ตอนที่ 29 ชิงช้า

พอเจียงซื่อกลับถึงเรือนไห่ถังก็รีบเข้าไปขลุกอยู่กับสมุนไพรพวกนั้นต่อ

หญ้าไป๋เจี่ยวที่เก็บมาจากริมคลองหลิวตีจะต้องนำไปตากแห้ง แล้วถึงนำกลับมาบดเป็นผงอีกครั้ง อาศัยที่แดดกำลังแรงอยู่ก็ให้อาหมานกับอาเฉี่ยวเอาออกมาตากแดดในลานได้

เจียงจั้นที่กำลังเดินหอบสิ่งของเข้ามา พอเจอกับพวกอาหมานสองคนยืนอยู่ข้างนอกลานกว้างก็ยิ้มและพูดขึ้น “คุณหนูของพวกเจ้าล่ะ”

อาเฉี่ยวเห็นดังนั้นก็รีบวางงานในมือลงแล้วตอบกลับ “คุณหนูอยู่ในเรือนเจ้าค่ะ เดี๋ยวบ่าวจะไปรายงานคุณหนูให้นะเจ้าคะ”

เจียงจั้นมองของที่หอบอยู่ในอกจึงรีบพูดขึ้น “ไม่ต้อง เดี๋ยวรอข้าจัดการให้เสร็จเรียบร้อนก่อนค่อยเรียกคุณหนูของพวกเจ้าออกมา”

อาหมานกับอาเฉี่ยวล้อมวงดูอย่างสนอกสนใจ

“โอโห ชิงช้านี่” ใบหน้าของอาเฉี่ยวแลดูสนุกสนาน

เจียงจั้นมองไปรอบๆ และเลือกต้นไห่ถังต้นหนึ่งบริเวณนั้น ใช้เวลาเพียงชั่วน้ำเดือด ก็โยนเชือกตวัดขึ้นไปบนกิ่ง และลากเชือกลงมาผูกมัดเป็นปม ทำไปยิ้มไป “เอาเชือกผูกเป็นไฉ่ไต้[1]ไว้ตรงนี้สวยดีเหมือนกันนะ ทั้งยังเอาไว้เป็นที่จับได้ด้วย เสร็จแล้ว พวกเจ้ามาลองนั่งดูหน่อยไหม”

อาเฉี่ยวอาหมานตกใจไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก “คุณหนูยังไม่ได้นั่ง บ่าวไม่กล้านั่งเจ้าค่ะ”

“ข้าบอกให้พวกเจ้ามาลองนั่งก็คือนั่ง จะเรื่องมากทำไม” เจียงจั้นพูดอย่างรำคาญใจ ก็แค่ให้พวกเจ้ามาลองนั่งดูว่าจะรับน้ำหนักได้หรือไม่ ถึงค่อยให้น้องสาวของข้ามาเล่นก็แค่นี้เอง

เอาล่ะ อาหมานน้ำหนักตัวกำลังดี ให้นางลองนั่งแล้วกัน

“อาหมานเจ้ามานี่” เจียงจั้นยิ้งใช้มือตบๆ ไปที่ชิงช้า

“ถ้าอย่างนั้นบ่าวนั่งแทนคุณหนูก่อนนะเจ้าคะ” อาหมานจึงวิ่งเข้าไปนั่ง และแกว่งชิงช้าตัวโยน

“อาหมาน เจ้าระวังหน่อยสิ” อาเฉี่ยวเห็นอาหมานแกว่งสูงเกินไป สูงจนจะถึงศีรษะอยู่แล้วกลัวว่าจะตกลงมาได้

อาหมานแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน พอแกว่งสูงขึ้นแล้วก็ตีลังกากลับมายืนด้วยท่าทางที่ไม่มีอะไรผิดปกติ

อาเฉี่ยวปิดตาไม่กล้ามอง

เจียงซื่อที่ถูกบรรกากาศครึกครื้นผิดปกติรบกวน จึงเดินออกมาดูข้างนอกลานกว้าง

“คุณหนูเจ้าคะ เล่นชิงช้าสนุกมากเลยเจ้าค่ะ” อาหมานกระโดนลงมาจากชิงช้า แก้มยังแดงเพราะเล่นสนุก

แต่เจียงจั้นกลับหน้าขาวซีด ยื่นมือออกไปแกะเชือกออก “พอดีนึกขึ้นมาได้ว่าชิงช้านี้ข้ายืมคนอื่นมา ข้าต้องรีบกลับไปคืนก่อนแล้ว”

เจียงซื่อรีบยกชายกระโปรงวิ่งไปหา “พี่รองแกล้งข้า ไม่เคยได้ยินว่ามีที่ไหนให้คนยืมชิงช้า”

“น้องสี่ร่างกายไม่แข็งแรง เล่นชิงช้าถูกลมเย็นแล้วป่วยขึ้นมาจะทำอย่างไร ให้ข้าเอาออกดีกว่า”

มารดามันเถอะ เจ้าบ่าวรับใช้ของน้องสี่นี่ซุกซนเสียจริง แกว่งชิงช้าจะขึ้นไปบนท้องฟ้าอยู่แล้ว หากสอนน้องเขาทำตามไม่แย่หรอกหรือ

พอคิดว่าถ้าเจียงซื่อจะแกว่งชิงช้าเช่นนี้บ้างแล้วตกลงมา เจียงจั้นจึงรีบแก้ปมชิงช้าเสียดีกว่า

เจียงซื่อดึงเชือกปมของชิงช้าเอาไว้พลางยิ้ม “พี่รอง แต่ข้าชอบชิงช้านี่”

เจียงจั้นนิ่งไปครู่หนึ่งมองสบตายิ้มแย้มของหญิงสาว ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจ “ในเมื่อน้องสี่ชอบ อย่างนั้นก็เอาไว้ที่นี่แล้วกัน แต่ห้ามเล่นแบบอาหมานเชียวล่ะ หากตกลงมาแล้วจะทำเยี่ยงไร”

น้องสี่เพิ่งจะโดนยกเลิกงานแต่งงาน ในใจจะต้องรู้สึกแย่แน่นอน หากมีชิงช้าเป็นเพื่อนเอาไว้คลายเหงาคงดีไม่น้อย

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ พี่รองไม่ต้องเป็นห่วง”

“อย่างนั้นข้าไปก่อน อีกสักครู่ข้าจะออกไปข้างนอกสักหน่อย”

“พี่รองจะไปไหนเจ้าคะ ข้าจะออกไปซื้อของข้างนอกพอดี พวกเราไปด้วยกันดีไหม” เจียงซื่อยังขาดสมุนไพรอยู่บางตัวจึงถามออกไป

แน่นอนว่าเจียงจั้นไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว ทั้งยังอดทนรอนางเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับออกไปข้างนอกอีกด้วย หลังจากนั้นสองพี่น้องก็พากันเดินออกไป

“คุณชายรอง คุณหนูสี่” ระหว่างทางเดินพบบ่าวรับใช้คนหนึ่งรีบวิ่งไปทำงานและหยุดทำความเคารพ

“คุณหนูสี่ เอ่อ คุณชายรอง” เดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็เจอกับบ่าวรับใช้อีกที่รีบทำความเคารพพวกตน

เจียงจั้นรู้สึกแปลกๆ จึงเอ่ยถามเจียงซื่อเสียงเบา “น้องสี่ เจ้าเห็นหรือไม่ว่าวันนี้บ่าวรับใช้เหตุใดจึงดูขยันผิดปกติ”

เขายังคิดว่าน้องสี่ถูกยกเลิกแต่งงาน จะถูกบรรดาบ่าวรับใช้เยาะเย้ยเสียอีก แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น

“จริงหรือ น้องไม่เห็นจะรู้สึกเลยเจ้าค่ะ” เจียงซื่อทำหน้าเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว

แต่คำนี้ของนางทำให้บ่าวรับใช้อาวุโสคนหนึ่งได้ยินเข้าให้แล้ว

บ่าวรับใช้คนนั้นกลอกตามองบนพลางกล่าวในใจ พวกเราขยันเช่นนี้ ในใจพวกท่านไม่รู้เลยหรือว่าเพราะเหตุใด

“ทำความเคารพแล้วก็รีบเดินไปเสีย จะยืนขวางทางทำไม จะรอให้ข้ามอบเงินให้หรือ” เจียงจั้นเห็นบ่าวรับใช้อาวุโสคนนั้นยืนขวางทางจึงเลิกคิ้วถาม

บ่าวรับใช้ตัวสั่นรีบเดินจากไป

นางไหนเลยจะกล้าขอเงินจากคุณหนูสี่ เช่นนั้นก็เป็นการขัดคำสั่งเอ้อร์ไท่ไท่น่ะสิ

เจียงจั้นลูบคาง ในใจยังคงสงสัย “ปกติแล้วข้าไม่เคยเห็นพวกนางกลัวข้าขนาดนี้นี่ ดูบ่าวรับใช้อาวุโสคนนั้นสิ ทำอย่างกับข้าจะกินคน”

“พี่รองคิดมากไปแล้ว พวกเราออกไปกันเถอะเจ้าค่ะ”

พอเดินออกมาจากตรอกหูถ่ง บนถนนก็เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ส่งเสียงค้าขายกันไม่ขาดสาย

“เจ้าจะซื้ออะไรหรือน้องสี่” เจียงจั้นกวักมือเรียกเด็กขายขนมถังหูลู่[2] ซื้อมาให้น้องสาวไม้หนึ่ง และที่เหลือแบ่งให้กับเจ้าเด็กหนุ่มอาจี๋

อาจี๋รู้งานก็แบ่งให้อาหมานไม้หนึ่ง และหันไปถามเจียงจั้นว่า “คุณชายไม่กินหรือขอรับ”

“ผู้ชายที่ไหนเขากินถังหูลู่กันบ้างล่ะ” เจียงจั้นถลึงตามองใส่อาจี๋ พอเห็นเจียงซื่อที่ถือไว้ไม้หนึ่งแต่กลับไม่กินจึงถามกลับไป “เจ้าไม่ชอบกินหรือน้องสี่”

เจียงซื่อชี้นิ้วไปที่หมวกเหวยเม่า[3] “ไม่ค่อยสะดวกเจ้าค่ะ”

“อย่างนั้นก็ถอดออกสิ” เจียงจั้นถอนหายใจ แต่รีบตอบกลับ “ข้าว่าใส่ไว้เหมือนเดิมดีกว่า”

น้องสาวของเขาสวยขนาดนี้ จะให้คนอื่นมาเห็นได้อย่างไรกัน

พอถึงร้านยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงแล้ว เจียงซื่อจึงพาอาหมานเข้าไปเลือกซื้อสมุนไพร ส่วนเจียงจั้นที่ไม่ชอบกลิ่นยาก็ยืนรออยู่ด้านนอก

“เอามาให้ข้าไม้หนึ่ง” เจียงจั้นยื่นมือออกมา

“คุณชาย เมื่อสักครู่ท่านบอกบ่าวว่าเป็นผู้ชายไม่กินถังหูลู่ไม่ใช่หรือขอรับ”

เจียงจั้นตบบ่าอาจี๋ “ต่อหน้าน้องสาวข้าต้องเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ต่อหน้าเจ้าข้าเป็นเจ้านาย ถ้าเจ้านายจะกินถังหูลู่เจ้ามีปัญหาหรือ”

อาจี๋เลียปากแพล่บๆ และรีบส่งขนมถังหูลู่ให้เจียงจั้นไม้หนึ่ง

ริมฝีปากเจียงจั้นกัดลงไปที่ขนม พลางใช้สายตามองสำรวจไปรอบๆ

หนุ่มหล่อหน้าตาดีไม่ว่าจะยืนอยู่ตรงจุดไหนก็เป็นจุดเด่น จึงกลายเป็นจุดสนใจให้ผู้คนที่ผ่านไปมามองเข้าก็เห็นว่าเจียงจั้นกำลังกินถังหูลู่

“อ้าว นี่เจียงเอ้อร์นี่” ตรงหน้ามีคนสวมชุดสูงศักดิ์ ในมือถือพัด หน้าตาเจ้าเล่ห์แสนกล “ครั้งก่อนเจ้าวิ่งเร็วเกินไป ครั้งนี้อาจจะไม่ง่ายขนาดนั้นแล้วก็ได้”

เจียงจั้นสีหน้าแย่ลง

คนที่แต่งตัวอย่างกับนกยูงข้างหน้านี่ไม่ใช่ใครอื่น เป็นชุยอี้บุตรขององค์หญิงใหญ่หรงหยางและแม่ทัพชุยซวี่ ทุกครั้งที่พบหน้ากันเขากับเจ้านกยูงนี่มักไม่ลงรอยกันเสมอ

นิสัยของเจียงจั้นหากถูกรังแกสองสามรอบอย่างไรก็ไม่สามารถอดทนได้อยู่แล้ว ครั้งก่อนเพราะอดทนไม่ไหว จึงได้ไปมีเรื่องผิดใจกับชุยอี้เข้าให้จนได้

เขาไม่กลัวมีเรื่องหรอก แต่น้องสี่ยังอยู่ในร้านยาอยู่เลย หากออกมาแล้วเจอกับคนพวกนี้เข้าแย่แน่

เมื่อมองไปยังคนรอบๆ ตัว เจียงจั้นก็แค่นยิ้ม “คุณชายชุย ตรงนี้คนเยอะไปหน่อย หากจะต่อสู้กัน อีกสักพักทางการคงออกมาแน่ ข้าว่าเจ้าคงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น หากจะต่อยกับข้า เจ้าก็ไปหาสถานที่นัดพบมาก็แล้วกัน”

ชุยอี้มองไปยังเจียงจั้นและยกนิ้วโป้งให้ “ความคิดเจ้าดี อย่างนั้นเจ้าก็ตามข้ามา”

เจียงจั้นแอบถอนหายใจ “ย่อมได้”

ทันใดนั้นมีเสียงหญิงสาวดังขึ้นด้านหลัง “พี่รองจะไปไหนเจ้าคะ”

[1] ไฉ่ไต้ รูปโบว์

[2] ถังหูลู่ ผลซานจาเคลือบน้ำตาล มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน

[3] หมวกเหวยเม่า เป็นหมวกทำจากผ้ามัสลินสีดำ ตรงขอบห้อยม่านตาข่ายรอบๆ