โอลิเวอร์ควีนไม่ค่อยคุ้นเคยกับการที่เขาถูกซูเงินและเฟลิเซ่จ้องมาเล็กน้อย เพราะปก ติแล้วลูกธนูของเขาจะมีไว้เพื่อการฆ่าคนเท่านั้นแล้วทําไมตอนนี้มันถึงได้ดูเหมือนกับการแสดงกายกรรม! ทําให้โอลิเวอร์ควีนรู้สึกหดหูขึ้นมาเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ หยิบคันธนูและลูกธนูอออกมา

ทันใดนั้นอารมณ์ของโอลิเวอร์ควีนก็เปลี่ยนกลายเป็นคนเยือกเย็นพร้อมกับดวงตาที่ แหลมคมทันที

เมื่อซู่เจินเห็นแบบนั้นเขาก็เสกลูกเทนนิสขึ้นมาและปาออกไปทางโอลิเวอร์ควีนอย่างรวดเร็วซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองของโอลิเวอร์ควีนก็รวดเร็วมากเช่นกัน เขารีบดึงคันธนูขึ้นและยิงลูกธนูออกไปทันทีทําให้ลูกธนูแทงทะลุลูกเทนนิสไปติดกับกําแพงด้านหลังอย่างรวดเร็ว

ซูเงินไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่เขากับเสกลูกเทนนิสเพิ่มขึ้นมาสามลูกและปาออกไปพร้อมกันโดยที่มีทิศทางและความเร็วที่แตกต่างกัน

ฟุบ! ฟุบ! ฟุบ!

ลูกเทนนิสทั้งสามลูกถูกลูกธนูเจาะทะลุเข้าไปติดกับกําแพงอีกครั้งหนึ่ง

“มันสุดยอดมาก … “ เฟลิเซ่พูดขึ้นมาด้วยความประหลาดใจพร้อมกับปรบมือขึ้นมาเบา ๆ

ซูเจินดึงพลังของเขากลับมาและปรบมือขึ้นมาเช่นกัน หลังจากนั้นเขาก็พูดว่า “คุณยิงธนูเก่งมากจริง ๆ … จะว่าไปแล้วผมก็รู้จักคนยิงธนูเก่งแบบคุณอยู่คนหนึ่ง แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าระหว่างคุณกับเขาใครจะเก่งกว่ากัน?”

” เขาชื่ออะไร” โอลิเวอร์ควีนนั้นมั่นใจในฝีมือการยิงธนูของเขามาก ดังนั้นเขาจึงถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

“เขาชื่อ ฮอว์กอาย ถ้าเกิดว่าในอนาคตคุณมีโอกาสคุณอาจจะได้ประลองฝีมือกับเขาก็ได้” แน่นอนว่าซูเงินยังไม่เคยเจอฮอว์กอายเลยสักครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนที่ยิงธนูเก่งที่สุดในโลกมาเวล ดังนั้นพวกเขาน่าจะมีความสามารถพอ ๆ กัน ทําให้ซูเงินอยากรู้ว่าระหว่างฮอว์กอาย และ แอร์โรว์ ใครจะเก่งกว่ากัน

” ฮอว์กอาย ? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน ถ้าเกิดว่ามีโอกาสจริง ๆ พวกเราคงได้ประลองฝีมกัน!” โอลิเวอร์ควีนพูดขึ้นมา

” แล้วตอนนี้คุณจะเชื่อผมได้หรือยัง … ว่าสิ่งที่ผมพูดมันเป็นความจริง” ขู่เจินยิ้มขึ้นมาพร้อมกับหันหน้าไปถามเฟลิเซ่

เฟลิเซ่พยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ เพราะในตอนแรกเธอคิดว่าคนที่จะเป็นฮีโร่ได้นั้นจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษแบบซ่เงิน ซึ่งโอลิเวอร์ควีนก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาเท่านั้นแล้วเขาจะไปเอาพลังที่แข็งแกร่งแบบนั้นมาจากที่ไหน ? แต่เมื่อเธอได้เห็นทักษะการยิงธนูของโอลิเวอร์ควีน มันก็ทําให้เธอถึงกับตกตะลึงและประหลาดใจ เพราะว่ามันรวดเร็วและแม่นยํามากเกินไป!

“เอาล่ะ! ตอนนี้ภารกิจของผมจบลงแล้ว และผมก็เชื่อว่าคุณยังมีเรื่องอีกมากมายที่ยังต้องจัด การ ดังนั้นผมจะไม่อยู่รบกวนเวลาคุณอีกต่อไป และนี่ก็คือเบอร์โทรศัพท์ของผมซึ่งผมจะอยู่ใน เมืองสตาร์ซิตี้แค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ถ้าเกิดว่าคุณต้องการความช่วยเหลือจากผม คุณสามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลา!” ซูเงินเปลี่ยนพลังของเขาให้กลายเป็นตัวเลขบนอากาศและเขาก็รอจนกระทั่งโอลิเวอร์ควีนจํามันได้หมดแล้ว หลังจากนั้นเขาก็บินออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเฟลิเซ่ในอ้อมแขนของเขา!

หลังจากที่ซ่เงินบินออกมาได้ไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นมาอีกครั้ง

ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้นมาอีก 59% … ดูเหมือนว่าการที่เขาช่วยโอลิเวอร์ควีนทําความสะอาดมันจะไม่ได้ไร้ประโยชน์สักทีเดียว!

และซูเจินก็รู้ดีว่าโอลิเวอร์ควีนจะไม่มาขอความช่วยเหลือจากเขาในเร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอนเพราะว่าศัตรูของโอลิเวอร์ควีนในตอนนี้ก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นซูเจินก็พร้อมที่จะทําทุกวิถีทางเพื่อให้ค่าความสัมพันธ์ของพวกเขามันเพิ่มขึ้น และสามารถทําภารกิจของระบบได้สําเร็จ!

ในขณะนี้โอลิเวอร์ควีนกําลังเดินออกมาจากศาล หลังจากที่เขาได้ไปเรียกคืนสภาพของเขากลับคืนมาหลังจากที่เขาสามารถ “รอดชีวิต” กลับมาได้อย่างปาฏิหาริย์ แต่ทันใดนั้นเขาก็บังเอิญเจอกับลอเรลที่กําลังจะเตรียมตัวขึ้นไปที่ศาลเพื่อเตรียมฟ้องร้องกับมาร์ตินซอมเมอร์และดูเหมือนว่าผู้ชายคนนี้จะอยู่ในรายชื่อของเขาด้วย ทําให้โอลิเวอร์ควีนรีบเดินทางกลับไปที่ฐานของเขาเพื่อตรวจสอบข้อมูลของชายคนนี้ทันที และเขาก็พบว่ามาร์ตินซอมเมอร์คนนี้มีเบื้องหลังที่ใหญ่โตมากไม่ว่าจะเป็นตํารวจหรือกฎหมายก็ไม่สามารถหยุดเขาได้หรือไม่ยอมทําซึ่งลอเรลก็คิดว่ามีเธอเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถลากเขาออกมารับโทษแต่เธอคิดผิด!

โอลิเวอร์ ควีน

หรือแอร์โรว์ในตอนนี้กําลังที่จะ … เริ่มลงมือแล้ว!

ในโกดังเก็บของแห่งหนึ่งที่ตอนนี้มีมาร์ติน ซอมเมอร์และลูกน้องของเขากับยืนพูดคุยกันอยู่โดยไม่รู้ตัวว่าตอนนี้แอร์โรว์ได้มาพวกเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และไม่นานแอร์โรว์ก็สามารถจัดการกับลูกน้องของซอมเมอร์ได้จนหมดอย่างรวดเร็ว และข่มขู่ให้ซอมเมอร์ขึ้นไปให้การกับศาลว่าเขาเป็นคนฆ่าวิกเตอร์โดเซ็นติด้วยตัวเอง

ซึ่งโอลิเวอร์ควีนก็คิดว่าแค่นี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้วสําหรับการที่จะให้ซอมเมอร์ยอมจํานน และยอมรับความผิดของของเขาทั้งหมดหลังจากที่เขาเกือบที่จะถูกฆ่าตาย

เพราะว่ามีคนมากมายในโลกใบนี้ที่ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ําตา

หลังจากที่ซอมเมอร์ให้ปากคํากับตํารวจเรียบร้อยแล้ว เขาก็เชิญใครบางคนเข้า

นักฆ่าสาวคนหนึ่ง

ซึ่งในตอนที่โอลิเวอร์ควีนลงมือซูเจินก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วยเช่นกัน และเขาก็รอจนกระทั่งซอมเมอร์ให้ปากคํากับตํารวจเสร็จเรียบร้อยและเชิญนักฆ่าสาวคนนี้เข้ามา เพราะว่าซูเงินอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับนักฆ่าสาวคนนี้มากเฉียนนาเหว่ย

นักฆ่าขององค์กร ไทรแอด

ซึ่งเธอในตอนนี้กําลังสวมใส่ชุดเดรสสีแดงที่มาพร้อมกับผมสีขาวที่เรียวงามของเธอ ซึ่งซูเจินก็รู้ด้วยว่าเธอมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ไวท์พอร์ชเลน

ซอมเมอร์และคนของแก๊งไทรแอดนั้นเป็นหุ้นส่วนกัน เพราะว่าซอมเมอร์เป็นคนคอยจัดการหาท่าเรือให้กับแก๊งไทรแอดเพื่อขนส่งยาเสพติด ดังนั้นพวกเขาก็ถือได้ว่าเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันดังนั้นเธอจึงได้มาที่นี่เพื่อช่วยจัดการกับแอร์โรว์ให้ แต่ทันใดนั้นเธอก็มีความคิดอะไรบ้างอย่างขึ้นมาว่าถ้าเกิดว่าเธอฆ่าลอเรล แลนซ์ไปเรื่องทุกอย่างมันก็จะจบลงไปเองตามธรรมชาติและหลังจากที่เธอกับซอมเมอร์ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินจากไปทันที ซึ่งซูเงินก็ยังไม่ได้ลงมือทําอะไรในตอนนี้เพราะว่าเขาจะไม่พลาดค่าความสัมพันธ์จากเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน! ดังนั้นเขาจึงแอบตามไวท์พอร์ชเลนไปอย่างเงียบ ๆ เพื่อที่จะทําให้แน่ใจว่ามันจะไม่มีข้อผิดพลาดอะไรเกิดขึ้นมา!

แน่นอนว่าฐานที่มั่นของไวท์พอร์ชเลนจะต้องเป็นสถานที่ที่ลับมาก ๆ อย่างแน่นอน เพราะว่ามันเป็นถึงฐานที่ตั้งขององค์กรไทแอด

หลังจากซู่เจินมองไปรอบ ๆ เขาก็พบเข้ากับสถานที่ลับที่อยู่ชั้นบนตรงข้ามกับห้องของเธอ ทํา ให้เขารีบลอยขึ้นไปนั่งลงบนนั้นและเฝ้าสังเกตการเธออย่างเงียบ ๆ

ในขณะเดียวกันไวท์พอร์ชเลนที่กําลังยืนอยู่ตรงขอบของหน้าต่าง ก็ค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างช้า ๆ ทําให้ดวงตาของซูเงินถึงกับเบิกกว้างขึ้นมาทันทีพร้อมกับมองไปที่รูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเธออย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งรูปร่างของเธอมันก็ค่อนข้างแตกต่างจากรูปร่างของสาวตะวันตกโดยกําเนิดแบบเฟลิเซ่เล็กน้อย เพราะว่าไวท์พอร์ชเลนเป็นลูกครึ่งที่มีเชื้อสายจีนและเชื้อสายของคนตะวันออกอย่างละครึ่ง ซึ่งซูเจินก็รู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ดูคล้าย ๆ กับสกายอยู่เล็กน้อยในเรื่องของรูปร่างและหน้าตาแต่ถึงอย่างนั้นนิสัยใจคอของเธอและสกายมันก็แตก ต่างกันราวฟ้ากับเหวโดยเฉพาะผู้หญิงผมขาวมันจะให้เสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป!

ซึ่งโดยปกติของผู้ชายส่วนมากแล้วพวกเขาจะชื่นชอบความสวยงามและความตื่นเต้น ซึ่งซูเจินก็ไม่มีข้อยกเว้น

หลังจากที่ไวท์พอร์ชเลนถอดชุดของเธอออกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินหายไปจากสายตาของซูเงินสักพักหนึ่ง และไม่นานหลังจากนั้นเธอก็กลับมาพร้อมกับแจ็คเก็ตหนังรัดรูปสีดํา

“แม้ว่าชุดนี้จะให้ความรู้สึกคนละแบบกับชุดตัวเมื่อกี้ แต่ถึงอย่างนั้นขาของเธอก็ดูดีมาก … น่าจะมากกว่าของเฟลิเซ่ด้วยซ้ํา! “

เมื่อซู่เจินมองไปยังเสื้อผ้าที่ไวท์พอร์ชเลนใส่อยู่ เขาก็คิดว่าตอนนี้เธอน่าจะเตรียมพร้อมสําหรับการลงมือเรียบร้อยแล้ว ?

แน่นอนว่าหลังจากที่เธอใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินออกจากห้องไป และไปขึ้นรถตู้ที่จอดอยู่ข้างล่างพร้อมกับคนอีกสองคน!

“จะเริ่มแล้วหรอ ? .. “

ซูเจินหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ําคืนและบินตามเธอไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้นไม่นานรถก็หยุดลง และค่อย ๆ มีคนสามคนเดินลงมาจากรถพร้อมกับอาวุธในมือและเดินเข้าไปฝนตัวอาคารทันที

ซึ่งซ่เงินในตอนนี้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าลอเรลและโอลิเวอร์คลีนในตอนนี้กําลังนั่งคุยกันอยู่ตรงโซฟาใกล้เคียงกับหน้าต่างของห้องที่พวกเขาอยู่