ตอนที่ 58 เถ้าแก่ซูก็มีช่วงเวลาขาดเงิน

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 58 เถ้าแก่ซูก็มีช่วงเวลาขาดเงิน

ตอนที่ 58 เถ้าแก่ซูก็มีช่วงเวลาขาดเงิน

สุนัขตัวใหญ่มองไปรอบ ๆ ด้วยสายตาระแวดระวัง ชวนให้นึกถึงความกล้าหาญและความเฉลียวฉลาดของมัน แต่ดูจากท่าทางของมันแล้วก็สามารถบอกอายุของมันได้

คนที่มายื่นสายจูงให้ซูเถาและทำความเคารพเธอ

“ขอมอบสุนัขทหารหมายเลข 036 ของกองกำลังปกป้องเมืองให้กับคุณ”

ซูเถารับสายจูงมาอย่างเคร่งขรึม และเสวี่ยเตาเองก็เริ่มดมกลิ่นรอบ ๆ ตัวของเธอ จากนั้นมันนอนลงที่แทบเท้าของเธออย่างเชื่อฟัง

คนที่มากล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ผู้บัญชาการเผยได้ส่งมอบสิ่งของของคุณไปให้ มันฉลาดมากและมันจำกลิ่นได้”

ซูเถารู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก เธอคุกเข่าลงและลูบหัวของสุนัขตัวใหญ่นี้ พลางเงยหน้าขึ้นและถามว่า

“ปกติมันกินอะไรคะ? พวกเนื้อสดได้ไหม?”

“เนื้อสดก็ได้…แต่ต้นทุนมันจะสูง ปกติพวกเราให้อาหารที่มีเกลือน้อยหรือโซเดียมต่ำแก่มัน แต่ตามมาตรฐานก่อนวันสิ้นโลก จะเป็นการดีกว่าถ้าสุนัขตัวใหญ่จะได้กินเนื้อสด ๆ”

ในความคิดของซูเถาคือ ไม่ว่ามันจะยากเย็นแค่ไหน แต่เธอไม่ได้มีเงื่อนไขด้านการกิน เธอจะเตรียมให้มันเหมือนกับเสี่ยวจือหม่า

นั่นก็คือเนื้อ!

คงต้องใช้เวลาสักระยะก่อนที่จวงหว่านจะจ่ายค่าเช่าในครั้งต่อไป เธออายเกินกว่าจะขอให้คนอื่นจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า

ตอนนี้เธอทำได้เพียงภาวนาว่าหลังจากการปรับปรุงร้านขายอาหารและเครื่องดื่มแล้ว จะมีสิ่งต่าง ๆ เช่นอาหารสัตว์เลี้ยงเข้ามาเพิ่ม

แต่การอัปเกรดหนึ่งครั้งต้องใช้เงินมากกว่า 100,000 เหลียนปัง แต่ว่าตอนนี้เธอเหลือเงินอยู่แค่ 90,000 เหลียนปัง

เธอ…ทำไมเธอยากจนขนาดนี้ ไม่เพียงเก็บเงินไม่ได้ แต่ยังไม่มีเงินเพียงพอต่อการยังชีพแต่ละวันอีก

“คิดอะไรอยู่?” ทันใดนั้นเสียงของสือจื่อจิ้นก็ดังขึ้น

คนที่นำเสวี่ยเตามาให้ทำความเคารพสือจื่อจิ้นก่อนที่จะขึ้นรถแล้วออกไป

เสวี่ยเตาขยับจมูกของมันสองครั้ง หลังจากที่มันได้กลิ่นที่คุ้นเคยมันก็ล้มตัวนอนอีกครั้ง

ซูเถากล่าวว่า “เมื่อวานฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าพูดคุยกับฉัน? สงครามเย็นน่ะ ฉันเอาจริง”

“ผมตกลงเมื่อไหร่?” สื่อจื่อจิ้น

ซูเถาตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอนึกย้อนไปถึงเมื่อวาน เขาไม่ได้ตอบตกลง และไม่ได้พูดอะไรสักคำ ทันใดนั้นเธอก็พูดว่า

“ให้ฉันยืมเงิน 10,000 เหลียนปัง แล้วฉันจะยอมสงบศึก”

สือจื่อจิ้นมีท่าทีสุขุม “เถ้าแก่ซูก็มีช่วงเวลาขาดเงิน?”

“อย่าดูถูกฉันนะ ฉันจนเพราะฉันมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ ฉันมีปัญหาฉันก็พูดออกมาตรง ๆ ไม่ปิดบัง คุณได้ยินแล้วก็ควรรีบยื่นมือเข้ามาช่วย”

สือจื่อจิ้นแทบกลั้นหัวเราะไม่ได้

“เถ้าแก่เถาหยางและเจ้าของแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ทั้งยังมีข้อตกลงทางธุรกิจกับกู้หมิงฉือ แต่ขาดเงิน 10,000 พูดออกไปก็คงไม่มีใครเชื่อ”

“แค่คุณเชื่อก็พอ”

“ผมเชื่อ”

ทันทีที่พูดจบ ซูเถาก็ได้รับเงินทันที 100,000 เหลียนปัง!

หญิงสาวรู้สึกเขินอายทันที “เถ้าแก่สือ นี่มันมากเกินไป คุณใจป้ำเกินไปแล้ว”

ถึงเธอจะพูดอย่างนั้น แต่เธอก็ไม่มีความคิดที่จะโอนเงินคืน

สือจื่นจิ้นรู้ว่าเธอไม่ได้มีอุบายอะไร เขาจึงไม่ได้แย้ง

“ดีกันแล้วใช่ไหม?”

“อื้ม ดีกัน!”

เมื่อสือจื่นจิ้นเห็นเธอเดินเล่นอยู่กับสุนัขตัวใหญ่ท่ามกลางแสงแดดอย่างมีความสุข เขาก็ยิ้มและส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

ซูเถาพาเสวี่ยเตาไปที่ห้องของตัวเอง และทันทีที่เธอเปิดประตู เฮยจือหม่าก็ส่งร้องเสียง ‘เหมียว’ แล้วกระโดดออกไปสองเมตร ยืนอยู่บนโซฟาและยิ้มให้เสวี่ยเตา

ไป๋จือหม่าตกใจกลัวจนมุดเข้าไปใต้โซฟาไม่กล้าออกมา

เป็นไปตามที่คาดไว้ สุนัขทหารมีอายุตัวนี้สงบมาก มันเดินไปรอบ ๆ ห้องเพื่อดมกลิ่นและสำรวจอย่างช้า ๆ เมื่อไม่พบกับอันตรายมันจึงนอนลงข้างโซฟาแล้วหลับไป

ซูเถาอุ้มเฮยจือหม่าออกมา และพยายามพูดให้เหตุผลกับมัน

“ผู้มาใหม่คือคุณปู่เสวี่ยเตา ถือว่าเป็นสมาชิกในครอบครัวเรา เขาจะไม่ทำร้ายนาย อย่าทำตัวก้าวร้าวล่ะ ไปทำความคุ้นเคยกับเขาซะนะ เด็กดี”

เฮยจือหม่าฟังเข้าใจ มันเดินไปสองสามก้าวอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก แล้วหันกลับมามองซูเถา

ซูเถาเร่ง “รีบไปสิ”

เฮยจือหม่าเดินเข้าไปอย่างช้า ๆ เหยียดอุ้งเท้าเล็ก ๆ ออกและสะกิดเสวี่ยเตาด้วยความรวดเร็ว เสวี่ยเตาเกาหูของมัน แต่มันไม่แม้แต่จะลืมตาราวกับมันรู้ว่ากับแมวน้อยตัวนี้ไม่มีอะไรต้องกลัว

เมื่อเฮยจือหม่าเห็นว่าไม่มีอันตราย มันจึงเข้าไปใกล้อีกนิดและใช้จมูกดม

ทันใดนั้นเสวี่ยเตาก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับเหยียดเท้าของมันออกมาโอบและใช้ลิ้นของมันเลียหัวเฮยจือหม่า

เฮยจือหม่า “?”

ซูเถาถือโอกาสนี้คว้าไป๋จือหม่ามาจากใต้โซฟา ทันทีที่เธอคว้าไป๋จือหม่าออกมาได้ มันก็เกาะเธอแน่นและร้อง ‘เหมียว’

ก็แค่นี้

หลังจากที่แมวสองตัวกับสุนัขอีกหนึ่งตัวทำความรู้จักกันอยู่พักใหญ่ ซูเถาก็รีบใช้เงิน 100,000 เหลียนปัง เพื่ออัปเกรดร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มเป็นเลเวล 2

การอัปเกรดในครั้งนี้ทำให้ซูเถาได้ค้นพบกับโลกใหม่

ร้านค้าขายอาหารและเครื่องดื่มเลเวล 2 นี้มีการจำแนกประเภทอย่างละเอียด แบ่งเป็นขนม น้ำมันและธัญพืช อาหารแห้ง อาหารสัตว์เลี้ยง

ซูเถาคลิกที่ส่วนของอาหารสัตว์เลี้ยงอย่างมีความสุข เมื่อเห็นว่าภายในนั้นมีเครื่องอยู่สองประเภท หนึ่งคือเครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัติ อีกหนึ่งคือเครื่องจำหน่ายอาหารกระป๋องสำหรับสัตว์เลี้ยง

ราคาของเครื่องทั้งสองคือ 3,000 เหลียนปัง

ซูเถาไม่ทันคิดก็ใช้เงิน 6,000 เหลียนปังเพื่อซื้อมันและวางไว้ในห้องรับแขกก่อน

เฮยจือหม่าผู้อยากรู้อยากเห็นเข้ามาดมทันทีเมื่อเห็นสิ่งของใหม่ ๆ

ซูเถาก็ไม่ได้ห้ามมัน เธอเริ่มเติมสินค้าตามคำแนะนำ เครื่องให้อาหารสัตว์อัตโนมัตินั้นมีหลายชนิด แต่เธอเลือกเฉพาะอาหารสำหรับสุนัขสูงอายุและสำหรับลูกแมวตัวน้อย

แต่ราคาของมันไม่ถูกเลย เธอใช้เงินไป 5,000 เหลียนปังในการซื้ออาหารสองชนิดนี้ ซึ่งสามารถกินได้เพียงสองสัปดาห์เท่านั้น ฉะนั้นราคาต่อเดือนเธอต้องมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 10,000 เหลียนปังในการซื้ออาหารสัตว์

ราคาแพงกว่าค่าอาหารของเธออีก

ซูเถาเทมันลงในชามของเสี่ยวจือหม่าให้พวกมันลองชิมดู ส่วนผสมหลักคือเนื้อสัตว์และกากใยของผัก ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีกลิ่นหอม รสชาติน่าจะไม่เลว

เฮยจือหม่าและไป๋จือหม่าได้กลิ่นอาหาร พวกมันรีบพุ่งตัวมาทันที

ไป๋จือหม่าไม่กลัวเสวี่ยเตาอีกต่อไป มันกระโดดข้ามเสวี่ยเตาเพื่อรีบไปกินอาหาร ขณะที่กินก็แทบจะมุดหัวลงไปในชามอาหาร

เสวี่ยเตาเองก็สูดจมูก หูของมันยกขึ้นและดวงตาก็เปิดขึ้นเช่นกัน

ซูเถานำชามอาหารมาให้มัน และเทอาหารสำหรับสุนัขสูงอายุลงไป ส่วนผสมต่าง ๆ ดูเหมือนว่าจะอุดมไปด้วยโปรตีน ทั้งอร่อยและย่อยง่าย

เป็นไปตามที่คาดไว้ สุนัขทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีอย่างเสวี่ยเตาหมุนตัวไปรอบ ๆ พร้อมกับดมกลิ่น หางของมันกระดิกไปมาราวกับว่าน้ำลายของมันกำลังจะไหล

มันมองไปที่ซูเถาแล้วมองไปที่อาหารสุนัขที่อยู่ในชาม

ซูเถาเข้าใจได้ในทันทีว่ามันกำลังรอคำสั่งจากเธอ ดังนั้นเธอจึงพูดขึ้น “กินได้!”

เสวี่ยเตาเปิดปากของมันและเริ่มกินอาหารอย่างรวดเร็วเหมือนพายุ

หลังจากเจ้านายทั้งสามกินอาหารเสร็จ ซูเถาก็เริ่มแปรงขนพวกมันเพื่อหาว่ามีพวกเห็บหมัดหรือไม่ และหลังจากเช็ดคราบน้ำตาของพวกมันแล้วซูเถาก็ให้มันกินน้ำ

เพื่อที่จะอาบน้ำให้พวกมันได้อย่างสะดวก ซูเถาถอดบ่อน้ำพุร้อนของเธอออกและแทนที่ด้วยสระขนาดใหญ่ที่ติดอยู่กับพื้น ใช้สำหรับอาบน้ำล้างตัวสุนัขและแมวโดยเฉพาะ

การเลี้ยงสัตว์ก็เหมือนการเลี้ยงลูก ซึ่งต้องใช้ความอดทนและความรัก

ดูเหมือนว่าเสวี่ยเตาจะรู้ว่าเจ้าของใหม่รักมันมาก มันเริ่มที่จะติดตามซูเถาไปทั่วทุกที่ และแย่งตำแหน่งที่นอนกับพวกจือหม่าในตอนกลางคืน

ซูเถาตื่นขึ้นมากลางดึกจากความรู้สึกร้อน เมื่อเธอเปิดไฟมอง เธอก็เห็นว่าเตียงคู่ของเธอถูกเสวี่ยเตานอนกินที่ไปแล้วครึ่งเตียง โดยมีพวกจือหม่าทั้งสองนอนอยู่บนหมอน

เธอถูกเบียดไปอยู่ที่มุมเตียง ทั้งร้อนและเหงื่อออก

…ได้เวลาติดเครื่องปรับอากาศแล้ว

ซูเถาหาวและลุกขึ้น เธอเข้าไปในร้านตกแต่งบ้าน และกัดฟันเลือกเครื่องปรับอากาศฝังเพดาน ซึ่งมีราคาแพงที่สุด ราคาอยู่ที่ 12,000 เหลียนปัง

เธอจะติดชั้นละเครื่อง ผู้เช่าแต่ละครัวเรือนจะได้ใช้กันอย่างทั่วถึง อีกทั้งเมื่อติดตั้งไว้ในพื้นที่ทางเดินส่วนกลางก็สามารถดูแลได้อย่างสะดวกอีกด้วย