ตอนที่ 77 หายนะมาเยือน
การตอบโต้กันระหว่างผู้เฒ่ากู่ กู่หยุนลิ่ว และซูเล่ยนั้น ทำให้หลินหนานเห็นถึงจิตใจที่ดีของสองปู่หลานตระกูลกู่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ตัดสินใจจัดการกับซูเล่ย และช่วยกู่หยุนลิ่วออกจากอันตราย!
และการกระทำเช่นนั้นของหลินหนาน หากไม่เรียกว่าเท่ห์ จะให้เรียกว่าอะไรได้อีก?
สำหรับเด็กสาวในวัยอย่างกู่หยุนลิ่ว ในสายตาของเธอ หลินหนานจึงเปรียบเสมือนอัศวินผู้ผดุงความยุติธรรมที่โผล่มาจากโลกของเทพนิยาย!
“ตาถึงดีนี่!”
หลินหนานตอบกู่หยุนลิ่วกลับไปด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ พร้อมกับสะบัดหน้าขึ้นในแบบที่คิดว่าตนเองจะเท่ห์ และหล่อที่สุดได้!
เท่ห์ หล่อ แล้วก็มีเสน่ห์ขนาดนี้ ต่อให้ฉันจะพยายามปกปิดแล้ว ก็คงปิดไม่มิดสินะ?
แต่แล้ว กู่หยุนลิ่วก็ทำสิ่งที่ไม่คาดคิด เธอวิ่งตรงเข้าไปยืนข้างกายหลินหนาน พร้อมกับจุมพิตที่แก้มของเขาโดยไม่สนใจว่าเขาจะยินยอมหรือไม่..
ริมฝีปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสี Popular Forest หมายเลขยอดนิยม ได้ประทับเป็นรอยอยู่บนแก้มของหลินหนานอย่างเด่นชัด
แต่ก่อนที่หลินหนานจะทันได้ตอบโต้อะไร กู่หยุนลิ่วซึ่งรู้สึกว่าตัวเองได้ทำกิริยามารยาทที่ไม่เหมาะสมนั้น ก็รีบวิ่งหนีออกไปจากที่เกิดเหตุด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
และนั่นแสดงออกถึงความรู้สึกของเด็กสาวในเวลานี้!
ผู้เฒ่ากู่เห็นกิริยาของหลานสาวก็ถึงกับตกอกตกใจ ดวงตาเบิกโพลงจนแทบถลนออกจากเบ้า ภายในใจนั้นเกิดความรู้สึกมากมายปะปนกัน ใจหนึ่งก็รู้สึกว่ากิริยาของหลานสาวเมื่อครู่ช่างขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณี แต่อีกใจก็รู้สึกยินดี..
“อาวุโสกู่ ทำไมถึงเอาแต่ยืนนิ่งเฉยล่ะครับ? หลานสาวของคุณเป็นฝ่ายข่มเหงล่วงเกินผม..”
หลินหนานรีบฟ้องผู้เฒ่ากู่ทันที แต่สีหน้าท่าทางของเขานั้น กลับไม่ได้บ่งบอกว่าตนเองถูกล่วงเกินเลยสักนิด แต่กลับบ่งบอกว่ากำลังมีความสุขเสียมากกว่า
จุมพิตจากสาวสวยบริสุทธิ์นี่ช่างหอมหวานซะจริงๆ!
คงมีแต่คนโง่เท่านั้นล่ะที่จะไม่ชอบ!
“เอ่อ.. ผมต้องขอโทษคุณชายหลินแทนหลานสาวด้วย อภัยที่ผมอบรมหลานสาวไม่ดี!” ผู้เฒ่ากู่ตอบหลินหนานกลับไปด้วยความรู้สึกเขินอาย
“ช่างเถิด.. เรื่องนี้จะโทษคุณคนเดียวก็ไม่ถูกนัก ต้องโทษที่ผมเป็นผู้ชายหน้าตาดีเองด้วย เอาล่ะ.. ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวกลับก่อน แล้วค่อยพบกันใหม่วันหลัง” หลินหนานเดินตรงไปที่ประตู พร้อมกับโบกไม้โบกมืออำลาผู้เฒ่ากู่
ผู้เฒ่ากู่ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วก็ทำสีหน้าคล้ายเพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงรีบร้องตะโกนไล่หลังไปทันที
“คุณชายหลิน อย่าลืมนำข้อเสนอของผมไปใคร่ครวญดูนะครับ! หลานสาวของผมอายุยังน้อย อีกอย่าง ผมไม่ต้องการของหมั้นหมายอะไรทั้งนั้น ขอเพียงแค่คุณยอมแต่งเข้าตระกูลกู่ก็พอ..”
หลินหนานได้ยินถึงกับเข่าทรุด และแทบล้มลงไปกองกับพื้น..
นี่ฉันโด่งดังขนาดนี้เลยเหรอ?
ทำไมใครๆถึงอยากได้ไปเป็นลูกเขยนักนะ?
แต่ถ้าฉันทำแบบนั้นคงไม่ต่างจากโคแก่กินหญ้าอ่อนน่ะสิ?
เมื่อคิดได้แบบนั้น หลินหนานจึงรีบก้าวเท้าจ้ำให้เร็วขึ้น ในขณะผู้เฒ่ากู่ได้แต่มองตามแผ่นหลังของหลินหนานไปด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ พร้อมพึมพำกับตัวเอง
“นี่ถ้ายายหลานสาวตัวดีสามารถทำให้ผู้ชายคนนี้ยอมแต่งงานด้วยได้ อนาคตก็จะสว่างไสวรุ่งโรจน์อย่างมากแน่! ฉันคงต้องหาทางพูดคุยเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้วสินะ..”
……
หลังจากที่หลินหนานออกจากหอฟู่ซิงไปแล้ว เขาก็นำถุงสมุนไพรทั้งหมดกลับไปเก็บไว้ที่ห้องเช่าบนถนนหวู่หลงทันที ห้องเช่าที่นี่อยู่ห่างไกลสายตาผู้คน จึงเหมาะจะเป็นที่ซ่อนสิ่งของเหล่านี้
หลังจากที่หลินหนานจัดการเก็บสมุนไพรไว้เรียบร้อยดีแล้ว ก็เป็นเวลาบ่ายสองโมงตรงพอดี หลินหนานจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู และพบว่ามีสายเรียกเข้าที่ไม่ได้รับอยู่มากมายหลายสาย
และทั้งหมดก็เป็นสายเรียกเข้าจากฉินเสี่ยวยู่ เขาจึงรีบโทรกลับไปหาเธอทันที แทบไม่ต้องรอ เพราะปลายสายกดรับทันที พร้อมยิงคำถามกลับมาอย่างรวดเร็ว
“นี่หลินหนาน ทำไมนายถึงยังไม่มาทำงาน?”
“วันนี้ผมไม่เข้าบริษัท พอดีมีธุระด่วนต้องไปจัดการ” หลินหนานเอ่ยตอบกลับไป ด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งความกังวลใจใดๆ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” ฉินเสี่ยวยู่ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตระหนก และเป็นกังวลเล็กน้อย
“ไม่มีอะไร! เอาเป็นว่าคุณช่วยไปบอกผู้จัดการหลิวแทนผมที บอกเขาว่าวันนี้ผมขอลาหนึ่งวัน หรือไม่ก็อาจจะสองวัน หรือนานกว่านั้น..” พูดจบหลินหนานก็กดวางสายไปทันที
ฉินเสี่ยวยู่ได้ยินเสียงสัญญาณโทรศัพท์ถูกตัด ก็ได้แต่รู้สึกผิดหวัง ใบหน้าที่แต่งมาอย่างสดใสสวยงาม พลันเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในทันที!
นั่นเพราะคนที่เธออยากให้ชม วันนี้กลับไม่มาทำงานซะนี่!
ในเวลานั้นเอง หลิวเฉียนก็เดินเข้ามายืนข้างฉินเสี่ยวยู่ พร้อมกับถามขึ้นด้วยใบหน้าบูดบึ้ง “หลินหนานไปไหน?”
ฉินเสี่ยวยู่รีบลุกขึ้นยืนในทันที พร้อมตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหลิว คือหลินหนานเพิ่งจะโทรเข้ามาบอกว่า พอดีเขามีธุระสำคัญ ให้ฉันช่วยลางานกับผู้จัดการให้ด้วยค่ะ..”
“หมอนั่นคิดว่าที่นี่เป็นอะไร? นึกอยากจะมาก็มา นึกไม่อยากมาก็ไม่มา บอกเขาด้วยว่าถ้าไม่อยากทำงานที่นี่ก็เชิญออกไปได้เลย!” หลิวเฉียนตวาดฉินเสี่ยวยู่เสียงดัง
และเวลานี้ ทุกคนในฝ่ายขายก็ได้แต่นั่งเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาต่างก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้จัดการจะต้องโกรธมากมายขนาดนี้ด้วย ทั้งที่เมื่อวานหลินหนานเพิ่งจะช่วยตามทวงหนี้สูญกลับมาได้แล้ว?
“ถ้าหมอนั่นมาเมื่อไหร่ ให้เข้าไปพบผมที่ห้องด้วย! ทำตัวน่าละอายที่สุด!”
หลังจากสั่งฉินเสี่ยวยู่ไปแล้ว หลิวเฉียนก็เดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเองทันที เขาทิ้งตัวลงบนโซฟา พร้อมกับยกเท้าขึ้นมาวางไว้ที่โต๊ะด้านหน้า สีหน้าของหลิวเฉียนเวลานี้บ่งบอกว่ากำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
“นี่ฉันจะหาทางกำจัดหมอนั่นให้พ้นจากบริษัทได้ยังไงนะ?”
หลิวเฉียนยกมือขึ้นลูบคางไปมาในขณะที่ครุ่นคิด แต่ในระหว่างที่เขากำลังจมดิ่งอยู่ในภวังค์นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล นั่นใครพูด?”
“ผมจางซื่อหมิง ผู้จัดการทั่วไปของเฟิงหยวน แฟบริค แฟคทอรี่..”
ทันทีที่ได้ยินชื่อของอีกฝ่าย หลิวเฉียนก็รีบยกเท้าลงจากโต๊ะ พร้อมตอบกลับไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทันที
“สวัสดีครับคุณจาง ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมรับใช้ครับ?”
บริษัทเฟิงหยวน แฟบริค แฟคทอรี่ นับเป็นคู่ค้าคนสำคัญของบริษัทชิงเฉิงกรุ๊ป และผ้าที่ทางชิงเฉิงกรุ๊ปใช้ในการผลิตเสื้อผ้านั้น ก็ล้วนแล้วแต่มาจากบริษัทนี้ทั้งสิ้น
บริษัทเฟิงหยวน แฟบริค แฟคทอรี่นั้น เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทของตระกูลถัง และเป็นบริษัทผลิตผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงไฮว
แน่นอนว่าหลิวเฉียนไม่กล้าแสดงกิริยามารยาทที่ไม่ดีกับคู่ค้ารายใหญ่เช่นนี้แน่!
“ผู้จัดการหลิว ทางเราคงต้องยกเลิกสัญญา และหยุดส่งผ้าให้กับทางชิงเฉิงกรุ๊ป” เสียงจากปลายสายดังขึ้น
“อะ.. อะไรนะครับ?” หลิวเฉียนคิดว่าตัวเองคงจะหูฝาดไป จึงได้ถามย้ำอีกครั้งให้มั่นใจ
“ผมได้รับคำสั่งมาจากผู้บริหารเบื้องบน ให้ยกเลิกสัญญาทั้งหมดกับทางชิงเฉิงกรุ๊ปตั้งแต่วันนี้ และทางเราจะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามจำนวนที่ได้ระบุไว้ในสัญญา เท่านี้นะครับ!”
หลังจากนั้น หลิวเฉียนก็ได้ยินเสียงสัญญาณตัดสายจากอีกฝ่าย เขาตกใจจนแทบช็อค และเหงื่อเย็นก็ไหลท่วมตัว เขาผุดลุกขึ้นจากโซฟาอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเปิดประตูวิ่งหน้าตั้งออกจากห้องไปทันที
และเมื่อวิ่งไปถึงหน้าห้องของท่านประธาน เขาก็พบกับเหลียงซวี่อี๋พอดี..
“ผู้จัดการหลิว ทำไมถึงได้วิ่งหน้าตาตื่นมาแบบนั้นล่ะคะ?” เหลียงซวี่อี๋ขมวดคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“เลขาเหลียง ประธานเย่อยู่มั๊ยครับ? ผมมีเรื่องด่วนมาก!!” หลิวเฉียนร้องบอกเหลียงซวี่อี๋ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
“คุณเย่กำลังประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์กับทางยุโรปอยู่ค่ะ พอดีเพิ่งเซ็นต์สัญญาสั่งซื้อฉบับใหม่ หลังจากนี้คงต้องยุ่งกันมากแน่ๆ” เหลียงซวี่อี๋ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ทำยังไงดี? ผมมีเรื่องใหญ่แล้วก็ด่วนซะด้วยสิ!! ผมต้องพบประธานเย่ตอนนี้ให้ได้!” หลิวเฉียนร้องตะโกนบอกด้วยความร้อนใจ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ? คุณช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟังก่อน..” เหลียงซวี่อี๋นั่งกอดอก และบอกกับหลิวเฉียนด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง
“คือ…”
แต่เวลานั้นเอง ประตูห้องทำงานของประธานบริษัทก็เปิดออก เย่ชิงเฉิงเดินถือแก้วกาแฟออกมาจากห้องพอดี
เธอเพิ่งจะเซ็นต์สัญญากับบริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรป และหากทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น บริษัทของเธอก็จะสามารถทำกำไรได้อีกนับหลายสิบล้านเลยทีเดียว
“คุณหลิว มีอะไรเหรอคะ?”
เย่ชิงเฉิงถามขึ้นด้วยสีหน้าผ่อนคลาย แต่ใบหน้าของเธอยังคงเย็นชาเช่นเคย และในบริษัทแทบจะไม่มีใครเคยเห็นประธานสาวยิ้มเลยสักครั้ง
แต่ถึงอย่างนั้น เพียงแค่สีหน้าที่ผ่อนคลายนี้ ก็มีเสน่ห์เพียงพอที่จะทำให้สิ่งรอบตัวมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้ในทันที
แต่หลิวเฉียนไม่มีอารมณ์ที่จะมาชื่นชมกับสิ่งเหล่านี้ เขารีบร้องตะโกนตอบกลับไปทันที “ประธานเย่ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!! ทางเฟิงหยวนเพิ่งจะโทรมาบอกผมว่า พวกเขาขอยกเลิกสัญญา และการทำธุรกิจกับชิงเฉิงกรุ๊ปนับตั้งแต่วันนี้!”
“อะไรนะ?!!” เย่ชิงเฉิงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจ
เคร้ง..
แก้วกาแฟในมือของเธอร่วงหล่นลงกับพื้น และแตกละเอียด..
เฟิงหยวน แฟบริค แฟคทอรี่ นับเป็นแหล่งวัตถุดิบหลักของชิงเฉิงกรุ๊ป หากยกเลิกสัญญาไปอย่างกะทันหันเช่นนี้ ชิงเฉิงกรุ๊ปจะต้องได้รับความเสียหายอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ที่สำคัญ.. อาจถึงขั้นต้องปิดบริษัทเลยทีเดียว!

******

ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ

เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า

เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและผืนพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า

หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในผืนพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล

หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จำต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับ สังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้า จนกลายเป็นที่รู้จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย

แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!