บทที่35ยืดเวลา

ซู่จี้งยี้รับเดินไปทางคนพวกนั้น พูดตามคำของลี่จุนถิงพูดกับพวกเขาว่า “คุณชายลี่พูดแล้ว ว่าครั้งนี้จะปล่อยพวกคุณไป”

สีหน้าของคนไม่กี่คนนั้นแวบเดียวก็มีความดีใจเกิดขึ้น แทบจะเข้าไปกอดขาของซู่จี้งยี้ “ขอบคุณมาก ขอบคุณผู้ช่วยซู่ขอบคุณคุณชายลี่”

“แต่ว่า…..” ซู่จี้งยี้เปลี่ยนเรื่องไปแบบนี้ ไม่กี่คนนั้นกลั้นหายใจ ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ซู่จี้งยี้จะพูดอะไรออกมา

และคำพูดของซู่จี้งยี้ทันใดนั้นสีหน้าท่าทางก็หยุดนิ่ง “แต่ว่าคุณชายลี่พูดว่า ยังต้องการให้พวกคุณชดใช้สี่ร้อยแปดสิบล้านนั้น เหล้าขวดนั้นเป็นเหล้าที่เขาประมูลซื้อมาจากยุโรปกลับมา ราคานี้จริงๆ ผมเชื่อว่าพวกคุณจะไม่ให้ความร่วมมือแน่นอน ใช่ไหม?”

ทันใดนั้นหน้าผากของผู้ชายทั้งสามคนก็มีเหงื่อไหลออกมา พูดขึ้นอย่างติดๆ ขัดๆ “นี่……. ไม่รู้ว่าคุณชายลี่จะยืดเวลาให้กับพวกเราสักนิดได้หรือไม่?”

“ยืดเวลา?” ซู่จี้งยี้ขมวดคิ้วไปมา ท่าทางก็เห็นได้อย่างชัดเจน “แค่ให้พวกคุณชดใช้ตามราคา ก็เป็นการยืดหยุ่นให้พวกคุณมากที่สุดแล้ว หากไม่อย่างนั้นจะต้องพูดจริงๆ แต่ทว่าจะไม่ให้พวกคุณชดใช้ตามราคาเดิมแน่ๆ ที่จริงแล้วของแบบนี้พบเจอได้ตามโชคชะตาแต่เอื้อมไม่ถึง ยังไงซะวันนี้ก็สะดวก ไม่เท่าจ่ายมันตอนนี้ไปเลย”

ผู้ชายไม่กี่คนนั้นไม่พูดอยู่นาน เห็นดังนั้น ซู่จี้งยี้ก็ไม่อยากเสแสร้งเป็นคนนิสัยดีอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนพวกนี้แล้ว พูดเร่งอย่างน่ารำคาญ “ทำไมไม่พูดแล้วล่ะ?”

ผ่านไปไม่นาน ผู้ชายไม่กี่คนนั้นกระซิบเสียงเล็กๆ ขึ้นมา พูดกับภรรยาของตัวเอง “เธอไม่ใช่เป็นเพื่อนกับผู้หญิงคนเมื่อกี้เหรอ? คุณชายลี่เป็นสามีของเธอ พวกเธอรีบไปขอร้องสิ”

เมื่อผู้หญิงทั้งสามคนได้ยิน ก็รีบวิ่งไปทางเจียงหยุนเอ๋อ “โครม” เสียงเบียดเสียดตรงพื้นที่เข้ามาคุกเข่าอยู่ด้านหน้าของเจียงหยุนเอ๋อ

แม้ว่าเดิมทีแล้วเจียงหยุนเอ๋อจะเกลียดพวกเธอ แต่ว่าเมื่อเห็นท่าทางของพวกเธอก็ตกตะลึงแล้ว

เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็ได้ยินเสียงส้งฉิงพูดว่า “หยุนเอ๋อ เมื่อกี้เป็นพวกเราที่ไม่ถูก ขอร้องเธอล่ะนะ ปล่อยพวกเราไปเถอะ”

“นั่นสิ หยุนเอ๋อ พวกเราเองก็ไม่รู้ว่าเหล้าขวดนั้นจะแพงขนาดนี้ จะให้พูดอีก พวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจ เธอก็ใจดีหน่อยเถอะ ให้คุณชายลี่ปล่อยไปเถอะ” เมิ่งซินก็พูดตาม น้ำตาก็จะไหลออกมา

เดิมทีเจียงหยุนเอ๋อก็ยังใจอ่อนอยู่บ้าง แต่ว่าเมื่อได้ฟังคนพวกนี้ถลึงตาพูดมั่วซั่วออกมา ในใจก็ค่อยๆ กลับเย็นชาลงมา

ดูแล้ว พวกเธอไม่ใช่ยอมรับผิดอย่างใจจริง เพียงแค่อยากจะหลบหนีเดิมทีพวกเขาก็ต้องรับผิดชอบทั้งหมดก็เท่านั้น ตอนนี้ลี่จุนถิงยืนอยู่ตรงนี้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่ได้มีฐานะแบบนี้ยืนอยู่ตรงนี้ เช่นตัวเอง ในสายตาของพวกเขาก็ควรจะถูกพวกเขาแกล้งอย่างตามใจ

เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้พูดออกมาทันที ลี่จุนถิงก็ขมวดหัวคิ้วแน่น

เมื่อเห็นดังนั้น ซู่จี้งยี้ก็รีบพูดกับผู้หญิงไม่กี่คนนี้อย่างเย็นชา “พูดจาไร้สาระเยอะแยะแบบนี้ทำไม? จะพูดเยอะแยะอีก สิ่งที่รอพวกคุณอยู่ก็ไม่มีแค่นี้แน่ๆ”

ไม่กี่คนนั้นคุกเข่าบนพื้นก็ตัวขดกันทั้งหมด ผู้หญิงทั้งสามคนยังอยากจะดึงมือของเจียงหยุนเอ๋ออย่างไม่ยอมแพ้ กลับถูกเจียงหยุนเอ๋อหลบด้วยความเร็ว

“หยุนเอ๋อ ตอนนั้นเราก็เป็นเพื่อนสาวที่ดีต่อกันอยู่หอเดียวกัน ความรู้สึกดีขนาดนี้ เธอลืมไปหมดแล้วเหรอ?”

สีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อเย็นชาเล็กน้อย เพื่อนสาวที่ดี? เพื่อนสาวที่ดีคือแบบที่ดูถูกตัวเธออย่างนั้นเหรอ? อีกทั้งตอนที่เป็นเพื่อนร่วมห้องนั้น ไม่ใช่เพราะว่าตัวเองเป็นคุณหนูตระกูลเจียง ดังนั้นพวกเธอถึงประจบสอพลอตัวเองเหรอ?

พูดให้ร้ายเธออย่างลับๆ มาเยอะแค่ไหนแล้ว ที่จริงแล้วภายในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็เข้าใจอย่างชัดเจน ดังนั้นก็รักษาระยะที่ไม่ใกล้และไม่ไกลกับพวกเธอมาโดยตลอด

ในตอนนั้นที่ได้ยินเรื่องเก่าๆ รื้อฟื้นขึ้นมา วางแผนจะใช้พวกนี้เอาชนะใจเธอ เจียงหยุนเอ๋ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกขำ เพื่อนสาวที่ “ดี? ฉันกลับไม่รู้สึกว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะสนิทขนาดนี้”

ผู้หญิงสามคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างน่าสมเพชทันที คำเดียวก็พูดไม่ออก

ลี่จุนถิงฟังพวกเธอพูดอะไรไร้สาระมาเยอะแยะ อารมณ์เสียเป็นอย่างมาก พูดขึ้นอย่างไม่มีความอดทน “ไม่ชดใช้ล่ะก็ ไปสถานีตำรวจเถอะ”

ผู้ชายทั้งสามคนได้ยินดังนั้น จะไปสถานีตำรวจกับลี่จุนถิงได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเงินจะสำคัญ แต่หากชื่อเสียงต้องมาดับแบบนี้ ภายภาคหน้าจะธุรกิจได้อย่างไร?

เพราะฉะนั้น เจอกับทางเลือกแบบนี้ พวกเขาก็ทำได้เพียงทนตอบกลับไป “ได้ได้ได้ พวกเราชดใช้ตอนนี้”

จากนั้น เจียงหยุนเอ๋อและลี่จุนถิงก็ได้ยินพวกเขาเริ่มโทรศัพท์แล้ว

“ฮัลโหล จัดการหน่อย เอาห้องชุดนั้นขายไป ใช่ ตอนนี้ ฉันรีบใช้เงิน”

รายละเอียดเนื้อหาที่ไม่กี่คนนั้นพูดต่างกันไม่มาก เจียงหยุนเอ๋อก็กลับตะลึงงันจ้องมองตาเขม็ง

ก่อนหน้านี้ไม่ใช้พูดเหรอว่าพวกเขาให้แหวนเพชรให้คฤหาสน์ไหนจะรถหรูอีก มีบริษัทท่ำรายได้กี่พันล้าน ทำไม ตอนนี้รวมเงินแค่ไม่กี่ร้อยล้านยังต้องขายห้องเลยเหรอ?

เจียงหยุนเอ๋อราวกับว่ามองไปทางผู้หญิงสามคนนั้นอย่างตกใจ รู้สึกว่าสายตาของเจียงหยุนเอ๋อ สีหน้าของพวกเธอก็แดงก่ำ ก้มหัวหลบสายตาของเจียงหยุนเอ๋อ ไม่กล้ามองตาของเธอชัดๆ

ไม่กี่คนนั้นรออยู่ในร้านอาหารชั่วขณะ ก็มีคนเอาเงินมาส่ง ลี่จุนถิงเองก็ดูไม่ชัดเจนเลยสักนิด ยังเรียกคนมาทำความสะอาดโดยเฉพาะ ยืนยันแน่ชัดว่าสี่ร้อยแปดสิบล้านถึงจะปล่อยพวกเขา

“พอเถอะ ในเมื่อชดใช้แล้ว ก็รีบกลิ้งไสหัวออกไปเถอะ” ลี่จุนถิงพูดขึ้นอย่างเห็นใจ

พูดชายทั้งสามคนได้ยินเขาพูดแบบนี้ ก็อยากรีบจะออกไป แต่สุดท้ายกลับถูกซู่จี้งยี้ดึงให้อยู่

“ผู้ช่วยซู่คุณจะทำอะไร คุณชายลี่ก็ปล่อยพวกเราไปแล้วนะ” ผู้ชายคนหนึ่งพูดอย่างติดๆ ขัดๆ

ซู่จี้งยี้พูดอธิบายอย่างไม่รีบ “คุณชายลี่พูดว่า ให้พวกคุณกลิ้งไสหัวออกไป”

ไม่กี่คนนั้นได้ฟังนั้น ทันใดนั้นก็เข้าใจในทันที กัดฟันไปมา ก็นับว่าภายในใจไม่ยินยอมมากๆ เพียงแค่นอนไปบนพื้นอย่างถูกเหยียดหยาม จากนั้นก็ต้องถูกกลิ้งออกไปจากร้านอาหาร

เมื่อเห็นว่าภาพตลกขบขันนี้ เจียงหยุนเอ๋อยังรู้สึกว่าน่าขำ เธอมองไปยังลี่จุนถิงชั่วหนึ่ง ก้มหัวลงไม่ได้พูดอะไร

ผู้หญิงทั้งสามคนมองเห็นสามีของตัวเองถูกเหยียดหยาม ก็ยิ่งเกลียดแค้นเจียงหยุนเอ๋อมากกว่าเดิม พวกเธอจ้องมองเจียงหยุนเอ๋อเต็มไปด้วยสายตาที่โกรธแค้น

เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้ทั้งหมด พวกเขาถึงเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้!

มองเห็นสีหน้าของพวกเธอ ซู่จี้งยี้ก็เดินเข้ามาพูดกับพวกเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ยังมึนอยู่ทำอะไร ไม่รู้ว่าต้องขอโทษคุณเจียงเหรอ?”

ไม่กี่คนนั้นในใจก็นับว่าไม่ยินยอม แต่ว่าอยู่ต่อหน้าลี่จุนถิงก็ไม่กล้าบุ่มบามอย่างแน่นอน เพียงแค่พูดกับเจียงหยุนเอ๋อว่า “หยุนเอ๋อ ขอโทษนะ”

หลังจากเจียงหยุนเอ๋อมองเห็นพวกเขาเป็นแบบเมื่อกี้นี้ ก็รู้คลายโมโหได้ไม่น้อย แต่ว่าท่าทางของผู้หญิงพวกนี้ทำให้เธอรู้สึกน่ารำคาญเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นทำได้แค่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “พวกเธอไปเถอะ ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกเธออีกแล้ว”