จบลงแล้ว เมื่อกี้ผมได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้วห้าแสน ตอนนี้……”

พูดจบ ลี่จุนถิงก็เอาบัตรเครดิตออกมาจากตัว ยื่นให้ต่อหน้าเจียงหยุนเอ๋อ “อันนี้ยังเหลือห้าแสนคุณเอาไว้ซิ”

ทั้งที่รู้ว่านี่เป็นเพียงแค่ข้อตกลงอย่างหนึ่ง แต่เมื่อในมือของลี่จุนถิงได้ถือบัตรเครดิตและคำพูดมากมายที่เขาพูด เจียงหยุนเอ๋อก็ยังรู้สึกมึนงง แต่ไม่ช้าเธอก็ได้หัวเราะตัวเอง ตั้งแต่แรกมันก็แค่การแสดงละคร ตอนนี้เธอจะมาเสียใจทำไม

หรือว่า……จะให้ตัวเองคิดลึกซึ้งมากไปกว่านี้เหรอ?

เธอรู้ตั้งแต่แรกผู้ชายคนนี้กับตัวเองคงไม่มีความผูกพันอะไรกันอยู่แล้ว ช่วงนี้ที่รู้สึกเหมือนรักใคร่กันเป็นเพราะสถานการณ์มันบังคับ นางควรจะยอมรับตั้งแต่แรก

เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจลึก สายตาจ้องมองแต่บัตรเครดิต

เธอต้องการเงินจำนวนนี้มาก ไม่งั้นตอนแรกเธอคงไม่ตอบตกลงรับงานนี้

เจียงหยุนเอ๋อเม้มริมฝีปากเธอ ยื่นมือออกไปรับบัตรเครดิต ลี่จุนถิงมองสีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ เห็นว่าเธอไม่ยอมมองหน้าเขาเลย สายตาก็เริ่มเย็นชา แล้วขมวดคิ้วนิดหนึ่ง

ผู้หญิงคนนี้ ช่างไม่ใส่ใจเขาเลยเหรอ?

ลี่จุนถิงก็ได้ปล่อยมือกะทันหัน บัตรเครดิตได้ร่วง หล่นลงพื้นทันที

“พ่า”เสียงกระแทกพื้น เจียงหยุนเอ๋อชั่วขณะรู้สึกอึ้ง

นางเงยหน้ามองลี่จุนถิงอย่างมึนงง เห็นสายตาที่เย็นชาของชายผู้นี้ ก็รู้สึกไม่พอใจ

เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกไม่เข้าใจลี่จุนถิง ผู้ชายคนนี้เป็นอะไรกันแน่? เมื่อกี้ยังดีดีอยู่เลย จะเสียอารมณ์ก็เสียได้ง่ายๆ คงดูเธอมันน่ารังแกใช่ไหม?

อยู่ดีดีก็มาใส่อารมณ์กับเธอ ยังโยนบัตรเครดิตลงพื้นอีก นี่จงใจให้เธออับอายใช่มั้ย?

เจียงหยุนเอ๋อพยายามเก็บสีหน้าตัวเอง โมโหสุดขีด มองหน้าลี่จุนถิงตั้งนานยังพูดไม่ออกสักคำ “คุณ……”

เธออยากด่าลี่จุนถิงมาก แต่ว่าลี่จุนถิงไม่ใช่คนที่จะไปหาเรื่องได้ง่ายๆ อีกอย่าง……เงินห้าแสนนี้เธอไม่เอาไม่ได้

แล้วไป ก็คิดว่าตัวเองโดนหมากัดละกัน อีกอย่างคนรวยก็คงมีนิสัยเสียอย่างนี้แหละ

เจียงหยุนเอ๋อได้แต่ปลอบใจตัวเอง ใบหน้าก็รู้สึกสงบลง ก้มตัวลงเพื่อเก็บบัตรเครดิต สายตาที่นิ่งเฉย “ดี งั้นเราสองคนก็ไม่ติดค้างกันแล้ว”

ไม่ติดค้าง? ลี่จุนถิงฟังด้วยสีหน้าเข้มขรึม ได้ยิ้มอย่างเยือกเย็นอยู่ในใจ

ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ

มองเห็นลี่จุนถิงเดินจากไปอย่างไม่ยอมหันหัวกลับมา เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มเก็บอารมณ์ของตัวเองไว้ หมุนตัวกลับเข้าห้องคนป่วย

ห้องคนป่วย ซูม่านลีเห็นเจียงหยุนเอ๋อเดินเข้ามา รีบร้อนถาม “หยุนเอ๋อ จุนถิงอยู่ไหน?”

เจียงหยุนเอ๋อเห็นสีหน้าที่กังวลของซูม่านลี แล้วรีบปลอบใจ “แม่ จุนถิงมีธุระที่บริษัท เขาก็เลยกลับไปก่อน โอกาสหน้าเขาค่อยมาเยี่ยมแม่อีก”

“จริงเหรอ? เมื่อกี้พวกเธอไม่ได้ทะเลาะกันนะ?” ซูม่านลีพูดด้วยความสงสัยแล้วมองหน้าเจียงหยุนเอ๋อ

เจียงหยุนเอ๋อส่ายหน้าหลายครั้ง ก็เลยทำให้ซูม่านลีหายสงสัย

หลังจากลงจากตึก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายของลี่จุนถิงได้เดินไปทางรถของตัวเอง ก็มองเห็นกู้ลั่วจิ่นยังยืนอยู่หน้าโรงพยาบาล

กู้ลั่วจิ่นก้มหัวมองดูโทรศัพท์ ไม่ทันมองเห็นลี่จุนถิง แต่ลี่จุนถิงได้สังเกตท่าทางของกู้ลั่วจิ่นตลอด จากนั้น กู้ลั่วจิ่นได้เอาโทรศัพท์ไว้กระเป๋ากางเกง แล้วมองไปทางโรงพยาบาล ดูแล้วกำลังรอคนแน่นอน

นี่กำลังรอเจียงหยุนเอ๋อเหรอ? ช่างหลงใหลอะไรขนาดนี้ ลี่จุนถิงรู้สึกโมโหขึ้นมา

ผู้ช่วยเห็นลี่จุนถิงออกจากโรงพยาบาล รีบสตาร์รถแล้วขับไปรับ พอลี่จุนถิงขึ้นรถเสร็จ ผู้ช่วยก็ถาม”คุณชายลี่ตอนนี้จะกลับบริษัทใช่ไหม?”

สายตาของลี่จุนถิงมองไปทางกู้ลั่วจิ่นตลอด แล้วกะพริบตาครั้งหนึ่ง เหมือนกับกำลังคิดทบทวนอะไร

ผู้ช่วยเห็นท่าทางเขาครุ่นคิด ก็ไม่กล้ารบกวน สักพักหนึ่งลี่จุนถิงถึงตอบ “ไม่กลับ”

“งั้น……ส่งคุณกลับบ้านไหม?” ผู้ช่วยก็ถามอีก

ลี่จุนถิงส่ายหัว “ไม่ นายก็วนรถไปรอบหนึ่ง แล้วก็วนกลับมา”

คำพูดของลี่จุนถิงทำให้ผู้ช่วยรู้สึกสับสน วนออกไปรอบหนึ่ง? แล้วค่อยวนกลับมา?นี่กำลังจะทำอะไร?

ถึงแม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมลี่จุนถิงทำอย่างนี้ แต่คำสั่งของลี่จุนถิงผู้ช่วยก็ไม่กล้าฝ่าฝืน ก็เลยทำอย่างที่พูด