ขณะที่โอเวอร์ลอร์ดทั้ง 5 คนกำลังจ้องมาที่ผมอยู่นั้น ผมก็เดินเข้าไปกลางวงพวกมันอย่างใจเย็น หากเป็นคนอื่นแรงกดดันที่ปล่อยออกมาจากพวกมันก็เพียงพอแล้วที่จะบดขยี้พวกเขา ขณะที่ฉันเดินอยู่นั้นโอเวอร์ลอร์ดทั้ง 5 ก็กำลังมองมาที่ผมด้วยความสนใจเล็กน้อยในสายตาของพวกมัน
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันเห็นผู้อ่อนแอที่สามารถยืนอยู่ต่อหน้าพวกมันได้โดยปราศจากความกลัวใดๆ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะตายก็ตาม
ในขณะที่ภายใต้สายตาที่จับตามองของพวกมัน ผมก็เดินมาถึงตรงกลางวงล้อมและโค้งให้พวกมันด้วยความเคารพ
“สวัสดีครับลอร์ดทุกท่าน ผมเป็นเพียงคนต่ำต้อยที่มาที่นี่เพื่อให้ความเคารพและยื่นข้อเสนอแก่ทุกท่านครับ”
“หืม? อะไรที่ทำให้เจ้ามดตัวกระจ้อยแบบแกถึงมีสิทธิมายื่นข้อเสนอกับพวกข้ากัน?”
เป็นเจ้าลิงตัวใหญ่ที่พูดขัดผมขึ้นมา เสียงของมันแหบแห้งและฟังดูน่ากลัว
ทันทีที่มันพูดจบความกดดันในบรรยากาศก็เพิ่มขึ้นพร้อมกับโอเวอร์ลอร์ดตัวอื่นๆ ที่พยักหน้าและมองมาทางผม
ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็ไม่ถอยกลับและเผยรอยยิ้มออกมาก่อนจะพูดขึ้น
“แน่นอนว่าผมไม่คู่ควรที่จะมีอำนาจต่อรองได้ครับ แต่ถ้าผมบอกพวกท่านว่าผมมาจากนอกสถานที่แห่งนี้และอาจจะสามารถพาพวกท่านออกไปได้ด้วยหล่ะครับจะว่ายังไง?”
“ว่าไงนะ!!”
ได้ยินคำพูดของผมโอเวอร์ลอร์ดทั้ง 5 ก็ตกตะลึงและเมื่อผมเห็นปฎิกิริยาของพวกมันผมก็มั่นใจในความคิดของตัวเองแล้ว
‘เจ้าปีศาจนั่นไม่ได้ควบคุมโลกนี้ได้อย่างเต็มที่’
มีบางอย่างที่ผมตระหนักได้ในขณะที่ใช้เวลากับระบบของตัวเอง แม้ว่ามันจะไม่ได้ปกป้องหรือช่วยผมอย่างตรงไปตรงมา แต่มันมักจะทิ้งคำใบ้ให้ผมเอาชีวิตรอดได้เสมอและครั้งนี้ก็เช่นกัน
ถ้าผมเดาไม่ผิดสัตว์ร้ายพวกนี้มีตัวตนอยู่จริงๆ รวมทั้งโลกนี้ด้วย ดูเหมือนว่าพวกมันจะถูกขังไว้ในโลกนี้หรือถูกลืมไปแล้ว แม้ว่าพวกมันจะจากโลกนี้ไปพวกมันก็จะกลายเป็นเพียงฝุ่นไปตามกาลเวลาและเนื่องจากการแทรกแซงของเวลาและมิติที่จะทำให้พวกมันหายไป
‘แต่ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่รู้เรื่องนี้สินะ’
“เจ้าพูดจริงงั้นรึ?”
คราวนี้เป็นงูซึ่งมีเสียงอ่อนโยนที่พูดขึ้นมา
ผมพยักหน้าให้กับคำถามของเธอ
“แน่นอนครับ ท่านก็เห็นแล้วใช่ไหมครับว่าผมไม่ได้แข็งแกร่งเป็นพิเศษ แต่ผมสามารถแปลงร่างได้?”
สำหรับพวกสัตว์ร้ายแล้ว ผมน่าจะเป็นสัตว์ร้ายที่สามารถแปลงร่างได้และนั่นต้องขอบคุณหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ผมซื้อมาจากร้านค้าของระบบ โดยปกติแล้วมีเพียงสัตว์ร้ายที่มาถึงระดับจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถแปลงร่างได้
[ ไอเท็ม : ชิฟเตอร์
คำอธิบาย : ไอเท็มที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้สร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ซานาริกซ์ ผู้ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นผู้สร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สามารถสร้างอะไรก็ได้ แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเขามีความหลงไหลเป็นพิเศษในการนอนกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว
การใช้งาน : สามารถเปลี่ยนออร่าพลังชีวิตรอบๆ ตัวคุณได้ เมื่อใช้สิ่งนี้คุณสามารถเปลี่ยนการแสดงพลังของคุณให้เป็นของสายพันธุ์ใดก็ได้ – มนุษย์, เอลฟ์, ปีศาจ, สัตว์ร้าย, วิญญาณ…ฯลฯ
หมายเหต : ซานาริกซ์เคยใช้อุปกรณ์ดังกล่าวแอบเข้าไปในโลกของสัตว์ร้ายและหลับนอนกับราชินีสัตว์ร้ายซึ่งเป็นภรรยาของราชาสัตว์ร้าย
ราคา : 25,000 ]
แม้ว่าผมจะสงสัยเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ หลังจากอ่านคำอธิบายเกี่ยวกับผู้สร้างแล้ว แต่ผมก็ยังคงซื้อมันอยู่ดี ไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่ซื้อจากระบบที่ผิดพลาดและดูเหมือนว่าพวกเขาจะนำข้อเสนอแนะผมไปใช้ด้วย ท้าที่สุดแล้วมันเป็นของที่สามารถหลอกคนระดับราชินีสัตว์ร้ายได้
เมื่อเห็นว่าพวกโอเวอร์ลอร์ดเริ่มเชื่อผมบ้างแล้ว ผมก็เริ่มทำการแสดงต่อ ผมหยิบแซนวิชออกมา 5 ชิ้น ใช่แล้วมันคือสิ่งที่เจ้าพวกนี้ไม่เคยเกิดมาก่อน
“ท่านลอร์ด ทำไมพวกท่านไม่ลองชิมอาหารที่ผมซื้อมาจากนอกโลกแห่งนี้ดูหล่ะครับ”
เมื่อเห็นอาหารที่อยู่ในมือของผม สัตว์ร้ายทุกตัวก็มองไปทางงู ผมเลยส่งแซนวิชไปให้เธอ
เธอผงกศีรษะของเธอหลังจากนั้นครู่หนึ่ง
“ไม่มีพิษ”
หลังจากได้ยินคำพูดของเธอ พวกมันทั้ง 5 ก็แปลงร่างก่อนจะเข้ามารับแซนวิชจากผมและเริ่มกัน
“น -นี่มัน?”
“อร่อย”
“น่าอัศจรรย์”
ความคิดเห็นมากมายเริ่มหลุดออกมาจากปากราวกับว่าพวกเขาไม่เคยกินของอร่อยแบบนี้มาก่อนในชีวิต มันจะเป็นไปได้ยังไงหล่ะเนอะในเมื่อโลกนี้มีแต่ป่า
“บอกวิธีการของเจ้ามา”
ชายวัยกลางคนผมสีขาวและตาสีดำพูดขึ้นมา เขาคือเสือที่แปลงร่างมา
ผมพยักหน้าให้กับคำถามของเขาและหยิบยาออกมา 5 เม็ด
เมื่อเห็นเม็ดยาทุกสายตาของเหล่าโอเวอร์ลอร์ดก็จดจ่ออยู่กับมัน
“ท่านลอร์ดที่เคารพ ยาเม็ดนี้ในมือของผมเรียกว่ายาหลบหนี เมื่อท่านกินยานี่เข้าไปแล้ว ท่านจะสามารถออกจากโลกนี้ไปได้ครับ”
เมื่อได้ยินคำพูดของผม โอเวอร์ลอร์ดทั้งหมดก็มีสีหน้าไม่เชื่อขึ้นมา พวกเขามองสลับระหว่างผมกับยาอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นว่าผมมีแต่ความจริงใจให้(?) พวกเขาก็พยักหน้า
“พวกท่านไม่ต้องห่วงหรอกครับท่านลอร์ด เราทุกคนต่างรู้ว่าไม่มีอะไรทำร้ายตัวตนระดับจักรพรรดิได้จากการกินอาหารใช่ไหมครับ”
หลังจากคิดได้พวกเขาก็พยักหน้าก่อนจะรับยาไปคนละเม็ด แต่ละคนตรวจดูเม็ดยาด้วยความสามารถของตัวเองเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันจะไม่เป็นอันตราย
“ไอ้หนู…ถ้าเจ้าโกหกหล่ะก็ จะมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเจ้าอยู่”
ชายผมสีน้ำตาลที่มีกล้ามเนื้อและกำยำพูดขึ้นพร้อมกับโอเวอร์ลอร์ดคนอื่นๆ ที่พยักหน้าตามคำพูดของเขา
โดยไม่รอช้าพวกเขาก็แกะเม็ดยาก่อนจะใส่มันเข้าไปในปาก ทันทีที่เม็ดยาละลายในปากของพวกเขาก็สัมผันได้เพียงรสหวานที่ค้างอยู่ ไม่กี่วินาทีผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ขณะที่พวกเขากำลังจะถามออสติน ทั้ง 5 คนก็หมดสติล้มลงกับพื้นในทันที
เมื่อเห็นอย่างนั้นผมก็ถอนหายใจออกมาในที่สุด
‘ให้ตายสิ นั่นอันตรายจริงๆ’
เมื่อมองไปยังโอเวอร์ลอร์ดทั้ง 5 ที่กำลังหลับไหลอยู่ ในที่สุดหัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งของผมก็สงบลง สำหรับยาที่ผมให้พวกเขาไปนั้นคือ
[ ไอเท็ม : ตลอดค่ำคืน
คำอธิบาย : ยาที่ผลิตโดยนักเล่นแร่แปรธาตุผู้ยิ่งใหญ่คลอว์แรนซ์
การใช้งาน : ไม่ว่าผู้บ่มเพาะพลังหรือใครก็ตามที่กินมันจะหลับเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์
หมายเหต : นักเล่นแร่แปรธาตุคลอว์แรนซ์ได้ให้ยาเหล่านี้แก่คนรักของเขาเพื่อให้พวกเธอผสมให้สามีของพวกเธอดื่มในตอนที่มีเวลาว่าง
ราคา : 1,000 ]
หลังจากอ่านคำอธิบายเหล่านี้แล้วผมก็เริ่มสงสัยแล้วว่าคนที่แข็งแกร่งทุกคนมีปัญหากันหมดเลยรีไงกัน
ยังไงซะอย่างน้อยผมก็สามารถต่อรองกับปีศาจนั่นได้แล้ว สำหรับการฆ่าสัตว์ร้าย 5 ตัวนี้นั้นเป็นไปไม่ได้เลยด้วยกำลังของผม ผมคงไม่สามารถฆ่าพวกมันได้แม้ว่าพวกมันจะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ตาม เว้นแต่ผมจะใช้ความพยายามอย่างเต็มที่และไพ่ตายทั้งหมด แต่ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วยหล่ะในเมื่อมีวิธีการที่ง่ายกว่านั้น
“เห้ยไอ้สารเลว!! ฉันรู้นะว่าแกฟังอยู่ ออกมาซะ ทำไมเราไม่มาคุยกันหน่อยหล่ะ?”
หลังจากที่ผมพูดจบภาพลวงตาก็เริ่มก่อตัวขึ้นต่อหน้าผมก่อนจะปรากฏเป็นร่างของปีศาจผู้หยิ่งพยองก่อนหน้านี้ขึ้นมา
ร่างที่ยืนอยู่ตรงหน้าของผมคือร่างที่แห้งผากและอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรง ดูเหมือนว่าการรักษาโลกนี้เอาไว้ ได้นำมาซึ่งปัญหาให้มันมากกว่าที่ผมคิดไว้ในตอนแรกแฮะ
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต