ลอเรลและโอลิเวอร์ควีนในตอนนี้ดูเหมือนว่าพวกเขากําลังนั่งคุยกันอย่างมีความสุข ซึ่งซูเจินก็คิดว่ามันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ … ลอเรลคือแฟนเก่าของโอลิเวอร์ควีนใช่ไหม ? แล้วโอลิเวอร์ควีนก็คือคนที่ล่อพี่สาวของคุณและทําให้เธอตายใช่ไหม ? แล้วทําไมคุณถึงได้ให้อภัยกับโอลิเวอร์ควีนได้ง่ายขนาดนั้น ?

อย่างไรก็ตามซูเงินก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นมากนัก ทําให้เขาได้แต่มองสถานการณ์ตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับใช้พลังงานอีเทอร์สร้างชุดออกรบขึ้นมาเพื่อเตรียมพอสําหรับการต่อสู้

“เมื่อได้ยินเสียงไหม?”

ในขณะที่โอลิเวอร์ควีนกําลังพูดคุยกับลอเรลอยู่ ทันใดนั้นโอลิเวอร์ควีนก็พูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ลอเรลส่ายหัวขึ้นมาอย่างสงสัย

โอลิเวอร์ควีนค่อย ๆ ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับหยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาและค่อย ๆ เดินไปที่หน้าประตูโดยมีลอเรลที่กําลังเดินตามเขามาโดยไม่รู้ตัว หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงโครมครามดังขึ้นมา

พร้อมกับมีร่างของชายคนหนึ่งที่พุ่งทะลุประตูเข้ามาอย่างรุนแรง ทําให้โอลิเวอร์ควีนรีบดึงตัวของลอเรลให้วิ่งตามเขาไปทันที แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทําให้พวกเขารีบก้มตัวแล้ววิ่งเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็ว แต่ทางด้านของห้องนอนก็มีคนฟังหน้าต่างเข้ามาเหมือนกัน ทําให้โอลิเวอร์ควีนและลอเรลต้องหันกลับเพื่อไปหาที่ซ่อนที่อื่น

แต่หลังจากที่พวกเขาหันหลังกลับและวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ทันใดนั้นก็มีผู้หญิงผมสีขาวสวมใส่ชุดแจ็คเก็ตหนังสีดํารัดรูปพร้อมกับมีดในมือของเธอทั้งสองเล่มกําลังยืนขวางทางพวกเขาอยู่

ทําให้โอลิเวอร์ควีนในตอนนี้ถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาและเริ่มกังวลเล็กน้อย ในขณะเดียวกันชายที่พังประตูเข้ามาก็ค่อย ๆ ยกปืนชี้มาทางโอลิเวอร์ควีนเช่นกัน

ตอนนี้พวกเขาไม่มีที่ซ่อนแล้ว!

โอลิเวอร์ควีนค่อย ๆ เอาตัวของลอเรลมาไว้ข้างหลังของเขาโดยไม่รู้ตัว และเริ่มที่จะทําอะไร

ไม่ถูก

“ปัง! ปัง! ”

ทันใดนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้น

ไม่ใช่โอลิเวอร์ควีนที่ล้มลง แต่เป็นชายที่ถือปืนที่ล้มลง!

เมื่อเห็นร่างของชายคนนั้นค่อย ๆ ล้มลงไปที่พื้น โอลิเวอร์ควีนก็ยังไม่ตอบสนองแม้แต่น้อยหลังจากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีก และก็ค่อย ๆ เงียบไปในเวลาไม่นาน

“ดูเหมือนว่าผมจะมาช่วยได้ทันเวลาพอดี!”

มีเสียงหัวเราะดังขึ้นมาเบา ๆ พร้อมกับร่างของคน ๆ หนึ่งที่ค่อย ๆ ปรากฏตัวขึ้นมา

“เป็นคุณนั้นเอง!”

เมื่อโอลิเวอร์ควีนเห็นว่าเป็นซูเงินที่ปรากฏตัวขึ้นมา มันก็ทําให้เขาในตอนนี้รู้สึกโล่งใจอย่างบ อกไม่ถูก

“แอร์โรว์ : โอลิเวอร์ ควีน ค่าความสัมพันธ์เพิ่มขึ้น 30%”

ทันใดนั้นก็มีเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้นมาทันที

ซึ่งซูเงินก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เพราะถ้าเกิดว่าเขามาช่วยขนาดนี้แล้วยังไม่ได้ค่าความสัมพันธ์ล่ะก็ … เขาก็หมดคําจะพูดกับโอลิเวอร์ควีนอย่างแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเพิ่มขึ้นมากถึง 30% ซึ่งเขาจะต้องใช้ทั้งหมด 50% เพื่อที่จะทําให้ภารกิจสําเร็จ และถ้าเกิดว่าเขาเอาค่าความสัมพันธ์อันนี้รวมกันครั้งก่อนหน้านี้ เขาก็จะมีค่าความสัมพันธ์ทั้งหม ดอยู่ 40% และอีกเพียงนิดเดียวเขาก็จะสามารถทําภารกิจได้สําเร็จอย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เขาได้แค่ 5% และเหตุการณ์ต่อมาก็ 5% แล้วทําไมคราวนี้เขาถึงได้มากถึง 30%

เป็นเพราะลอเรลงั้นหรอ?

ถ้าแค่ช่วยโอลิเวอร์ควินน์ก็คงไม่มากนับประสาอะไรกับลอเรลเขาอาจไม่จําเป็นต้องช่วยตัวเอง

“เขาคือกรีนแลนเทิร์น ? ” ลอเรลมองไปที่ซ่เงินด้วยความประหลาดใจ

โอลิเวอร์ควีนพยักหน้าขึ้นมาเบา ๆ และเตรียมตัวที่จะพูดขึ้น

แต่ทันใดนั้นซูเจินก็พูดตัดหน้าขึ้นมาก่อนว่า “เอาไว้ค่อยคุยกันวันหลัง เพราะว่าตอนนี้ผมจะต้องไปจับตัวของไวท์พอร์ชเลนก่อน!”

หลังจากที่โอลิเวอร์ควีนได้ยินคําพูดของซูเงิน เขาก็หันไปมองรอบ ๆ ทันที และเขาก็ พบว่าไวท์พอร์ชเลนในตอนนี้ได้หนีไปเรียบร้อยแล้ว

ซูเงินรีบไล่ตามไวท์พอร์ชเลนไปอย่างรวดเร็ว ส่วนโอลิเวอร์ควีนก็นั่งปลอบใจลอเรลอยู่ในห้องทันใดนั้นโอลิเวอร์ควีนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาอีกครั้ง ทําให้โอลิเวอร์ควีนรีบหันไปมอง ด้วยความหวาดระแวงทันที และเมื่อเสียงฝีเท้าหยุดลงเขาก็พบว่าเป็นผู้คุ้มกันของเขาที่วิ่งเข้ามาในห้อง!

หลังจากนั้นพวกเขาก็โทรไปแจ้งตํารวจทันที และไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่แลนซ์พ่อของลอเรลก็นําตํารวจกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาภายในห้องอย่างรวดเร็ว พร้อมกับตรวจสอบร่างกายของลอเรลว่าได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า และเมื่อเขายืนยันเสร็จแล้วว่าเธอปลอดภัยดีเขาก็ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและได้รู้ว่ากรีนแลนเทิร์นเป็นคนช่วยชีวิตของพวกเขาเอาไว้ทําให้เจ้าหน้าที่แลนซ์เริ่มอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมาเล็กน้อย

เพราะก่อนหน้านี้ตอนที่โอลิเวอร์ควีนถูกลักพาไปเขาก็ได้กรีนแลนเทิร์นคนนี้ช่วยชีวิตเอาไว้และเขาว่ากันว่ากรีนแลนเทิร์นปรากฏตัวครั้งแรกขึ้นที่เมืองวอเตอร์ฟรอนท์ นอกจากนั้นก็ไม่มีข่า วของเขาอีกเลย จนกระทั่งเขามาปรากฏตัวขึ้นที่เมืองสตาร์ซิตี้และได้ช่วยชีวิตของโอลิเวอร์ควีนเอาไว้สองครั้ง …. แล้วเขาจะทําไปเพื่ออะไร?

เจ้าหน้าที่แลนซ์ถามกับโอลิเวอร์ควีนขึ้นมาด้วยน้ําเสียงไม่ค่อยพอใจ ซึ่งโอลิเวอร์ควีนก็บอกไปตามตรงว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่แลนซ์ก็ไม่สามารถทําอะไรได้อีกต่อ เขาทําได้แค่เพียงเตือนให้โอลิเวอร์ควีนอยู่ให้ห่างจากลูกสาวของเขาเอาไว้

ในขณะนี้อย่าได้พูดถึงเรื่องเล็กน้อยที่โอลิเวอร์ควีนกําลังเจอเลย พวกเรามาพูดถึงเรื่องที่ซูเจินกําลังไล่ตามไวท์พอร์ชเลนอยู่กันดีกว่า

ซึ่งปฏิกิริยาตอบสนองของไวท์พอร์ชเลนนั้นรวดเร็วมาก สมกับที่เธอเป็นหนึ่งในนักฆ่าขององค์กรไทรแอดเพราะเมื่อเธอเห็นว่าสถานการณ์มันดูไม่ค่อยดีเธอก็รีบหนีไปทันที ในทางกลับกันในขณะที่เธอกําลังหลบหนีเธอก็พยายามลบร่องลอยของเธอทิ้ง เพื่อที่จะไม่ให้ใครสามารถตามเธอ มาได้

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงไวท์พอร์ชเลนก็เดินทางมาถึงท่าเรือที่เธอได้เตรียมเรือเอาไว้สําหรับการหลบหนีเรียบร้อยแล้ว

เธอรีบกระโดดขึ้นไปบนเรือและรีบเดินไปที่ห้องของคนขับทันที หลังจากนั้นเธอก็ขับเรือออกไปจากท่าเรืออย่างรวดเร็ว

หลังจากที่เฉียนนาเหว่ยหรือไวท์พอร์ชเลนเข้ามาอยู่ในห้องของคนขับแล้ว เธอก็ถอนหายใจออกมาได้ความโล่งอก

บางที่โอลิเวอร์ควีนและลอเรลอาจจะไม่ได้สังเกตว่าซูเงินทําแบบนั้นได้อย่างไร แต่มันไม่ใช่กับ เฉียนนาเหว่ยเพราะว่าเธอสามารถเห็นมันได้อย่างชัดเจนว่าซูเงินได้ใช้พลังงานบางอย่างที่ ลึกลับและดูพิเศษมาก ซึ่งหลังจากที่เธอได้เป็นนักฆ่ามาหลายปีเธอก็ได้รู้ว่าบนโลกใบนี้ยังมีคนที่ แปลกประหลาด และมีความสามารถพิเศษอยู่มากมาย แต่เธอก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีใครที่เหมือ นกับเขาคนนี้

ดังนั้นสิ่งแรกที่เธอควรจะทําเลยก็คือ หนี!

และดูเหมือนว่าเธอจะคิดถูก

เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่สามารถไล่

ทันใดนั้นเฉียนนาเหว่ยก็สังเกตเห็นใครบางคนที่อยู่ตรงมุมหางตาของเธอ ทําให้เธอรีบหันไปมองทันทีและมันก็ทําให้เธอถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ

ชายคนหนึ่งที่สวมชุดสีเขียวเข้มพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากของเขา

เฉียนนาเหว่ยรีบลุกขึ้นยืนทันทีพร้อมกับกํามีดสั้นในมือของเธอให้แน่น และมองไปที่ซูเงินด้วยสายตาจริง

เขาตามฉันมาตั้งแต่เมื่อ ? ไม่ใช่ว่าฉันสลัดเขาหลุดไปแล้วไม่ใช่หรอ!

“คุณเป็นใคร! ถ้าเกิดว่าคุณกล้าทําร้ายฉันที่เป็นคนขององค์กรไทรแอด คุณก็น่าจะรู้ถึงผลที่ตามมาว่ามันจะเป็นอย่างไร ดังนั้นฉันขอแนะนําว่าให้คุณรีบออกไปจากที่นี่ก่อนที่คุณจะมีปัญหากับองค์กรไทรแอดของฉันจะดีกว่า!” เฉินนาเหว่ยมองไปที่ซูเงินพร้อมกับพูดขึ้นมาด้วยเสียงทุ่มต่ํา ด้วยความระมัดระวัง

“คุณกลัวไหม?”

ซูเงินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม “โดยปกติแล้วถ้าคุณจะใช้คําขู่ คุณจะต้องใช้กับคนที่กลัวคุณเท่านั้นและถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้กลัวคุณ คุณก็ไม่ควรที่จะใช้มัน!”

“กลัว ? ฮ่ม! ฉันไม่เคยกลัวอะไรทั้งนั้น!” เฉียนนาเหว่ยพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา

“จริงเหรอ ? มันเยี่ยมเลย” ซูเจินยิ้มออกมาทันที

ถึงแม้ว่าเฉินนาเหว่ยจะพูดขึ้นมาแบบนั้น แต่หัวใจของเธอมันก็ไม่ได้เป็นไปตามที่เธอ พูดเลยแม้แต่น้อยเพราะว่าตอนนี้มันกําลังเต้นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่เธอได้ยินเหมือนกับว่าเสียงของภายนอกเรือมันค่อย ๆ เงียบลง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าในตอนนี้เรือกําลังถูกควบ คุมโดยผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอ

ทําให้เธอมีแค่สองทางเลือกเท่านั้น ต่อสู้หรือกระโดดลงทะเลไ

และดูเหมือนว่ามันจะไม่มีหนทางอื่นนอกจากนี้แล้วจริง ๆ

อย่างไรก็ตามอัตราความสําเร็จของทั้งสองตัวเลือกมันก็ต่ํามากอยู่ดี ทําให้เฉียนนาเหว่ยถึงกับ เงียบไปครู่หนึ่ง และหลังจากนั้นไม่นานเธอก็กัดฟันและตัดสินใจที่จะต่อสู้กับเขา

“เฮ้อ!”

เฉียนนาเหว่ยถอนหายใจออกมาเบา ๆ พร้อมกับจับมีดสั้นของเธอขึ้นมาและพุ่งเข้าไปหาซูเจินอย่างรวดเร็ว

ในพริบตาเฉียนนาเหว่ยก็มาอยู่ตรงหน้าของซูเงินอย่างรวดเร็ว และเธอก็พบว่าตอนนี้

ซูเงินยังไม่ตอบสนอง

ทําให้เฉียนนาเหว่ยถึงกับยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุขทันที และเธอก็ใช้มีดสั้นของเธอแทงไปที่จุดสําคัญบนร่างกายของซูเงินอย่างรวดเร็ว

หัวใจ!

ทันใดนั้นมีดสั้นของเธอก็หยุดอย่างกะทันหัน ห่างจากหัวใจของซูเงินเพียงแค่หนึ่งนิ้วเท่านั้นและไม่ว่าเธอจะพยายามออกแรงมากเท่าไหร่ เธอก็ไม่สามารถขยับมีดสั้นของเธอได้เลยแม้แต่น้อย