บทที่31พวกคนอวดรวย

ภายในรถ ทั้งสองคนต่างนั่งที่นั่งด้านหลัง ตรงกลางเว้นที่ว่างขนาดหนึ่งคนนั่งไว้

“ใช่แล้ว ยังไงซะตอนนี้ก็ยังเร็วไป สู้ไปโรงเรียนอนุบาลอีกรอบซะดียังดีกว่า แล้วก็เอาถวนจื่อไปด้วย?” เจียงหยุนเอ๋ออยู่ๆ ก็พูดขึ้นมา

เธอยังจำได้เสมอเมื่อก่อนตอนที่ถวนจื่อหลั่งไหลพรั่งพรูออกมาทำให้ลี่จุนถิงทั้งรักที่หลง ในเมื่อถวนจื่ออยากจะอยู่ร่วมกับลี่จุนถิง วันนี้ก็เป็นโอกาสดีไม่ใช่หรือ?

ลี่จุนถิงชำเลืองตามองเธอครู่หนึ่ง ภายในดวงตาที่แวววาวเต็มไปด้วยความโกรธ เขาไม่เข้าใจว่าเจียงหยุนเอ๋อตกลงแล้วหมายความว่าอย่างไร กว่าจะหาโอกาสมาอยู่สองต่อสองได้ก็ไม่ง่าย ผลสุดท้ายเจียงหยุนเอ๋อกลับเสนอมาว่าให้เอาถวนจื่อมาด้วย?

“ไม่ต้องแล้ว” ลี่จุนถิงปฏิเสธตามตรง “ถวนจื่อตอนนี้ยังไม่เลิกเรียนหรอก?”

เจียงหยุนเอ๋อพูดอย่างลังเล “คงจะไม่เป็นไรหรอกมั้ง จะให้พูดอีก พวกบ้านสมิทธ์ก็ต้องเชิญถวนจื่ออยู่แล้วสิ”

ลี่จุนถิงเงียบไปไม่ได้อธิบายอะไร แต่ราวกับว่าคิดแน่ใจแล้วว่าจะไม่ไปรับถวนจื่อ มองดูสถานการณ์ตรงหน้า เจียงหยุนเอ๋อได้แต่น่าเบื่อและถอนหายใจภายในใจ ก็แค่ครั้งหน้าคงต้องหาโอกาสให้ถวนจื่อได้เจอกับลี่จุนถิง

ด้วยความรวดเร็ว ลี่จุนถิงก็พาเจียงหยุนเอ๋อมาถึงร้านอาหารที่หรูหราแห่งหนึ่ง ร้านอาหารแห่งนี้เจียงหยุนเอ๋อเคยแต่ได้ยินคนอื่นพูด ไม่คิดเลยว่าตอนมีชีวิตอยู่จะมีโอกาสย่างก้าวเข้ามาในนี้

เจียงหยุนเอ๋อเดินตามลี่จุนถิงมาอย่างระมัดระวัง เพราะหายออกมาจากสังคมมานานหลายปีแล้ว ท่าทางของเธอดูเหมือนกับว่าคับแคบอย่างนั้น

ลี่จุนถิงเอียงหน้ามองเธอเสนอความคิดเห็น ขมวดคิ้วเบาๆ เอามือของเจียงหยุนเอ๋อไปวางไว้ข้อพับแขนตัวเอง แล้วพูดว่า “ตื่นเต้นขนาดนี้ไปทำไม? พวกเราก็แค่มากินข้าวเท่านั้นเอง อย่าทำให้ฉันเสียหน้า”

เมื่อได้ยินดังนั้น อารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อก็ค่อยกลับมาดั้งเดิมเล็กน้อย นั่งลงตามลี่จุนถิงตรงโต๊ะด้านหน้า

อาหารมื้อนี้ ทั้งสองคนแสดงออกไปด้วยความเงียบสงบ เจียงหยุนเอ๋อไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับลี่จุนถิง คิดถึงตอนเมื่อก่อนที่ส้งหวั่นหวั่นเคยมาหาตน เธอก็ยิ่งรู้สึกอยากจะตัดขาดกับลี่จุนถิง

หรือบางที หลังจากอาหารมื้อนี้จบลง หลังจากนี้คงไม่มีเรื่องราวเยอะแยะแบบนี้สินะ?

เมื่อคิดแบบนี้ ภายในใจเจียงหยุนเอ๋ออยู่ๆ ก็รู้สึกหม่นหมองขึ้นมาทันที

ลี่จุนถิงเห็นว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่พูดจามาโดยตลอด หัวคิ้วขมวดเล็กๆ พูดว่า “เหล้าที่นี่รสชาติไม่ค่อยอร่อยนัก ฉันจะไปเอาเหล้าบนรถมา”

เมื่อพูดจบ ลี่จุนถิงลุกยืนขึ้นแล้วเดินออกไป

เจียงหยุนเอ๋อหันหัวกลับไปมองหลังของเขา ในใจราวกับว่าจะต้องสูญเสียไปอย่างแน่นอน

ก็ไม่รู้ว่า ที่จริงแล้วลี่จุนถิงคิดอย่างไรอยู่

ช่างมันแล้วกัน ใส่ใจเยอะแยะไปทำไม ถึงอย่างไรแล้วทั้งสองก็ไม่ใช่คนในโลกเดียวกัน

ตอนนั้นเอง ผู้หญิงไม่กี่คนเดินคุยกันผ่านข้างตัวเจียงหยุนเอ๋อไป เจียงหยุนเอ๋อเดิมทีก็ไม่ได้สนใจ ต่อจากนั้นมองไปยังคนไม่กี่คนที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ

“เอ๊ะ นี่ไม่ใช่เจียงหยุนเอ๋อหรือ?” ผู้หญิงหนึ่งคนในนั้นพูดอย่างตกใจ

เจียงหยุนเอ๋อเงยหัวขึ้นไปมอง แล้วมองเห็นเพื่อนสมัยเรียนของตน เพื่อนเล่น

เมิ่งซิน เจียงเหมิง ส้งฉิง

ภายในใจเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกตกใจ รีบลุกขึ้นยืนแล้วมาทักทายพวกเธอ “ไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว”

ผู้หญิงไม่กี่คนสังเกตพินิจพิเคราะห์เจียงหยุนเอ๋ออย่างเงียบๆ แม้ว่าเสื้อผ้าของเจียงหยุนเอ๋อจะหรูและแพงมากๆ แต่พวกเธอก็ดูรู้สภาพความเป็นมาของเจียงหยุนเอ๋ออย่างชัดเจน ยอมรับอย่างแน่นอนว่าเสื้อผ้าที่เจียงหยุนเอ๋อใส่อยู่นั้นต้องเป็นราคาถูกแน่ๆ

ภายในดวงตาของพวกเธอเห็นได้ชัดว่ามีความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามอยู่ แต่ครั้งนี้เจียงหยุนเอ๋อเองก็สำรวจพวกเธออยู่

เพียงแค่เห็นคนไม่กี่คนแต่งตัวแต่งหน้าหรูหราสวยงาม ทั้งตัวเต็มไปด้วยกลิ่นของเศรษฐีใหม่

เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วเล็กๆ จนแทบจะมองไม่เห็น ผู้หญิงสามคนก็กลับปักเข้าไปในใจที่ดูถูกและชั่วร้าย เสแสร้งแกล้งทำเป็นตื่นตระหนกตกใจอย่างนั้น เจียงเหมิงดึงมือเจียงหยุนเอ๋อเข้าไปจับ พูดขึ้นอย่างสนิทสนม “หยุนเอ๋อ เธอกลับจากประเทศนอกมาตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมไม่บอกพวกเราสักนิด เธอคงไม่รู้ พวกเราคิดถึงและเป็นห่วงเธอมากทีเดียว”

มองเจียงเหมิงสีหน้าคุยโวโอ้อวด เจียงหยุนเอ๋อเองก็รู้ว่าที่เธอทำก็แค่แสดง แต่ก็ทำได้แค่เม้มปากยิ้มตอบกลับ “อือ…… เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ดังนั้น เลยไม่ทันได้บอกพวกเธอ”

“กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว” เมิ่งซินพูดพลางยิ้มเบาๆ แล้วก็กลอกตาไปมา “พักนี้ชีวิตเธอเป็นอย่างไรบ้าง? อยู่ต่างประเทศใช้ชีวิตคนเดียวคงจะลำบากสินะ? อ๋อ ไม่ใช่ เธอคงจะยังมีลูกอีกคนหนึ่ง แต่ว่านะ เธอเลี้ยงดูลูกเพียงคนเดียวก็คงจำลากมากกว่า ลูกของเธอคนนั้นล่ะ? ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”

“อืม เขาก็สบายดี ตอนนี้เข้าอนุบาลแล้ว” เจียงหยุนเอ๋อฝืนยิ้ม แล้วตอบกลับ

ส้งฉิงนึกได้อย่างฉับพลัน “โอ้’ ออกมาเสียงหนึ่ง แล้วพูดต่อ “ตอนแรกที่รู้ข่าวเธอท้อง พวกเราก็ตกใจเป็นอย่างมาก เดิมที่คิดว่าเธอจะไม่กลับประเทศแล้ว ไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเธอ”

แม้ว่าไม่กี่คนนี้พูดราวกับว่าเป็นห่วงเจียงหยุนเอ๋อกันทั้งหมด แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อก็เข้าใจอย่างชัดเจนตามปกติ คนพวกนี้น้ำเสียงท่าทางในการพูดเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามาดูเรื่องน่าหัวเราะเยาะของตัวเอง

เพราะเดิมกับคนพวกนี้ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอารมณ์และจิตใจของเจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ค่อยได้ขึ้นๆ ลงๆ มากนัก

ในปีนั้นเป็นเพราะเรื่องนี้ทำให้ชื่อเสียงป่นปี้ เกือบจะกลายเป็นเรื่องที่ทราบกันโดยทั่ว ตอนนี้พวกเธอไม่กี่คนนี้รื้อฟื้นเรื่องเก่าๆ ขึ้นมา ในนั้นก็แฝงไปด้วยความหมายที่ไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้เป็นธรรมดา

“ใช่แล้ว พ่อของเด็กล่ะ? หลายปีมานี้ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องมาปรากฏตัวบ้างสิ? พวกเราไม่เคยเจอมาก่อน ไม่รู้ว่าเขาปฏิบัติต่อเธอดีหรือไม่ดี?” เจียงเหมิงถามต่อ

เจียงหยุนเอ๋อแค่นหัวเราะออกมา พ่อ ใครจะไปรู้ว่าพ่อของถวนจื่อแท้จริงแล้วอยู่ที่ไหน? ฟังคำพูดของพวกเธอที่สงสัยว่าจะเจตนาร้าย เจียงหยุนเอ๋ออดไม่ได้ที่เศร้าใจมาบ้าง

นานหลายปีขนาดนี้แม้ว่าเธอจะผ่านมาได้แล้ว แต่ก็ลำบากอย่างมากเป็นธรรมดา คิดไม่ถึงเลยว่า ยังต้องมาถูกหัวเราะเยาะแบบนี้อีก

“ก็ดีอยู่” เงียบไปชั่วขณะ เจียงหยุนเอ๋อถึงค่อยตอบกลับ

ทั้งสามคนเมื่อได้ยินเธอตอบกลับแบบนี้ ท่าทางก็ดูเหมือนจะไม่เชื่ออย่างนั้น แต่ว่าก็ไม่ได้ซักไซ้ไล่เลียง เพียงแค่พูดว่า “อย่างนั้นก็ดีแล้ว”

ต่อมา ไม่กี่คนนั้นก็เริ่มพูดคุยถึงเรื่องนั้นเรื่องนี้

“เมิ่งซินล่ะ เธอเพียงจะผ่านวันเกิดไปไม่นาน สามีของเธอให้ของขวัญอะไรเหรอ?” ส้งฉิงถามขึ้น

เมิ่งซินยิ้มอย่างเขินอาย สายตาที่ไม่ชัดเจนมองไปทางเจียงหยุนเอ๋ออย่างขวางๆ “ไม่อะไร ก็แค่ให้แหวนเพชรวงหนึ่งแค่นั้น เฮ้อออ ฉันก็บอกเขาไปแล้วไม่ต้องสิ้นเปลืองเงินทอง แหวนก็ซื้อมาตั้งเยอะแยะแล้ว ทุกครั้งก็ใส่ได้เพียงวงเดียวนี่สิ”

แม้ว่าเมิ่งซินจะถอนหายใจออกมา แต่ใบหน้าเห็นได้ชัดว่าคือสีหน้าท่าทางที่ภูมิใจ

“เอ๊ย ใช่แล้ว หยุนเอ๋อ ฉันจะให้ดูรูปสามีฉัน หล่อมากเลยหล่ะ!” เจียงเหมิงก็อ้าปากพูดขึ้น ค้นหารูปจากมือถือ แล้วก็ไม่ได้สนใจปฏิกิริยาของเจียงหยุนเอ๋อ ก็แบบนั้นยื่นมือถือมาตรงหน้าเธอตรงๆ

อีกสองคนด้านข้างก็เออออห่อหมกแล้วพูดขึ้นมาว่า “萌萌 เธอชอบสามีหนุ่มน้อยคนนั้นของเธอจริงๆ สินะ แต่ว่า เขาก็ทำดีกับเธอจริงๆ เมื่อก่อนให้คฤหาสน์กับรถหรูราคาหลายร้อยล้านให้เธอสินะ? มีโชคจริงๆ”

เจียงหยุนเอ๋อฟังอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ ขี้เกียจที่จะไปดูหน้าดูปากพวกผู้หญิงขี้อวด แต่ว่าส้งฉิงกลับหันหัวกลับมาถาม “หยุนเอ๋อ เธอทำไมถึงไม่พูดอะไรแล้ว?”

เจียงหยุนเอ๋อตอบกลับอย่างเบื่อหน่าย “ก็หล่อดี มีความสุขจริงๆ สินะ”