บทที่ 27 หลานหลิงหวางคือสิ่งใด

สำรับมนตราของชายาอ๋อง

ตอนที่ 27 หลานหลิงหวางคือสิ่งใด

หญิงสาวอาศัยแสงจากดวงจันทร์ ก็พบว่ามีใครคนหนึ่งนั่งอยู่ที่มุมกำแพง คนผู้นี้สวมชุดดำ บนหน้าสวมใส่หน้ากากอันงดงาม บดบังหน้าเขาไปครึ่งค่อนซีก เหลือเพียงริมฝีปากบางและคางที่เป็นเส้นโค้งสวยงาม

ลักพาตัวนางมากลางค่ำกลางคืนแบบนี้เพื่อให้นางมาดูคนคอสเพลย์เป็นหลานหลิงหวางรึ?

“ขาข้าได้รับบาดเจ็บ ต้องยืดตรงเท่านั้น รบกวนแม่นางนั่งตรงนั้นเถิด” หมี่เฉินอี่ยกมือชี้มุมกำแพงอีกมุมอย่างอ่อนแรง

“ขืนเลือดของเจ้ายังคงไหลอยู่แบบนี้ต้องหมดสติแน่” ฉินปู้เข่อล้วงพับไฟในแขนออกมาส่องตรงบาดแผลของเขา จึงพบว่าฟางใต้ขาเขาถูกย้อมเป็นสีแดงไปผืนใหญ่ นอกจากตรงขาแล้วดูเหมือนตรงเอวก็มีแผลเช่นกัน

หมี่เฉินอี่คลี่ริมฝีปากอย่างยากลำบากและยิ้มเย้ยหยันตนเอง “พลาดท่าน่ะ”

“เราอยู่กันท่ามกลางป่าเขา คนพวกนั้นคงไม่ตามหมอมาให้เจ้าหรอก ข้าจะช่วยห้ามเลือดให้เจ้าก่อน”

ตั้งแต่ผงบ๊วยดองหลั่งน้ำตาออกฤทธิ์ นางก็สะสมค่าความนิยมในระบบได้อีกมากมาย พร้อมทั้งปลดล็อคสินค้าใหม่อีกมาก

นางจำได้ว่าในระบบมีโซดาห้ามเลือดด่วนอยู่ ใช้นิ้วหรือสำลีแต้มเพียงนิดเดียวแล้วนำไปทาตรงแผล จะช่วยห้ามเลือดตรงแผลได้และช่วยทำให้บาดแผลหายไวขึ้น

“เจ้ารักษาเป็นรึ?”

คำถามนี้เหมือนเคยมีคนถามนางมาก่อน

ฉินปู้เข่อส่ายหัว “ไม่ถือว่าเป็น แต่การห้ามเลือดเบื้องต้นสามารถทำได้อยู่”

พูดเสร็จนางก็ยื่นมือไปตรงคอเสื้อของหมี่เฉินอี่เตรียมปลดกระดุมเสื้อของเขา

มือใหญ่คว้ามือของนางไว้ และมองนางด้วยสายตาดุดันพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “เจ้าจะทำอะไร”

“พี่ชาย หากจะห้ามเลือดให้เจ้าอย่างน้อยข้าต้องหาว่าแผลเจ้าอยู่บริเวณใด เจ้ามีแผลทั้งช่วงขาและช่วงเอว ไม่ถอดเสื้อผ้าจะห้ามเลือดได้อย่างไร?” ฉินปู้เข่อกลอกตามองบนอย่างหมดคำพูด

คนโบราณไม่ว่าชายหรือหญิงต่างก็เรื่องเยอะกันทั้งสิ้น ดีนะที่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่ตำหนัก นางจึงมิจำเป็นต้องแสดงท่าทางสง่างามนัก

ฉินปู้เข่อสะบัดมือเขาออก ปลดกระดุมเสื้อและเลิกเสื้อขึ้นเบา ๆ สำรวจมองหาบาดแผล

“อื้อหือ พี่ชายใจแข็งดีนี่ แผลสาหัสขนาดนี้แต่ไม่ส่งเสียงร้องเลยแม้แต่น้อย” ฉินปู้เข่อเจอแผลที่เอวของเขาแล้ว หญิงสาวก็เผยหน้าตาเคร่งเครียด คิ้วของนางขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

แผลจากมีดขนาดครึ่งแขนมีเลือดไหลซึมออกมาตลอด เนื้อที่ปริออกมาทำให้นางขนลุกอย่างอดไม่ได้

“อาจจะเจ็บหน่อยนะ เจ้ากัดปิ่นนี้เอาไว้เถิด” ฉินปู้เข่อดึงปิ่นปักผมออกมาและส่งให้อีกฝ่าย

ในมือนางไม่มีสำลีสะอาด ฉินปู้เข่อเทโซดาห้ามเลือดลงบนฝ่ามือตนเอง ใช้นิ้วแตะแล้วถูกที่บาดแผลช่วงเอวของชายหนุ่มเบา ๆ

อาศัยแสงจากพระจันทร์ นางจึงรู้สึกได้ว่าแผลที่ทาน้ำโซดาแล้วเลือดนั้นหยุดไหลอย่างรวดเร็ว เนื้อที่ปริออกก็สมานกันอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

แต่เนื่องจากบาดแผลลึกมาก ฉินปู้เข่อจึงตั้งใจทาโซดาให้เขาอีกหลายรอบ และเมื่อมั่นใจว่าบาดแผลที่เอวสมานกันดีแล้วถึงเริ่มจัดการแผลที่ขาของเขาต่อ

สัมผัสนุ่มนวลและความเย็นยะเยือกเล็กน้อยวนเวียนไปมาทั่วผิว หมี่เฉินอี่มองสีหน้าจริงจังของหญิงสาวแล้วอดที่จะหน้าแดงไม่ได้

เขาเบือนหน้าหนีจากภาพตรงหน้าอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ชายหนุ่มกำปิ่นปักผมในมือแน่นและกล่าวเสียงเข้ม “ขอบคุณแม่นางมากที่ช่วยเหลือ วันหน้าหากแม่นางพบเจอความลำบากในเรื่องใด ข้าจักช่วยเหลืออย่างแน่นอน”

ฉินปู้เข่อขำพรืดออกมา

“พอเถอะ ดูเสื้อผ้าของเจ้าสิ คงจะอาชีพเดียวกับหลานหลิงหวางสินะ…”

“หลานหลิงหวาง? ใครกัน?!” หมี่เฉินยี่มองนางอย่างสงสัย

ฉินปู้เข่อชะงัก ก่อนจะอธิบาย “ตัวละครหนึ่งในเกม เป็นประเภทนักฆ่าสายฟาร์ม คนอย่างพวกเจ้าใช้ชีวิตอยู่บนปลายมีดตลอดเวลา ผ่านวันนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีวันหน้าหรือไม่ ข้าไม่หวังให้เจ้าแก้ปัญหาให้ข้าหรอก”

—————————————————————————————————-

[1] พับไฟ หรือตะบันไฟเป็นเครื่องมือจุดของชาวจีนโบราณ สามารถจุดไฟได้ด้วยการเป่าเพียงครั้งเดียว