ตอนที่ 48 องค์ที่ 3 บดขยี้ - เจ้าหญิงแวมไพร์และงานเลี้ยงเปิดตัวอดีตผู้กล้า

[WN] การกวาดล้างมนุษยชาติของเจ้าหญิงแวมไพร์กับอดีตผู้กล้า

“…หืมมม เราเข้าใจแล้ว เป็นเด็กสาวที่สวยดังที่เจ้าว่าจริงๆ”

“ใช่มั้ยล่ะคะ?”

“ตัวเล็กๆ แบบนี้ เธอดูเหมือนแฟรี่มากกว่าเรนซะอีกนะเนี่ย”

“วีเนล มานี่เดี๋ยวนึงซิ”

 

เรามารวมกันในห้องโถงของจอมมาร ระหว่างที่คุณวีเนลถูกพายุลูกเล็กๆ ของคุณเรนไล่ไปรอบห้อง

…ไม่สิ จะพูดให้ถูก เราไม่ได้มารวมกัน แต่มาเตรียมการกันมากกว่า

 

ห้องนี้ถูกขยายออกด้วยเวทพื้นที่ของคุณเฟเรีย และตอนนี้มีเผ่ามารมารวมกันมากกว่า 100 ตนซะอีก

นอกจากเผ่าพันธุ์ของผู้บริหารแล้ว ยังมีเผ่าพันธุ์อื่นๆ ด้วย อย่างเผ่ามนุษย์มัจฉา, เผ่าคนยักษ์, เผ่าภูติ เป็นต้น

ไม่แน่ ผู้นำของแต่ละเผ่ากับเหล่าบุคคลระดับสูงในแต่ละเผ่าคงจะมารวมกันที่นี่แล้วก็ได้

 

“น- นี่ท่านจะประกาศตัวตนของโยมิตอนนี้น่ะเหรอคะ?”

“ถูกต้องแล้ว ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี หากเราไม่ทำเสียตอนนี้ อาจเกิดปัญหาขึ้นต่อไปก็เป็นได้”

“นั่น- นั่นก็จริงนะคะ… บางที อาจจะมีบางคนไม่สบายใจที่จะนำมนุษย์มาเป็นเพื่อนร่วมรบก็ได้”

“นั่นก็สมเหตุสมผล แต่เจ้านั้นประเมินเผ่ามารภายใต้การดูแลของท่านอิซึสึต่ำเกินไปเสียหน่อย จงดูเราให้ดี”

 

จากนั้น ท่านจอมมารก็รีบเดินออกไป

…สงสัยจังว่าท่านจะไม่เป็นไร ใช่มั้ยคะ

 

“อา― อะแฮ่ม เหล่าพี่น้องที่รักของเราเอ๋ย เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่พวกเจ้าทุกคนมารวมตัวกันเร็วถึงขนาดนี้”

 

ด้วยการกล่าวทักทาย ทั้งห้องที่เคยตึงเครียดเล็กน้อย ก็เงียบลงในทันที

 

“แน่นอน เหตุผลที่เราเรียกพวกเจ้ามาในครั้งนี้ แรกสุด… พวกมนุษย์ได้นำเอาตัว ‘ผู้กล้า’ ออกมายังแนวหน้าในสนามรบ และสร้างความเสียหายพอประมาณกับพวกเรา แล้วเด็กผู้หญิงคนนึงก็สามารถหยุดเหตุนั้นได้สำเร็จ”

 

ด้วยคำพูดนั้น ในห้องก็ดังอื้ออึงกันด้วยร้อง “โ―โอ้!” โอ้ไม่นะ น่าอายจังเลย

 

“เราขอแนะนำให้พวกเจ้าได้รู้จักกับองค์หญิงของเผ่าแวมไพร์ ลีน บลัดลอร์ด [เจ้าหญิงแวมไพร์] บัดนี้ ขอให้ก้าวมาข้างหน้าด้วย”

 

……หา?

อะไรนะ?

 

“ไปเร็วสิ ลีนจัง เธอถูกเรียกแล้วนะ”

“เอ๊ะ! คุณรู้อยู่แล้ว เดี๋ยวนะคะ… ทำไมฉันไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย!?”

“ฉันไม่ได้บอกเองแหละ เอาล่ะ ไปได้แล้ว”

“เอ๊ะ เดี๋ยวสิคะ…”

 

หลังจากถูกผลักหลังอย่างต้านทานไม่ได้ ฉันก็ถูกบังคับให้มาอยู่ต่อหน้าท่านจอมมารแล้ว

ปฏิกิริยาของแต่ละคนก็ดูหลากหลาย บางคนก็ดูประทับใจ บางคนก็ดูประหลาดใจ และก็มีบางคนที่ดูลังเลสงสัยด้วย

อา… ฉันไม่ถนัดการอยู่ต่อหน้าผู้คนเลยน้า…

 

“…ทำได้ดีมาก จากความสำเร็จในครั้งนี้ เราขอมอบตำแหน่งว่าที่ผู้บริหารแห่งกองทัพจอมมารให้กับเจ้า และนี่คือรางวัลของเจ้า แม้จะเป็นเพียงมีดสั้น แต่ความคงทนของมันสูงพอที่แม้เจ้าจะเป็นผู้ใช้มันก็ไม่หักไม่แตก… จงพยายามดังเช่นครานี้ต่อไป”

 

… เอาล่ะ ดูซิ สถานการณ์แบบนี้ฉันควรจะพูดว่ายังไง

อ่า นึกให้ออกสิว่าชาติก่อนเราควรใช้คำพูดแบบไหน

 

“…เป็นเกียรติมากค่ะ ท่านจอมมาร ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับตำแหน่งว่าที่ผู้บริหารแห่งกองทัพจอมมารมา ขอขอบพระคุณมากค่ะ ด้วยศาสตราชิ้นนี้ จะได้ถูกใช้ฟาดฟันเหล่าศัตรูผู้โง่เขลาที่หันคมดาบเข้าหากองทัพจอมมารอย่างแน่นอนค่ะ”

 

…ไม่รู้สิ ยังรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าที่ควรเลย ประมาณนี้ได้มั้ยนะ

 

“อืม ยินดีกับเจ้าด้วยเช่นกัน ถอยไปได้”

 

ผ่านมาได้แล้ว―――! เซฟ!

พอฉันกลับมาที่ด้านหลังของห้อง พวกผู้บริหารก็รอต้อนรับฉันอยู่… ไม่รู้สิ พวกเขาดูอึ้งกันนะ

 

“…อึม ทุกคนคะ? มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”

“เอ๊ะ อา ไม่… คือ ลีนไปเรียนภาษาแบบนั้นจากที่ไหนเหรอ? เอาซะไม่อยากเชื่อเลยว่ายังเป็นแค่เด็ก 8 ขวบอยู่เลยน่ะ ถึงท่านจอมมารจะไม่แสดงออกมาบนสีหน้าก็เถอะ แต่ฉันคิดว่าท่านก็แปลกใจไม่น้อยแน่ๆ”

 

…โอ๊ะ แย่ละ ฉันใช้ภาษาที่ดูโตเกินอายุไปแทนซะงั้น!

 

“เอ อา คือ… ใช่ คุณแม่ค่ะ! ฉันเคยได้เรียนจากคุณแม่น่ะค่ะ”

“เห… เป็นท่านแม่ที่เข้มงวดน่าดูเลยนะครับ”

 

อา คุณแม่ที่อยู่บนสวรรค์ หนูขอโทษด้วยนะคะ

ลูกสาวคนนี้พูดโกหกซะแล้ว

ฉันไม่สนซักนิดว่าจะโกหกกับพวกมนุษย์ไปขนาดไหน แต่ถ้าต้องพูดโกหกกับคนพวกนี้ มันเจ็บปวดสำหรับฉันมากเลย…

 

“เอาล่ะ… อันเรื่องต่อไป มาสู่ประเด็นหลัก ในครั้งนี้ แม้จะเป็นปฏิบัติการลับ แต่เราก็สามารถจับกุมตัว ‘ผู้กล้า’ มาได้สำเร็จ และด้วยการนี้… เราจะประกาศว่าผู้กล้า หรือที่ถูกต้องกว่า อดีตผู้กล้านั้นจะเข้าร่วมกับกองทัพในนามของเรา”

 

เสียงฮือฮาดังขึ้นมาจากฝูงชนทันที

ก็เป็นการตอบรับที่ปกติล่ะนะ

หลายคนในนั้นยังดูงงอยู่เลย

 

“เงียบเสียง! …แน่นอน เราจะไม่นำเรื่องนี้มาพูดเป็นแน่หากไร้ซึ่งเหตุผล นางเองก็มีเหตุผลเช่นกัน นั่นคือ…”

 

ก็ ฉันว่านี่เป็นการเดิมพันที่สูงเลยนะ

หลังจากฟังอดีตของโยมิกันแล้ว พวกเผ่ามารจะยอมรับเธอหรือเปล่า…หืม?

 

อาเระ? ไม่เป็นไรงั้นเหรอ?

คนส่วนใหญ่ที่นี่ตั้งใจฟังเรื่องของโยมิด้วยสีหน้าที่สัมผัสได้ถึงความโกรธต่อพวกมนุษย์ออกมาเลย บางคนก็ดูมีทีท่าเห็นใจโยมิด้วย

แอบเห็นว่ามีบางคนน้ำตาไหลด้วยล่ะ

 

“้เช่นนั้น เราจึงให้นางมาเข้าร่วมกับพวกเรา นางเป็นอดีตผู้กล้า และมนุษย์เพียงคนเดียวที่อยู่ฝั่งกองทัพจอมมาร ในฐานะผู้กล้าแล้ว นางนั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด อีกทั้งยังเป็นอัจฉริยะฟ้าประทานที่ครอบครองพรสวรรค์มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา… โยมิ”

“ค- ค่ะ!”

 

พอโยมิที่ถูกเรียกตอบรับและปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนแล้ว ทั่วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงปรบมือ

……เผ่ามารค่ะ นี่จะอบอุ่นหัวใจเกินไปแล้วนะ~!?

พวกเขาเป็นคนดีกันมากเลย! ท่านจอมมารพูดถูกแล้ว ฉันมองเผ่ามารผิดไปจริงๆ!

สมกับเป็นเผ่าพันธุ์ที่ท่านอิซึสึเป็นผู้ดูแลจริงๆ เลย นิสัยต่างกันสุดขั้วเลย

 

“อึม คือ ข- ขอบคุณสำหรับการแนะนำตัวนะคะ… เราคืออดีตผู้กล้า โยมิค่ะ…… คือ เราจะพยายามอย่างเต็มที่ ขอฝากตัวด้วยนะคะ…”

 

ปรบมือสิคะ

เผ่ามารทุกคนยินดีให้กับโยมิ ที่ได้เกิดใหม่จากผู้กล้ามาเป็นนักรบของกองทัพจอมมารกันอย่างไม่ลังเลเลย

โยมิน้ำตาคลอเบ้าเลย ถ้าเธอถามฉัน ฉันก็แทบจะร้องไห้เหมือนกัน

 

…ฉันดีใจมากเลยที่ได้เกิดในเผ่ามาร

ถ้าฉันเองได้ไปเกิดใหม่เป็นมนุษย์ล่ะก็ แค่คิดก็ขนลุกแล้วที่ต้องไปเป็นแบบพวกชั่วเกลื่อนโลกนั่น