หลังออกจากเมืองลิสวาเดีย และมุ่งตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือเพื่อไปยังเมืองท่า Be Lo ซึ่งสิ่งที่รออยู่ข้างหน้านั้นคือทางลาดของภูเขา
มันคือภูเขา Lu Teo
ภูเขานี้ถูกใช้เป็นทางผ่านไปยัง Be Io ของพ่อค้าเร่บ่อยๆ และผืนดินแถวนี้ได้ถูกปรับปรุงจนเหมาะแก่การสัญจรแล้ว มันจึงเป็นถนนราบเรียบผ่านภูเขา แม้ว่าใครก็ตามที่กำลังนั่งอยู่บนรถม้า พวกเขาก็ยังสามารถรู้สึกสบายโดยที่ไม่ถูกความโยกเยกรบกวน
ที่รอบๆนั้นมันเป็นป่า แม้ว่าบางส่วนจะเป็นป่าแห่งความสับสนรวมอยู่ด้วยเช่นกัน แต่ถนนเส้นนี้ก็ยังสว่างมากพอที่จะผ่านมันไปได้
แสงแดดจากพระอาทิตย์ที่รอดผ่านช่องว่างของแมกไม้เข้ามาที่เกวียนของเหล่าคาราวานที่กำลังเดินทางผ่านทางลาดของถนนที่ตัดผ่านภูเขาลูกนี้ และนั้น 1 ในเกวียนเหล่านั้น แสงแดดได้ส่องผ่านมายังเด็กหนุ่มผมดำ ที่กำลังนอนหลับอยู่บนหลังคาของเกวียนขนาดใหญ่ที่เจ้านกคุเคลสีเงินกำลังเป็นคนลากมันอยู่
[ บ้าเอ้ย ไอ้แสงแว๊บๆวั๊บๆนี่ มันทำให้ผมนอนไม่ได้ ]
เขาคือ ยาชิโระ ยู ผู้กล้าที่เคยช่วยโลกนี้[รูนเบิร์ก]เอาไว้จากจอมมารเมื่อ 3 ปีก่อน
———
มันก็ผ่านมาแล้ว 3 วัน ตั้งแต่พวกเราออกมาจากเมือง ลิสวาเดีย
เบอร์นาเดสและผม ได้ไปหยุดพักที่หมู่บ้าน [โคลชิน] ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นชื่อในการทำฟาร์มองุ่นเพื่อทำไวท์ ที่นั้นพวกเราได้พบกับกลุ่มพ่อค้าเร่และพวกเขาต้องการการคุ้มกันกองคาราวาน ดังนั้น เบอร์นาเดสกับผมจึงได้รับภารกิจ และทำให้พวกเราสามารถออกเดินทางกันต่อได้ถึงแม้จะนั่งๆนอนๆอยู่บนเกวียนแบบก็ตาม
[ โอ้ย้า มันรู้สึกเหมือนกับว่าดิฉันพึ่งจะได้ยินคำอธิบายยืดยาวอะไรซักอย่างเมื่อสักครู่แฮะ ? ]
[ สำหรับตอนนี้ เธอควรจะอายที่เปิดเผยเนื้อหนังสักหน่อยนะ ]
ผมที่กำลังนอนอยู่ด้านบนของเกวียนและเบอร์นาเดส กำลังปลดซิปที่ติดอยู่บนกระโปรงแหวกข้างของเธอออก เผยให้เห็นเรียวขาเปลือยที่อัดแน่นอยู่ภายใต้กระโปรงไซด์มินิของเธอ และห้อยขาของเธอลงมาจากหลังคา
ผมตกใจมากจริงๆที่มันรูดซิบออกได้ แต่ ที่ผมตกใจยิ่งกว่า คือเบอร์นาเดสเผยเรียวขาที่เปลือยปล่าวของเธอโดยไม่รู้สึกอายอะไรเลย
[ คิกคิกคิก นี่มันเรียกว่า “ฉากเซอร์วิส”ไงล่ะคะ ยาชิโระซัง ]
[ อย่าทำเป็นรู้เยอะน่า ยัยป่วงเอ้ย ]
[ ดิฉันไม่อยากจะถูกกล่าวหาแบบนั้นโดยยาชิโระซังผู้แอบมองต้นขาของดิฉันมาซักพักแล้วหรอกนะคะ~ ]
ผ, ผมถูกจับได้ !?
[ นอกจากนี้ เมื่อมันมาถึงฤดูนี้ แสงจาดวงอาทิตย์จึงจ้าเป็นพิเศษค่ะ จนทำให้เสื้อคลุมของดิฉันรู้สึกร้อนมากเลย แต่ว่า ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ก็แค่ถอดช่วงล่างของกระโปรงออก แค่นี้มันก็ทำให้รู้สึกสบายขึ้นมากเลยนะคะ รู้รึปล่าว ? ]
[ เฮ ~~ ผมก็คิดว่าไอ้กระโปรงนั้นออกแบบมาให้ลมสามารถพัดผ่านทะลุเนื้อผ้าเข้าไปด้านในได้ จะได้รู้สึกเย็นสบายได้เสียอีก ]
[ ไม่ผิดหรอกค่ะที่จะคิดเช่นนั้นถ้าหากเป็นกระโปรงปกตินะคะ อย่างไรก็ตาม ชุดคลุมของทางศาสนจักรนี้ถูกสร้างผ้านี้หนาเป็นพิเศษและยาวกว่าปกติ มันจึงไม่มีช่องว่างให้ลมผ่านเข้าไปได้ค่ะ ]
[ ผมเข้าใจแล้ว ]
[ แม้กระทั้งในระหว่างการสนทนาเมื่อสักครู่ คุณแอบมองต้นขาของดิฉันรอบที่ 4 แล้วนะคะ ยาชิโระซัง ]
ผ , ผมถูกจับได้อีกแล้ว !!
[ มาคิดๆดูแล้ว ตอนนี้ที่รูนเบิร์กมันก็ฤดูร้อนนี่นา ]
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมมันร้อนแบบนี้ เดี่ยวนะพอพูดถึงเรื่องนี้ ที่โลกนี้มีจักจั่นมั้ยนะ?
[ พอคุณพูดถึงเรื่องฤดูร้อนแล้ว ดิฉันก็นึกได้ถึงเรื่องไอซ์แคนดี้ของเมือง Galarie ดิฉันได้ยินมาว่ามันช่างหวาน เย็น อร่อย และเยี่ยมที่สุด ดิฉันอยากจะลองทานมันดูสักครั้งจริงๆเลยค่ะ ]
ไงก็ตาม ผมขอย้ำอีกทีว่า [การลองกิน] ของแม่นี่น่ะ เท่ากับการบริโภคของคน หลาย 10 คนได้
[ ไอซ์แคนดี้? . . อ่า คล้ายๆกับไอติมเรอะ? ]
[ คุณรู้จักมันด้วยหรือคะ !? ]
แทบจะตะครุบให้กับคำพูดพึมพัมคนเดียวของผม เบอร์นาเดสขยับเข้าใกล้ผมทันที
แต่เดี่ยวก่อนๆ นี่มันอันตรายนะ ไอ้ท่าทางแบบนี้มันอันตรายนะ !
เบอร์นาเดสเอนร่างของเธอลงมาหาผม ผู้ที่กำลังนอนหงายหน้าอยู่ และนั้นทำให้ หนองโพยักของเธอแทบจะทับลูกตาของผม!
ผมเข้าใจล่ะ เพื่อที่จะสามารถกักเก็บหนองโพขนาดยักนั้นได้ มันจำเป็นจะต้องสร้างชุดที่ทำมาจากเนื้อผ้าหนาๆ
สมแล้วที่เป็นต่างโลก !!
[ ดิฉันเริ่มจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดพลาดที่ไม่ทำอะไรกับสายตาของคุณที่มีต่อน่าอกของดิฉันสักหน่อยแล้วค่ะ แต่ว่า ดิฉันจริงจังสำหรับคำถามที่ถามไปเมื่อสักครู่นะคะ ]
[ ผ , ผมขอโทษครับ ]
*คลิก* ด้วยปืนเวทย์มนตร์ที่จ่อมายังหน้าผากของผม ผมได้ยก 2 มือขึ้นในท่าทาง”ยอมแพ้แล้ว”
[ ชิ ยาชิโระซังคุณนี่มัน . . . จริงๆ ! ]
นี่เธอยังไม่รู้อีกหรอว่าถ้าหากเธอมองผมเป็นดั่ง . . . ผมจะรู้สึกยินดีแค่ไหน
[ โอ้~ พี่สาว พวกเธอมาช่วยตรงนี้สักหน่อยจะได้ไหม ? ]
[ หือ ? ]
เมื่อเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น ความเร็วของขบวนคาราวานก็เริ่มช้าลง
[ เกิดอะไรขึ้นคะ? ]
เบอร์นาเดสที่ตอนนี้อยู่ในท่าลุกขึ้นด้วยหัวเข่าและถามออกมา . . . . อะ อะ โอ้ววววววววววววววววว !!!
กะ , กระโปงของเธอ !! ในท่าลุกขึ้นครึ่งตัวเช่นนี้ ภายใต้กระโปรงนั้น !!
[ สภาพอากาศเริ่มจะเปลี่ยนแปลง ! ดูจากเมฆเหล่านั้นแล้ว มันดูเหมือนว่าเย็นนี้ฝนจะตกหนักนะ มาช่วยกันกางเต้นหน่อยสิ ! ]
ผม , ผมเห็นมันได้แน่ ! ขอแค่อีกนิด ขอแค่ขยับหัวของผมไปแค่อีกนิดเท่านั้น!! สวนสวรรค์ยูโทเปียที่เหล่าชายหนุ่มฝันหาอยู่ที่นี้แล้ว !! ด้วย 2 ตาคู่นี้ !!
. . . เอ๋ ไม่จริงน่า . . มันไม่เห็นสายของกางเกงในได้จากมุมนี้แหะ . . . เดี่ยวนะ ไม่ใช่ว่า !! เธอไม่ใส่มันหรอกรึ !!!!!!!!!
[ ดิฉันใส่มันอยู่ค่ะ !!!!!! ]
[ แอ๊กกกกก !! ]
หลังจากได้รับลูกเตะและปลิวออกไปโดยเบอร์นาเดส ผมก็ตกลงจากเกวียนและกลิ้งคลุกๆไปตามเนินเขา
————–
ดั่งที่ตาลุงในกลุ่มพ่อค้าบอกมา ทันทีที่พวกเรากางเต้นสำหรับกองคาราวานเสร็จ สภาพอากาศก็กลายเป็นน่ากลัวและขณะที่พวกเรากำลังแจกจ่ายอาหาร สายฝนก็เริ่มเทลงมา
[ โถ่~ มันเยี่ยมออกที่พวกเราเอามันเอาออกมาในที่โล่งแบบนี้ ]
[ อ่า ก็จริง ]
พลางหัวเราะออกมาเช่นนั้น ตอนนี้ เหล่าตาลุงพ่อค้าต่างหมกตัวกันอยู่ภายในเต้นเพื่อความอบอุ่น
ก็ดั่งที่เหล่าตาลุงพูดไว้ ในพื่นที่โล่งที่อยู่ในภูเขาแห่งนี้ ที่ซึ่งกองคาราวานมาหยุดอยู่นั้นมันเป็นพื้นที่โล่งรูปครึ่งวงกลม และ ภายในเต้นที่ถูกกางออกจากเกวียนต่างๆนำมาขึงยาวต่อๆกัน ตอนนี้พวกเขาต่างพากันซื้อขายของเล็กๆกันและพูดคุยกันอย่างสบายใจ
[ คุเคะ ~ ]
[ งืม~ . . อุ่นจัง ~ ]
อาจเพราะอุณหภูมิที่ลดลงเพราะฝน หรืออาจเพราะ หลังจากที่เธอเสร็จสิ้นการรับประทานอาหารที่แจกจ่ายมาเสร็จ เบอร์นาเดสกำลังนอนหลับพลางกอดซิลเบอร์ราวกับใช้มันแทนหมอน
[ โย่~ ไอ้หนุ่ม นี่มันถึงเวลางีบของแม่หนูซิสเตอร์ที่มากับนายแล้วรึ? ]
[ ครับ จริงๆแล้ว เธอเป็นพวก “กินอิ่มนอนหลับ” หน่ะครับ ]
[ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! ยังไงซะการกินของแม่หนูซิสเตอร์นั้นก็ช่างน่าทึ่งจริงๆ ! ]
ตาลุงพ่อค้าที่เป็นคนชวนพวกเราที่หมู่บ้าน โคลชิน เขาเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับถือแก้วที่ทำจากเหล็ก 2 ใบ และไอร้อนที่ลอยออกมาแก้ว
[ อยากจะดื่มกาแฟรึปล่าว? ]
[ ขอผมด้วยครับ ]
เมื่อผมถือแก้วด้วยมือของผม ความอบอุ่นของมันก็ถูกส่งมาที่มือของผม
ไม่สิ มันร้อนสุดๆไปเลย
[ อุก! ]
[ มันพึ่งจะเดือดเมื่อตะกี้เอง! ดังนั้นมันจึงยังร้อนอยู่น่ะ ]
ขณะที่กำลังหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” ตาลุงก็ดื่มกาแฟที่อยู่ในถ้วยรวดเดียวหมด
แล้วก็ เขามองมาที่ และยิ้มกว้างออกมา
[ อึก!~~~!? ]
เพราะไม่ต้องการที่จะแพ้ตาลุงนี้ ผมพยายามที่จะดื่มมันรวดเดียวหมดเช่นกันแต่ มันก็ยังคงร้อนอยู่
ช่างหน้าเศร้า ที่ผมไม่สามารถดื่มมันรวดเดียวหมดได้
[ มันคงอีกซักพักกว่าพวกเราจะถึง Be Io ข้าก็ได้แต่หวังอธิฐานว่าพวกเราจะไม่ต้องใช้บริการงานของพวกเธอ แต่ว่า ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ในเวลานั้น ข้าคงต้องขอฝากความหวังไว้ที่นายด้วล่ะก็ ตกลงมั้ย? ]
[ เข้าใจแล้วครับ — แค่กๆ ]
ท้องฟ้า ณ ตอนนี้นั้นมืดมิด เพราะถูกเหล่าเมฆบดบัง และมีเพียงสายฝนที่ยังคงตกอยู่
เอาล่ะ ผมว่าผมคงต้องออกไปเฝ้ายามซักหน่อย