เสียงของสายฝนที่ตกหนักดังขึ้นเรื่อยๆ และความรู้สึกที่ฝนตกใส่ผิวของยูที่อยู่ด้านนอกเสื้อโคทสีเทาของเขามันรุนแรงขึ้น
ชุดคลุมที่เขาใส่อยู่นั้นมันปกคลุมตัวเขาตั้งแต่หัวลงมาราวกับชุดกันฝนอย่างไงอย่างนั้น และตอนนี้ยู เขากำลังนั่งอยู่ด้านบนของเกวียน
ที่เขาต้องมานั้งอยู่แบบนี้นั้นก็เพราะ เขาต้องการจะมาสอดส่องบริเวณโดยรอบ
คนอื่นๆที่อยู่ในคณะพ่อค้านั้นกำลังอยู่ในระหว่างการนอนหลับภายในเกวียนหรือไม่ก็เต้นท์ และยู เขากำลังจดจ่อกับการคงอยู่ของสิ่งต่างๆรอบๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่อาจจะเป็นภัยแก่หมู่คณะได้
ยู ปกติเขาจะไม่ได้ใช้พลังในการจับความเคลื่อนไหวโดยรอบ แต่ว่าตอนนี้ กลับใช้พลังทั้งหมดของเขาในการสังเกตและการได้ยิน นั้นก็เพื่อป้องกันภัยแก่คนอื่นๆ
เหมือนกับสิ่งที่ยูทำเมื่อ 3 ปีก่อน ที่เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดในการสังเกตและได้ยินเพื่อเฝ้ายามตอนกลางคืน
( ยังวางใจไม่ได้ ไอ้ฝนที่ตกหนักขนาดนี้ถึงมันจะน่าตกใจก็เถอะ แต่มันมีโอกาสที่จะกลายเป็นใต้ฝุ่นหรืออะไรที่ร้ายแรงกว่าก็ได้ )
ร่างกายของยูตอนนี้ได้เปียกโชกเป็นที่เรียบร้อย เพราะแรงฝนขนาดนี้ ประโยชน์เดียวของเสื้อโคทตอนนี้คือกักเก็บความเปียกเอาไว้ภายในแทน
แม้ว่าทั้งร่างของเขาจะเปียกโชกไปแล้ว แต่ยูก็ยังคงขยันขันแข็งในการเฝ้าระวังภัยโดยรอบอยู่เช่นเดิม
หลังจากตอนนั้น ไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีหรือกี่ชม. จู่ๆเขาก็รู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ
( นั้นมันอะไร ? . . . ไอ้เสียงแปลกๆนั้นที่ผมได้ยินปนมากับเสียงฝน )
สำหรับเสียงนั้น คนปกติคงจะไม่ได้ยิน แม้กระทั้งเหล่าสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในผืนป่าแห่งนี้ พวกมันอาจจะมีเพียงแค่บางตัวที่รู้สึกถึงเสียงนี้
แต่สำหรับยู เขาแน่ใจว่า เสียงนี้มันผิดปกติ
( . . . มันเหมือนกับ เสียงของฝีเท้า )
*แฉะ* มันเป็นเสียงเหมือนกับการย้ำเท้า
( พวกสัตว์ป่ารึ? ถ้าหากเป็นกรณีนี้ มันก็คงง่ายเพราะเพียงแค่ฟันมันทิ้งแต่. . . )
ยู ตอนนี้เขาอยู่ด้วยท่าชันเขาข้างหนึ่งอยู่บนเกวียน เขาย่อตัวต่ำลงเท่าที่จะต่ำได้และสาดส่องสายตาไปยังภายในป่า
เขายังไม่รู้ว่าเสียงย่ำนั้นมาจากทิศทางไหน
( ถ้าหากพวกมันเป็นกลุ่มโจร . . . มันคงจะกลายเป็นเรื่องลำบากแหะ )
เขาเอื่อมมาเข้าไปยังกระเป๋าที่แนบอยู่ที่เอวด้านหลัง และหยิบมีดสำหรับขว้างขึ้นมาไว้อยู่ในมือ
เขาได้ปรับท่าทางของเขาให้พร้อมที่จะขว้างมันออกไปทุกเมื่อ
และนั้น ขณะที่เขาอยู่ในท่านั้น ถึงแม้พื้นรอบๆจะเต็มไปด้วยโคลน แต่เสียงที่เคยไม่อาจจะได้ยินได้ แต่ตอนนี้เสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามาจากรอบๆกลับได้ยินได้ชัด
พวกมันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว
( พวกเราถูกล้อมแล้ว !? ยิ่งกว่านั้น . . . จำนวนของพวกมันนั้น !! )
เสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามานั้นดังขึ้นเรื่อยๆ และเขาถึงกับตกใจจำนวนของมัน
ถ้าหากพวกมันเป็นสัตว์ 4 เท้าแล้ว มันคงจะมีซัก 10 ตัวได้ ตรงกันข้าม ถ้าหากเป็นคน เสียงฝีเท้าที่กำลังใกล้เข้ามานั้นคงไม่ต่ำกว่า 20 คนแน่
และที่แน่ๆ เจ้าของเสียงฝีเท้านั้น มีเป้าหมายที่กองคาราวาน
พวกมันที่ล้อมอยู่กำลังใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ
ในจังหวะที่เขาคิดว่าจะปลุกเบอร์นาเดสและเหล่าพ่อค้า มันก็มีเสียง [ กิริกริ ] มันเป็นเสียงของสายธนูเวลาถูกดึง
( พวกมันเป็นโจร ! )
เขาปามีดสั้นไปยังทิศทางของเสียงนั้น พร้อมกับดีดตัวออกจากเกวียนและเข้าโจมตีเจ้าโจรที่ถือธนูนั้นทันที
「っ!?」
เขากระโดดไปประจันหน้ากับคนผู้นั้น ที่กำลังตื่นตนกเพราะสายของธนูที่กำลังจะยิงออกไปนั้นได้ถูกตัดขาด และ
[ . . . เซ็น . . ทอร์ ? ]
ยูหยุดเคลื่อนไหวอัตโนมัติหลังจากที่รับรู้ว่าเจ้าของร่างนั้นมีร่างกายที่เหมือนกับการผสมระหว่าง ม้าและคน
「คุ!」
เซ็นทอร์ที่กำลังอยู่ในชุดกันฝนเช่นเดียวกับยูได้ทิ้งระยะห่างออกจากเขา และ เซ็นทอร์อีกตัวได้เข้ามาจากด้านข้างพร้อมกับหอก
เซ็นทอร์เป็นเผ่าพันธุ์นักล่าที่สู้ได้ดีในการต่อสู้เป็นกลุ่ม พวกเขามักจะใช้ หอกและขวานเป็นอาวุธ
เซ็นทอร์ถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ยึดในเกียรติและชื่อเสียง
[ ทำไมกัน . . ทำไมพวกแกถึงทำแบบนี้ !! ทำในแบบที่พวกโจรมันชอบทำกัน !! ]
โจมตีเป็นกลุ่มในยามราตรีที่ทุกคนกำลังนอนหลับสนิท มันเป็นสิ่งที่พวกโจรทำกันไม่ใช่รึ ?
ขณะที่กำลังกำหอกที่เล็งมาที่ข้างตัวเขาไว้แน่น และหักมันด้วยการกำมือ ยูก็ตะโกนออกมา
「!?」
หอกของเซ็นทอร์ตนนั้นถูกหักลงด้วยการกำมือ และ เขาถูกสับทีคอด้วยสันมือด้วยความเร็วที่ตาปล่าวไม่สามารถมองได้ทัน จนเกิดเสียงดังขึ้น*ฉ่ะ* พร้อมกับร่างที่ทรุดลง
[ พวกแกทั้งหมดคือเซ็นทอร์ไม่ใช่เรอะ ? ผมได้ยินว่านักรบเซ็นทอร์นั้น พวกเขายึดมั้นในเกียรติและชื่อเสียง ! แล้วทำไมพวกแกถึงโจมตีท่ามกลางราตรีที่เงียบสงัดและหลบซ่อนตัวภายใต้สายฝนแบบนี้ !! ]
ยูก้าวไปยังหัวของเซ็นทอร์ที่ทรุดอยู่และจี้ดาบไปยังคอ และตะโกนออกมาเสียงดัง มันดังจนกลบเสียงฝนรอบๆ
มันดังซะจนรู้สึกราวกับว่าเสียงของฝนหยุดหายไปชั่วขณะ และอีกครั้ง ที่เสียงของสายฝนเริ่มกลับมา
[ ถ้าหากแกไม่อยากที่จะตอบคำถาม หัวของไอ้หมอนี่จะหลุดออกจากบ่าแน่ เข้าใจรึปล่าว? ]
เหล่าเซ็นทอร์นั้นรักญาติพี่น้องของตนเป็นอย่างมาก
และนั้น เหล่าเซ็นทอร์ที่ต่างกระวนกระวายใจ เพราะพวกของตนถูกจับไปเป็นตัวประกัน
[ เดี่ยวก่อน อย่าฆ่าพี่ชายนะ ! ]
เซ็นทอร์ที่ถือธนูนั้นเธอโยนมันทิ้งไปและวิ่งตรงเข้ามาหาทางยู
[ ผมไม่มีความตั้งใจที่จะฆ่าเขา ถ้าหากพวกแกตอบคำถามกับผม ]
พลางขยับดาบคริสตัลเขียวชี้ไปยังร่างเซ็นทอร์ที่ทรุดอยู่ ยูได้กล่าวออกมา
[ ได้โปรด . . . อย่าฆ่าเขา ]
เขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าหรือรูปร่างของเธอได้เพราะชุดกันฝน แต่เซ็นทอร์นั้นมีสีบอร์น และเป็นหญิงสาวสวย
ยู ที่ปกติมีปฎิกิริยาต่อสิ่งสิ่งเหล่านี้ แต่ตอนนี้ เขาทำได้เพียงแค่มองหญิงเซ็นทอร์เท่านั้น
[ ใครคือผู้นำกลุ่มพวกแก ไอ้หมอนี่งั้นรึ? ]
เขาถามออกมาพลางลัดไปที่คอของเซ็นทอร์ที่สลบอยู่แน่นขึ้น ทันใดนั้น ร่างของผู้นำกลุ่มที่สวมอยู่ในชุดกันฝนเช่นกันก็ปรากฎมาจากทางด้านขวาของเขา
[ ข้าเอง ]
อาจเพราะโกรธที่เหล่าพี่น้องของตนที่จับเป็นตัวประกัน เซ็นทอร์นั้นจึงกล่าวออกมาอย่างระคายเคือง
[ ทำไมแกถึงโจมตีพวกเรา เป้าหมายของพวกแกคือทรัพย์สินเงินทองเรอะ ? ]
เมื่อยูถามออกไป เซ็นทอร์ตอนนั้นปลดเสื้อคลุมฝน เผยให้เห็นใบหน้าและกล่าวออกมาเสียงดัง
[ เพื่อช่วยเหล่าพี่น้องของพวกเราที่ถูกลักพาตัวไป ! ]
หญิงสาวผู้มีสีเหมือนเกาลัด(น้ำตาลๆ)นั้นได้จ้องเขม็งมาที่ยู ราวกับว่าเขาเป็นศัตรูของพ่อแม่เธอ