บทที่ 64 มีเหตุผลอะไรกัน

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 64 มีเหตุผลอะไรกัน

บทที่ 64 มีเหตุผลอะไรกัน

ควรขายให้ใคร?

ใจอู๋ฝานเกิดความลังเล

แม้เมื่อวานนี้ตกลงด้วยวาจากับเจ้าหย้าหนาน แต่ก็เป็นดังที่เถ้าแก่หลิวบอก ว่าการตกลงด้วยวาจาไม่ใช่การทำสัญญาผูกมัด เขาสามารถกลับคำพูดของตัวเองได้

ขายให้เถ้าแก่หลิว? ใจของอู๋ฝานไม่รู้สึกยินดีจะทำเช่นนั้น โดยเฉพาะยามได้เห็นท่าทีสะกดข่มของอีกฝ่าย ที่มุ่งมั่นจะกลั่นแกล้งเสียให้ได้ อู๋ฝานรู้สึกไม่สบายใจ

คิดว่าถ้าให้ราคาสูง แล้วจะต้องยอมขายให้อย่างนั้นหรือ?

ขายก็แย่แล้ว!

“คุณอู๋ ได้โปรดเชื่อใจฉัน ขายไม้เหล่านี้ให้แก่ฉันนะคะ” เจ้าหย้าหนานมองยังอู๋ฝานพร้อมกับร้องขอ ท่าทีของเธอถ่อมตัวลงยิ่งกว่าก่อนหน้า

“คุณอู๋ คุณควรคิดให้ดีนะ” เถ้าแก่หลิวราวกับย้ำและเตือน “ถ้าหากขายให้ผม คุณไม่เพียงจะได้ราคาสูง แต่ยังได้เงินสด ถ้าหากขายให้เธอ บางทีอาจสูญเสียไปหมดทุกอย่างเลยก็เป็นได้! คิดว่าเถ้าแก่อู๋น่าจะเข้าใจความแตกต่างของสิ่งที่ผมพูดนะ”

“ผมเข้าใจดีครับ” อู๋ฝานตอบรับ “เพียงแต่การตัดสินใจของผมไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้ง่ายขนาดนั้น ดังนั้นผมจึงขายไม้เหล่านี้ให้เถ้าแก่เจ้าครับ”

“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณ” เถ้าแก่เจ้าตอบรับด้วยความซาบซึ้ง

“เหอะ!” เถ้าแก่หลิวพบเห็นการค้าครั้งนี้ไม่อาจสำเร็จได้ดังใจหวัง จึงมองอู๋ฝานด้วยท่าทีที่ไม่ดีเหมือนก่อนหน้า ทั้งยังกล่าวสำทับอย่างเย็นชา “ขอบอกไว้เลย ว่าคุณตัดสินใจผิดแล้ว ผิดมากด้วย”

“สำหรับผมไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรครับ” อู๋ฝานตอบกลับด้วยท่าทีสบาย “ก็เพียงไม้ชิงชันไม่เท่าไหร่ ผมไม่เก็บมาใส่ใจหรอกครับ ถ้ามันจะเสีย ก็ให้มันเสียไป”

ที่อู๋ฝานพูด มันเป็นความจริงจากใจของเขา เพราะป่าในอีกโลก มันยังมีไม้ชิงชันและไม้ล้ำค่าชนิดอื่นอีกมากมาย ต่อให้ไม้ชิงชันรอบนี้ไม่ได้รับผลตอบแทนอย่างที่เถ้าแก่หลิวบอก อู๋ฝานก็ไม่คิดว่าสูญเสียแต่อย่างใด อย่างไรแล้ว เขาก็พร้อมจะนำพวกมันออกมาได้โดยที่แทบไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร

มันจึงเป็นเหตุผลให้อู๋ฝานกล้าขายไม้ให้แก่เจ้าหย้าหนาน โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียหรือได้รับ ขอเพียงเขารู้สึกยินดีแก่ใจตัวเอง เรื่องได้หรือเสียก็ไม่ใช่สาระที่ต้องใส่ใจถึงขนาดนั้น

เพียงแต่ คำของอู๋ฝานในมุมมองของเถ้าแก่หลิวและเจ้าหย้าหนาน มันคือการคุยโวโอ้อวด ไม้ชิงชันไม่ใช่ไม้ธรรมดา และที่อู๋ฝานนำมาครั้งนี้ยังมีค่าเกือบสิบล้านหยวน แต่ก็ยังกล้าพูด ว่าไม่คิดมองเงินเล็กน้อยเหล่านี้เก็บมาใส่ใจ

เพียงแต่เจ้าหย้าหนานไม่อาจพูดอะไรตอบในประเด็นนี้ ขณะที่ทางเถ้าแก่หลิวเผยสีหน้ารังเกียจเหยียดหยัน พร้อมกับคิดว่าอู๋ฝานคุยโม้โอ้อวด

อู๋ฝานย่อมได้เห็นว่าคนทั้งสองไม่คิดเชื่อ เพียงแต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องอธิบาย เพราะมันยากจะอธิบาย การจะบอกว่าตัวเขามีทรัพยากรไม้ล้ำค่ามากมาย ปัจจุบันเพียงแค่ลองตลาดส่วนน้อย มันจะไม่เป็นการหยดน้ำลงทะเลสาบหรือไร?

“ก็คาดหวังว่าคุณอู๋จะยังผ่อนคลาย แม้ว่าสองเดือนผ่านพ้นแต่ยังไม่ได้รับการชำระเงินก็ตาม” เถ้าแก่หลิวกล่าวตอบ

“ไม่รบกวนเถ้าแก่หลิวเป็นกังวลแทนหรอกครับ” อู๋ฝานตอบรับ

พบเห็นการค้าล้มไม่เป็นท่า เถ้าแก่หลิวก็ไม่คิดอยู่เสวนาต่อ หากอยู่ต่อก็มีแต่จะยิ่งทำให้โกรธมากขึ้น

เพียงแต่ ตอนที่เขากำลังจะกลับออกไป เถ้าแก่หลิวยังดูไม่คิดยอมแพ้ หรือไม่ก็ยังมีความสงสัย “พอจะบอกผมได้หรือไม่ ว่าเพราะอะไรถึงปฏิเสธการขายให้ผม? ผมอยากทราบเหตุผลที่แท้จริง หรือว่าเป็นเพราะเธอ?”

เถ้าแก่หลิวแสดงชัดว่าไม่เชื่อคำอธิบายเมื่อครู่ของอู๋ฝาน มีหรือคนทำธุรกิจจะปฏิเสธการค้าเพียงแค่ชื่อแซ่? เขาจึงรู้สึกว่าเจ้าหย้าหนานสมควรใช้อุบายอื่นใด ดังเช่นความงาม

แม้เถ้าแก่หลิวเองก็ยอมรับ ว่าความงามของเจ้าหย้าหนานถือว่าหาได้ยาก และอู๋ฝานก็ยังหนุ่มยังแน่น เป็นคนหนุ่มมีไฟราคะ ดังนั้นไม่แปลกหากจะหลงมัวเมา หากว่าเป็นเพราะสาเหตุดังกล่าว เถ้าแก่หลิวก็ยอมรับได้ เพียงแต่เขาจะใช้ประเด็นนี้หาทางโจมตีเจ้าหย้าหนาน เพื่อเหยียบย่ำเธอให้จมดินจากวงการ

อู๋ฝานมองเจ้าหย้าหนานโดยไม่รู้ตัว เขายอมรับว่าความสงสัยของเถ้าแก่หลิว คิดว่าเขาหลงมัวเมากับความงามของเจ้าหย้าหนานนั้นมีเหตุมีผล เจ้าหย้าหนานก็ถือเป็นโฉมงามระดับแถวหน้า

เพียงแต่อู๋ฝานแสดงชัดว่ามันไม่ใช่เพราะสาเหตุดังกล่าว

กลับกันตอนที่เจ้าหย้าหนานพบเห็นอู๋ฝานมองยังตัวเธอ ใบหน้าถึงกับต้องแดงเรื่อ ก้มศีรษะลงงุด กระทั่งคิดอยู่ในใจ ว่าหรืออู๋ฝานจะตกลงทำการค้ากับเธอเพราะเรื่องความงามจริง?

เจ้าหย้าหนานยังเป็นบุคคลที่มั่นใจต่อรูปลักษณ์ของตนเอง ตั้งแต่ยังเด็ก ตลอดมาเธอมักจะเป็นคนที่มีความงามโดดเด่นนำหน้า

จากการที่อู๋ฝานปฏิเสธข้อเสนอราคาสูงของเถ้าแก่หลิว หากให้พูดตามตรง แม้เจ้าหย้าหนานนึกขอบคุณอู๋ฝานอยู่ในใจ แต่ก็สงสัยเช่นกันว่าเหตุใดอู๋ฝานทำเช่นนั้น ในเมื่อทั้งเธอและอู๋ฝานต่างก็ไม่มีมิตรภาพใดต่อกัน เหตุใดอู๋ฝานไม่เลือกราคาที่มากกว่า อีกทั้งเถ้าแก่หลิวยังพร้อมจะจ่ายเงินสดเสียด้วยซ้ำ

หรือจะเป็นเพราะตัวเธอจริง?

เจ้าหย้าหนานไม่ทราบว่าสถานการณ์เช่นตอนนี้ควรรู้สึกอย่างไร ควรภูมิใจ หรือว่าโกรธ?

“ไม่ใช่แบบนั้นครับ” ขณะความคิดของเจ้าหย้าหนานฟุ้งซ่าน อู๋ฝานก็เอ่ยปากตอบกลับแล้ว “ส่วนเรื่องสาเหตุนั้น ผมได้พูดไปแล้ว ผมไม่ชอบทำการค้ากับเถ้าแก่แซ่หลิว มันไม่ใช่คำพูดไร้สาระ แต่ผมคิดแบบนั้นจริง แน่นอนว่ายังมีอีกประเด็น คือการที่ผมไม่ค่อยชอบวิธีการของเถ้าแก่หลิวสักเท่าไหร่นัก”

นับตั้งแต่เขาถูกเถ้าแก่หลิวแห่งร้านขายของชำโกงในอีกโลกซึ่งหน้า อู๋ฝานก็ไม่ชอบที่จะต้องทำการค้ากับอีกฝ่าย แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ได้ถึงขนาดหยุดทำการค้ากับเถ้าแก่แซ่หลิวทุกคนเพราะสาเหตุนี้ หากใช่ก็คงเป็นปัญหาทางสมองแล้ว

สาเหตุว่าทำไมอู๋ฝานปฏิเสธเถ้าแก่หลิวคนตรงหน้า ก็เพราะอีกฝ่ายใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกับเถ้าแก่ร้านขายของชำที่อู๋ฝานไม่ชอบ อีกฝ่ายมองว่าทุกสิ่งจะเป็นไปอย่างที่ตัวเองต้องการ อู๋ฝานยิ่งไม่ชอบใจมากยิ่งขึ้น

หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ แม้ไม่ชอบใจ อู๋ฝานก็ยังพอจะกล้ำกลืนและทำการค้ากับเถ้าแก่หลิว อย่างไรแล้วเขาก็ต้องการเงิน ใครบ้างจะมีปัญหาหากได้รับเงินเพิ่มมากขึ้น? เพียงแต่อู๋ฝานตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว ความคิดของเขาได้เปลี่ยนแปลงไป

แท้จริงแล้ว หากว่าเป็นไปได้ อู๋ฝานก็อยากขายไม้ในรอบนี้ให้เถ้าแก่หลิวก่อน เพราะเขาต้องการเงินสดไปทำทุน ภายหลังค่อยตัดไม้จากในป่ามาขายให้เจ้าหย้าหนานย่อมกระทำได้

เพียงแต่เวลาไม่เอื้ออำนวย ภายหลังอู๋ฝานกลับเข้าอีกโลกหนึ่งครั้งนี้ เขาต้องเตรียมตัวไปรายงานที่สำนักงานเทศมณฑล ไม่อาจช้าหรือไปสาย ดังนั้นอู๋ฝานจึงไม่มีเวลาไปตัดไม้เสริม

“เหอะ” เถ้าแก่หลิวเผยใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยวจากคำพูดของอู๋ฝาน ภายหลังแค่นเสียงตอบแล้ว เขาจึงเดินออกไปโดยไม่หันกลับมอง

“ขอบคุณคุณอู๋ที่เชื่อใจค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันจะชำระเงินตามกำหนดเวลาอย่างแน่นอน” ภายหลังเถ้าแก่หลิวออกไปแล้ว เจ้าหย้าหนานจึงกล่าวขอบคุณอู๋ฝานอีกครั้ง

“ในเมื่อเลือกทำการค้ากับเถ้าแก่แล้ว ผมก็ต้องเชื่อใจเถ้าแก่เจ้าสิครับ” อู๋ฝานตอบกลับ

“ขอบคุณค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบรับ “ความเชื่อใจของคุณอู๋ จะมีส่วนช่วยฉันได้มากอย่างแน่นอนค่ะ”