ตอนที่ 58 เตรียมพร้อมสำหรับขั้นต่อไป

สุดยอดเซนต์ตัวปลอมแห่งยุค

คิดว่าชั้นโดนปักธงล่ะสิ?

เหอะ! ไม่มีทางหรอกเว้ย!

และนี่ก็คือเอลริสเองจ้า เพิ่งกลับจากงานเทศกาลมาอยู่ที่โรงเรียนเนี่ย

นอกจากของขวัญวันเกิดที่ได้มาจากเวอร์เนลแล้ว ชั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเดินดูไปรอบๆ

ก็แค่คุยกันว่าเมืองเปลี่ยนไปแค่ไหน ก่อนหน้านี้เป็นยังไง อะไรแบบนั้น

ประเทศนี้ไม่มีของอย่างร้านอาหารหรอกนะ เลยไม่มีที่ให้นักพักกินข้าวหรอก อย่างมากก็นั่งข้างถนนดูเด็กๆเล่นปาหิมะกัน

ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่มีร้านอาหาร… ถึงสภาพตอนนี้จะดีขึ้นมาแล้ว แต่มนุษยชาติต้องประสบกับปัญหาความขาดแคลนอาหารมาจนถึงเมื่อไม่นานมานี้เอง ถ้าเอาศพคนที่อดอยากตายมากองกันนี่คงได้เป็นภูเขาศพสูงเสียดฟ้า

ยิ่งหน้าหนาวนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ถ้าชาวบ้านธรรมดามีลูกสักห้าคน ก็จะเสียไปสักสองคนในช่วงฤดูหนาวนี่แหละ

การที่พ่อแม่จะทอดทิ้งหรือขายลูกตัวเองนี่ไม่ถือเป็นเรื่องแปลกเลยในโลกนี้

ในสถานการณ์ที่อาหารแต่ละอย่างราคาสูงเท่าทองนี่ ไม่มีใครบ้าพอจะเปิดร้านอาหารหรอกนะ

ถ้ามีอาหารพอจะเปิดเป็นร้านได้นี่ สู้เก็บอาหารพวกนั้นไว้เลี้ยงครอบครัวตัวเองดีกว่า

ถึงตอนนี้จะมีมันฝรั่งแล้วก็เถอะ อาหารก็ยังไม่ได้มีอยู่เหลือเฟือขนาดเปิดเป็นร้านได้อยู่ดี

ทุกๆคนต้องพยายามเก็บสะสมไว้ให้รอดพ้นหน้าหนาวไปให้ได้

และแล้ววันหยุดฤดูหนาวก็จบลง และเทอมที่สามก็เริ่มขึ้น ไอ้แว่นโรคจิตที่น่าจะโดนกองอัศวินซิ่วไปแล้วก็กลับมาได้ยังไงก็ไม่รู้

ในเกมนี้ เทอมที่สามคือช่วงไคลแมกซ์ของเนื้อเรื่อง

อีเวนท์แรกเลยก็คือทัวร์นาเมนต์แบบพบกันทุกชั้นปีที่ชั้นเคยบอกไปแล้ว

อีเวนท์นี้จะถือว่าค่อนข้างสำคัญมากในเกม

ในช่วงนี้ของเนื้อเรื่อง เอลริสจะถูกเปิดโปงและหายไปจากเรื่องแล้ว ในขณะที่เอเทอร์น่าถูกแต่งตั้งให้เป็นเซนต์แทน

ยิ่งกว่านั้น จำนวณองครักษ์ที่หลงเหลืออยู่นั้นมีอยู่ไม่มาก

ในยุคของเอลริส องครักษ์ส่วนมากที่ถูกเลือกมาจะเป็นพวก”เยสแมน” ส่วนพวกองครักษ์ที่มีความรับผิดชอบจริงๆอย่างลุงฟ็อกซ์ก็จะถูกปลดจากตำแหน่ง เลยเหลือไว้แต่พวกที่มาจากตระกูลชั้นสูงหรือพวกที่หน้าตาดี แต่ความสามารถในการต่อสู้นั้นไม่ได้เรื่อง

ตัวชั้นนี่เลือกแต่พวกที่เก่งๆมาน่ะนะ เพราะต้องส่งต่อให้เอเทอร์น่าด้วยนี่นา

เอเทอร์น่าในเกมไม่ไว้ใจองครักษ์พวกนั้น คนอื่นๆนอกจากเลย์ล่าเลยโดนลดยศมาเป็นอัศวินธรรมดา องครักษ์ที่เหลืออยู่เลยมีแค่เลย์ล่าเท่านั้น

เพราะแบบนั้น เวอร์เนลจำเป็นต้องได้อย่างน้อยตำแหน่งท็อป 4 ไม่อย่างนั้นก็จะเจอกับเกมโอเวอร์ ถ้ามีค่าความชอบสูงพอและชนะเลิศงานประลองนี้ ก็จะสามารถเข้ารับตำแหน่งองครักษ์ส่วนตัวแทนที่เลย์ล่าได้ด้วย ฉะนั้นถ้าเล่นรูทเอเทอร์น่าก็ควรจะเล็งตำแหน่งชนะเลิศเอาไว้

แต่นั่นก็เป็นตอนสมัยที่ยังเป็นเกมน่ะนะ ความเป็นจริงนั้นต่างออกไป

กององครักษ์ยังมีคนอยู่เต็ม เลยไม่จำเป็นต้องเฟ้นหาคนมาเพิ่มในตอนนี้

แปลว่าถึงชนะไปก็ไม่ได้รับตำแหน่งองครักษ์หรอกนะเออ

แต่ก็ยังเป็นอีเวนต์ที่ปล่อยไปเฉยๆไม่ได้ มันเกี่ยวข้องกับเรื่องในอนาคตข้างหน้า

ยังไงนักเรียนที่แข็งแกร่งพอสมควรก็ยังจำเป็นสำหรับปฏิบัติการณ์ผนึกเทเลพอร์ตนี่นา

ไม่สิ พอมาคิดดูแล้ว ปฏิบัติการณ์ผนึกเทเลพอร์ตนี่ยังจำเป็นอยู่เหรอ?

ที่ตอนแรกเราต้องใช้ปฏิบัติการณ์นี้ก็เพราะว่าไม่มีใครรู้ว่าแม่มดจะเทเลพอร์ตไปที่ไหนนี่นา

แต่ตอนนี้เรามีเจ้าเต่าสุดโกงที่รู้ทุกเรื่องอยู่ทางฝั่งนี้แล้ว

ถ้างั้นชั้นก็แค่ปกป้องหมู่บ้านของเอเทอร์น่าเพื่อกันแบดเอนดิ้ง ปล่อยให้แม่มดเทเลพอร์ตหนีไปเพื่อให้เธออ่อนแอลง จากนั้นก็ให้เจ้าเต่าหาตำแหน่งของเธอ แล้วค่อยตามไปเก็บเธอซะ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วป่ะ อันนี้ค่อนข้างมั่นใจเลย

พอคิดได้อย่างนั้นชั้นเลยตรงไปที่บ่อเต่าเพื่อเช็กว่าแผนนี้ใช้ได้รึเปล่า

“ฟุมุ ข้าสามารถหาที่อยู่ของแม่มดได้ก็จริงอยู่”

ชั้นนี่ชูหมัดในใจเลย

เท่านี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดก็ถูฏคลี่คลายแล้ว

ถ้ารู้อยู่แล้วว่าแม่มดจะเทเลพอร์ตไปอยู่ที่ไหนล่ะก็ ชั้นไม่ต้องมานั่งดูดพลังเวทย์ด้วยซ้ำ

พวกเวอร์เนลก็ไม่ต้องมาเสี่ยงอันตราย ชั้นสามารถจัดการเรื่องนี้คนเดียวได้เลย

แค่รู้ว่าเธอหนีไปที่ไหน ก็เป็นชัยชนะของชั้นแล้ว

ไม่เร็วเท่าเทเลพอร์ตก็จริง แต่ชั้นก็ยังบินตามไปได้

ต่อให้หนีไปอีกฟากนึงของโลกก็ไม่พ้นตูหรอก

ยิ่งแม่มดที่เสียหลังไปจากการเทเลพอร์ตนี่ไม่ใช่คู่มือของชั้นเลยสักนิด

แต่เจ้าเต่าดันมาพูดดับฝันซะนี่

“เจ้าต้องรู้นะว่ามีอยู่สิ่งหนึ่งที่ข้าไม่อาจมองทะลุผ่านได้ นั่นก็คือ”บาเรีย”ของเจ้านั่นล่ะเอลริส ตอนที่เจ้ากางบาเรียก่อนที่จะนอน…ทำให้ข้าไม่สามารถมองเห็นได้ว่าข้างในนั้นเป็นอย่างไรบ้าง”

ข้อยกเว้นที่เจ้าเต่าไม่สามารถมองเห็นได้สินะ…ก็ว่าอยู่แล้วว่าน่าจะเป็นแบบนั้น

ถ้าเห็นว่าข้างในนั้นชั้นทำอะไรบ้างนี่มันคงไม่ปฏิบัติกับชั้นแบบนี้หรอก

ถือว่าเป็นข่าวดี เท่ากับว่าชั้นยังรักษาความเป็นส่วนตัวไว้ได้

แต่ดูเหมือนเลย์ล่าจะไม่ได้ดีใจไปกับชั้นด้วยแฮะ ทำหน้าซะบึ้งเชียวเพราะอะไรไม่รู้

“ท่านโหรคะ…นั่นหมายความว่าท่านเคยคิดที่จะถ้ำมองท่านเอลริสหรือคะ….ใช่หรือไม่คะ? เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อให้เป็นท่านโหร…”

“ดะ-เดี๋ยว ใจเย็นก่อน! ข้าเป็นเต่านะ แถมเป้นตัวเมียด้วย! ข้าไม่คิดเสน่หาอะไรกับมนุษย์เพศหญิงหรอกนะ!? นี่เอลริส! หยุดเธอที!”

เจ้าเต่ารีบแก้ต่างทันที

ลุกลี้ลุกลนขนาดนี้ทั้งที่เห็นอนาคตได้…นี่แสดงว่าเลย์ล่าคิดจะกระทืบเจ้าเต่าจริงๆใช่มั้ยเนี่ย

สต๊อกโกะเอ๊ะ ใจเย็น รังแกเจ้าเต่ามากไปเดี๋ยวมันไม่ให้ความร่วมมือด้วยนี่ยุ่งเลยนะ หยุดก่อนดีกว่านะเออ

ชั้นหยุดเธอไว้ได้ทันในตอนที่เงื้อหมัดขึ้นมา เธอจึงยอมสงบลงแต่โดยดี

ว่าแต่ว่า…นี่แกเป็นเต่าตัวเมียเหรอเนี่ย? นึกว่าเป็นตัวผู้มาตลอดซะอีก

“ฟู่ว แม่หนูนี่ใจร้อยจริงๆเลย แต่กลับมาเข้าเรื่องกันก่อน ก็อย่างที่บอกว่าข้ายังมีสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นได้อยู่ เท่ากับว่ามีความเป็นไปได้ที่แม่มดจะใช้บาเรียที่คล้ายๆกันเพื่อหลบซ่อนตัวได้ ถ้าปล่อยให้เธอหนีไปได้นี่ ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะสามารถหาตัวเธอเจอได้…เพราะอย่างนั้นจึงไม่แนะนำวิธีนี้ ถ้าแม่มดหนีไปได้ล่ะก็ เธอจะยิ่งซ่อนตัวหนักกว่าเดิมเพื่อหลบสายตาเจ้า ทำให้ยิ่งหาตัวเธอได้ยากขึ้นไปอีก”

“คาดการณ์จุดที่เธอจะเทเลพอร์ตหนีไปไม่ได้หรือคะ?”

“ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้หรอก แต่ความเป็นไปได้น่ะมันเยอะเกินไปทำให้ความแม่นยำลดลง ไม่คุ้มค่ากับการพนันด้วย อย่างมากก็ควรถือเป็นแค่แผนสำรองเท่านั้น”

ชิ นึกว่าได้แผนดีๆแล้วซะอีก แต่ดูท่าจะไม่ได้แฮะ

เวรเอ๊ย…นี่ชักจะโมโหกับความขี้ขลาดของอเล็กเซียแล้วนะเนี่ย

ไม่นึกเลยว่าบอสที่หนีทันทีที่เจอหน้าจะจัดการยากแบบนี้…

เป็นบอสทั้งที ไปนั่งเต๊ะท่าอยู่บนบัลลังค์ให้สมกับเป็นบอสหน่อยไม่ได้เหรอ

บอสแบบนี้ไม่มีใครชอบหรอกนะอเล็กเซียเอ๊ย

“แสดงว่ายังต้องใช้แผนเดิมสินะคะ…”

“ใช่แล้ว อย่างไรซะเราก็รู็ตำแหน่งปัจจุบันของเธอแล้ว จัดการเรื่องให้จบภายในสถาบันนี้เลยจะเป็นการดีที่สุด ไม่ควรปล่อยให้เธอเทเลพอร์ตหนีไปได้เลยตั้งแต่แรก อย่างมากก็ใช้ข้าเป็นแผนสำรองไว้ถ้าเธอหนีไปได้ก็พอแล้ว”

สุดท้ายแผนก็ไม่ได้เปลี่ยนไป

ก็ว่าเรื่องมันคงไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก แต่น่ารำคาญจริงแฮะ

ชั้นทำได้ตั้งหลายอย่างแท้ๆ แต่ก็ยังต้องปล่อยให้พวกเวอร์เนลรับหน้าที่สำคัญเอาไว้

อย่างน้อยที่สุดก็ต้องช่วยเตรียมอุปกรณ์สวมใส่ของเจ้าพวกนั้นให้พร้อมไว้ล่ะนะ

.

งานประลองจบลงตามที่คาด กลุ่มของพวกเวอร์เนลครองอันดับสูงๆกันหมด

ที่หนึ่งคือเวอร์เนล ที่สองไอน่า ที่สามแมรี่ และที่สี่เป็นเอเทอร์น่า

ตัวแระกอบเอและฟิโอร่าเองก็ติดอันดับ 8 คนสุดท้ายด้วย

ลำดับต่างออกไปจากก่อนหน้านี้นิดหน่อย แต่มันอยู่ที่ดวงจับสลาก

ตัวประกอบเอต้องเจอกับแมรี่ในรอบแปดคน ในขณะที่แมรี่เจอกับเวอร์เนลในรอบรองชนะเลิศ เป็นผลให้เธอไปไม่ถึงรอบสุดท้าย

ความสามารถทางด้านเวทมนตร์ของเอเทอร์น่าเองก็ดีขึ้นมาก ทำให้เธอมาจนถึงรอบรองชนะเลิศได้ ถึงสุดท้ายจะยังแพ้ให้กับไอน่าก็เถอะ

อาจจะพูดคร่าวๆไปหน่อย แต่ชั้นก็ไม่มีอะไรมากมายจะบรรยายอ่ะนะ

เอาเป็นว่าพวกเวอร์เนลเก่งขึ้นเลยได้อันดับสูงๆกัน ยิปปี้ แค่นั้นแหละ

หลังจากทัวร์นาเมนต์จบลงแล้ว ชั้นก็เรียกทุกคนที่เข้าถึงรอบแปดคนสุดท้ายมาที่ชั้นห้าของอาคาร

ตั้งแต่ตอนนี้ไป จะต้องเริ่มฝึกแปดคนนี้ให้พร้อมสำหรับการรับมมือแม่มดเพื่อถ่วงเวลาล่อให้เธอใช้พลังเวทย์จนหมด

ถ้าทำได้ก็อยากให้มีคนมากกว่านี้นะ…แต่เจ้าเต่าบอกว่าแปดนี่คือมากสุดเท่าที่จะตบตาแม่มดได้แล้ว

ถ้ามีมากกว่านี้ แม่มดจะเกิดสงสัยว่าพวกนี้ไม่ใช่แค่ “นักเรียนที่หลงมาเจอโดยบังเอิญ” และมีโอกาสหนีไปได้ หยุดขี้ขลาดดิ๊อเล็กเซีย

มีสองคนนอกจากพวกเวอร์เนลรวมอยู่ด้วยที่ติดอันดับแปดคนสุดท้าย คนนึงเป็นหนุ่มกล้ามจากปี3ชื่อว่าครั๊นช์ไบท์ ด็อกแมน

ชื่อตัวประกอบซะไม่มีเลย ดูทรงแล้วจะกลายมาเป็นกระสอบทรายให้แม่มดอัดเล่นเอานะเนี่ย

อีกคนก็มาจากปี3เช่นกัน เป็นคนน่าสงสัยสวมเสื้อฮู้ด ไม่สิ ถ้าดูดีๆแล้วนี่มัน…

“…ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กัน ผู้ฝึกสอนซัปเปิ้ล เมนต์?”

“หืม? พูดถึงใครอยู่หรือครับ? กระผมเป็นนักเรียนที่ติดอันดับแปดคนสุดท้าย ชื่อว่าทอม ทอยจากปีสามต่างหาก”

ดูยังไงก็เป็นไอ้แว่นโรคจิตสวมเสื้อฮู้ดนี่หว่า

มันตอบเลย์ล่าพร้อมดัดเสียงให้ฟังดูเด็กลง ซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรเลย ใช้นิ้วโป้งเท้ามองยังรู้เลยว่าเป็นไอ้แว่นโรคจิต

ลอบปะปนมากันพวกนักเรียนได้นะแก

เฮ้ย กรมมการตาบอดรึไงกัน? ปล่อยไอ้นี่รอดมาได้ไงเนี่ย?

พอมาคิดดูดีๆแล้ว กรรมการมันก็ไอ้หมอนี่นี่หว่า…

“โอว เซนต์ของกระผม! ได้โปรดประทานอาวุธอันเป็นของรางวัลสำหรับนักเรียนที่ติดแปดอันดับมาสู่กระผมทีเถิด!”

ดูเหมือนว่าการเตรียมของรางวัลไว้ให้จะมีผลตรงข้ามกับที่หวังแฮะ…

ก่อนหน้านี้ชั้นประกาศก่อนเริ่มแข่งไปว่าจะมีรางวัลเป็นอาวุธให้กับพวกนักเรียนที่ติดรอบแปดคนสุดท้าย

คนจะได้พยายามกันมากขึ้น แล้วก็เป็นการขอโทษสำหรับพวกที่ต้องโดนลากมาเกี่ยวข้องด้วย

ถึงชั้นจะเปิดไว้ว่าสามารถปฏิเสธได้ตามความสมัครใจ…แต่ในความจริงแล้ว คำขอของ”เซนต์”ในเรื่องเกี่ยวกับการ”ปราบแม่มด”นี่ สำหรับโลกนี้แล้วก็ไม่ต่างอะไรจากประกาศิต…

ในเกมนี่เอลริสเองก็ชอบมี”คำขอ”ที่ไร้สาระมาให้เห็นเรื่อยๆเหมือนกัน

ยังไงสถาบันนี้ก็มีไว้เพื่อชุบเลี้ยงอัศวินมารับใช้เซนต์นี่นา

ถ้าปฏิเสธคำขอของเซนต์นี่ก็จะโดนถามว่า”แล้วจะมาเข้าสถาบันอัศวินตั้งแต่แรกทำไมถ้าไม่คิดจะรับใช้เซนต์” ยิ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับแม่มดด้วยยิ่งแล้วใหญ่

ให้ของตอบแทนแค่นี้ไม่ได้ช่วยชดใช้อะไรมากเลย อย่างมากก็แค่ทำให้ชั้นรู้สึกผิดน้อยลง

แต่ถ้ามาคิดดูดีๆแล้ว…

…แบบนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรนะ

เท่ากับว่าจะมีนักเรียนที่โชคร้ายต้องมาพัวพันกับเรื่องนี้ด้วยลดลงไปหนึ่งคน

ก็ขอบอกเลยว่าการส่งไอ้แว่นโรคจิตนี่ไปเสี่ยงอันตรายไม่ได้ทำให้ชั้นรู้สึกผิดเลยซักนิด

“บ้ารึยังไงเจ้าน่ะ? ไม่มีทางที่เราจะให้รางวัลกับคนที่ใช้วิธีสกปรกเช่นเจ้าหรอกนะ!”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะเลย์ล่า”

ชั้นเลยยอมให้ไอ้แว่นโรคจิตมาร่วมด้วย โดยไม่สนคำคัดค้านจากเลย์ล่า

ยังไงซะก็เป็นความจริงที่เจ้านี่ชนะนักเรียนคนอื่นๆมาได้ ความแข็งแกร่งนั้นจัดได้ว่าผ่านเกณฑ์ และมีโอกาสที่จะรอดจากการต่อสู้อยู่สูง

ยิ่งกว่านั้น การปฏิเสธสมาชิกก็มีแต่จะทำให้กำลังของฝั่งเราลดลง

ไหนๆก็ถึงขนาดนี้แล้ว ให้เจ้านี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนด้วยก็ไม่เสียหายอะไร

แถมเจ้านี่ยังถือเป็นระดับมินิบอสสมัยที่ยังเป็นเกมอยู่ด้วย ความสามารถนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย

ในเกมเจ้านี่จะมีสองร่าง ร่างแรกก็เหมือนตัวกีกี้ทั่วไป ส่วนร่างสองจะเป็นการรวมร่างตัวเองเข้ากับโกเลม ฟังดูบ้าแต่คนทั่วไปไม่มีความสามารถทำขนาดนี้ได้หรอกนะ

เป็นตัวที่ไม่น่าเก่งขนาดนี้แท้ๆ แต่โดนอธิบายว่าเป็นเพราะ”ความรักที่มีต่อเซนต์” น่าขยะแขยงว่ะ

ก็งั้นแหละ เจ้านี่น่ะเก่งพอจะต่อกรกับพวกเวอร์เนลทั้งปาร์ตี้ด้วยตัวคนเดียวเลยไงล่ะ

“เลย์ล่าจ๊ะ นำของรางวัลมาให้ทีสิ”

“ค่ะ”

พอชั้นส่งสัญญาณให้ เลย์ล่าก็เปิดกล่องที่อยู่ข้างๆ

ด้านในเป็นแร่หลากหลายประเภทที่ชั้นขอให้ลุงไอส์เตรียมไว้ให้

ดาบที่ชั้นเคยให้เวอร์เนลน่ะสร้างจากดินโง่ๆ แต่รอบนี้ชั้นจะทำแบบตั้งใจแล้ว

ชั้นยื่อมือออกมา และใช้เวทย์ดินเพื่อแยกส่วนแร่ธาตุ ก่อนจะควบแน่นเป็นเหล็กแข็ง

จากนั้นก็ผ่านขั้นตอนหลายอย่าง ทำให้มันแข็งที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเปลี่ยนมันเป็นรูปร่างของอาวุธ

ไม่รู้จะเรียกว่ายังไงดี เป็นโลหะแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนในโลกมาก่อน

ตั้งชื่อแบบเบียวๆหน่อยดีกว่า

ขอตั้งชื่อว่า โอริฮารูกอน ตามนั้นแหละ

และพวกนี้ก็จะเป็นอาวุธโอริฮารูกอนชิ้นแรกๆในโลก

ชั้นสร้างเป็นอาวุธที่เข้ากับแต่ละคน แล้วก็มอบมันให้กับพวกเขา

ตบท้ายด้วยสร้างอีกอันให้กับเลย์ล่าเป็นของขวัญ

เลย์ล่ามีดาบประจำตำแหน่งองครักษ์ส่วนตัวอยู่แล้วแท้ๆ…แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นเธอใช้มันเลยนิ