ตอนที่ 38 ถ้าผมอยากให้คุณไปกับผมล่ะ

รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ

ตอนที่ 38 ถ้าผมอยากให้คุณไปกับผมล่ะ

กลิ่นของดอกยี่เข่งหอมฟุ้ง ดอกร่วงโรยกระจัดกระจาย

สายตาทั้งสี่มองมาจนมู่เทียนซิงเขิน

หูแดงอ่อนๆ เหมือนดอกยี่เข่ง ยังไงหล่อนก็นึกไม่ถึงว่าวันนี้หลิงเล่จะให้คนทำอาหารมาให้แล้วยังทานข้าวเช้ากับหล่อนอีก

คิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อเช้า มู่เทียนซิงมองสายตาของหลิงเล่ด้วยความรู้สึกนับถือหน่อยๆ หล่อนขายขี้หน้าขนาดนั้น เขายังช่วยเก็บเป็นความลับอีก!

บอกได้แค่แมนมาก!

ฉวีซือเหวินเอาสเต๊กปลาหิมะสองที่วางไว้ตรงหน้าของหลิงเล่กับมู่เทียนซิง พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ :“คุณชายสี่ คุณหนูมู่ ค่อยๆ ทานนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ”มู่เทียนซิงรีบขอบคุณ

ตอนที่หันกลับไปสายตาก็ปะทะกับความหล่อเหลาของหลิงเล่ที่มีใบหน้าขุ่นเคือง อดไม่ได้ที่จะคิดว่า ถ้าเขายืนขึ้นมาได้จริงๆ ผู้ชายดีๆ แบบนี้คงไม่ถึงมือหล่อนแน่ๆ ?

ที่จริงแล้ว มู่เทียนซิงก็เป็นคนไร้เดียงสาแบบนี้แหละ

ก่อนนี้ยังโกรธจนกัดฟัน มาตอนนี้แค่เขาดีกับหล่อนหน่อย หล่อนก็จำฝังใจ ความขุ่นเคืองก่อนหน้านี้หายไป

เจี่ยงซินมักจะพูดเสมอว่านิสัยของหล่อนแบบนี้จะโดนเอาเปรียบได้ บาดแผลดีขึ้นก็ลืมความเจ็บ

แต่มู่อี้เจ๋อกลับบอกว่า ชีวิตที่มีแต่ความวุ่นวายมากมาย ได้รับความผ่อนปรนไปบ้างก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ทำไมต้องให้ตัวเองใช้ชีวิตไปแบบไม่มีความสุขด้วย?

ช่วงเวลาที่เหมาะสมแบบนี้ หลิงเล่ดูเอ็นจอยกับมัน

เขายังไม่ทานทันที แต่นั่งตรงหน้าหล่อนอย่างใจกว้าง สายตาคมชัดนั่นมองไปที่หล่อนอย่างไม่ละสายตาออก เหมือนว่าหล่อนเป็นแม่เหล็กที่ดูด รอยยิ้มนั่นเพียงพอที่จะดึงดูดเขา ไม่ว่ายังไงก็หนีไม่พ้น

ตอนนี้เองหล่อนก็หยิบส้อมกับมีดมาหั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นๆ

เพื่อที่จะแสดงการขอบคุณและความห่วงใยต่อคนพิการ หล่อนก็ยืนขึ้น สองมือถือจานไปข้างหน้า:“ลุงคะ ให้”

มุมปากของหลิงเล่ยกขึ้น ตาดำเปล่งประกาย

รับจานในมือของหล่อนเข้ามา แล้วก็เอาจานของเขาส่งไปให้ หล่อนรับเข้ามา แล้วหั่นไปใหม่

พวกจั๋วหรันต่างยืนมองกันอย่างเงียบๆ บรรยากาศรอบๆ ช่างดี ถ้าคุณชายสี่กับคุณหนูมู่อยู่กันแบบนี้ได้ต่อไปเรื่อยๆ ก็คงจะรักกันในไม่ช้า

หลิงเล่กินอย่างสง่างาม ดื่มด่ำความอร่อย

วางส้อมกับมีดลง เขาเขียนประโยคนึงลงในกระดาษสีขาวแล้วส่งให้หล่อน

“ชอบชุดแต่งงานสีอะไร?”

หล่อนมองแล้วก็พูดออกไป:“คุณยังคิดเรื่องนี้อีก แต่ว่าช่างมัน ฉันไม่แคร์เรื่องพวกนี้เท่าไหร่”

ประโยคนั้น ทำลายบรรยากาศดีๆ ไป!

ดวงตาที่อบอุ่นของหลิงเล่มีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ ปากกา Montblanc อันหรูหราถูกแรงนิ้วมือของเขากดลง

จากนั้นเขาก็เม้มปากแน่น เขียนประโยคนึงลงบนกระดาษ:“เพราะว่าผมไม่ใช่คนที่คุณอยากแต่งด้วย ก็เลยไม่คาดหวังอะไรกับงานแต่งใช่ไหม?”

มู่เทียนซิงไม่คิดว่าเขาจะถามแบบนี้

แต่ว่าเขาก็พูดจริงนี่:“เอ่อ คุณก็อย่าจริงจังมากไป ยังไงซะระหว่างพวกเราก็ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อกัน เรื่องแต่งงานคุณอย่าไปคิดเลย ฉันว่าน้าเชี่ยนน่าจะเตรียมแล้ว ตอนนี้เขาคือคนดูแลตระกูลหลิงไม่ใช่เหรอ?พวกเขาจัดการยังไงพวกเราทำแบบนั้นก็พอ”

น้ำเสียงของหล่อนตรงไปตรงมา สายตาดูอวดดี

หลิงเล่จ้องหล่อนอยู่นาน มองไม่เห็นอย่างอื่นนอกจากความจริง

แต่ว่านี่คือเรื่องจริง ก็ไม่รู้ว่าทำร้ายจิตใจใคร ทำให้พวกฉวีซือเหวินหดหู่ขึ้นมา

อีกอย่างเมื่อวานทั้งสองก็Kissกัน นอนกอดเตียงเดียวกันอีก ความรู้สึกก็น่าจะคืบหน้าบ้างสิ ทำไมตอนนี้ดูแล้วๆ เหมือนทุกอย่างจะกลับไปที่เดิม?

หลิงเล่หายใจเข้า มองอาหารตรงหน้า หยิบผ้ามาเช็ดปาก ดีดนิ้วเรียกจั๋วซี

จั๋วซีรีบเข้ามา เข็นหลิงเล่กลับห้องภายใต้สายตาที่อึ้งของมู่เทียนซิง

จั๋วหรันก็ตามเข้าไปพูดกับมู่เทียนซิงว่า:“คุณหนูมู่ ไม่กี่วันข้างหน้าคุณชายสี่จะไม่อยู่เมืองM อาซือจะดูแลทุกอย่างของท่านที่คฤหาสน์จื่อเวย คุณหนูมู่ อาหารเช้าอุดมสมบูรณ์มาก ค่อยๆ ทานนะครับ!”

มู่เทียนซิงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

หล่อนมองเหตุการณ์ตรงหน้าแปลกๆ ดีที่เรียกฉวีซือเหวินไว้ได้:“พี่อาซือ พวกเขาเป็นอะไรอ่ะคะ?”

ฉวีซือเหวินมองแผ่นหลังของเหล่าชายหนุ่มที่ออกไปก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ พูดตามสามีที่เพิ่งออกไปว่า:“คุณหนูมู่ อาหารเช้าอุดมสมบูรณ์มาก ค่อยๆ ทานนะคะ!”

“เขาไม่อยู่นี่แล้วฉันกลับบ้านได้ไหม?”หล่อนยืนขึ้น ไม่มีอารมณ์ทานข้าวต่อ

ยังไงซะเหตุผลที่หล่อนอยู่นี่ก็เพราะหลิงเล่อยู่ ตอนนี้เขาจะไม่อยู่ หล่อนอยู่ไปก็เท่านั้น กลับบ้านไม่ดีกว่าเหรอ

อีกอย่างเมิ่งเสี่ยวหลงก็ยังไม่น่าจะไป อีกสองสามวันเมิ่งเสี่ยวหวีก็จะมาด้วย หล่อนก็มีเพื่อนๆ นะและก็อยากบ้าบอคอแตกกับเพื่อนๆ และก็อยากอ้อนพ่อกับแม่ในอ้อมกอดมากๆ

ฉวีซือเหวินเห็นความหวังในสายตาของหล่อนก็พูดอย่างเสียใจ:“ไม่ได้ค่ะ ถ้าคุณชายสี่ไม่แจ้ง ท่านก็ไปจากคฤหาสน์จื่อเวยไม่ได้”

มู่เทียนซิงก็รู้ว่าเป็นแบบนี้

ดังนั้น พอได้คำตอบก็วิ่งไป!

หลิงเล่เพิ่งออกไปไม่นาน ตอนนี้เขายังอยู่ในบ้าน งั้นไปถามเขาด้วยตัวเองดีกว่า!

ห้องรับแขก——

หลังจากเมื่อคืนที่จั๋วซีประชุมเสร็จ ก็เตรียมของใช้ให้หลิงเล่ไปต่างจังหวัด

เอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่สองใบออกมา อันนึงสีดำ อีกอันสีชมพูฟ้า

เขามองหลิงเล่อย่างไม่ค่อยแน่ใจ:“คุณชายสี่ เมื่อคืนไม่ได้คุยเรียบร้อยแล้วหรือครับว่าจะพาคุณหนูมู่ไปด้วย?ตอนนี้จะให้หล่อนอยู่คนเดียวจริงๆ เหรอครับ?หล่อนร่าเริงอย่างนั้น อุดอู้อยู่บ้านหลายวันจะได้เหรอครับ?”

หลิงเล่มองเขาอย่างเย็นชา

แค่สายตานั้น ไม่ต้องอธิบายอะไรมากก็ทำให้จั๋วซีหุบปากอย่างไว

จั๋วหรันพูดอย่างระมัดระวัง:“คุณชายสี่ คุณหนูมู่น่าจะยังไม่เคยไปเมืองMนะครับ ท่านไปแค่ปีละครั้ง อีกแปปก็ต้องจัดงานแต่งแล้ว ควรให้คุณหนูมู่ไปหลุมศพของคุณนายไหมครับ ให้คุณนายดู?ต่อไปมีคุณหนูมู่ไปกับท่านคุณนายที่อยู่บนฟ้าจะได้สบายใจ”

หลิงเล่หลับตาลง ได้ยินที่จั๋วหรันพูด เหมือนกำลังฝืน

มะรืนคือวันครบรอบของแม่เขา แม่เขาช่วยชีวิตเขาเลยจมน้ำ

คุณปู่ที่อยู่คฤหาสน์บนเขารักแม่ของเขามากที่สุด แต่ความจริงวันนี้ของทุกปี คนที่คิดไปกราบไหว้หลุมศพของแม่เขาก็มีแค่เขา!

ลืมตาขึ้น ผู้ชายบนรถเข็นกำลังจะพูดก็เห็นร่างที่สวมชุดสีฟ้าเข้ามา มานั่งตรงหน้าเขาเหมือนแมวแล้วมองไปที่เขา

“ลุง ถ้าคุณไป งั้นฉันกลับบ้านนะ!ได้ไหม?”

หลิงเล่มองหล่อนอย่างลึกซึ้ง ถามเบาๆ :“ถ้า ผมอยากให้คุณไปกับผมล่ะ?”

มู่เทียนซิงนิ่งไป แล้วก็แลบลิ้นออกมาพร้อมยิ้มอย่างบ้าบอ:“ฉันไม่เคยไปยุ่งกับงานของคุณและก็ไม่เข้าใจ ไปก็มีแต่สร้างความยุ่งยากให้คุณ ฉันกลับบ้านดีกว่า พี่เสี่ยวหลงยังอยู่ที่บ้านฉัน!”