ตอนที่37ชุดนักรบ

เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งเปิดประตูบ้าน อยู่ๆ ก็คิดขึ้นมาได้วันนี้ถูกทำให้รู้สึกแย่แบบนี้ ก็ลืมไปรับถวนจื่อที่โรงเรียนอนุบาลสนิท

เธอตบหัวตัวเอง โมโหตัวเองที่ขี้หลงขี้ลืม กลับได้ยินเสียงที่ดูอ่อนแอของถวนจื่อออกมาจากด้านในห้อง “หม่ามี้ กลับมาแล้ว”

เจียงหยุนเอ๋อตะลึงไปชั่วขณะ เดินไปด้านข้างของถวนจื่อ ย่อตัวลงนั่งแล้วถามว่า “ถวนจื่อ กลับมาได้อย่างไร?”

ถวนจื่อจ้องตาเขม็ง พูดว่า “ก็ลุงบอดี้การ์ดมาส่งกลับ พวกเขาบอกว่าแม่กับแด๊ดดี้ คุณอาลี่ ไปกินข้าวกัน”

ได้ยินดังนั้น เจียงหยุนเอ๋อก็ฟุ้งซ่าน แวบเดียวอารมณ์ความรู้สึกก็ซับซ้อนเป็นอย่างมาก ลี่จุนถิงคนนี้ คิดรอบคอบมากกว่าตัวเธอหลายสิ่งหลายอย่างมาก

เจียงหยุนเอ๋อก้มหัวลงต่ำนิดๆ ลูบหัวของถวนจื่อไปมา พูดต่อ “ถวนจื่อ นี่ก็ดึกแล้ว รับไปพักผ่อนเถอะ”

“อิอ” ถวนจื่อพยักหัวไปมาก่อน จากนั้นก็ทำปากจู๋ “หยุนเอ๋อ วันนี้ไปกินข้าวกับคุณอาลี่ ทำไมถึงไม่เรียกหนูด้วย?”

คุณอาลี่แวบเดียวพูดไม่ออก ในใจก็เริ่มรู้สึกน้อยใจแทนตัวเองขึ้นมา ในตอนแรกเขาก็พูดแบบนี้กับลี่จุนถิงแล้วน่ะ แต่ว่าลี่จุนถิงก็ไม่ได้ตอบรับ เธอเองก็ไม่มีวิธีอื่น

“อืม เพราะว่าพวกเรามีเรื่องสำคัญ ครั้งต่อไปจะพาหนูไปด้วยดีหรือเปล่า?” เจียงหยุนเอ๋อพูดเบาๆ

ถวนจื่อตอบรับอย่างฝืนๆ “แบบนั้นก็ได้”

ตัวต่อมาเป็นวันหยุด โดยปกติแล้ว ถวนจื่อมักจะนอนตื่นสาย แต่ว่าวันนี้ไม่ต้องรอให้เจียงหยุนเอ๋อเข้ามาปลุกก็ตื่นขึ้นมาด้วยตัวเอง

ภายในห้องรับแขกเจียงหยุนเอ๋อมองเห็นถวนจื่อเดินออกมา ก็ถามด้วยความสงสัย “ถวนจื่อวันนี้ทำไมตื่นเช้าขนาดนี้? ไม่นอนต่ออีกหน่อยเหรอ?”

ถวนจื่อพูดเสียงตะกุกตะกัก “วันนี้หนูมีเรื่องสำคัญต้องทำน่ะสิ”

เพราะว่าเสียงของเขาค่อนข้างเล็ก เจียงหยุนเอ๋อกลับฟังไม่ชัดเจน แล้วถามต่อ “หืม? เมื่อกี้หนูพูดอะไรนะ?”

“ไม่มีอะไร!” ถวนจื่อวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หายไปจากห้องนั่งเล่น กลับเข้าห้องตัวเองไปอาบน้ำล้างหน้า

เจียงหยุนเอ๋อเดินเข้าไปดูในห้องเขาอย่างแปลกใจ สุดท้ายแล้วก็เก็บสายตากลับไป ไปห้องครัวทำอาหารเช้าให้เขา

เมื่อทำอาหารเช้าเสร็จ เจียงหยุนเอ๋อก็ออกมาจากห้องครัว พูดออกมาอย่างชัดเจน “ถวนจื่อ เตรียมตัวออกมากินข้าวได้แล้ว”

“ครับ!” ถวนจื่อตอบกลับออกมาจากด้านในห้อง ผ่านไปไม่นานก็เดินออกมาจากห้อง

เจียงหยุนเอ๋อเอาข้าวเช้าออกมาวางบนโต๊ะอาหาร หมุนตัวกลับมาก็ตกตะลึงทันที ถวนจื่อไม่รู้ว่าไปเอาเสื้อผ้าที่ดูเท่แบบนี้จากไหนมาใส่ รวมไปถึงสีหน้าท่าทางที่ดูได้ใจ ทำให้ดูตลกอยู่บ้าง

“ถวนจื่อ เสื้อผ้าพวกนี้หนูไปได้มาจากไหน?” เจียงหยุนเอ๋อถามขึ้นด้วยความสงสัย

เท่าที่จำได้ ไม่เคยซื้อเสื้อผ้าแบบนี้ให้กับถวนจื่อเลย

หยุนเอ๋อ “หนูต้องไปเข้าร่วมแข่งเกมมือถือ สหภาพคัพ” ถวนจื่อพูดขึ้นอย่างมั่นใจ

สหภาพคัพสิ่งนี้ เจียงหยุนเอ๋อเองก็พอรู้มาบ้าง ปกติแล้วเธอชอบดูถวนจื่อเล่นเกม ถวนจื่อเองก็มักจะไปขอให้ผู้เล่นของสหภาพคัพ สอนแก้ปัญบางอย่าง เพียงแค่คิดไม่ถึงว่า ถวนจื่ออายุน้อยขนาดนี้ ก็มีความคิดที่อยากจะเข้าร่วมการแข่งขันอย่างน่ารักแบบนี้

แต่ว่า การที่จะเข้าร่วมสหภาพคัพ เป็นเรื่องที่เสียเงินมากเองหนึ่ง นอกจากความสามารถที่เต็มเปี่ยม ไม่อย่างนั้นจะต้องมีการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ ถึงจะเข้าร่วมการแข่งขันได้

เดิมทีตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อยังคิดว่าถวนจื่อก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่เมื่อเห็นเขาท่าทางจริงจังแบบนี้ เธอก็เริ่มเชื่อว่าถวนจื่ออยากเข้าร่วมการแข่งขันจริงๆ แล้ว

เมื่อเห็นท่าทางแบบนั้นของเขา เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วเบาๆ กดเสียงลงต่ำแล้วพูดขึ้น “ถวนจื่อ หนูยังเด็ก รอให้หนูโตกว่านี้อีกนิด แม่จะพาหนูไปเข้าร่วมการแข่งขันดีไหม?”

ถ้าหากเป็นไปได้ เธอก็จะสนับสนุนถวนจื่อทำเรื่องที่เขาชอบอย่างแน่นอน แต่ว่า ตอนนี้ตามสถานการณ์ของพวกเขาแล้ว ไม่สามารถทำฝันของถวนจื่อให้เป็นจริงได้อย่างแน่นอน

ถวนจื่อมองออกว่าเจียงหยุนเอ๋อมีความลังเลอยู่ พูดต่อว่า “แด๊ดดี้ทำได้ทั้งหมด เขาอีกประเดี๋ยวก็จะมารับหนูแล้ว!”

เจียงหยุนเอ๋อเลิกคิ้วไปมา ไม่รู้ว่าไปติดต่อกับลี่จุนถิงตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อกำลังจะถามให้ชัดเจน เสียงกดกริ่งประตูก็ดังขึ้นในตอนนั้น

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ถวนจื่อก็กระโดดไปมาอย่างดีใจ พูดขึ้น “แด๊ดดี้มารับหนูแล้วแน่ๆ”

เจียงหยุนเอ๋อเดินไปเปิดประตูด้วยความสงสัยภายในใจ ก็เห็นผู้ช่วยของลี่จุนถิงซู่จี้งยี้ยืนอยู่นอกประตู เขายิ้มให้กับเจียงหยุนเอ๋อ พูดอธิบาย “คุณชายลี่ก็อยู่ด้านล่าง ผมมารับถวนจื่อไปเข้าร่วมการแข่งขัน”

“จะต้องไปเข้าร่วมการแข่งขันจริง?” สีหน้าของเจียงหยุนเอ๋อซ่อนความตกใจไว้ไม่อยู่ “นี่ ไม่เป็นการรบกวนพวกคุณเกินไปแล้ว”

ผู้ช่วยยิ้มปลอบใจแล้วพูดว่า “คุณเจียง นี่เป็นเรื่องเล็กๆ สำหรับคุณชายลี่ก็เท่านั้น เขาชอบถวนจื่อเป็นอย่างมาก จะให้พูดอีกก็คือ ถวนจื่อเล่นเกมแท้จริงแล้วมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก”

เจียงหยุนเอ๋อถึงค่อยเชื่อว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ก็คือ ถวนจื่อไม่รู้ไปพูดเรื่องนี้กับลี่จุนถิงตั้งแต่เมื่อไหร่ ลี่จุนถิงก็คือไปเป็นสปอนเซอร์จากนั้นก็ให้ถวนจื่อลงชื่อเข้าแข่งขัน

ดูท่าแล้ว เสื้อผ้าทั้งตัวของถวนจื่อคาดว่าน่าจะเป็นลี่จุนถิงซื้อให้ ดูๆ ไปแล้วก็พอดีกับตัว

“ถวนจื่อ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็รีบไปเถอะ” เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้ไกลเกินระยะที่ตัวเองจะควบคุมดูแลได้ เจียงหยุนเอ๋อก็ทำได้เพียงพูดแบบนี้

ยังไงซะ ทำให้ได้สมหวังในสิ่งที่ใจปรารถนาก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สุดท้ายก็แค่ติดหนี้บุญคุณลี่จุนถิงอีกครั้งก็เท่านั้น

“หม่ามี๊ รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ!” สีหน้าของถวนจื่อเต็มไปด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น เร่งเจียงหยุนเอ๋อ

เจียงหยุนเอ๋อเต็มไปด้วยความงุนงงถามขึ้น “หืม? เปลี่ยนเสื้อผ้าอะไร?”

ถวนจื่อตบหัวตัวเอง เหมือนกับว่าอยู่ๆ ก็มาถามถึงเรื่องอะไรที่สำคัญแบบนี้ “อ่อ! ใช่สิ! หนูยังไม่ได้เอามาให้แม่น่ะ รอหนูแปปหนึ่ง!

พูดจบ ถวนจื่อก็รีบวิ่งหันกลับไปในห้องนอน จากนั้นก็หยิบเอาชุดที่เหมือนกันกับเขาชุดนักรบเห็นได้ชัดว่าเป็นชุดเดียวกันยืนใส่มือของเจียงหยุนเอ๋อ

พูดตามตรง เสื้อผ้าพวกนี้ไม่เหมาะกับสไตล์ของเจียงหยุนเอ๋อ อีกทั้งเธอก็เป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้แล้ว เป็นปกติที่ไม่เหมือนกับเด็กน้อย

แต่ว่ามองสีหน้าท่าทางที่ตั้งตารอของถวนจื่อ เจียงหยุนเอ๋อก็แทบจะทนไม่ไหวไม่อยากให้เขาเสียความหวัง คิดสักครู่ ก็ยังหยิบเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนในห้องนอน

หลังจากที่เปลี่ยนเสร็จแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็จูงมือถวนจื่อลงไปด้านล่าง มองไปยังรถที่จอดอยู่จอดไม่ไกลของลี่จุนถิง

เธอก้มมองดูเสื้อผ้าที่ทั้งตัวของตัวเอง ในใจก็อดไม่ได้ลนลาน ก็ไม่รู้ว่าลี่จุนถิงเห็นเธอในชุดนี้ จะไม่หัวเราะเยาะตัวเธอเองในใจหรือเปล่า

เมื่อเปิดประตูรถ เจียงหยุนเอ๋อที่กำลังเตรียมตัวจะทักทาย มองเห็นเขาในตอนนั้นก็กลับตะลึงค้างแล้ว

ลี่จุนถิงกลับใส่เสื้อผ้านักรบชุดเดียวกันกับพวกเขา!

เสื้อผ้าชุดนี้ที่จริงแล้วก็มีความแตกต่าง เพราะฉะนั้นตอนแรกเจียงหยุนเอ๋อไม่ยอมที่จะใส่มันอย่างแน่นอน แต่เมื่อไปอยู่บนตัวของลี่จุนถิง ก็มีความรู้สึกที่ทำให้ผู้คนหลงใหลไม่สามารถละสายตาออกไปได้

แน่นอน เจียงหยุนเอ๋อที่ปกติแล้วเห็นแต่ลี่จุนถิงใส่ชุดสูทผูกไทแบบนั้นจนชิน ตอนที่ได้เห็นเขาที่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนสไตล์การแต่ตัวก็อยากจะขำ