ตอนที่ 36 เรื่องราวของแผนกบรรณาธิการ

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 36 เรื่องราวของแผนกบรรณาธิการ

ไม่กี่วันต่อมา

ในชาร์ตเพลงใหม่รายการนี้ สถิติของอันดับหนึ่งอย่างเพลงติดไฟง่ายระเบิดง่ายก็มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และทิ้งช่วงห่างจากอันดับที่สองในระดับหนึ่งแล้ว

และในตอนนี้

ในแต่ละแพลตฟอร์มฟังเพลง ช่องคอมเมนต์ของติดไฟง่ายระเบิดง่าย ก็ร้อนแรงเป็นพิเศษ

จำนวนคอมเมนต์เกี่ยวกับเพลงนี้ล้นหลาม

‘ฉันคิดว่าเพลงนี้น่าจะชื่อว่าสรุปแล้วมึงจะเอายังไงกับกู’

‘ฉันว่าเพลงนี้ยังตั้งชื่ออื่นได้อีก มะเร็งชายแท้[1]ไปตายซะ ความย้อนแย้งของมะเร็งชายแท้ หรือไม่ก็คุณพี่คิดว่าดิฉันเป็นใครค้าา…’

‘พื้นบ้าน? ร็อก? วิธีการร้องเป็นเอกลักษณ์มาก!’

‘ฉันฟังแล้วชอบเลย! ดาวน์โหลดเก็บไปเลยค่า!’

‘ผ่านมาดูพอดี นี่เป็นสิ่งที่สังคมคาดหวังต่อเพศหญิง ฉันละโมโหจริงๆ บนโลกนี้เนี่ยนะ เมื่อไหร่ผู้หญิงอย่างเราจะได้มีสิทธิ์มีเสียงของตัวเองสักที’

‘ไม่นะ เดี๋ยวนี้แค่ฟังเพลงก็เป็นเฟมินิสต์ได้แล้วเหรอ’

‘เพลงนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่า ผู้ชายรักผู้หญิง ขณะเดียวกันก็ทำร้ายจิตใจผู้หญิงไปเรื่อยๆ เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกผู้หญิงคนนี้ ทั้งที่ขณะเดียวกันก็ยังอยากให้เธออยู่ข้างกาย อยากให้เป็นตัวของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้อยากให้มีชีวิตที่ดี สรุปง่ายๆ คือเป็นผู้ชายเฮงซวย!’

‘ผมกลับรู้สึกว่าเพลงนี้เป็นเสียงจากใจของผู้ชายอย่างพวกผม ผู้ชายทุกคนก็มีอุดมคติเลิศหรูของตัวเองกันทั้งนั้น อยากได้ผู้หญิงบริสุทธิ์ผุดผ่องน่าทะนุถนอม เก่งทั้งหน้าที่การงานและงานบ้านงานเรือน น่ารักน่าเอ็นดู เป็นคู่ครองที่เพียบพร้อม’

‘คอมเมนต์บนเป็นมะเร็งชายแท้แหละดูออก ฝันกลางวันเอาก็แล้วกันนะ’

‘วันนี้ไปคาราโอเกะมา เดินผ่านห้องไหนก็ร้องแต่เพลงนี้’

‘…’

ในวงการอวยยศพ่อเพลง ผู้ฟังส่วนใหญ่กลับถกเถียงกันเรื่องเนื้อเพลง คนมากมายรู้สึกว่าเนื้อเพลงนี้บรรยายถึงปรากฏการณ์บางอย่างในชีวิตจริง

กระนั้นแล้วสองกลุ่มนี้จะมาตีกันไม่ได้

เซี่ยนอวี๋ทำทั้งเนื้อร้องและทำนอง ไม่เว้นพื้นที่ให้สาธารณะชนเถียงกันเรื่องเนื้อร้องและทำนอง

นอกจากนั้นแล้ว

ยังมีคนตัดฉากบางส่วนในภาพยนตร์ ใช้เพลงติดไฟง่ายระเบิดง่ายมาเป็นเพลงประกอบ และถึงขั้นที่ได้ผลลัพธ์ไม่เลวเลยทีเดียว

ดังนั้นจึงมีคนอัป(หมายถึงผู้ที่อัปโหลดไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงในเว็บไซต์จำพวกแพล็ตฟอร์มวิดีโอหรือเว็บบอร์ด)จำนวนมากที่ทำตาม

มีวิดีโอหนึ่งในนั้น ใช้ภาพของนางเอกคลาสสิกจากภาพยนตร์และซีรีส์หลายคนตัดรวมกัน ขณะที่ฉากคลาสสิกของเหล่านางเอกเปิดผ่าน เพลงก็จะเล่นประกอบแต่ละท่อน ไม่ทันไรก็เรียกเสียงตอบรับได้ไม่น้อย

‘ตัดต่อปังมาก!’

‘ฉันนึกว่าอยู่บนสวรรค์!’

‘BGMเพลงนี้ลงตัวมาก!’

‘อ๊าาาาก คุกเข่าขอชื่อเพลงครับ!’

‘คอมเมนต์บนยืนขึ้นเถอะ เพลงชื่อติดไฟง่ายระเบิดง่าย’

‘ตอนแรกฉันก็เฉยๆ กับติดไฟง่ายระเบิดง่าย แต่ดูคลิปตัดนี้แล้ว อยู่ๆ ก็เก็ตเพลงนี้ขึ้นมาเลย แอบโหลดมาเก็บไว้

ละ’

‘เพลงประกอบดีมาก!’

‘นี่เป็นวิธีเปิดเพลงที่ถูกต้องจริงๆ สินะ’

‘ทุกคนต่างรู้ว่า ทันทีที่ติดไฟง่ายระเบิดง่ายดังขึ้น ก็จะมีแอนตี้แฟนของนางเอกพวกนี้โผล่มา’

‘…’

เมื่อวิดีโอเหล่านี้ปล่อยออกไป ก็ยิ่งทำให้เพลงติดไฟง่ายระเบิดง่ายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่าเดิม

มีหลายครั้งที่เมื่อใช้เพลงเป็นแบ็กกราวด์มิวสิก ก็จะทำให้คลิปวิดีโอธรรมดามีพลังชีวิตที่แตกต่างขึ้นมา

นี่ก็เหมือนกับแบ็กกราวด์มิวสิกของภาพยนตร์และซีรีส์ที่ผู้ชมล้วนรู้ว่าช่วงไคลแม็กซ์กำลังจะมาถึงนั่นละ

สองเพลงก่อนหน้านี้ของหลินเยวียนไม่ได้ด้อยไปกว่าติดไฟง่ายระเบิดง่าย

แต่เห็นได้ชัดว่าหากพูดถึงยอดดาวน์โหลดของเพลง ติดไฟง่ายระเบิดง่ายนั้นโดดเด่นที่สุด

……

และขณะที่เพลงติดไฟง่ายระเบิดง่ายแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว

ในบริษัทคลังหนังสือซิลเวอร์บลูของฉินโจว เหล่าบรรณาธิการก็กลับไม่มีเวลาว่างมาเพลิดเพลินกับการฟังเพลงและดูวิดีโอ

พวกเขากำลังง่วนอยู่กับการตรวจต้นฉบับนิยายในซูเปอร์โนวาอวอร์ดในปีนี้อยู่

บางทีอาจเป็นเพราะอาชีพนักเขียนนิยายได้รับความนิยมจากผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ต้นฉบับที่ได้รับในซูเปอร์โนวาอวอร์ดปีนี้จึงมากกว่าปีที่แล้ว

ดังนั้นตั้งแต่หลายวันก่อน เหล่าบรรณาธิการก็ตรวจต้นฉบับกันไม่ได้หยุด

เพื่อที่จะรีบตรวจต้นฉบับให้เสร็จก่อนเส้นตาย บนโต๊ะของบรรณาธิการแต่ละคนล้วนเต็มไปด้วยเครื่องดื่มชูกำลัง รวมไปถึงกาแฟที่กินไม่ได้หยุดหย่อน

หยางเฟิงก็เป็นหนึ่งในบรรณาธิการตรวจต้นฉบับของคลังหนังสือซิลเวอร์บลู

ตรวจต้นฉบับมาหลายวัน หยางเฟิงอ่านนิยายมานับไม่ถ้วน จนในตอนนี้เวียนหัวไปหมดแล้ว

ทั้งกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลังใกล้จะดื้อยาแล้ว

เพื่อที่จะประคองสมาธิให้คงอยู่ เขาจำต้องไปสูบบุรี่ที่ห้องน้ำสักหน่อย

บรรณาธิการที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับหยางเฟิงนั้นมีอีกหลายคน ดังนั้นท่ามกลางม่านควันในห้องปลดทุกข์ บรรณาธิการหลายคนซึ่งกำลังสูบบุหรี่ก็ถกเถียงกันเรื่องเนื้อหาที่ต้องตรวจกันในช่วงหลายวันมานี้

“พวกนายได้ต้นฉบับแนะนำหรือยัง”

“ของฉันยังเลย แต่ว่ามีอยู่สองสามเรื่องที่ไม่เลว อ่านต้นฉบับทั้งหมดที่มีอยู่ในมือก่อนสักรอบ แล้วค่อยมาตรวจให้ละเอียด ผลงานที่ฉันถูกใจจะได้ไม่ถูกคัดออกระหว่างที่ตรวจทวนต้นฉบับ”

“ซูเปอร์โนวาแต่ละปีก็เป็นการเดิมพันทั้งนั้น”

เหล่าบรรณาธิการตรวจสอบต้นฉบับในมือจนหมด ต่างก็มีนิยายแนะนำอยู่จำนวนหนึ่ง หากท้ายที่สุดผลงานที่บรรณาธิการคนไหนแนะนำถูกหัวหน้าบรรณาธิการเลือกไป หลังจากนั้นก็จะนับว่าเป็นผลงานแล้ว ดังนั้นบรรณาธิการก็ล้วนจริงจังและรอบคอบกับผลงานแนะนำของตนเองมาก

ในตอนนั้นเอง

บรรณาธิการคนหนึ่งก็พูดขึ้นว่า “แนวหลักของต้นฉบับปีนี้เป็นพวกผจญภัยในต่างโลก เพราะคนเขียนแนวนี้เยอะมาก จะหาเรื่องที่ดีที่สุดในนั้นก็เลยไม่ง่ายเอาซะเลย”

ทุกคนเห็นพ้องต้องกันกับประโยคนี้

คนเขียนแนวผจญภัยในต่างโลกมากเกินไปแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อผู้คนจำนวนมากเขียนแนวเดียวกัน หากจะให้เลือกเรื่องที่ดีที่สุดมานั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

“ถึงยังไงก็เป็นแนวที่คนชอบกันนี่นา”

“น่าเสียดายที่คนส่วนใหญ่มักจะตามสไตล์ที่เป็นกระแสตลาด มีอยู่ไม่กี่คนที่เขียนด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง”

“แต่ว่าแนวนี้ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่านี่”

“ใช่ แนวที่ขายดีคนเขียนก็เยอะเป็นธรรมดา อย่างฉันน่ะ ขนาดอ่านแนวผจญภัยในต่างโลกมาตั้งเยอะก็ยังรู้สึกสนุกไม่เบื่อเลย”

“…”

หยางเฟิงไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนา

สูบบุหรี่เสร็จ ก็กลับที่ไปทำงานต่อ

ในกองบรรณาธิการ บรรณาธิการส่วนใหญ่ล้วนถูกใจแนวนิยายซึ่งเป็นที่นิยมอย่างผจญภัยในต่างโลก โดยทั่วไปแล้วมาตรฐานการคัดเลือกหนังสือก็มักจะค่อนไปทางแนวนี้ ทว่าหยางเฟิงกลับมีความเห็นที่ต่างออกไป

แน่นอนว่าเขาเองก็ชื่นชอบแนวผจญภัยในต่างโลก

แต่เพราะนิยายซึ่งเขียนด้วยแนวผจญภัยในต่างโลกนั้นดาษดื่นเกินไป พลอยให้เกิดเป็นตลาดแข่งขันสมบูรณ์ของนิยายแนวนี้ที่มากเกินไป ดังนั้นหลายวันมานี้ที่หยางเฟิงตรวจต้นฉบับก็ได้อ่านเรื่องราวแนวนี้จนเอียนแล้ว

ในตอนนี้เขาอยากหาผลงานที่แตกต่างออกไปสักเรื่อง

น่าเสียดายว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย มีบางแนวที่เป็นที่นิยมขึ้นมาได้ ก็เพราะผู้อ่านชื่นชอบ

นี่คือตัวเลือกของตลาด!

ต่อให้เป็นบรรณาธิการ เพื่อที่จะทำผลงานและเพื่อยอดขายของสำนักพิมพ์ ก็จำเป็นต้องแนะนำแนวซึ่งได้รับความนิยมเหล่านี้เป็นหลัก

ยิ่งไปกว่านั้นนักเขียนหน้าใหม่ซึ่งส่งต้นฉบับมาก็ไม่ได้โง่เขลา

ต้นฉบับแนวไหนที่ผ่านง่ายก็เขียนแนวนั้น นี่เป็นหลักการอันแสนเรียบง่าย อย่างไรเสียผู้ที่ยังยืนหยัดในสไตล์ของตน ไม่ได้ตามกระแสตลาดนั้นมีเท่าหยิบมือ

ฉะนั้นตลอดหลายวันที่ผ่านมา ตรวจผลงานแล้วนับไม่ถ้วน หยางเฟิงก็ยังหาเรื่องที่พอใจไม่ได้เลย

ไม่ได้หมายความว่าไม่มีใครเขียนแนวแปลกใหม่ ท่ามกลางต้นฉบับกองพะเนิน แนวที่แปลกใหม่ก็พอจะมีอยู่บ้าง แต่ปัญหาอยู่ที่นิยายแนวเหล่านี้มักจะขาดความเป็นเรื่องราวและอรรถรสความสนุกที่นิยายพึงมี

แบบนั้นหยางเฟิงยอมคัดออกไปดีกว่า

เขาจะไม่ลดมาตรฐานในการตรวจต้นฉบับของตนเพียงเพื่อเสาะแสวงหาความแปลกใหม่ และไม่มีทางผลักไสไล่ส่งนิยายกระแสหลักออกไปจากขอบเขตการพิจารณา

ท้ายที่สุดแล้ว ความสนุกตื่นเต้นของเรื่องราวจึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ใช้เวลาสิบห้านาที

ก็อ่านต้นฉบับจบหนึ่งเรื่อง

หยางเฟิงนวดขมับอันอ่อนล้า จากนั้นก็กัดฟัน ใส่น้ำมันหอมระเหยไปสักหน่อย

นี่เป็นหนึ่งในไม้ตายเด็ดที่บรรดาพนักงานเงินเดือนใช้รับมือกับความเหนื่อยล้า

อันที่จริงก็ยังมีท่าไม้ตายขั้นสุดยอดอีก แล้วก็เกี่ยวข้องกับน้ำมันหอมระเหย ทว่าคนทั่วไปมักไม่กล้าทดลอง เพราะผู้ที่เคยทดลองได้ตายทางสังคมไปแล้ว

สรุปแล้ว ใช้น้ำมันหอมระเหยนวดศีรษะสักหน่อย หยางเฟิงก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมามากทีเดียว

ถือโอกาสที่กำลังคึกคักได้ที่

หยางเฟิงเปิดต้นฉบับใหม่ขึ้นมา

ชื่อหนังสือในครั้งนี้ทำให้หยางเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย นิยายเรื่องนี้มีชื่อว่า ‘ปรินซ์ออฟเทนนิส’

เพื่อให้ง่ายแก่การเข้าใจ

ผู้ส่งต้นฉบับยังใส่อีกชื่อไว้ด้านหลังว่า ‘เจ้าชายลูกสักหลาด’

………………………………………..

[1] มะเร็งชายแท้ เป็นคำแสลงที่ใช้เรียกกลุ่มผู้ชายซึ่งมีโลกทัศน์แคบ และเหยียดเพศ แฝงการเสียดสีค่านิยมชายเป็นใหญ่